ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ - ตอนที่ 44
“ทำไมพี่ถึงไม่ค่อยยิ้มเลยคะ?”
เด็กผู้หญิงที่ท่าทางอายุน้อย ถามฉันด้วยแววตาใสซื่อของเธอ ในขณะที่ฉันกำลังเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารกับเหล่าซิสเตอร์คนอื่นๆอยู่ ทำไมเธอถึงถามฉันแปลกๆแบบนั้นกันนะ แล้วเธอเป็นใครกันไม่ใช่เด็กของที่นี้นี้น่า คงจะมากับพวกผู้ใหญ่ที่มาสารภาพบาปละมั้ง
“พี่เองก็ยิ้มนะ นี้ไง”
ฉันส่งยิ้มไปให้เด็กน้อยคนนั้น หว้งว่าเธอจะพอใจนะ
“พี่ยิ้มเหมือนคุณแม่ของหนูเลย”
“เอ๋~ จริงเหรอ? ชักจะดีใจหน่อยๆแล้วสิ”
“ใช่คะ มันเป็นรอยยิ้มตอนที่แม่รับแขกนะคะ”
“แม่เธอเป็นพวกพนักงานต้อนรับหรืออะไรประมาณนั้นเหรอจ๊ะ?”
“หนูไม่รู้ แต่แม่จะชอบยิ้มแบบพี่ตอนที่พาแขกมาที่บ้านนะคะ”
เข้าใจแล้วแม่ของเธอเป็นพวกโสโครกนี้เอง เป็นหนึ่งในประเภทคนที่ฉันเกลียดที่สุดเลยละ แต่เธอเองก็ยังไม่กลายเป็นพวกนั้นสินะ ดีแล้วละ
“แต่เวลาคุณแม่ยิ้มแบบนี้จะชอบแอบไปร้องไห้ตลอดเลย พี่เองก็ร้องไห้บ่อยเหมือนคุณแม่เหรอคะ?”
“ไม่หรอก พี่ไม่เคยร้องไห้หรอก แต่ว่าหนูควรออกไปได้แล้วนะ ที่นี้มันพื้นที่ทำอาหารของโบสถ์คนที่ไม่ได้รับอนุญาติห้ามเข้า ไม่งั้นจะโดนเทพธิดาแห่งแสงลงโทษนะ”
“เข้าใจแล้วคะ!! หวังว่าคุณเทพธิดาแห่งแสงจะทำให้พี่กับคุณแม่หยุดร้องนะคะ”
เด็กคนนั้นวิ่งพร้อมกับกอดตุ๊กตาตัวโปรดและออกไปจากห้องครัว ฉันหวังว่าเธอคงจะรักษามันไม่ให้คนอื่นมาแย่งมันไปได้นะ ฉันหวังจากใจจริงเลยละ การถูกแย่งของสำคัญไปมันรู้สึกแย่มากจริงๆ
“มีเรีย!! หยุดเล่นแล้วกลับมาทำหน้าที่ของเธอซะ!!”
“คะ ซิสเตอร์เจน”
ฉันก็ยังหน้าที่ของฉันเหมือนเดิม ดูแลเด็กๆ ทำความสะอาด ทำอาหาร สวดภาวนา ส่งเด็กๆเข้านอน ทุกคนที่ทำหน้าที่เช่นเดียวกับฉันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเธอมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ แต่น่าแปลกเหมือนกันที่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย น่าแปลกใจจริงๆ หวังว่าสักวันเทพธิดาแห่งแสงจะให้คำตอบฉันได้นะ ฉันเองก็หวังว่าอย่างงั้นเหมือนกัน
.
.
.
