ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 670 นี่ไม่ต่างจากเป็นการตบหน้าตัวเองเลย
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 670 นี่ไม่ต่างจากเป็นการตบหน้าตัวเองเลย
ตอนที่ 670 นี่ไม่ต่างจากเป็นการตบหน้าตัวเองเลย
ระหว่างทาง นอกจากจะมีผู้คนจำนวนมากพูดคุยเกี่ยวกับผู้ที่ถูกรางวัลใหญ่ 3,000 หยวนแล้ว ยังมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับรางวัลอื่น ๆ ที่เริ่มทยอยออกมาอีกด้วย
“เหล่าหวัง คุณถูกล็อตเตอรี่ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมคุณถึงมาที่นี่อีก ? ”
“ฮ่าฮ่า เมื่อเช้านี้ฉันเพิ่งถูกรางวัลด้วยเงินเพียง 10 หยวน หลังจากที่ฉันกลับบ้านและโชว์รางวัลให้ภรรยาของฉันดู เธอก็ดุฉันไปยกใหญ่เลย”
“ไอ้หยา คุณถูกล็อตเตอรี่ แล้วภรรยาคุณยังดุคุณอีก ! ”
“พอเธอรู้เรื่องนี้ ภรรยาของฉันก็บอกว่าทำไมฉันไม่เอาไปซื้อต่อ ถ้าฉันซื้อเพิ่ม บางทีฉันอาจจะถูกรางวัลใหญ่ก็ได้”
“คุณจึงมาที่นี่เพื่อซื้อล็อตเตอรี่อีกครั้งงั้นเหรอ ? ”
“แน่นอน คราวนี้ฉันเอาเงินมา 30 หยวนไปเลย”
“คุณซื้อเยอะมาก แล้วถ้าคุณไม่ถูกรางวัลล่ะ ? ”
“ให้ตายเถอะ ทำไมฉันจะไม่ถูกล่ะ รู้ไหม ตอนที่ฉันถูกรางวัลใหญ่ 3,000 หยวนเมื่อเช้านี้ ฉันเพิ่งซื้อไปแค่ 1 หยวนเท่านั้น”
“ขอโทษที ฉันพูดไม่คิดเองแหละ ยังไงก็ขอให้คุณถูกรางวัลอีกนะ”
“มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ! ”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋และเมิ่งเสี่ยวเป่ยอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กัน เมื่อพวกเขาได้ยินการสนทนาระหว่างผู้คนเหล่านี้
ตลอดทางเดินไปยังเกสต์เฮาส์ชิงเจียง พวกเขาได้ยินผู้คนพูดคุยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เกี่ยวกับคนที่ถูกล็อตเตอรี่แต่ละรางวัล
ไม่มีความคิดเห็นในด้านลบแม้แต่น้อย
คำที่ว่าเรื่องดีไม่พูด แต่เรื่องไม่ดีกระจายไปหลายพันลี้ ย่อมใช้กับล็อตเตอรี่ไม่ได้
ใครก็ตามที่มาซื้อล็อตเตอรี่ จะสนใจและหารือเกี่ยวกับผู้ที่ถูกรางวัลและรางวัลที่ออกไปแล้วเท่านั้น พวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเงินที่เสียไป และไม่พูดถึงมันด้วยซ้ำ
ในที่สุด ทั้งสองก็เข้าไปในล็อบบี้ของเกสต์เฮาส์ชิงเจียง ก่อนจะเห็นฟู่เต๋อเจิงกำลังมองมาที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความโกรธ “คุณไปไหนมา ฉันหาคุณจนทั่วก็ไม่เจอ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมไปต้อนรับลุงรองที่สนามบิน ประธาน คุณมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า ? ”
มุมปากของฟู่เต๋อเจิงกระตุกอย่างแรง “คุณขอให้ฉันทำอะไร จำไม่ได้เหรอ คุณขอให้ฉันโทรหานักข่าว ตอนนี้พวกเขามาแล้ว คุณจะจัดการยังไงต่อ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “นั่นสินะ เย่กวงโต้วไม่ได้ให้พวกเขาขึ้นไปพักที่ห้องพักของเกสต์เฮาส์เหรอ ? ผมจะเลี้ยงอาหารพวกเขาด้วย เที่ยงนี่เราจะเลี้ยงหม้อไฟ”
“ทำไมเย่กวางโต้วไม่บอกคุณ ? ”
ฟู่เต๋อเจิงพูดด้วยท่าทางกังวล “ไม่มีใครมาบอกอะไรเลย ! ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องนิทรรศการของคุณแล้ว คุณต้องหาคนมาให้พวกเขาสัมภาษณ์ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่มีคนจากบริษัทของเราอยู่ในบูธเลยเหรอ ? นักข่าวสามารถสัมภาษณ์ใครก็ได้ ทำไมต้องรอผมด้วย ? ”
