ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 681 ความลับสุดยอดรู้แค่สองคนเท่านั้น
ตอนที่ 681 ความลับสุดยอดรู้แค่สองคนเท่านั้น
ในร้านหม้อไฟลาลาลามีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายขนาด โต๊ะใหญ่นั่งได้ 8 คน โต๊ะขนาดกลางนั่งได้ 4 คน และโต๊ะเล็กสำหรับ 2 คน
ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 30 โต๊ะ สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 150 คนพร้อมกัน
หลินต้ากั๋วและคนที่มากับเขามีด้วยกันทั้งหมด 150 คน ซึ่งทำให้มีคนเต็มร้าน ส่วนใหญ่พวกเขาเพิ่งเคยกินหม้อไฟเป็นครั้งแรก จึงไม่รู้ว่ามันกินอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ร้านหม้อไฟลาลาลายังได้เตรียมสถานที่ไว้เป็นอย่างดี เพราะที่ฝาผนังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงถึงฉากการกินหม้อไฟ และยังมีพนักงานมาให้คำแนะนำในการกินอีกด้วย
นอกจากนี้ด้านหลังของเมนูที่ให้ลูกค้าไป ยังมีคำแนะนำอย่างละเอียดในการรับประทานหม้อไฟ รวมถึงเวลาที่ดีที่สุดในการลวกวัตถุดิบต่าง ๆ เป็นต้น
หลังจากรู้วิธีกินแล้ว ทุกคนก็เข้าใจอย่างรวดเร็วและเริ่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อมองไปที่โต๊ะของเจียงเสี่ยวไป๋ หลินต้ากั๋ว หลินเจียอิน และจางอี้เต๋อที่ต่างก็เคยกินหม้อไฟกันมาหลายครั้งแล้ว ส่วนเจิงเหลียงหยู เกาเทียนเยว่ เมิ่งเหว่ย และฉีเย่ผิงก็เคยกินมาแล้วครั้งหนึ่งเหมือนกัน คราวนี้พวกเขาลิ้มรสที่คุ้นเคย และทั้งแปดคนก็กินไปสนทนาไป
หลินต้ากั๋วกล่าวว่า “ในเมื่อเราก็กินไปคุยไปแล้ว ไหนนายลองพูดถึงตลาดถนนคนเดินที่ค้างคากันต่อสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ลุงรอง ตามที่ผมบอกไป การเห็นย่อมดีกว่าได้ยินเป็นร้อยครั้ง ในเมื่อลุงสนใจมากขนาดนี้ ทำไมไม่ไปเดินเล่นดูสักหน่อยล่ะครับ ไว้ไปเดินดู ลุงอาจจะเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นก็ได้นะครับ ? ”
ฉีเย่ผิงและจางอี้เต๋อมองหน้ากัน จากนั้นทั้งคู่ก็รู้สึกขอบคุณเจียงเสี่ยวไป๋ หากพวกเขาสามารถยื้อหลินต้ากั๋วไว้ได้ พวกเขาก็จะมีหน้ามีตาเช่นกัน
ฉีเย่ผิงกล่าวว่า “ท่านผู้นำ เป็นเรื่องยากที่ท่านจะมาที่นี่สักครั้ง การเปิดร้านค้าหลายร้อยร้านพร้อมกันบนถนนสายเดียวก็ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่เหมือนกันนะครับ มาทั้งที คุณก็ลองไปดูมันสักครั้ง เผื่อจะได้ให้คำแนะนำแก่เราได้บ้าง”
เจิงเหลียงหยูคิดมานานแล้วว่าอยากจะชักชวนหลินต้ากั๋วให้เปลี่ยนแผนการเดินทาง ในเวลานี้เขาจึงถือโอกาสพูดว่า “รัฐมนตรีหลิน ฉันคิดว่าคุณอยู่ดูก่อนก็ดี เราค่อยกลับเจียงเฉิงพรุ่งนี้ก็ไม่สาย”
เกาเทียนเยว่กล่าวว่า “ตลาดถนนคนเดินแบบนี้ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ประจำมณฑลจีนตอนกลางและหนังสือพิมพ์รายวันของมณฑลก็ต้องมาทำข่าวด้วย เราเองก็อยากให้คุณไปเป็นประธานในการเปิดด้วย”
เมื่อเห็นทุกคนพูดแบบนี้ หลินต้ากั๋วก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอาล่ะ งั้นฉันจะพักที่นี่หนึ่งคืน เพื่อไปเที่ยวดูตลาดที่ตีนเขาฉีเฟิง แล้วจะกลับเจียงเฉิงตอนหกโมงเช้าของวันพรุ่งนี้”
จางอี้เต๋อดีใจมากเมื่อได้ยินประโยคนี้ เขาจึงพูดออกมาทันทีว่า “ฉันจะติดต่อไปที่สนามบินทันทีเพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบว่ากำหนดการเดินทางของคุณเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้ตอนหกโมงเช้า”
หลินต้ากั๋วพยักหน้า
