ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 19 : เจอกันที่ร้านอาหาร
ฟางซวี่เจ๋อคือผู้มีอำนาจที่มีหน้าตาที่หล่อเหลาคนหนึ่ง ถึงแม้จะโดนหลอกมาแล้วรอบนึง แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อถังซินเหยาที่อยากเมคเฟรนด์กับฟางซวี่เจ๋อผู้หล่อเหลา
ร้านอาหารที่พวกเขาไปทานข้าวด้วยกันเป็นร้านอาหารไทยที่ไม่ไกลไปจากบริษัทเท่าไหร่ ซึ่งดูๆแล้วก็ค่อนข้างหรูอยู่เหมือนกัน
ตอนที่เดินเข้าร้านอาหารไป บนพื้นมีน้ำอยู่ทำให้ถังซินเหยาลื่นจนเกือบจะล้มลงไป
เป็นฟางซวี่เจ๋อที่ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดเพื่อช่วยให้เธอไม่พบเจอกับสถานการณ์ที่น่าอับอายหากเธอล้มลงไป
ถังซินเหยาตบหน้าอกเบาๆในอ้อมกอดของฟางซวี่เจ๋อด้วยความตกใจเพื่อให้หัวใจที่เต้นตึกตักไม่หยุดของเธอนั้นเต้นช้าลง
"พี่คะ" เสียงเบาและอ่อนโยนของใครบางคนดังขึ้น
"อันหราน คุณจิงเฉิน พวกเธอก็มาทานข้าวเหมือนกันหรอ?" ฟางซวี่เจ๋อกุมมือของถังซินเหยาไว้แน่นพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา
ถังซินเหยาไม่ทันระวังตัวก็โดนฟางซวี่เจ๋อกุมมือเธอไว้แล้ว เพียงเธอเงยหน้าขึ้นก็พบกับสาวสวยกับหน้านิ่งของเยี่ยจิงเฉินที่เดินมาพร้อมกัน
"งั้นก็ทานด้วยกันเลยมั้ย จิงเฉินคะ คุณคิดว่ายังไง ?" สาวสวยหน้าหน้ามาถามเยี่ยจิงเฉิน : "ได้มั้ยคะ?"
"อืม" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ถังซินเหยาหลุดจากอ้อมแขนของฟางซวี่เจ๋อพร้อมกับพูดชอบคุณเขา
ใบหน้าที่เย็นชาของเยี่ยจิงเฉินก็คลี่คลายความตึงลง
"คุณซินเหยาครับ คนนี้คือลู่อันหรานนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมแล้วก็เป็นแฟนของจิงเฉินด้วย" ฟางซวี่เจ๋อแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน "ส่วนอันหราน นี่คือคนที่ฉันเคยพูดถึงให้ฟังชื่อคุณถังซินเหยา เป็นหัวหน้าสไตลิสต์ของบริษัทเราแล้วก็เป็นสไตลิสต์ที่มีความสามารถมากๆคนนึงเลย"
ลู่อันหรานหรอ อืม ถ้าเธอจำไม่ผิดล่ะก็……โลกกลมจริงๆ !
ถังซินเหยายกยิ้มพร้อมกับรอยยิ้มหวานไร้ที่ติบนใบหน้าของเธอ : "คุณลู่สวยมากค่ะ คุณกับคุณเยี่ยจิงเฉินเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยค่ะ คู่สร้างคู่สมกันจริงๆ "
หลังจากที่ลู่อันหรานฟังคำอวยพรจากถังซินเหยาจบ ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มที่จริงใจออกมา : "คุณถังซินเหยาก็สวยเช่นกันค่ะ เดี๋ยวนี้คนสวยๆ มีความสามารถแบบคุณถังน้อยมากๆค่ะ"
"ไม่หรอกค่ะ"
เยี่ยจิงเฉินเมื่อฟังคำอวยพรของถังซินเหยาจบ ความรู้สึกของเขาก็เปลี่ยนไป
ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆแต่สายตาของเขากวาดไปทางถังซินเหยาอย่างไม่แยแส "ดูเหมือนคุณถังจะสบายจังเลยนะครับ ผมว่าสิ้นเดือนนี้คุณถังคงจะส่งงานออกแบบที่เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมสักห้าแบบนะครับ"
ถังซินเหยาอยากจะร้องไห้ คุณจะบ้าหรอ คุณเอาตาที่ไหนมามองว่าฉันว่าง ไม่มีอะไรทำ !