ผมตื่นขึ้นเห็นฝาเพดานไม้ที่คุ้นเคย ไม่ได้ตื่นมาเห็นมันมา5เดือนแล้วสินะ การตื่นมาแบบนี้ก็ไม่เลวแต่ดันมาฝันเห็นอะไรแปลกๆ แต่เช้าซะได้ น่าเบื่อจังเลยนะ ความฝันแบบนั้นนะ ผมไม่ได้ต้องการจะเห็นมันซักหน่อย
“แกรน ตื่นแล้ว เหรอ”
ก้าก้ากล่าวทักทายใยขณะที่เธอกำลังถือดาบของผม เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ
“อืมตื่นแล้วละ ว่าแต่เธอทำอะไรกับดาบของฉันนะ”
“ทำให้ มัน ดีขึ้น”
หมายถึงขัดดาบตอนเช้าอะไรแบบนั้นสินะ สมกับเป็นนักรบจริงๆเลยนะเธอเนี้ย
“แล้วเธอทำยังไงละ?”
“แบบนี้…”
ครืดดดด!!!!
เธอเอาเล็บขูดไปที่คมของดาบของผมจนเกิดเสียงดัง นั้นมันวิธีดูแลดาบแบบใหม่เหรอนั้น..
“ดีขึ้น แล้ว”
เธอยื่นดาบมาทางผม ผมเองก็รับมันไว้แบบงงๆ นี้มันดีขึ้นตรงไหนหว่า? อย่าบอกนะว่าคมขึ้น คงไม่น่าใช้หรอกมั้งนั้นมันเล็บไม่ใช่หินลับมีดซักหน่อย
“วันนี้เราจะไปลงทะเบียนเป็นนักผจญภัคให้เธอ เธอพร้อมรึเปล่าละ”
“พร้อม..”
“งั้นเหรอ… งั้นก็ไปกันเถอะ!!”
.
.
.
“ฮัลโหล คุณเลเล่ มาขอลงทะเบียนหน่อยคร้าบ~”
“ได้คะ ค่าลงทะเบียน 3 เหรียญเงิน….. แกรน!!!”
คุณเลเล่พึ่งรู้ตัวเหรอครับเนี้ย ทั้งๆที่เป็นเผ่าหมาเหมือนพวกนั้นแต่กลับรู้สึกตัวช้าจัง นี้คุณเป็นเผ่าที่จมูกดีจริงๆเหรอเนี้ย? ชักสกสัยแล้วสิว่าหูกับหางนั้นเป็นแค่เครื่องประดับรึเปล่านะ
“นายยังมีชีวิตอยู่เหรอ? น่าตกใจจริงๆ!!”
“ผมก็มีชีวิตตลอดแหละครับ ไม่ได้กลายเป็นซอมบี้หรืออะไรสักหน่อย”
“งั้นก็ดีแล้วละ ถ้างั้นก็จ่ายมาซะ”
คุณเลเล่แบมือพร้อมกับยิ้มบริการตามแบบฉบับสาวกิลที่เธอถนัด
“เอ่อ… นี้มันเรื่องอะไรกันครับเนี้ย?”
“ก็ค่าลงทะเบียนของนายไง? ถามแปลกๆ”
“ไม่ๆ ก็ผมลงทะเบียนไปแล้วนี้!! ไหงผมต้องจ่ายด้วยละ!!”
ผมพูดพร้อมกับควักป้ายนักผจญภัคที่ทำมาจากทองแดงออกมา เพื่อเป็นหลักฐานว่าผมลงทะเบียนไปแล้ว
“นายสมองเสื่อมรึไง? นายนะเป็นแร๊งGนะยะ ถ้าไม่ได้ทำภารกิจเกิน14วัน สมาชิกของนายก็ต้องถูกถอนไปตามกฏระเบียบสิ อีกอย่างทางกิลระบุว่านายตายไปแล้วนะ จู่ๆโผล่มาแบบนี้ฉันก็ต้องเขียนรายงานอีก ทั้งๆที่งานของฉันก็ยุ่งอยู่แล้วแท้ๆ นายนี้มันตัวซวยจริงๆ”
“ไม่จริงน่า…”
ผมลงไปอยู่ในท่าOPZทันที อะไรกันวันนี้เราต้องจ่ายเงินถึง6เหรียญเงินเลยเหรอ? บ้าชะมัดยาด…ทั้งๆที่ช่วงนี้อยากจะเซฟเงินแท้ๆ ซิกๆ
“ไม่ต้องเศร้าไปหรอก อย่างน้อยนายก็ควรดีใจซะเถอะที่ไม่โดนค่าปรับจากภารกิจ เพราะนายจ้างตายไปแล้ว เอาละจ่ายมาซะ ดีๆ”
“ครับ…”
ผมนำเงิน6เหรียญเงินวางไว้บนเมืองคุณเลเล่ ซิกๆ เหลืออีก26เหรียญเงิน เดี๋ยวก็ต้องจ่ายค่าห้องอีกดีนะช่วงนี้พักฟรีประหยัดไปได้เยอะเลยละ
“6เหรียญเงิน? นายให้เงินมาเกินนะแกรน”
“ไม่เกินหรอกครับ ก็นี้สำหรับ2คนนี้น่า”
“หมายถึงคนที่อยู่ด้านหลังนายอะนะ นั้นใช่ดาร์คเอลฟ์รึเปล่า?”
