ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 694 แบ่งเค้ก
ตอนที่ 694 แบ่งเค้ก
เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชานชานอย่าถามเลย คำอธิษฐานที่ขอไว้มันจะไม่ได้ผลถ้าเราพูดมันออกมา”
“อ้อ ! ”
เด็กน้อยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีกและพูดด้วยรอยยิ้ม “หม่าม๊า งั้นเรามาตัดเค้กกันเถอะค่ะ ! ”
หลินเจียอินมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ เธอไม่รู้ว่าต้องตัดเค้กอย่างไร
“มานี่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเบา ๆ ขั้นแรกเขาหยิบเทียนบนหน้าเค้กออกทีละอัน จากนั้นก็เอามีดในกล่องเค้ก ตัดแบ่งกลางเค้กวงกลมในแนวนอน และตัดแบ่งกลางในแนวตั้ง จากนั้นก็แบ่งตามแนวทแยงให้ได้ทั้งหมด 8 ชั้นเท่า ๆ กัน
จากนั้นเขาก็หยิบถาดกระดาษออกมา แบ่งเค้กที่ตัดออกเป็นสองชิ้นอีกที วางแต่ละชิ้นในถาดกระดาษ และยื่นเค้กชิ้นแรกให้หลิวอี้ถิง “แม่ครับ ลองชิมเค้กดูสิ ! ”
หลิวอิ้ถิงกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของอินอิน เอาให้เธอก่อนเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “วันเกิดของอินอินคือวันที่แม่ต้องทนทุกข์ทรมานที่สุด ดังนั้นก็ถูกแล้วครับที่ผมควรให้เค้กวันเกิดชิ้นแรกกับแม่ก่อน ! ”
“ขอบคุณ ! ”
หลิวอี้ถิงมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ เธอรู้สึกประทับใจและมีความสุขมากที่ลูกเขยเห็นความสำคัญของเธอ เธอจึงรับเค้กไป
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นเค้กชิ้นที่สองให้หลินเจียอินแล้วพูดเบา ๆ “เมียจ๋า ลองชิมดูชิ้นหนึ่งสิ ! ”
“ขอบคุณนะ ! ”
หลินเจียอินรับมันอย่างมีความสุข กลิ่นหอมของครีมและแป้งเค้กทำให้เธออยากอาหารขึ้นมาอีกครั้ง
แค่ชิมเข้าไปคำแรก ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ขนมหวานแสนอร่อยที่ละลายในปาก เป็นของที่ผู้หญิงทุกคนปฏิเสธไม่ได้
ต่อไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็แบ่งเค้กให้กับหลินต้ากั๋ว หวังซิ่วจวี๋ และเจียงไห่หยางก่อน จากนั้นจึงให้หลินเจียเหว่ย หานหยุนอิง เจียงเสี่ยวเฟิง และหลัวเจาตี้ต่อ
เด็กน้อยทั้งสองเฝ้าดูอย่างกระตือรือร้น มองดูผู้ใหญ่ได้รับเค้กวันเกิดก่อน
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม และในที่สุดก็แบ่งเค้กให้เจียงชานและเจียงถิง
“รู้ไหมว่าทำไมพ่อถึงเอาให้พวกหนูเป็นคนสุดท้าย”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามขณะยื่นเค้กให้ลูกสาวและหลานสาวของเขา
เจียงชานหยิบเค้กขึ้นมาอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “หนูรู้ ป่าป๊าเคยบอกว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผู้เยาว์ควรสละให้ผู้อาวุโสก่อนเสมอ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และแตะหัวเล็ก ๆ ของเธอ “ดีมาก กินได้แล้ว ! ”
“อื้ม ! ”
เจียงชานเริ่มกินทันที ความอร่อยของเค้กก็ทำให้ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กมีความสุขเป็นอย่างมาก
“ป่าป๊าคะ เค้กวันเกิดอร่อยมาก ! ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้กินเค้กวันเกิด
