"นี่มันเป็นคนของฉัน อย่ามาคิดแทนเธอเลย" มือข้างหนึ่งของป๊ะป๋าที่กอดไปที่เอวของซินเหยาอยู่พูดประกาศศักดาออกมาอย่างดุดัน
พูดไปเรื่อยหน่า เธอไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น
"ซินเหยา คุณจะเลือกเขาหรือเลือกผม" มือข้างหนึ่งของซวี่เจ๋อจับไว้มือข้างหนึ่งของซินเหยา พูดด้วยน้ำเสียงที่ขอร้อง
แม่เจ้า ตัวเลือกมีแค่AกับBหรอ?
นี่มันเหมือนให้เลือกเเขวนคอตายกับโดดตึกตายยังไงยังงั้น
"คูณผู้หญิง คุณเป็นของผม คุณเป็นแม่ของลูกผมสองคนไปแล้วนะ คุณจะมาหักหลังแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด" จิงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาแต่ใจอีกตามเคย
"ซินเหยา เขามีคู่หมั่นแล้ว คุณอยากจะไปเป็นเมียน้อยเขาอย่างนั้นหรอ?" ซวี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นนุ่มนวลอีกตามเคย
"ถังซินเหยา ฉันเป็นคู่หมั่นของเยี่ยจิงเฉินต่างหาก เธอมันก็แค่แมวขโมยที่อยากจะขโมยความสุขของฉันไป เธอมันก็ไม่ต่างอะไรจากแม่ของเธอเลย" สีหน้าของลู่อันหลานตอนนี้เหมือนอยากจะเขมือบเธอเข้าไปทั้งตัว
“ลู่หงเทียนคนอย่างฉันไม่ได้มีลูกแบบแแก เอาเงินห้าแสนนี้ไป และไม่ต้องมาให้ฉันห็นหน้าอีก” หงเทียนพูด
“ซินเหยา ชีวิตแม่ทั้งชีวิตนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมาก แม่แค่อยากเอาความสุขทั้งหมดของแม่ที่มีอยู่ให้ลูก แค่ลูกมีความสุขแม่ก็ดีใจ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
…….
“แม่!……” ซินเหยาสดุ้งตื่นจากฝัน ตัวเธอตอนนี้เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
เมื่อคืนจิงเฉิน ซวี่จ๋อ หงเทียน อันหราน มาทำให้เธอหลับไม่ได้ทั้งคืนเลยนะ
เธอเหลือบมองไปดูนาฬิกา นี่เพิ่งจะหกโมงเช้า
ไหนๆก็ตื่นมาแล้ว เธอจึงไปอาบน้ำ พร้อมกับหยิบนมที่แช่เย็นมาดื่ม
กลิ่นโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้าที่เธอต้มหอมฟุ้งไปทั้งตึกคอนโด
เธอเหลือบดูนาฬิกาอีกครั้ง แล้วไปเรียกให้ลูกทั้งสองของเธอตื่นนอน
“หลานๆคะ ตื่นมากินข้าวเช้าไปโรงเรียนแล้วลูก” ซินเหยาดึงผ้าห่มของหลานๆออก และตีไปที่ก้นอันอ้วนท้วนของเธอ
กลิ่นหอมของอาหารลอยเข้าไปเตะจมูกเธอถึงในห้อง แต่เธอก็ยังไม่ลืมตา มีเพียงแต่จมูกที่สามารถรับรู้กลิ่นหอมหวนที่ส่งมาจากด้านนอก
เสียแรงไปเยอะเลยนะกว่าจะเรียกเข่อหลานตื่นจากบรรทม
อาหารเช้าโจ๊กหอมหวานที่สุดแสนจะเริสรส ข้างบนตกแต่งด้วยไข่เยี่ยวม้าน่ารับประทาน เป็นเช้าวันใหม่ที่สดใสจริงๆ
ลั่วหลิงกับเข่อหลานขมวดคิ้วและกล่ำกลืนดื่มนมที่ซินเหยาได้เตรียมไว้ให้
“หม่าม๊า หม่าม๊าเอาเงินอั่งเปาของพวกหนูไปใช้หมดแล้วใช่ไหมคะ?” เข่อหลานถาม
“แม่ไม่ได้ใช้นะ ทำไมหรอ?” ซินเหยาป้อนข้าวให้เธออยู่พรางตอบ
“งั้นหม่าม๊าา……ทำไม……เอาเงินนั้น……????……” เธอพูดกรุ่มๆภาษาที่เด็กน้อยเคียวอาหารอยู่ในปากแล้วพูดไม่ชัด
ซินเหยาแสดงสีหน้าว่าเธอไม่เข้าใจที่เข่อหลานพูด
จิตวิญญาณของคนเป็นแม่ที่สามารถฟังทุกคำของลูกออก ซินเหยายังห่างไกลนัก
ลั่วหลิงกลืนอาหารที่กำลังเคี้ยวอยู่ลงคอ และพูดแปลว่า “น้องพูดว่า ในเมื่อหม่าม๊าไม่ได้เอาเงินไปใช้ แล้วเอาอะไรมาทำข้าวเช้าให้พวกเราทาน"
ความจริงตั้งแต่ที่พวกลูกๆได้สามขวบ ซินเหยาก็แทบจะไม่ได้เข้าครัวอีกเลย
สีหน้าซินเหยาตอนนี้อยากจะหักลูกออกเป็นชิ้นๆ และเอามาโบยตูดจริงๆ
ที่ลูกพูดมา มันทำให้เธอรู้สึกลำไยจริงๆ
แต่จะว่าไปลูกๆไม่ใช่ไปโตที่ต่างประเทศหรอกหรอ?