“คุณจะบ้ารึไงเป็นไปได้ที่ไหนที่พวกที่อยู่ทวีปอื่นจะมาอยู่ที่นี้นะ เธอเป็นภูติดำต่างหากครับ”
“ภูติดำ? อ๋อ!! ใช่เผ่าพันธ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ใช่มั้ย? ที่มีข่าวลือชอบทำอะไรอะไรแปลกๆมาขายช่วงนี้ใช่มั้ย?”
ดูเหมือนข่าวลือก็มาถึงที่นี้เหมือนกันสินะ ในฐานะผู้ให้กำเนิดน่ายินดีจริงๆ
“ใช่แล้วละ.. นอกจากนี้เธอยังเป็นแฟนผมด้วยนะครับ!!!”
“ค่ะๆ ช่วยวางมือบนลูกแก้วลงทะเบียนด้วยนะคะ”
“ไหงจู่ๆเล่นเมินกันแบบนี้ละครับ!!!”
คุณเล่เล่หยิบลูกแก้วออกมาจากใต้โต๊ะ มันเป็นลูกแก้วสำหรับใช้ลงทะเบียนที่ไม่ได้เห็นซะนานเลยนะเนี้ย เอาละแค่แตะมันเหมือนเดิมสินะ
“ไหนๆ ดูข้อมูลหน่อยสิ… นี้นายไปทำบ้าอะไรมาเนี้ย?”
เธอเอ่ยถามผมในขณะที่กำลังมองกระดาษที่อยู่ในมือ
“ทำไมถึงถามอย่างงั้นละมีอะไรแปลกๆ ในข้อมูลผมรึไง?”
“ก็มีสิ ไอ้สกิลความอดทนต่อการกระแทกซ้ำๆนี้มันอะไรกันเนี้ย? นี้นายไปขายตัวมารึไง?”
“ไม่ๆๆๆๆ ถึงผมจะร้อนเงินก็จริงแต่ผมไม่ได้คิดจะไปขายตัวซักหน่อย!!”
“งั้นช่วยอธิบายไอ้สกิลแปลกๆ ของนายมาหน่อยสิ? เห็นอย่างงี้ฉันก็ทำงานมานานแล้วนะ สกิลพวกนี้ถ้าไม่ใช่พวกโสเพณีที่หนักงานมาหนักๆ หรือพวกที่โดนทุบตีบ่อยๆมันก็ไม่ขึ้นหรอกนะ…. นายคงจะใช้งานด้านหลังหนักน่าดูเลยนะ”
“ไม่ๆ ผมไม่ใช่ผู้ชายขายตูดซักหน่อย!! ไหงผมต้องใช้งานประตูหลังหนักด้วยละ!!”