ฟู่เต๋อเจิงกล่าวว่า “ทำไมคุณไม่ไปดูสถานที่จัดนิทรรศการ คนของคุณต่างก็ยุ่งกันหมด พวกเขาจะมีเวลามาให้นักข่าวสัมภาษณ์ได้อย่างไร ? ”
เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ก็โอเคนะ พวกเขายังถ่ายด้วยกล้องได้ สำนักงานหนังสือพิมพ์ของเราไม่จัดให้มีการสัมภาษณ์ แล้วเราจะประชาสัมพันธ์ให้คุณทราบได้อย่างไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว “ผมบอกคุณไปแล้วท่านประธาน ให้พวกเขาสนุกสนานได้เต็มที่ ถ่ายรูปในงานได้ตามที่ต้องการ ส่วนต้นฉบับส่งเสริมการขาย พวกเขาไม่จำเป็นต้องเขียน ผมได้ขอให้เย่กวางโต้วและมู่เสี่ยวชิงเขียนให้แล้ว และเมื่อถึงเวลา ผมจะส่งบทความนั้นไปให้ พวกเขาก็แค่ตีพิมพ์มันออกมาเท่านั้น”
ฟู่เต๋อเจิงตกตะลึง “คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เรื่องแบบนี้ใครเขาพูดเล่นกัน นี่เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ ต้นฉบับที่เขียนโดยพวกเราเอง เพื่อให้สะท้อนข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเราได้ครบถ้วน”
ฟู่เต๋อเจิงโกรธมากจนพูดไม่ออก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเล่นแบบนี้
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบบุหรี่ออกมาแล้วยื่นให้เขาอันหนึ่ง “เอาล่ะ ประธานฟู่ ถ้าทุกอย่างโอเค ก็รีบไปซื้อล็อตเตอรี่ได้แล้ว บางทีคุณอาจเป็นเศรษฐีคนต่อไปก็ได้นะ”
“ฉันจะไม่บริจาคเงินให้คุณหรอก ! ” ฟู่เต๋อเจิงพูดด้วยความโกรธแล้วเดินจากไป
หากเขายังคงอยู่ต่อไป เขากังวลมากว่าจะถูกเจียงเสี่ยวไป๋หลอกให้ซื้อล็อตเตอรี่จนสำเร็จ
ใครก็ตามที่มีสายตาเฉียบคม จะรู้ดีว่าความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัลพิเศษนั้นต่ำมาก
หากทุกคนสามารถคว้ารางวัลใหญ่ได้ งั้นผู้จัดคงจะต้องเสียหาย
เจียงเสี่ยวไป๋มองตามหลังของฟู่เต๋อเจิงและยิ้มให้เมิ่งเสี่ยวเป่ย “ยังมีคนที่ไม่คิดจะสนใจอยู่”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยยิ้ม “แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ไป ไปดูกันเถอะ”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน พวกเขาก็มองไปรอบ ๆ บริเวณที่ขายล็อตเตอรี่และพื้นที่แลกรางวัล และสิ่งที่พวกเขาได้ยินก็คือการพูดถึงคนที่ได้รางวัลใหญ่
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็เดินไปที่พื้นที่ขายอีกครั้ง จู่ ๆ เมิ่งเสี่ยวเป่ยก็ดึงแขนเสื้อของเจียงเสี่ยวไป๋ และพูดว่า “ดูสิคะ…” ก่อนจะชี้ไปที่ด้านหลังของแถว
เจียงเสี่ยวไป๋มองดู และทันใดนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็ยิ้มออกมาทันที
เขาเหลือบมองเมิ่งเสี่ยวเป่ยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไปหาเขากันเถอะ”
พวกเขาทั้งสองเดินอย่างรวดเร็วไปที่ด้านหลังของแถวยาวนั้น จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดเสียงดัง “เฮ้ ประธานฟู่ คุณก็มาเข้าแถวซื้อล็อตเตอรี่ด้วยเหรอ ! ”
คนที่กำลังต่อแถวอยู่หลังสุดนั้นคือฟู่เต๋อเจิง
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าจะไม่สนับสนุนเจียงเสี่ยวไป๋ แต่ในพริบตา เขาก็มาเข้าคิวต่อแถวซื้อล็อตเตอรี่แล้ว
นี่ไม่ต่างจากเป็นการตบหน้าตัวเองเลย..
