ซินเหยา : ……
เธอรู้สึกไปไม่เป็นจริงๆ นี่กำลังแกล้งกันอีกแล้วงั้นหรอ? อีกหน่อยจะเล่นสนุกด้วยกันได้อีกหรือป่าว?
ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินดอลล่าตอนนี้ เธอคิดได้ประมาณแปดล้านสี่แสนหยวนกว่าๆ
หึหึ……ซื้อก็ซื้อได้อยู่ แต่คงจะต้องเอาทรัพย์สินทั้งหมดของเธอออกมาแล้วแหละ พอซื้อรถได้ก็คงจะต้องไปขอทานข้างถนนแน่ๆ
"ฉันแค่ล้อเล่นหน่ะ" ซินเหยายิ้มเจื่อนๆ
จิงเฉินหันหัวไปดูซินเหยาและพูดว่า : "ถ้าเกิดว่าคุณชอบรถคันนี้หล่ะก็ ผมสามารถยกมันให้คุณได้ คุณก็รู้ว่าผมไม่ขัดสนเรื่องรถอยู่แล้ว อีกอย่างสีกับสไตล์ของรถคันนี้มันก็ดูเอ้าท์ไปมาก ไม่ใช่Styleที่ผมชอบ"
แม่เจ้า รถคันนี้สามารถยกให้เธอหรอ?
เธอไม่ได้ถามจิงเฉินว่าถ้าไม่ชอบและจะซื้อรถที่คนจนยังไม่มีปัญญาซื้อแบบนี้มาทำไมกัน
"ฉันชอบค่ะ" ซินเหยารีบผงกหัวเห็นด้วย
"แต่ว่าทำไมผมต้องยกมันให้คุณ?" จิงเฉินถาม
ซินเหยา : ……
ป๊ะป๋า ฉันเรียนหนังสือมาน้อยอย่ามาหลอกกันเลย
คุณบอกว่าจะยกรถคันนี้ให้ฉัน ฉันเชื่อจริงๆนะ
"รอถึงวันที่คุณไม่ชอบแล้วขายต่อให้ฉันได้รึปล่าวคะ?" ซินเหยามองไปที่จิงเฉินด้วยแววตาที่น่าสงสาร
รถมือสองราคาคงจะถูกลงหน่อย อีกอย่างครั้งที่ป๊ะป๋าขับรถคันนี้ก็จำกัดมาก
เธอแทบจะเห็นจิงเฉินขับรถไม่ซ้ำแต่ละวัน เหมือนเสื้อผ้าของเขาที่ไม่เคยซ้ำเหมือนกันเลย
นี่มันเป็นชีวิตของคนรวยจริงๆ เห้อออ……
"ไม่ขาย ผมไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน" จิงเฉินพูด
ซินเหยา : ……
……
จากไปเมืองBเกือบจะครึ่งเดือน จิงเฉินยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เมื่อถึงกลางเมืองแล้วจิงเฉินก็ลงตรงนั้นและให้คนขับรถขับไปส่งซินเหยาที่บ้าน
กลับมาถึงบ้านอันแสนอบอุ่นนี้ของเธออีกครั้ง มันทำให้เธออยากหลั่งน้ำตาออกมาจริงๆ
เพราะว่าวันนี้ไม่ได้เป็นวันอาทิตย์ เพราะงั้นลั่วหลิงและเข่อหลานต่างก็อยู่โรงเรียน
นักแสดงต่างๆในสังกัดของเหยียนฉีตอนนี้ก็ดังเอามาก เพราะงั้นงานของเหยียนฉีจึงไม่ได้หยุดพักเลยช่วงนี้
เมื่อเปิดประตูมาก็เห็นจว๋อเหยียนที่กำลังถูพื้น
จว๋อเหยียนก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้ซินเหยาจะกลับมาโดยกะทันหัน เธออึ้งไปหน่อย เมื่อได้สติกลับมาก็มองไปที่ซินเหยาและพูดว่า : "พี่ซินเหยาคะ พี่กลับมาแล้วหรอคะ?"