“ฉันไม่เอาเรื่องนายไปบอกใครหรอก อย่างน้อยฉันเองก็มีจรรยาบรรในฐานะพนักงานกิลฉันรอบรองได้เลยข้อมูลนายไม่หลุดไปไหนหรอก สบายใจได้”
“อย่ามามองด้วยสายตาสกสารผมสิ!!! ผมไม่ได้ขายตูดซะหน่อย!! จริงๆนะ”
ทำไมถึงมีสกิลแบบนั้นขึ้นมาในหน้าสมุดสกิลของผมได้ละ… ไม่สิคงเป็นเพราะยัยพวกนั้นแหงๆ เลวร้ายที่สุดคือการโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายขายตูดนี้แหละ… โธ่เว้ย!!!
“คุณภูติดำไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหรอคะ?”
“ก้าก้า”
“ชื่อ ก้าก้า สินะคะ ขอทราบอายุหน่อยได้ไหมคะ?”
“จำ ไม่ได้ แต่อยู่ มานาน แล้ว”
จะว่าไปเราเองก็ไม่รู้อายุเธอเหมือนกันแหะ แต่เหมือนจะอยู่มาเป็นร้อยๆ ปีแล้วนี้นะ
“ถ้างั้นขอลงไว้ที่อายุขั้นตอนต่ำไว้ที่15ปีนะคะ คงไม่มีปัญหาอะไรนะคะ”
“อืม”
“เคยก่ออาญากรรมรึเปล่าคะ?”
“อะไร คือ อาญ กรรม?”
“ก็ประมาณว่าฆ่าคนหรือลักขโมยอะไรประมาณนี้แหละคะ”
“เคย ฆ่า พวก ตัวปัญหา ตามคำสั้ง”
“เคยฆ่าคนสินะคะ งั้นช่วยแตะลูกแก้วหน่อยนะคะ”
“อืม..”
ก้าก้าแตะลูกแก้วที่ผมแตะเหมือนกัน จะมีปัญหาอะไรไหมนะ เธอเคยฆ่าคนด้วยสิ
“จากฐานข้อมูลคดีอาญากรรมของทาง9อนาจักร คุณไม่ได้ ฆ่าคนบริสุทธิ์หรือทำผิดอะไรอื่นๆ เลยคะ ส่วนเรื่องสกิลและคุณสมบัติอื่นๆของคุณก็… นี้มันอะไรกันเนี้ย!!!!”
คุณเล่เล่ตะโกนออกมาหูของเธอตั้งอย่างเห็นได้ชัด ในนั้นมันเขียนอะไรเอาไว้กันนะ คุณเล่เล่ถึงได้ตกใจขนาดนั้นกันนะ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ คุณเล่เล่ ในนั้นมันเขียนอะไรไว้เหรอครับ?”
“นี้นายไปเอา’เทพสงครามก้าก้า’มาได้ยังไงเนี้ย!!!”
ทำไมฉายามันดูโหดร้ายจังเลยวะ แต่เดี๋ยวนะเทพสงคราม? หมายความว่าไงละนั้น
“อะไรคือ’เทพสงครามก้าก้า’เหรอครับคุณเล่เล่”
“นี้นายไม่รู้จักรึไง!!! เมื่อสงครามรอบที่แล้ว เธอคนนี้เป็นคนที่ไล่ต้อนกองทหารของลาสด้วยตัวคนเดียวจนเกือบทำให้ลาสแพ้สงคราม แถมยังฆ่าพวกนายทหารระดับสูงของลาสไปมากมาย จนราชาในสมัยนั้นกับกองทัพระดับที่เก่งที่สุดของเขา ต้องออกมาปราบเธอด้วยตัวเองเลยนะ!! คนระดับนี้มันระดับตำนานชัดๆ ฉันนึกว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่จริงซะอีก!!”
เอาจริงดิ? ยัยนี้มันโหดขนาดเลยจริงดิ สรุปในอดีตเธอไปทำอะไรมากันแน่เนี้ย!!
“ลง ได้ ไหม?”
“ดะ..ได้แน่นอนคะ!!! ขะ..ขอจับมือหน่อยได้ไหมคะ!!”
“ได้..”
