ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 117 ฉันมีร่อง คุณมีรึปล่าว?
จิงเฉินยิ้มหัวเราะออกมาแล้ว แต่ซินเหยานี่สิยังหน้าบึ้งตึงอยู่
หัวเราะบ้าอะไร ไม่เข้าใจว่าป๊ะป๋าเส้นตื้นหรืออะไรกันแน่
ถ้าเกิดว่ารอบข้างของคุณมีคนที่เส้นตื้น โปรดรักษาพวกเขาไว้ดีๆล่ะกัน
"ก็ไม่ได้ใหญ่อะไร" จิงเฉินมองกวาดไปที่หน้าอกของซินเหยาและพูดขึ้น
แม่เจ้า นี่ป๊ะป๋าคุณกำลังดูถูกเธออยู่หรอ?
'ก็ไม่ได้ใหญ่อะไร' คำนี้มันหมายความว่าอะไรกัน เธอไม่ต้องบีบอะไรก็เห็นเป็นร่องแล้วนะ
ถ้าเกิดว่าเธอฉลาดน้อยกว่านี้หน่อยล่ะก็ คนอื่นคงน่าจะพูดเธอว่าอกใหญ่แต่ไม่มีสมองมั้ง นี่ไม่ใช่เป็นการด่านะ เพียงแค่กำลังพูดความจริง
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ไม่มีสมอง แต่มันอยู่ที่หน้าอกใหญ่ต่างหาก
เพราะงั้นที่ป๊ะป๋าพูดเธอว่า 'ก็ไม่ได้ใหญ่อะไร' สายตามีปัญหาหรืออะไรกัน?
"หึ……" ซินเหยาเพียงแค่ถอนหายใจออกมาแบบไม่พอใจเบาๆและพูดขึ้นว่า "ฉันมีร่อง คุณมีรึปล่าว?"
ซินเหยามองไปที่จิงเฉินด้วยความไม่ยอมและคิดอยู่ในใจว่า พูดคนอื่นว่าหน้าอกเล็ก ตัวเองหน้าอกใหญ่มากหรือไง?
"มีไม่มีคุณรู้สึกไม่ได้หรอ?" จิงเฉินในใจคิดไม่ดีและทับไปที่หน้าอกอันนุ่มของซินเหยาแรงกว่าเดิม
ถุย……ป๊ะป๋า ไอ้อันธพาล
อีกอย่างหัวข้อเรื่องที่พวกเขากำลังถกกันอยู่นั้นเหมือนจะรู้สึกหลงประเด็นออกไปเยอะอยู่นะ
ซินเหยาโดนการกระทำที่อันธพาลของจิงเฉินเล่นงานเข้าอย่างมากจนหน้าแดงไปหมด อยากจะบีบน้องชายของเขาจริงๆ
"ท่านประธานคะ ท่านกำลังรอแผนออกแบบฉันอยู่ ตอนนี้ฉันจะรีบไปทำให้ใหม่ค่ะ จะได้หรือป่าวคะ?" เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่กำลังจะออกทะเลไปเรื่องอื่น เธอจึงลากกลับเข้าเรื่องนี้ หัวข้อที่พวกเขาพูดไปเมื่อกี้มันดูโหดร้ายล่อแหลมไปสักหน่อย
"คุณคิดว่าที่ผมรวยขึ้นมากะทันหันดูผิดปกติงั้นหรอ?" สีหน้าของจิงเฉินจากดีๆกลายเป็นบึ้งตึง และพูดว่า : "คุณคิดว่าผมตั้งใจแกล้งคุณ ไม่เคารพคุณงั้นหรอ?"
ใช่ เธอคิดแบบนี้แหละ ทำไมหรอ? (ปากไม่ตรงกับใจ)
"ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนี้นะคะ" ซินเหยาส่ายหัวและพูดปฏิเสธไป
"แต่ว่าเห็นอยู่ชัดๆว่าเมื่อกี้คุณพูดแบบนี้" จิงเฉินหรี่ตาเล็กลง
"ไม่ใช่จริงๆนะคะ" เธอปฏิเสธอย่างสุดฤทธิ์ คนโง่เท่านั้นแหละถึงจะยอมรับ
"งั้นความหมายของคุณคือคิดว่าผมเข้าใจคุณผิดงั้นหรอ?" จิงเฉินโถมทับไปที่ร่างของซินเหยาหนักขึ้นและถามเธอ
"ไม่ใช่ค่ะ คุณเป็นคนพูดเองต่างหาก" ที่แท้ก็เป็นคุณที่เข้าใจเธอผิดตลอดแหละ
หึ…..แน่นอนว่าครั้งนี้ไม่นับว่าเป็นการเข้าใจผิด
"งั้นคุณหมายความว่าไง?" จิงเฉินถาม
ซินเหยา : ……
เธอคิดว่าเธอน่าจะไม่สามารถจะเล่นสนุกกับป๊ะป๋าได้อีกต่อไปแล้ว
"ฉัน……ฉัน……." ซินเหยากำลังเตรียมจะอธิบาย แต่รู้สึกเจ็บที่ริมฝีปากกะทันหันจึงทำให้เธอพูดไม่ออก
ทันใดนั้นจิงเฉินก็ก้มหัวลงไปกัดที่ริมฝีปากเธออย่างเหี้ยมเกรียม ความเจ็บเมื่อกี้ของเธอมันก็ได้รับผลกระทบโดยน้ำเลือดค่อยๆไหลซิบออกมา น้ำในตาก็ไม่ต่างอะไรกัน ตอนนี้ในปากของเธอได้รสชาติเหมือนกลิ่นสนิม แม่เจ้า เลือดออกจริงด้วย
เกิดเป็นผู้หญิงนี่มันน่าสงสารจริงๆ นอกเสียจากการที่ต้องเสียเลือดหนึ่งสัปดาห์ติดแล้ว ยังจะต้องมารอรับชะตากรรมการเสียเลือดที่คาดไม่ถึงแบบนี้อีกด้วย
จิงเฉินระเรงอยู่บนริมฝีปากสีอมชมพูของซินเหยาอยู่นาน ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอตอนนี้แดงก่ำไปหมด เลือดก็ซิบๆไหลออกมาด้วย
จิงเฉินปล่อยริมฝีปากออกจากของซินเหยา ตอนนี้ริมฝีปากของทั้งสองต่างมีกลิ่นเลือดผสมอยู่และมีกลิ่นของความซาดิสต์และเซ็กซี่ปนอยู่ด้วย
"นี่เป็นการลงโทษสำหรับการพูดมั่วของเธอ ถ้าครั้งหน้ายังกล้าจะพูดอีก อย่าคิดว่าจะรอดไปง่ายๆแบบนี้แน่" จิงเฉินแลบลิ้นออกและเลียไปที่คราบเลือดสีแดงที่ติดบนริมฝีปากของตัวเอง
การกระทำนี้ไม่รู้ว่าลามกหรือเซ็กซี่ แต่มันมีความอันตรายแน่ๆ
ซินเหยาตอนนี้เจ็บริมฝีปากไปหมด ไอ้บ้าจิงเฉิน ไอ้หมาป่าโรคจิตยังกล้ามาพูดอีกหรอว่าเธอเป็นคนแต๊ะอั๊ง?