จากนั้น จางอี้เต๋อก็หันไปถามเจียงเสี่ยวไป๋ต่อว่า “ที่นี่พอจะมีโทรศัพท์ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่ครับ คุณต้องเดินไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงข้าง ๆ นี้แทน ! ”
จางอี้เต๋อขมวดคิ้วและพูดว่า “เอาล่ะ งั้นฉันขอตัวไปโทรศัพท์ที่นั่นก่อนนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้น “งั้นผมไปกับคุณดีกว่า”
จางอี้เต๋อจับไหล่ของเขาให้นั่งลง “คุณอยู่ที่นี่กับลุงรองของคุณเถอะ ฉันไปคนเดียวได้”
คำว่า “อยู่ที่นี่กับลุงรองของคุณ” นั้นสำคัญมาก เจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจความหมายของจางอี้เต๋อทันทีที่เขาได้ยิน จากนั้นเขาก็ยิ้มและไม่คิดที่จะดื้อดึงต่อไป
จางอี้เต๋อกล่าวลาหลินต้ากั๋วและคนอื่น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอกร้านหม้อไฟ เฉินเซียนจิ้นที่อยู่ไม่ไกลก็เห็น เขาจึงรีบตามออกไป
“นายกเทศมนตรีจาง คุณจะไปที่ไหนเหรอครับ” หลังจากตามทันแล้ว เฉินเซียนจิ้นก็ถามออกมาด้วยท่าทีระมัดระวัง
จางอี้เต๋อเหลือบมองเขาแล้วตอบว่า “ตารางงานของท่านผู้นำเปลี่ยน วันนี้เขายังไม่กลับเจียงเฉิง กำหนดใหม่เป็นพรุ่งนี้เช้าตอนหกโมง ฉันจะไปใช้โทรศัพท์ที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงที่อยู่ติดกันนี้เพื่อโทรไปบอกกับทางสนามบินให้เลื่อนไฟท์”
เฉินเซียนจิ้นพูดด้วยความเร่งรีบว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะไปกับคุณ”
จางอี้เต๋อต้องการที่จะปฏิเสธ แต่แล้วเขาก็คิดสักพักแล้วพยักหน้า
ทั้งสองคนเดินไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง จางอี้เต๋อกล่าวว่า “นายลองไปถามเมิ่งเสี่ยวเป่ยดูสิ ว่าเจียงเจียกรุ๊ปต้องการติดตั้งโทรศัพท์ที่ไหนเพิ่มอีกหรือเปล่า หากว่าต้องการเพิ่ม ฉันจะให้คนมาติดตั้งให้”
เฉินเซียนจิ้นเข้าใจทันทีว่าหลังจากนี้เจียงเสี่ยวไป๋อาจอยู่ที่ไหนสักที่ของร้านในเครือบริษัท หากว่าทุกร้านมีการติดตั้งโทรศัพท์ ท่านผู้นำก็จะสามารถโทรไปถามเพื่อตามหาตัวเจียงเสี่ยวไป๋ได้ง่ายขึ้น
และเช่นครั้งนี้ หากมีโทรศัพท์อยู่ในร้านหม้อไฟลาลาลา หัวหน้าของเขาก็จะไม่ต้องออกมาระหว่างมื้ออาหารแบบนี้
“ตกลงครับ ผมจะถามคุณเมิ่งให้ในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็จะไปที่สำนักงานโทรคมนาคมเพื่อบอกให้ผู้อำนวยการหลิวมาดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด”
จางอี้เต๋อพยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก
ในร้านหม้อไฟ มีข่าวแพร่สะพัดว่าหลินต้ากั๋วจะยังไม่กลับไปที่เจียงเฉิงในวันนี้ ทุกคนที่มาจากเจียงเฉิงจึงดูมีความสุขมาก คนที่ไม่คิดจะดื่มในตอนแรกก็ได้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยความกระตือรือร้น
หลินต้ากั๋วเห็นแบบนั้นจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวไป๋ ตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนนี้ แค่ฟังก็มีเสน่ห์มากแล้ว นายเห็นไหมว่าพวกเขาต่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าจะยังไม่กลับไปวันนี้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ลุงรอง ถ้าผมจะบอกว่ามีสิ่งที่น่าดึงดูดมากกว่านี้ล่ะ ? ”
หลินต้ากั๋วหัวเราะเบา ๆ “เรื่องอะไรที่ว่าน่าดึงดูดกว่า ช่วยบอกฉันหน่อย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ความลับสุดยอดรู้แค่สองคนเท่านั้น หลังจากที่เรากินหม้อไฟเสร็จแล้ว ผมจะพาลุงไปยังสถานที่หนึ่ง และอธิบายให้ลุงฟังโดยละเอียด”