ก้าก้ายื่นมือไปให้เธอจับ ส่วนคุณเล่เล่ก็ทำหน้าปราบปลื้มมากที่ได้จับมือเธอ
“ฉันจะไม่ล้างมือข้างนี้ตลอดชีวิตเลยคะ!!”
“ทำ ไม?”
“คุณเป็นวีรสตรีสำหรับพวกเราครึ่งสัตว์เลยนะคะ!! ฉันนับถือคุณมากๆมาตั้งแต่เด็กๆเลยละคะ!!”
“รีบๆให้ป้ายมาซักทีเถอะครับ ผมรอนานแล้วนะ ไหนจะเรื่องป้ายอันเก่านี้อีก”
“หนวกหูยะ!! ไม่เห็นรึไง!! ว่าคนเขากำลังยุ่งๆอยู่!! ไอ้คนขายตูด!!”
“ไม่ได้ขายสักหน่อย!!!”
–
“ถ้างั้นขอเริ่มอธิบายเงื่อนไขเริ่มต้นของทางกิลเราเลยนะคะ นี้คือสัญญาที่เป็นแบบพาร์ทเนอร์ไม่ใช่การจ้างงานแต่อย่างใด พวกเรานั้นเป็นเพียงนายหน้าจัดหาภารกิจกับรับซื้อวัตถุดิบบางประเภทเท่านั้น หากเกิดความเสียหายหรือเสียชีวิตระหว่างภารกิจ ทางกิลจะไม่ขอรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในทุกกรณี เว้นแต่สัญญาจ้างที่ทางกิลเป็นคนจ้างเองโดยตรงหรือภารกิจอื่นๆที่ได้รับมาจากประเทศที่ทางกิลมีส่วนที่ต้องเป็นตัวแทนผู้รับประกันงานเท่านั้นถึงจะมีส่วนต้องรับผิดชอบร่วมกับคุณ นี้คือเงื่อนไขเริ่มต้นของทางเราคุณจะยอมรับไหมคะ”
“ยอม”
เมินผมแล้วอธิบายต่องั้นเหรอ.. ไอ้นั้นมันจะเริ่มแล้วสินะ หลับรอสักหน่อยดีไหมนะ
“ถ้างั้นขออธิบายในส่วนอื่นๆที่มีผลต่อแร๊งและบทลงโทษนะคะ การทำแต่ละเควสนั้นทางเราได้จัดลำดับความยากง่ายเอาไว้ ตั้งแต่ FไปถึงG ทางเราอนุญาติให้รับเควสเหนือกว่าตัวเองได้ไม่เกิน2ระดับในกรณีแร๊งG ตั้งแต่ระดับFขึ้นไปนั้นสามารถรับเควสได้เหนือกว่าตัวเอง1ระดับ ยกเว้นในกรณีแร๊งAหากมีความประสงค์ ต้องการรับเควสระดับSทางกิลจะพิจารณาตามความสามารถอีกที คุณสามารถตั้งปาตี้ได้ด้วยกันได้ในกรณีที่แร๊งไม่ห่างกัน2แร๊ง ยกเว้นผู้ฝึกสอนที่ทางกิลยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น การตั้งปาตี้นั้นเราอนุญาติให้มีได้ไม่เกิน7คน หลังจากนั้นทางกิลจะประเมินความสามารถออกมาเป็นแร๊งต่างๆ ที่เหมาะสมกับภารกิจนั้นๆในหน้างานอีกทีโดยพนักงานของกิล การทำเควสนั้นหากสำเร็จไปได้ประมาณหนึ่งทางกิลจะทำการสอบสัมภาษณ์เพื่อทดสอบคุณอีกทีโดยจะมีการใช้ลูกแก้วจับเท็จด้วย