จว๋อเหยียนมือไม้ชาไปหมด จากนั้นจึงรับกระเป๋าจากมือของเธอมา ซินเหยาส่งของให้เธอหมดและพูดว่า : "เหยียนๆ ช่วงนี้ลำบากหนูแล้วจริงๆ"
"ไม่ลำบากเลยค่ะ ลั่วหลิงกับเข่อหลานต่างก็เป็นเด็กดีเอามาก ปกติหนูก็ไม่ได้ดูแลอะไรพวกเขามาก พวกเขาต่างก็ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี" จว๋อเหยียนเอาของที่ซินเหยาส่งมาวางไว้ ใบหน้าของเธอตอนนี้มันยิ้มแย้มมาจริงๆ
เธอไปเมืองHนานขนาดนี้แต่ลืมซื้อของฝากมาให้จว๋อเหยียนและฉีฉี รู้สึกตัวเองไม่เป็นคนดีเลยจริงๆ
คิดถึงสิ่งที่คุณยายเฟยเอาให้เธอ ซินเหยาจึงยิ้มร่าออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจว่า : "นี่เป็นของฝากสำหรับหนูจ่ะ เป็นของท้องถิ่นที่นั่นเลยนะ เป็นของที่ทางชนบททางโน้นทำเองตากเองเลย ทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารและปลอดภัย ไม่ได้ใส่สารกันบูดใดๆทั้งสิ้น จะไปซื้อข้างนอกก็หาซื้อไม่ได้นะจะบอกให้"
ดีนะที่เธอไม่ได้ปฏิเสธของฝากที่คุณยายเฟยให้ ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ
จว๋อเหยียนก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยิ้มอย่างน่ารักออกมาและรับเอาไว้
ตอนกลางคืนซินเหยาและจว๋อเหยียนไปรับลั่วหลิงและเข่อหลานจากโรงเรียนด้วยตัวพวกเธอเอง พร้อมไปกินข้าวด้วยกันเพื่อเป็นการตอบแทนจว๋อเหยียนที่สละเวลามาดูแลลั่วหลิงและเข่อหลานตอนที่เธอไม่อยู่ด้วย
จว๋อเหยียนก็ไม่ได้เป็นนักแสดงไร้ชื่อเสียงอะไร แต่ว่าละครที่เธอกำลังแสดงตอนนี้มันกำลังฉาย และเธอก็นับว่าเป็นดาราที่ดังและมีชื่อเสียงอยู่พอสมควร เพื่อมาดูแลลั่วหลิงและเข่อหลาน เธอจึงปฏิเสธงานต่างๆที่เข้ามาไม่น้อย บุญคุณนี้ของเธอ ซินเหยาจำไว้ขึ้นใจไม่ลืมเลย
จว๋อเหยียนถึงจะเป็นดาราไอดอล แต่กิริยาท่าทางที่เธอมีต่อซินเหยามันไม่ได้แสดงออกมาแบบไม่เหมาะสมเลย เธอวางตัวได้ดีเอามากๆ เป็นดาราที่อ่อมน้อมมากคนหนึ่งเลย ไม่มีมีรัศมีความอวดดีอวดเก่งหยิ่งผยองเหมือนดาราทั่วๆไปเลย
ลั่วหลิงและเข่อหลานเมื่อเดินออกมาจากโรงเรียนก็เห็นซินเหยาทันที
ลั่วหลิงเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก็บอารมณ์และความรู้สึกเก่ง เมื่อเห็นซินเหยาเขาก็ไม่ได้ดีใจจนออกนอกหน้าขนาดนั้น มีเพียงแต่แววตาที่มีรอยยิ้มขึ้น
แต่เข่าหลานนี่สิแตกต่างจากพี่ชายเธอจริงๆ เมื่อเห็นซินเหยาที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาเกือบจะครึ่งเดือนก็ดีใจเอามากๆ
"หม่ามี๊……" ซินเหยาวิ่งมาหาเธอด้วยสีหน้าที่ดีใจ
ซินเหยาเมื่อเห็นลูกน้อยของเธอก็ยิ้มร่าออกมาดั่งตะวันยามเช้า มันดูอบอุ่นจนทำให้อากาศฤดูใบไม้ร่วงที่หนาวๆแบบนี้อุ่นไปแล้ว
เธอค่อยๆค้อมตัวลง กอดและอุ้มเข่อหลานขึ้นมาไว้ที่อกของเธอ เธอ จูบไปเข่อหลานไปหลายฟอดเอามาก
จูบจนใบหน้าของเข่อหลานเต็มไปด้วยน้ำลาย ตอนนี้เข่อหลานดีใจจนยิ้มไม่หุบเลยจริงๆ
"หม่ามี๊ ในที่สุดหม่ามี๊ก็กลับมาสักที หนูคิดถึงหม่ามี๊มากๆเลยค่ะ" เข่อหลานกอดไว้ที่คอของซินเหยา และพูดขึ้น
ซินเหยาก็พูดขึ้นว่า : "ค่ะ หม่ามี๊ก็คิดถึงหนูมากเหมือนกัน"
"งั้นอีกหน่อยหม่ามี๊ไม่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่แบบนี้อีกแล้วได้หรือป่าวคะ?" เข่อหลานถาม
ซินเหยาเจ็บจี๊ดไปที่ใจ และพูดว่า : "หม่ามี๊รับปากไม่ได้ค่ะ แต่ว่าหม่ามี๊จะพยายามไม่ไปนะคะ โอเครไหม?"