หลินต้ากั๋วดูมีความสุขมาก “ยังมาเล่นลิ้นอีก ดูท่าว่าจะเป็นเรื่องที่น่าดึงดูดใจไม่น้อย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “แน่นอนครับ และยังมีหลายสิ่งที่ผมสามารถทำได้เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พูดง่าย ๆ คือสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ”
หลินต้ากั๋วมองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างลึกซึ้ง เขารู้ว่าหลานชายของเขาจะไม่พูดเรื่องไร้สาระ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า “อย่างไรก็ตาม การเดินทางของวันนี้ก็ถูกยกเลิกไปแล้ว ดังนั้นฉันจะปล่อยให้นายใช้เวลาของฉันให้เต็มที่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และพูดกับคนอื่นในโต๊ะต่อ “หลังจากกินหม้อไฟเสร็จแล้ว พวกคุณจะไปกับผมไหม ผมจะพาไปยังสถานที่หนึ่ง แต่บังเอิญว่าสถานที่นั้นเล็กไปหน่อย แต่สหายท่านอื่นที่เหลืออาจจะยังไม่ได้ไปในวันนี้”
เจิงเหลียงหยูและเกาเทียนเยว่ได้ยินคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ พวกเขาก็คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะพาไปแค่หลินต้ากั๋วคนเดียวเท่านั้น แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะได้ไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะปฏิเสธ
เจิงเหลียงหยูกล่าวว่า “เรื่องนี้ฉันจะบอกให้เอง ปล่อยให้พวกเขามีเวลาว่างในช่วงบ่ายก็ไม่เห็นเป็นไร”
เกาเทียนเยว่กล่าวว่า “พวกเขาคงอยากมีเวลาว่างเพื่อไปต่อคิวซื้อล็อตเตอรี่แหละมั้ง”
ฉีเย่ผิงพูดอย่างรวดเร็วว่า “ผมว่าจะเอาเวลาช่วงบ่ายไปหาที่พักและจัดแจงอะไรก่อน”
เจิงเหลียงหยูโบกมือ “เดิมทีฉันวางแผนจะกลับวันนี้ แต่ถ้าไม่กลับก็แค่หาที่พักสักคืน ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร”
เกาเทียนเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนได้ยินเรื่องการเปิดตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนกันหมดแล้ว ฉันเดาว่าคงไม่มีใครกินข้าวเย็น เพราะคงเตรียมท้องไปกินของในตลาดกันหมด”
ฉีเย่ผิงกล่าวว่า “เอาล่ะ งั้นผมก็จะฟังพวกคุณสักครั้ง ที่ต้องจัดการคือหาที่พักเท่านั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “สำหรับที่พักไม่มีปัญหาครับ ผมจองชิงเจียงเกสต์เฮาส์ให้พวกคุณแล้ว มีบางห้องเท่านั้นที่เปิดให้นักข่าวมาพัก ส่วนใหญ่ก็ว่างหมด เพียงพอที่จะรองรับทุกคน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่พักที่ไหนไกล”
“ง่ายดี” เกาเทียนเยว่ยิ้ม “งั้นก็รีบกินเร็ว ๆ แล้วพาพวกเราไปสถานที่ที่คุณพูดถึง ฉันเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร อย่าทำให้พวกเราผิดหวังล่ะ”
ฉีเย่ผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเองก็สงสัยว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะพาพวกเขาไปที่ไหน ?
แต่ถ้าจางอี้เต๋ออยู่ที่นี่ เขาคงจะรู้ทันทีว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะพาพวกเขาไปที่ร้านดื่มชาสปาเท้า
และสิ่งที่เรียกว่า ‘ความลับสุดยอดรู้แค่สองคนเท่านั้น’ ที่จริงแล้วเรื่องที่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการจะพูดกับหลินต้ากั๋วคือเรื่องการขายล็อตเตอรี่ระยะยาว
ตอนไปถึงร้านดื่มชาสปาเท้าแล้ว เขาจะนวดในห้องเดียวกับหลินต้ากั๋ว แล้วให้คนอื่นไปอยู่ห้องอื่น แบบนี้ก็ไม่มีใครรู้ความลับสุดยอดของเขาแล้ว