หากเห็นว่าสมควรจะได้รับการเลื่อนขั้นทางกิลจะทำการเปลี่ยนป้ายให้คุณอีกที โดยระดับGถึงDจะเป็นสีทองแดงอยู่ พอขึ้นเป็นระดับC-Aถึงป้ายจะเปลี่ยนเป็นสีเงิน ถ้าเป็นระดับSป้ายจะถูกเปลี่ยนเป็นสีทอง ไม่ต้องกลัวว่าจะสับสนเรื่องแร๊คเพราะทางกิลนั้นจะเป็นคนอนุญาติให้รับงานเอง ตัวป้ายเองก็มีการเปลี่ยนตัวอักษรทุกครั้งหากทำการเลื่อนแร๊ง และสามารถตรวจสอบว่าป้ายเป็นของแท้ได้ที่ทำการกิลทุกสาขาหรือป้อมของทหารของเมืองใหญ่ๆได้คะ ส่วนบทลงโทษในกรณีทำภารกิจล้มเหลวก็จะถูกปรับเป็น3เท่าของเงินรางวัญ หากทำผิดพลาดบ่อยๆ ก็จะมีการพิจารณาลดแร๊งหรือทำการปลดจากการเป็นสมาชิกของกิลถาวร ถ้าหากนำป้ายไปฉวยโอกาศแอบอ้างเป็นแร๊งที่เหนือกว่าตนเองเพื่อรับงานนอก ถือเป็นการกระทำที่หยาบคายเป็นอย่างมากต่อทางกิลจะถือว่ามีความผิดร้ายแรงให้ออกสถานเดียว และหากใช้นามของกิลเพื่อก่ออาญากรรมจะมีบทลงโทษที่เป็นข้อตกลงไว้ในแต่ละประเทศไว้ อย่างการตั้งค่าหัวหรือถูกตามล่าโดยสมาชิกระดับสูงกว่า ซึ่งถ้าหากถูกหมายหัวเป็นจำตายจะผู้สังหารไม่จำเป็นต้องรับโทษใดๆ ทางกฏหมายต่อให้เป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มีอำนาจใดๆเลยก็ตาม และก็ยังมีสิทธิรับเงินรางวัลเหมือนกับคนอื่นๆ จริงๆ มีกฏระเบียบอื่นๆอีกมากมายแต่ขอละไว้ให้คุณไปศึกษาต่อด้วยตัวเองคะ มีอะไรจะถามเพิ่มเติมอีกไหมคะ?”
ใครเขาอยากจะถามเจ๊ต่อละครับ เล่นร่ายซะยาวยังกะท่องมนต์คาถาเลย ได้ยินกี่ครั้งก็ชวนหลับเสมอเลยแหะ
“ไม่มี”
“งั้นก็ดีแล้วละคะ ส่วนทางนี้จะจัดการดำเนินการทำป้ายให้เร็วที่สุด กรุณารอสักครู่นะคะ… แกรน!!! เอาป้ายนายมาวางไว้ตรงนี้ด่วนๆเลย!!”
“คร้าบๆ”
ผมเอาป้ายของผมไปวางไว้บนเคาร์เตอร์จากนั้นคุณเล่เล่ก็หยิบไปและหายเข้าไปด้านหลังเพื่อไปทำป้ายกิล ไหงปฏิบัติต่างกันราวกับฟ้ากับเหวงี้หว่า…..
.
.
.
“แม้จะน่าอายไปบ้างที่ให้คนระดับคุณมาเริ่มต้นที่ระดับGเช่นเดียว กับคนขายตูดตรงนั้น แต่นี้เป็นข้อบับคับของทางกิลต้องขออภัคด้วยจริงๆนะคะ”
“เดี๋ยวสิ!! ผมบอกไปตั้งหลายรอบแล้วนะ ว่าผมไม่ได้ขายตูดนะ!!”
“เอาเป็นว่าแม้จะเริ่มจากระดับล่างสุด ฉันก็เชื่อว่าคุณสามารถไต่แร๊งขึ้นมาได้รวดเร็วต่างจากผู้ชายขายตูดตรงนั้นแน่นอนคะ ขอให้โชคดีกับการรับภารกิจนะคะ คุณก้าก้า”
“นี้คุณจงเกลียดจงชังผมมาจากไหนเนี้ย? คุณเล่เล่”
“นายพึ่งรู้ว่าฉันเกลียดนายรึไง? ไปรับเควสเก็บสมุนไพรที่นายชอบได้แล้วยะ ชิ่วๆ”
คุณเล่เล่พูดพร้อมสะบัดมือไล่ผมเหมือนไล่หมา….. คนอย่างงี้เป็นพนักงานบริการได้ไงเนี้ย… เอาเถอะก็จริง เดี๋ยวพอรับเควสเสร็จต้องเดินไปดูอาวุธให้ก้าก้าด้วยนี้นะ เธอคนอย่างเธอจะเลือกใช้อาวุธอะไรกันนะ ชักอยากเห็นแล้วสิ
.
.
“แย่ ดาบนี้ เปราะ เกินไป..”
ก้าก้าพูดพร้อมหมุนดาบคาตานะที่เป็นดาบเวทมนต์ในมือเล่น นั้นมันดาบระดับ100เหรียญทองที่ชาตินี้ต่อให้ผมเก็บเงินทั้งชีวิตก็ซื้อไม่ได้เชียวนะเว้ย!!!
“คุณหนูไหงปากหมาแบบนี้ละ!! นั้นมันดาบเป็นดาบที่ดีที่สุดเท่าที่ข้าเลยตีมาเลยนะ!!”
ตาลุงแก่ๆ มีหนวดร่างใหญ่โวยวายก้าก้าที่กำลังหมุนดาบเล่นไปมาด้วยมือเพียงข้างเดียว
“ดาบ มัน เปราะ กว่าเล็บ อ่อนแอ”
“ปากเก่งจังนะ!! ยัยหนูนี้!! ถ้าดาบข้ามันเปราะกว่าเล็บก็ลองใช้เล็บเธอตัดมันดูสิ!!”
“ลุงกัสใจเย็นๆ เถอะ ถึงยัยนี้จะดูเพี้ยนๆ แต่ความเก่งนี้ของจริงเลยนะ”
ผมพยามห้ามลุงร่างใหญ่คนนั้น แม้ปกติจะเป็นคนใจดีก็เถอะ แต่ท่าเป็นเรื่องดาบละก็จริงจังน่าดูเลยละ.. ที่สำคัญท่าก้าก้าหักดาบนั้นได้จริงๆ คนซวยมันก็ผมสิ ผมไม่มีทางหา100เหรียญทองมาจ่ายคืนได้หรอกนะ
“แกรน!! แกก็คิดว่าดาบของข้าอ่อนแอกว่าเล็บของยัยหนูนั้นรึไง!!”
“ไม่ใช่ซักหน่อย!! ผมเองก็ใช้ดาบของลุงนะ แต่ยัยนั้นมันอข็งแกร่งผิดปกติต่างหากละ”
“ท่ายัยหนูนั้นหักดาบด้วยเล็บได้ ข้ายินดีจ่ายให้เอ็งตามราคาดาบเลย!!”
“ไม่เอาหรอก.. ถ้ามันหักได้จริงๆลุงได้หมดตัวแหงๆ”
ถึงผมจะชอบเงินแต่ไม่ได้หมายความว่าผมชอบเงินการไถคนรู้จักหรอกนะ แถมลุงก็ช่วยผมมาเยอะด้วย ผมเอาเงินจากลุงไม่ได้หรอก
“ว่าไงนะ!! เอ็งคิดจะดูถูกข้ารึไง!!”
ลุงกระชากคอเสื้อผมจนตัวลอยขึ้น.. เฮ้อ รู้สึกต้องซื้อตัวใหม่เร็วๆนี้แล้วสินะ คอมันย้วนหมดแล้ว ทำไมพอกลับมาถึงมีคนชอบกระชากคอเสื้อจังวะ ฮาลก็ทีหนึ่งละ อยากจะรู้จริงๆ ทำไมพวกนี้พอโมโหถึงชอบมากระชากคอเสื้อกันจังนะ
“จ่าย มา”
ก้าก้าแบบมือไปหาลุงที่กำลังกระชากคอผมด้วยมือเดียวอยู่
“ห๊า? อะไรเอ็งฟะ ยัยหนู!!”
“ตัดแล้ว..”
“”เอ๋?””
ผมกับลุงหันไปมองดาบในมือเธอ ที่ตอนนี้ตัวดาบมันเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งนั้นอยู่บนพื้นไปเรียบร้อย นะ..นี้เธอหักไปแล้วจริงดิ!!!”
ไม่จริง!! ดาบนั้นมันผสมมิลิธไปด้วยมันเป็นได้ที่ไหนที่สามารถตัดมันได้ด้วยเล็บกัน!!”
“ดู”
ฉับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ก้าก้าตัดดาบนั้นอย่างรวดเร็วราวกับใช้มีดตัดหัวไชเท้าญี่ปุ่นในรายการเกมโชว์ โดยใช้เพียงแค่เล็บตามที่เธอพูด จนตอนนี้ใบดาบกลายเป็นเศษเหล็กเหลือเพียงด้ามดาบเท่านั้น… จะโหดไปไหนเนี้ย!! ก็ว่าอยู่ทำไมพวกภูติดำพวกนั้นมันเก่งโคตรๆเลย เป็นเพราะเธอนี้เอง!!
“ผมไม่จ่ายนะลุง แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ไม่เอาเงินลุงหรอกนะ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”
“….”
ผมพูดปลอบใจลุงที่กำลังใบ้แดกเพราะเห็นดาบสุดยอดของตัวเองถูกหั้นเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตา
“ไสหัวไป…ก่อนที่ข้าจะเอาค้อนมาทุบหัวพวกเอ็ง”
“ครับๆ ไปเก็บสมุนไพรกันเถอะ”
ผมพูดพร้อมจูงมือก้าก้าออกมาจากร้านของลุงทันที ขอโทษนะครับที่ภรรยาของผมไปก่อปัญหา ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เอาไว้ผมจะเลี้ยงเหล้าลุงทีหลังเอง
“ไม่เอา เงิน เหรอ?”
“ไม่เอาหรอก ถ้าเอาละก็ฉันคงรู้สึกไม่ดีแหงๆ”
“แกรน ไม่ชอบ เงินเหรอ?”
“โคตรชอบเลยละ มีใครมันไม่ชอบเงินบ้างละ”
ถ้ามีเงินก็เท่ากับสบาย ถ้าสบายก็เท่ากับมีความสุขนี้แหละ สัจธรรมของสังคมเมืองละ ไม่ว่าจะยุคไหนมันก็แทบไม่มีที่ยืนให้คนจนๆหรอก
“มีเรีย ชอบ เงิน ไหม?”
“ท่าแกรนชอบก็เท่ากับว่ามีเรียก็ชอบนะ ก็พวกเราคือคนเดียวกัน และอีกอย่างฉันย้ำแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าเรียกมีเรียอีกนะ”
“อืม เข้าใจ แล้ว”
เธอนี้เข้าใจจริงๆรึเปล่านะ เอาเถอะ ยังไงเธอก็คือภรรยาของผมแล้วละนะ ค่อยๆปร้บกันไปละกัน ยังไงชีวิตก็ยังอีกยาวไกลนี้นะ
“จะว่าไปทำไมเธอถึงไม่พกอาวุธของตัวเองมาด้วยละ ทในเมื่ออาวุธในเมืองนี้มันห่วยถึงขนาดเธอใช้ไม่ได้เธอก็ควรพกอาวุธของตัวเองมานะ”
“ให้ ย้าย้า ไปแล้ว..”
“เธอเนี้ยรักลูกของตัวเองจังเลยนะ แต่ก็ดีแล้วละ”
ผมนี้โชคดีจริงๆ ที่มีผู้หญิงที่ดีขนาดนี้มาเคียงข้างผม แถมยังเป็นคนที่เก่งกาจด้านการต่อสู้ขนาดนี้อีก อย่างที่คิดเลยชีวิตอิสระนี้มันดีจริงๆด้วยสินะ