“หม่ามี๊ไม่จำเป็นต้องเอาเงินของหนูๆไปใช้เพื่อมาทำมื้อเช้า” ซินเหยาแกล้งทำเป็นหน้าขรึมและถามเข่อหลานว่า "งั้นในตอนที่หนูกับพี่ยังเด็กอยู่ ใครเป็นคนทำอาหารเช้าให้หล่ะ?”
เพื่อแสดงให้ลูกเห็นว่าตัวเธอก็เป็นแม่ที่อดทนลำบากจึงถามออกมา
ภายหลังเธอแค่ถูกลูกทำให้ดูเป็นแม่มดใจร้ายเท่านั้น
นี่มันเจ็บปวดใจแต่ก็อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“แต่หนูไม่ได้กินอาหารเช้าฝีมือหม่าม๊ามานานแล้วนะคะ” เข่อหลานพูดพรางกลืนอาหารในปากลงคอ
“อร่อยไหม?”
”อร่อยค่ะ”
“งั้นอีกหน่อยหม่าม๊าจะทำให้กินบ่อยๆเลยนะคะ” ซินเหยาพูด
ลั่วหลิงและเข่อหลาน : ห้าห้า
หัวเราะทำไม นี่ไม่เห็นความตั้งใจของคนเป็นแม่หรอ
……
ในตอนกลางคืน นัดของซินเหยากับซวี่เจ๋อก็มาถึง พวกเขานั่งอยู่ในภัตตาคารตะวันตกสุดหรู
แสงไฟในนั้นสลัวๆ มันให้ความรู้สึกที่เหมือนคู่รักมาออกเดตกันยังไงยังงั้น บวกกับภัตตาคารนี้ถ้าอยู่ในตลาดB ถือว่าเป็นร้านคู่รักที่ติดหนึ่งในสิบเลยล่ะ
ใบหน้าของซวี่เจ๋อที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ บวกกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า
ข้าวมื้อนี้ ซินเหยากล้ำกลืนฝืนกินจริงๆ
เป็นเพราะวันนี้เธอจะมาปฏิเสธคนที่หล่อขนาดนี้ รวยขนาดนี้ อบอุ่นขนาดนี้อย่างเขาโดยเฉพาะ
ซินเหยามองไปที่หน้าของซวี่เจ๋อ คิดถึงเรื่องที่จิงฉิงพูดเมื่อวาน บวกกับเรื่องที่เธอฝันเมื่อคืน ทำให้เธอเหม่อลอยไปชั่วขณะ
“ซินเหยา ซินเหยา ” ฟางซวี่เจ๋อเรียกเธอเธอถึงจะมีสติกลับมาได้
เมื่อได้สติ เธอเอามือทัดหูเก็บผมที่ย้อยเฟื้อยเข้าไป ตั้งตัวให้มีสติอีกครั้ง และตอกลับซวี่เจ๋อว่า “คะ มีอะไรคะ”
“ผมถามว่าคุณอยากทานอะไรครับ” พร้อมยื่นเมนูให้เธออย่างอบอุ่นสุภาพ
เธอหยิบแก้วน้ำมะนาวบนโต๊ะมาดื่ม และตั้งสติสักพัก และพูดขึ้นว่า “คุณเป็นคนสั่งดีกว่าคะ ฉันไม่เคยมาที่นี้ คุณว่าอะไรอร่อยก็สั่งเลยค่ะ”
ซวี่เจ๋อสั่งสเต็กเนื้อมาสองที่ และสั่งของหวานมาอีกสองที่
“เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่หรอ เห็นนิ่งไปนานเลย” ซวี่เจ๋อถาม
“เสียงสำลักน้ำของซินเหยา……..”
ซินเหยาที่กำลังเหลิกหลักกับเรื่องที่เธอจะปฏิเสธซวี่เจ๋อในวันนี้ แต่กลับกัน ความรู้สึกของซวี่เจ๋อตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเธอเอามาก
เธอเช็ดน้ำตาที่อยู่ข้างหางตาออก สายหัวไปมา และตอบซวี่เจ๋อว่า”ฉันไม่เป็นไร”
“ฉันก็แค่คิดเรื่องเรื่อยเปื่อยน่ะ”
“ตอนนี้ยังห่างงานนิทรรศการศิลปะที่จะจัดขึ้นอยู่มาก เธอก็อย่าหักโหมตัวเองเกินไปล่ะ”
“อ่อๆ……..”ซินเหยาตอบกลับแบบงงๆ
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอามาก เธอจะบอกซวี่เจ๋อยังไงล่ะ?
เป็นเพราะเรื่องระหว่างสายสัมพันธ์ครอบครัวของเขามันพูดยากมากจริงๆ
รสชาติของสเต็กมันดีมากจริงๆ น้ำซอสที่สุดแสนจะกลมกล่อมบวกกับเนื้อของตัวสเต็กที่สุกอย่างพอดี
มื้ออาหารที่ดีขนาดนี้ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับคนอย่างเธอเลย
ในระหว่างที่กำลังกินไปได้สักพัก เรื่องบรรเลงไวโอลินในนั้นก็ดังขึ้น
มีคนที่ใส่แจ็คเก็ตสีดำปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับกำลังถือไว้ไวโอลินอยู่ในมือและเดินมาทางที่พวกเขานั่งกัน และมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
พนักงานในนั้นเอาดอกกุหลาบสีแดงสดมาให้ฟางซวี่เจ๋อ
บรรยากาศในนี้ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติก นางเอกของวันนี้นอกเสียจากซินเหยาก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้แล้วล่ะ
แต่ว่า……..
MANGA DISCUSSION