เข่อหลานเห็นเธอไม่ได้ตอบรับคำขอของตัวเอง จึงรู้สึกไม่พอใจหน่อยๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ ลั่วหลิงเดินเข้ามา ยื่นมือออกและลูบไปบนหัวของเข่อหลานและพูดว่า : "น้องสาว หม่ามี๊พึ่งกลับมา อย่ากวนหม่ามี๊เลย"
หลังจากที่ซินเหยาได้ยินลูกชายสุดที่รักของเธอพูดเช่นนั้นก็รู้ว่าเขากำลังช่วยหม่ามี๊ของตัวเองอยู่ มีลูกชายที่ฉลาดแบบนี้เป็นบุญวาสนาที่เธอสะสมมาสิบภพสิบชาติจริงๆ
เธอยื่นมือออกมาและก็โอบลั่วหลิงเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองด้วย และพูดว่า : "หม่ามี๊ต้องทำงานถึงจะได้มีเงินเยอะๆจึงจะสามารถให้ลั่วหลิงและเข่อหลานอยู่แบบสบายๆได้ ครั้งหน้าหม่ามี๊จะไม่จากพวกหนูไปอีก เราจะอยู่ด้วยกันสามคนแม่ลูกตลอดไป"
ลั่วหลิงยื่นมือออกและกอดไปที่คอของซินเหยา และพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า : "หม่ามี๊วางใจได้ครับ อีกหน่อยผมจะเป็นคนเลี้ยงหม่ามี๊และน้องสาวเอง"
"ได้ค่ะ" ซินเหยารู้สึกประทับใจมากจริงๆหลังจากที่ได้ยินลั่วหลิงพูดเช่นนั้น เพราะว่าเขาเป็นคนที่ถ้าทำไม่ได้จะไม่ให้สัญญาอะไรออกมาง่ายๆ เรื่องที่รับปากเธอ เขาต้องทำได้แน่
แต่ว่าเธอคิดว่า'อีกหน่อย'ของเขาคงจะเป็นตอนที่เขาโตขึ้น
ถ้าเกิดมีวันหนึ่ง ลูกชายที่พึ่งจะครบหกขวบของเธอสีหน้าเคร่งขรึมและเดินมายื่นเช็คเป็นเงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนให้เธอ และพูดอย่างไม่มีอีโหน่อีเหน่ว่า 'เอาไว้ใช้จ่ายในบ้านครับ' เธอน่าจะตกตะลึงหัวฟาดพื้นไปแน่ๆ
ทั้งครอบครัวกำลังแสดงความรักต่อกันหน้าประตูทางเข้าของโรงเรียน มือของซินเหยาจับไว้ลูกน้อยเธอคนละข้าง จากนั้นก็ไปกินข้าวมื้อค่ำกับจว๋อเหยียนด้วยกัน
จว๋อเหยียนดูแลเอาใจใส่ลั่วหลิงและเข่อหลานอย่างเอาใจใส่มากเวอร์ ถึงขนาดตอนที่สั่งอาหารก็สั่งสิ่งที่ลั่วหลิงและเข่อหลานชอบกินมาทั้งนั้น
ถ้าเกิดไม่ได้เอาใจใส่ คงไม่มีทางรู้ว่าเข่อหลานและลั่วหลิงชอบกินอะไร
เข่อหลานสนิทชิดเชื้อกับจว๋อเหยียนมาก แต่ลั่วหลิงก็เฉยๆกับเธอเอามากเหมือนกัน
แต่ว่าจว๋อเหยียนคิดว่าเมล็ดพันธ์ของบ้านนี้เมื่อเติบใหญ่ไปต่างก็ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ตอนนี้เธอก็คิดว่าตัวเองได้มีบุญวาสนาแค่นี้ก็ดีมากแล้ว
จากกันเกือบจะครึ่งเดือน ตอนกลางคืนใกล้จะนอนเข่อหลานก็พูดงอแงอยากนอนกับซินเหยา ซินเหยาก็คิดถึงลูกเธอมากเหมือนกัน เพราะงั้นจึงตอบตกลงอย่างหน้าระรื่น แต่มีสิ่งเดียวที่ทำให้เธอเสียใจหน่อยๆก็คือ ลูกชายเธอไม่ยอมมานอนกับน้องสาวและหม่ามี๊ของตัวเอง อยากจะนอนคนเดียวมากกว่า
MANGA DISCUSSION