เจียงเสี่ยวไป๋พูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “ถ้าชอบกิน หากฉลองวันเกิดครั้งหน้า พ่อก็จะซื้อให้หนูด้วย ! ”
“ดีเลยค่ะ ! ” เด็กน้อยเอียงศีรษะแล้วพูดเสียงดัง “ในวันเกิดของหนูครั้งหน้า หนูอยากกินเค้กเยอะ ๆ เลย”
เจียงถิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นมาเหมือนกันว่า “พ่อคะ ในวันเกิดของหนู หนูก็อยากเป่าเทียนเค้กวันเกิด ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิด และกินเค้กแบบนี้ด้วย”
เจียงเสี่ยวเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ถ้าถิงถิงเป็นเด็กดี วันเกิดครั้งหน้า พ่อกับแม่จะซื้อเค้กกลับมาและร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้หนู ตกลงไหม ! ”
“ตกลงค่ะ ! ”
เจียงถิงกล่าวอย่างมีความสุข
หวังชิ่วจวี๋ได้ยินแบบนั้นก็กล่าวว่า “อีกนานกว่าจะถึงวันเกิดของพวกหนู นี่คิดวางแผนกันไว้ล่วงหน้าเลยหรือ ? ”
เธอไม่ได้พูดถึงบะหมี่อายุยืนด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าเค้กวันเกิดก็ไม่เลวเหมือนกัน
ไม่น่าแปลกใจที่ลูกชายของเธอจะบอกว่ามันหรูหราและราคาแพงกว่า
อีกทั้งวันนี้ก็กินของที่ตลาดกันมาเยอะแล้ว หากต้องกินบะหมี่ตอนดึกกันอีกคนละชาม คงจะไม่สบายท้องน่าดู ทว่าพอกินเค้กวันเกิดชิ้นเล็ก ๆ แบบนี้ เธอกลับไม่พอใจอีก เพราะความหวานละมุนของมันที่ละลายอยู่ในปากทำให้เธออยากกินมากกว่านี้
เค้กวันเกิดที่หลินเจียจวินซื้อมานั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่คนในห้องโถงมีทั้งหมด 12 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงทำให้เค้กหมดอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนโดยไม่รู้ตัว
พวกเขาได้พูดคุยกันสักพักแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน
คืนแห่งความเงียบงันก็ได้ผ่านพ้นไป
วันรุ่งขึ้น เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋และเจียงชานออกไปวิ่งในตอนเช้า พวกเขาก็พบว่าวัชพืชที่อยู่ริมถนนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีขาว
ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนแล้วจริง ๆ
ยามเช้าของเมืองชิงโจวในตอนนี้เกือบจะเหมือนกับที่ถู่เฉิงเมื่อก่อน
อากาศมันเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าเมื่อวานนี้พ่อแม่ของเขาก็ได้เข้าไปในเมืองเพื่อลองเสี่ยงโชคกับล็อตเตอรี่ดูแล้ว ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างวันนี้ พวกเขาไม่ควรเข้าเมือง แต่ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
เมื่อเจียงไห่หยางได้ยินสิ่งนี้ เขาก็เอามือลูบหนวดเคราและจ้องมองมาที่เจียงเสี่ยวไป๋
“ทำไม ฉันกับแม่ของแกเข้าเมืองไปซื้อล็อตเตอรี่เสี่ยงโชคกับเขาบ้างไม่ได้หรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างรวดเร็ว “ได้ ไม่มีปัญหา ! แต่เป็นเพราะผมกลัวว่าพ่อกับแม่จะหนาวเกินไปต่างหากล่ะ”
เจียงไห่หยางตบเสื้อแจ็คเก็ตหนา ๆ ที่เขาสวมใส่แล้วพูดออกมา “เสื้อผ้าแพง ๆ พวกนี้ที่แกซื้อมาจากเจียงเฉิงมันยังไม่หนาพออีกเหรอ ! ”
หวังชิ่วจวี๋ยังกล่าวอีกว่า “ในเมื่อพ่อตาและแม่ยายของแกอยู่ที่นี่ ก็ให้เราไปเล่นล็อตเตอรี่ในเมืองกันอีกวันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าพ่อแม่ของเขาพูดแบบนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมให้พวกเขาไป