ฟู่เต๋อเจิงเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋เบา ๆ และพึมพำออกมา “คุณคิดว่าฉันอยากมานักหรือไง ! ”
เขาชี้ไปที่คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งก็คือหญิงชราอายุเกือบเจ็ดสิบปี และเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบสามปี ก่อนจะกล่าวว่า “แม่และลูกชายของฉันยืนกรานว่าจะมา ฉันก็เลยต้องมาต่อแถวเป็นเพื่อนพวกเขาอยู่นี่ไง”
เจียงเสี่ยวไป๋จึงรู้ความจริงของเรื่องนี้
เขาทักทายหญิงชราอย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับคุณป้า ผมเจียงเสี่ยวไป๋ เป็นเพื่อนของประธานาธิบดีฟู่ ผมขออวยพรให้คุณป้าถูกรางวัลด้วยนะครับ ! ”
เฉินรั่วฮวา แม่ของฟู่เต๋อเจิงยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณนะเสี่ยวเจียง ฉันเองก็ขอให้สมพรปาก”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดกับหญิงชราอีกสองสามคำ จากนั้นจึงลูบหัวลูกชายของฟู่เต๋อเจิง “แล้วเราล่ะชื่ออะไร ? ”
“ฟู่เหวินไท่ ! ” ฟู่เหวินไท่ตอบออกมาเสียงดัง
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เราก็อยากได้รางวัลใหญ่เหมือนพวกผู้ใหญ่สินะ ! ”
ฟู่เหวินไท่ส่ายหัวและกล่าวว่า “ผมเห็นในโฆษณาว่าจะแบ่งเงินที่ได้จากล็อตเตอรี่ใบละ 1 เจี่ยวเพื่อการกุศล ผมจึงขอให้คุณย่าพาผมมาซื้อสักสองสามใบ ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการกุศลด้วยครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกยินดี “เหวินไท่ทำดีมาก เป็นเด็กเป็นเล็กก็คิดเป็นแล้วนะเรา”
ฟู่เหวินไท่กล่าวว่า “ตราบใดที่ทุกคนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพียงเล็กน้อย โลกก็จะกลายเป็นโลกที่สวยงาม เงินที่ผมใช้ซื้อล็อตเตอรี่คือเงินนำโชคของผม”
เจียงเสี่ยวไป๋ชมเด็กชายไม่กี่คำ ก่อนจะหันไปพูดกับฟู่เต๋อเจิงว่า “ประธานฟู่ เด็กคนนี้เป็นคนที่คิดดี เขาจะประสบความสำเร็จในอนาคตแน่นอน”
ฟู่เต๋อเจิงยิ้ม เขาพอใจกับคำพูดของลูกชายมาก
ตอนนั้นเองที่เขาจำได้ว่าคำขออันแรงกล้าของลูกชายในการมาซื้อล็อตเตอรี่นั้น ที่จริงแล้วเพื่อสนับสนุนการกุศล
“เด็กดี พ่อจะซื้อให้ก็แล้วกัน ! ” ฟู่เต๋อเจิงตบหัวฟู่เหวินไท่เบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม