ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 72 : สงครามประสาทกับเยี่ยจิงเฉิน
เยี่ยจิงเฉินจ้องมองไปที่ลักยิ้มของเธอด้วยความกลัว เขามักจะคิดอยู่ในใจลึกๆว่ามีลักยิ้มที่เหมือนกัน และเจ้าของลักยิ้มนั้นก็สำคัญกับเขามากๆเช่นกันแต่ความทรงจำที่เกียวกับลักยิ้มนั้นกลับนึกยังไงด็นึกไม่อยาก
ในที่สุดภูเขาไฟในใจของถังซินเหยาก็ระเบิดออก
"ตัดเรื่องมีผู้สืบสกุลออกค่ะ" ถังซินเหยาพูดถึงการดูแลรักษาความสะอาดบ้านของเธอ
เธออาศัยเคล็ดลับนี้ในการเรื่องราวต่อไปเรื่อยๆ
"ฮืม……"
เยี่ยจิงเฉินฟุ้งซ่านไปชั่วขณะอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อถังซินเหยายังคำพูดนั้นมา
สมน้ำหน้า……ไอ่คนเจ้าชู้ เฉินชื่อเหม่ยคนชั่ว คนไม่มีหัวใจ
เธอจัดการจัดเสื้อผ้าของเธอจนเรียบร้อยพร้อมกับมองเข้าไปในสายตาที่เจ็บปวดเยี่ยจิงเฉิน แล้วพูดกับเยี่ยจิงเฉินด้วยน้ำเสียงร้ายๆไปว่า : "ถ้าประธานเยี่ยไม่มีเรื่องอะไรสำคัญแล้วฉันขอตัวออกไปเลยนะคะ"
ไม่รอให้เยี่ยจิงเฉินพูดอะไรเธอก็หันหลังออกมาทันที
บ๊ะ……สุดยอดไปเลย
เยี่ยจิงเฉินอ้าปากอยากจะเรียกถังซินเหยาเพื่อที่จะพูดบางอย่างกับเธอ แต่คำพูดนั้นกลับถูกกลืนลงไปหมดเสียแล้ว
"ประธานเยี่ยคะ ตอนสิบโมงคุณมีประชุมนะคะ สิบเอ็ดโมงครึ่งมีพบลูกค้าคนสำคัญ ส่วนตอนบ่ายต้องไปตึกเวิร์ลเทรดอินเตอร์เนชันนอลเพื่อหารือเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญาของไตรมาสถัดไปแล้วก็เรื่องการแก้ไขสัญญานะคะ อีกอย่างอีกไม่กี่วันก็วันเกิดของคุณลู่อันหรานแล้วนะคะ ท่านประธานอยากได้ของขวัญหรืออยากจองร้านอาหารอะไรไว้มั้ยคะ?" ใบหน้าของถังซินเหยายิ้มอย่างมืออาชีพ
ราวกับว่าเธอสวมใส่หน้ากากเอาไว้แล้วแสดงด้านที่เจ้าเล่ห์ออกมา
ส่วนทางเยี่ยจิงเฉินไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ เขาเม้มปากอย่างเย็นชา เย็นชาเสียจนไม่เห็นใจผู้อื่น
"ตอนบ่ายเธอไม่ต้องออกไปกันฉันแล้ว ส่วนของขวัญที่จะให้อันหรานเธอก็ดูๆแล้วก็เลือกมาเลย" เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างลังเล "ส่วนเรื่องร้านอาหารก็จองร้านที่อันหรานชอบก็แล้วกัน คืนนั้นก็เหมาจองร้านไว้เลยนะ สั่งให้เจ้าของร้านเขาจัดเตรียมให้พิถีพิถันหน่อย เรื่องอาหารก็ขอให้ใส่ใจในการทำเป็นพิเศษด้วย"
ถังซินเหยาจดตามคำพูดของเยี่ยจิงเฉิน เมื่อเยี่ยจิงเฉินพูดจบ ถังซินเหยาก็ตามอย่างรู้ใจไปว่า : "แผนงานของวันนี้มีเพียงเท่านี้ค่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นๆแล้ว ฉันขอตัวนะคะ"
เยี่ยจิงเฉินไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ยกมือปัดๆไปบกบ่องว่าถังซินเหยาไปไดแล้ว
ถังซินเหยาถึงเลือดขึ้หน้าผาก
ให้ตายเถอะ แค่พูดอีกนิดมันจะตายหรือยังไงกัน?
ทำอย่างกับว่าเธอเป็นหมาอย่างงั้นแหละ ทำท่าปัดมือแค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทำลวกๆแบบขอไปทีและสบประมาทกัน!
เธอตัดสินใจที่จะ……..อดทนต่อไป
เธอคิดว่าเธออาจจะไม่ใช่เลขาที่ดีแต่เธอนั้นเป็นเลขาที่มีความอดทนมากท่ีสุดแล้วล่ะ
ตั้งแต่นั้นที่เธอพูดว่า "ไม่มีทาญาติสืบสกุล" กับป่าปี้ไป หลังจากที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้ว ทั้งสองคนก็ตึงๆใส่กันตลอดมา
หรือที่เรียกกันว่า —— สงครามประสาทนั่นเอง
ป่าปี้น่ะขี้ตระหนี่มากๆ ถึงแม้ว่าเขาโกรธเธออยู่ก็ตาม !
ถึงจะไม่สบายใจ แต่เมื่อเธออยู่ต่อหน้าป่าปี้คงช่วยไม่ได้จริงๆ เธอจึงทำแค่เพียงยอมรับผิดไป
เพียงเธอออกมาจากห้องทำงานของเยี่ยจิงเฉินก็เห็นรองประธานเยี่ยที่แต่งตัวดีเรียบร้อยเดินเข้ามา
เมื่อเธอเห็นเยี่ยจิงซิง สีหน้าท่าทางของถังซินเหยาก็เปลี่ยนไป
แม่เจ้า ช่วงนี้เธอไม่ได้เจอเยี่ยจิงซิงเลย เธอเกือบจะลืมการมีอยู่ของรองประธานเยี่ยจิงซิงคนนี้ไปแล้วนะเนี่ย
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ รองประธานเยี่ย" ใบหน้าของถังซินเหยายิ้มขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สวยหวานและปฏิบัติกับเยี่ยจิงซิงอย่างสุภาพและอ่อนโยนจนมองแทบไม่ออกว่าระหว่างทั้งสองคนนี้มีเรื่องเกิดขึ้น
วินาทีที่เยี่ยจิงซิงเมื่อเห็นถังซินเหยา สีหน้าของเขาก็ปรากฏให้เห็นถึงความไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น
มิหนำซ้ำเขายังถอยหลังออกห่างจากเธอถึงสองก้าวเพราะความกลัว ปฏิกิริยานี้เป็นสิ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกของเขา และนี่ก็ทำให้สีหน้าของเยี่ยจิงซิงถึงกับเสียไปเลยที่เดียว
ความเจ็บปวดของลูกผู้ชาย —— อืม ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจกันหมดแหละ
"นี่เธอยังกล้าทำงานที่เยี่ยหวงต่ออยู่อีกหรอ ถังซินเหยา" เยี่ยจิงซิงพูดด้วยสีหน้าเทาๆพร้อมกับมองไปที่ถังซินเหยาด้วยความดุร้าย
ถังซินเหยาแทบจะควบคุมสาตายของตัวเองไม่ได้เมื่อลงไปที่ส่วนนั้นของเยี่ยจิงซิง
จนสุดท้ายเธอก็ได้สายตาที่น่ากลัวกว่าเดิมมาของเยี่ยจิงซิงกลับมา
QAQ รองประธาน อย่ามองเธออย่างนั้นสิ เธอก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันนะ
สายตาเธอมันไม่ได้ตั้งใจจะมองไปตรงนั้นเสียหน่อย เธอสาบานได้
เธอไม่ได้ตั้งใจจะซ้ำเติมนะ แต่เธอเพียงแค่อยากรู้จริงๆเท่านั้นเองนะ จริงๆ
แล้วทำไมถึงรู้สึกว่าเธอพูดไม่รู้เรื่องเลยล่ะเนี่ย ยิ่งพูดยิ่งไม่ถูก!
เยี่ยจิงซิงราวกับว่าจะกระอักเลือดออกมาเพราะความโกรธ นี่มันเป็นจังหวะที่ทำให้รองประธานเยี่ยรู้สึกเคืองชัดๆ
"ดี ดีมาก" เยี่ยจิงซิงมองไปที่ถังซินเหยาที่เสียวสันหลังอยู่ตอนนี้ด้วยสายตาที่ราวกับมีดอาบยาพิษ : "ถ้าฉันไม่ได้จัดการกับเธอ อย่ามาเรียกฉันว่าเยี่ยจิงซิงเลย ถังซินเหยา"
"งั้นคุณจะชื่ออะไรล่ะคะ?" ถังซินเหยาถามอย่างใสซื่อ
เธอไม่ได้กวนนะ แต่เธอแค่สงสัยจริงๆว่าคุณชายใหญ่เยี่ยจะตั้งชื่อให้ตัวเองว่าอะไร
แต่คุณลุงสุดประธานเยี่ยสุดหล่อคงไม่โอเคด้วยกับการที่คุณชายใหญ่เยี่ยจะเปลี่ยนชื่อหรอกมั้ง
เมื่อถังซินเหยาเห็นว่าคำพูดของเธอทำเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟรวมถึงยังทำให้อึดอัด เลยเปลี่ยนประเด็นพูดคุย : "จริงๆแล้วเปลี่ยนชื่อก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันว่าชื่อเยี่ยจิงซิงก็ไม่ได้เพราะอะไรมากมาย ฟังละไม่รู้สึกถึงความเป็นใหญ่เป็นโต ไม่เหมาะกับคนที่เป็นถึงรองประธานเยี่ยเลย แต่ฉันว่าก่อนที่คุณจะเปลี่ยนชื่อ ทางที่ดีคูณควรไปปรึกษากับผู้บริหารเยี่ยก่อนนะคะ ฉันคิดว่าท่านคงไม่ได้อารมณ์ดีขนาดนั้น ถ้าถึงเวลานั้นท่านอาจจะตีคุณให้ตายเลยก็ได้นะคะ"
เธอนี่ช่างเป็นคนใจดีมีน้ำใจจริงๆ
ที่สามารถละความคับข้องใจแล้วก็ความคิดของเยี่ยจิงซิงด้วย เธอนี่ช่างเข้าใจเรื่องนี้ดีจริงๆ
เธออยากจะกดไลค์ให้กับความเมตตากรุณาของเธอรัวๆจริงๆเลย
คาแรคเตอร์ของเธอนี่เก่งจริงๆเลย
เธอกับเยี่ยจิงซิงก็ไม่ได้เกลียดกันเข้าไส้ขนาดนั้น เพียงแต่เธอแค่อยากจะเคลียร์ความสงสัยประเด็นของเธอและเขาก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง
แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเยี่ยจิงซิงในตอนนี้นั้นเดือดมากกว่าภูเขาไฟที่ระเบิดเสียอีก ไม่เหมือนกันกับที่เธอจินตนาการเลยแฮะ
"เยี่ยจิงเฉินอยู่มั้ย?" เยี่ยจิงซิงพูดกับเธอหลังจากถอนหายใจออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งห้วน
"อยู่ค่ะ" ถังซินเหยาตอบไปตามความจริง : "แต่ถ้าคุณมีอะไรจะคุยยกับประธานเยี่ย ฉันจำเป็นต้องแจ้งเขาก่อนนะคะ คุณถึงจะเข้าไปพบได้"
เยี่ยจิงซิงเดินผ่านถังซินเหยาเข้าไปทันที โดยมุ่งตรงไปทางห้องทำงานของเยี่ยจิงเฉิน
ถังซินเหยาสับสนอยู่สักพัก เธอควรจะปล่อยไปเลย? ควรมั้ยนะ? หรือว่าควรปล่อยให้เยี่ยจิงซิงบุกเข้าไปเลย?
ป่าปี้เป็นคนไม่มีหัวใจ เหมือนกับเฉินชื่อเหม่ยที่ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น แล้วตอนนี้เธอกับป่าปี้ก็กำลังทำสงครามประสาทกันอยู่ด้วย…..แล้วเธอมีสิทธิอะไรไปจัดการล่ะ?
"เอ่อ รองประธานเยี่ยคะ คุณจะเข้าไปตอนนี้ไม่ได้นะคะ ประธานเยี่ยยุ่งอยู่น่ะค่ะ" ถังซินเหยาเดินตามหลังเยี่ยจิงซิงทีละก้าวๆเพื่อหยุดเยี่ยจิงซิง
ดูสิ เธอไม่ได้วางมือนะ เธอน่ะ'ตั้งใจ'มากๆกับการหยุดเยี่ยจิงซิงไม่ให้เข้าไปข้างในห้องทำงานของเยี่ยจิงเฉินแล้ว
แต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่อ่อนแอมากๆ จึงไม่สามารถหยุดเขาได้เท่านั้นเอง
เยี่ยจิงซิงไม่สนใจถังซินเหยาพร้อมกับเตะประตูห้องทำงานของเยี่ยจิงเฉินให้เปิดด้วยเท้าของเขา
เขาเตะจริงๆนะ…….เธอไม่ได้โกหก
ใบหน้าของเยี่ยจิงซิงไม่สบอารมณ์ แล้วยังถอนหายใจอย่างไม่พอใจใส่ถังซินเหยาที่อยู่ข้างหลังจะอยากจะจอย…….ไม่สิ ที่อยากจะช่วยเหลือต่างหาก
"ประธานเยี่ยคะ รองประธานมาพบคุณค่ะ แต่ฉันห้ามเขาไม่อยู่" ถังซินเหยาอธิบายอย่างระมัดระวังคำพูดว่าตัวเองไม่ได้รู้เห็นหรือทำผิดอะไร