ถังซินเหยาตัดสินใจเมินความเย็นชา ไร้ความรู้สึก ไม่มีเหตุผลของคุณป่าปี้
อาหารไทยอร่อยนะเนี่ย เปรี้ยวๆหวานๆ
โอเค ฉันหมายถึงว่าตัวเองไม่ใช่คนเลือกทานน่ะ อาหารที่โรงอาหารบริษัทเธอก็สามารถกินได้อย่างเอร็ดอร่อยเช่นกัน
จะออกมาข้างนอกไม่ใช่เรื่องง่ายสักหน่อย จะออกมาแบบไม่ได้อะไรเลยไม่ได้หรอก
ฟางซวี่เจ๋อขยับจานอาหารที่ถังซินเหยาตักบ่อยๆมาไว้ตรงหน้าเธอ ถังซินเหลาตัดสินใจให้อภัยให้ฟางซวี่เจ๋อเรื่องซองแดงร่วมงานแต่งที่เขาหลอกเธอ
ลู่อันหรานสะกิดเยี่ยจิงเฉินพร้อมกับพูดว่า : "คุณดูพี่ซวี่เจ๋อสิคะเอาอกเอาใจเก่งมากเลย ฉันว่าเธอกับพี่ซวี่เจ๋อดูเหมาะสมกันเลยนะคะ คุณว่ามั้ย? ทำไมคุณไม่ลองทำเรียนรู้การเอาอกเอาใจของเขาบ้างล่ะคะ?"
เยี่ยจิงเฉินมองฟางซวี่เจ๋อและถังซินเหยา สายตาของเขาราวกับ
"ถ้าเธอชอบ ผมไม่ว่าอะไรนะถ้าคุณจะไปหาคนที่อ่อนโยนแล้วก็เอาอกเอาใจคุณ" เยี่ยจิงเฉินพูดอย่างเย็นชา
ใบหน้าของลู่อันหรานถึงกับเปลี่ยนไป เธอรู้สึกอึดอัดในขณะเดียวกันก็รู้สึกอายทำตัวไม่ถูก
ถังซินเหยาก้มหน้าก้มตาทานผักที่อยู่ในจานของเธอ
ฉันค้นพบความจริที่น่าประทับใจนั่นก็คือ จริงๆแล้วป่าปี้เป็นคนไม่ค่อยจริงจังความสัมพันธ์นี่เอง
"อ่ะ อันหราน เธอก็กินผักบ้างสิ" ฟางซวี่เจ๋อช่วยคลายสถานการณ์ความอึดอัดของลู่อันหรานลงด้วยความใส่ใจของเขา
อืม ที่ลู่อันหรานพูดน่ะไม่ผิดเลย ฟางซวี่เจ๋ออ่อนโยนและอบอุ่นมากๆ ถ้าหากเธอไม่เอาแต่คิดเรื่องซองแดงที่ซวี่เจ๋อหลอกเธอ เธอคิดว่าเธอคงมีความรู้สึกดีๆกับซวี่เจ๋อมากกว่านี้
ลู่อันหรานเม้มปาก เธอพยายามจะอดทนแต่เธอก็ไม่สามารถทำได้
"ขอโทษนะคะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย ขอตัวก่อนนะคะ" ลู่อันหรานฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับหยิบกระเป๋าของเธอแล้วจากไป
เยี่ยจิงเฉินนั่งนิ่งไม่ขยับราวกับลุงแก่
ฟางซวี่เจ๋อเห็นว่าเยี่ยจิงเฉินไม่ได้สนใจที่จะตามลู่อันหรานออกไป เพียงเขานึกถึงสีหน้าของลู่อันหรานก่อนไปก็ไม่วางใจ : "ผมออกไปดูก่อนนะ ผมฝากคุณเยี่ยจิงเฉินไปส่งคุณซินเหยาด้วยนะครับ ขอโทษด้วยนะครับคุณซินเหยา วันนี้ผมขอตัวกลับก่อน ไว้ผมค่อยเลี้ยงข้าวคุณวันหลังแทนนะครับ"
ถังซินเหยาพยักหน้าจากนั้นก็หันหน้ากลับมามองเยี่ยจิงเฉิน
ดวงตาวังวนสีดำคู่นั้นของเขาทำให้เธอถึงกับตัวสั่น
"คุณซวี่เจ๋อคะ รอฉันก่อนค่ะ" สายตาขอถังซินเหยายังคงอาลัยอาวรณ์กับอาหารที่ยังทานไม่หมด ไปแล้วนะ
อาหารอันมีค่านั้น แต่ชีวิตตัวเองมีค่ากว่าแล้วตอนนี้
ตนอที่เธอกำลังจะออกจากโต๊ะไป มือที่ราวกับห่วงเหล็กก็คว้ามือของเธอเอาไว้
แล้วเธอก็ตกเข้าไปอยู่อ้อมอกที่ค่อนข้างคุ้นเคยของเยี่ยจิงเฉิน ชนแรงจนจมูกเธอแทบจะผิดรูปแหนะ