ดังนั้น วันนี้เจียงไห่หยางและหวังชิ่วจวี๋จึงได้ตามเข้าไปในเมืองด้วย
รถทั้งสองคันมาถึงเกสต์เฮาส์ชิงเจียงในไม่ช้า
วันนี้ในเมืองชิงโจวคึกคักยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก ถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่มารอต่อแถวซื้อล็อตเตอรี่ มีคิวยาวหน้าร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงทั้ง 30 แห่ง ส่วนตรงจุดแลกรางวัลก็มีคนมารอนับไม่ถ้วน
ถึงกระนั้น ก็มีคนที่มาซื้อในเกสต์เฮาส์ชิงเจียงไม่น้อยไปกว่าเมื่อวานเหมือนกัน
“ไหนเมื่อวานบอกว่าจะไม่ซื้อล็อตเตอรี่แล้วไม่ใช่เหรอ ? ”
“เมื่อวานก็คือเมื่อวาน วันนี้ก็คือวันนี้สิ ! ”
“ฮ่าฮ่า คุณได้อ่านข่าวของชิงโจวเดย์ลี่วันนี้หรือเปล่า เมื่อวานมีคนถูกรางวัลพิเศษสองคน ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะลองเสี่ยงดูอีกครั้ง”
“จริงเหรอ ? ”
“แน่นอน ทั้งสองถูกรางวัลพิเศษได้รับเงินตั้ง 10,000 หยวนเชียวนะ ! ฉันก็อยากได้เหมือนกัน ! ”
“……”
ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าวภาคค่ำสามทุ่มครึ่งทางสถานีโทรทัศน์ชิงโจวเมื่อคืนนี้ หรือข่าวในหนังสือพิมพ์ของชิงโจวเดย์ลี่ฉบับวันนี้ พวกเขาล้วนรายงานว่าเมื่อวานมีผู้โชคดีสองคนถูกรางวัลพิเศษ 10,000 หยวน และกลายเป็นเศรษฐีคนใหม่
หลังจากเห็นข่าว หลายคนที่ไม่ถูกล็อตเตอรี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งและพากันออกมาซื้อล็อตเตอรี่ตามท้องถนนเยอะเป็นพิเศษอย่างที่เห็นกันตอนนี้
นอกจากนี้ ชื่อของเจียงเจียกรุ๊ปก็ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองชิงโจว จนเกือบจะเป็นที่พูดถึงในทุกครัวเรือน
นิทรรศการที่จัดโดยเจียงเจียกรุ๊ปก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอันดับสองในหมู่ประชาชนเช่นกัน
“เหล่าหวังข้างบ้านฉันบอกว่าเมื่อวานเขาเห็นโต๊ะหลุมไฟที่งานนิทรรศการ เป็นสินค้ามาใหม่ น่าสนใจมาก เหมาะกับเอาไปใช้ในฤดูหนาวแบบนี้ ! ”
“ใช่ ใช่ ฉันเองก็ได้ยินเรื่องโต๊ะหลุมไฟมาเหมือนกัน วันนี้จะลองมาดูสักหน่อย”
“ว่ากันว่าโต๊ะหลุมไฟไม่เพียงแต่สวยและใช้งานง่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดถ่านหินได้ด้วย จริงไหม ? ”
“มีลงรายละเอียดทางทีวีและหนังสือพิมพ์แล้ว ไม่เห็นเหรอ ? ”
“เมื่อวานฉันลองนั่งโต๊ะไฟมาแล้ว มันช่วยให้ความอบอุ่นได้จริง ๆ ”
“แล้วทำไมไม่ซื้อมาล่ะ ? ”
“ก็เพราะว่าตอนนั้นมันยังไม่สามารถซื้อได้ เขาบอกว่าจะขายหลังจากงานนิทรรศการจบลง”
“นั่นสินะ แล้วเราจะหาซื้อได้ที่ไหนล่ะ ? ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน รอดูข่าวเถอะ ! ”
“วันนี้ฉันพาภรรยามาดูโต๊ะหลุมไฟ เธอบอกด้วยนะว่าจะจ่ายเงินซื้อเอง”
“คุณมาที่นี่เพื่อดูโต๊ะหลุมไฟ ส่วนฉันมาดูคอนโด”
“เจียงเจียกรุ๊ปขายคอนโดด้วยเหรอ ? ”
“คุณไม่รู้เหรอ เจียงเจียกรุ๊ปกำลังสร้างอาคารสูง 33 ชั้นที่เรียกว่าตึกชิงโจว นอกจากนี้ยังมีอาคารพักอาศัยสูง 24 ชั้น ลองไปดูที่โมเดลในนิทรรศการดูสิ”
“ขณะนี้ เจียงเจียกรุ๊ปกำลังออกบัตรวีไอพีจำนวนจำกัด บัตรหนึ่งใบมีมูลค่า 500 หยวน ! ”
“……”