อีกอย่างน้ำเสียงของจิงเฉินที่พูดออกมาเมื่อกี้เหมือนอยากให้เธอขอบคุณซาบซึ้งในจูบเขายังไงยังงั้น
ตอนนี้เธอรู้สึกอยากใช้ฝ่ามืออรหัรต์ตบไปที่หน้าจิงเฉินเข้าให้อย่างจังมาก ตบให้กระเด็นติดไปที่กำแพงเลย และอย่าหวังว่าชาตินี้จะได้ออกมาจากกำแพงอีก
ทน……ได้แค่ทน
ใครบอกให้เธอไม่รวยเท่าจิงเฉินเองหล่ะ บนโลกที่ดูว่ากระเป๋าใครหนักกว่ากันในการใช้ชีวิตนี้มันช่างลำบากจริงๆ
"โอเครค่ะ ถ้าท่านประธานไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ" ซินเหยาปากยิ้มแต่ใจไม่ยิ้มพร้อมพูดขึ้น และปิดประตูกำลังเตรียมจะเดินออกไป
"อย่าไปสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นล่ะ" จิงเฉินพูดขึ้นตอนซินเหยากำลังปิดประตู
ที่จริงพูดออกมายาวเป็นหางว่าวขนานนี้ ประเด็นอยู่ที่ประโยคนี้ประโยคเดียวสินะ
เพียงแต่ซินเหยารู้สึกว่าประโยคนี้ที่จิงเฉินพูดออกมาแค่พูดลอยๆเท่านั้น เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพียงใด
แผนออกแบบนำเสนอโดนจิงเฉินปัดตก เธอต้องเตรียมตัวทำใหม่แล้ว
อย่ามาเล่นตลกเลย เรื่องพวกนี้มีแต่พวกปัญญานิ่มถึงจะเล่นกัน
ถ้าเกิดว่าจิงเฉินได้ดูแผนออกแบบของเธอแล้วบอกว่าไม่ผ่านเธอจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่คือยังไม่ทันที่จะเปิดดูสักหน้าก็ปัดตกแล้ว มันใช่เรื่องไหม?
เพราะงั้นซินเหยาจึงตัดสินใจเอาแผนออกแบบที่เธอทำไว้เมื่อวานนำมาใช้อีกครั้ง
ตอนกลางคืนหลังเลิกงาน เธอได้เจอกับซือชิงเข้าที่หน้าบริษัท แต่ว่าสามารถบอกได้ว่าเป็นซือชิงเองแหละที่ตั้งใจมารอเธอ
เขาหอบดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ที่บานสะพรั่งและสวยมาก
"ซินเหยา" ซือชิงเห็นเธอจากที่ไกลๆและเดินเข้าไปหาเธอ
"Hi……ซือชิง" สายตาของซินเหยามองต่ำไปที่ดอกไม้ในมือของซือชิงที่กำลังหอบอยู่และหัวเราะพูดว่า : "ดอกนี่ให้แฟนคุณใช่ไหมล้า? คืนนี้มีเดตกับเธอหรอ?"
ซือชิงยื่นอยู่ในจุดที่แสงอาทิตย์ที่ใกล้ลับฟ้าสามารถสาดมาถึง บวกกับสายตาที่อบอุ่นของเขา มันเพิ่มให้เขาดูเป็นคนที่อบอุ่นเอามากตอนนี้
"ใช่" ซือชิงพงกหัวรับ
"ฮั่นแน่ งั้นฉันไม่รบกวนล่ะนะ ขอตัวก่อนเลยละกัน ขอให้คุณและแฟนคุณมีความสุขมากๆในค่ำคืนนี้นะ" ซินเหยาโบกมือลาซือชิงและพูดขึ้น
ทันใดนั้น ซือชิงก็รั้งเธอไว้ข้างหน้า และพูดกับเธอว่า : "ซินเหยา ดอกพวกนี้ผมนำมาให้คุณเอง"
ซินเหยา : ……
หึหึ นี่คุณกำลังล้อเล่นกับเธออยู่หรอ?
"ดอกช่อนี้ผมซื้อมาให้คุณเป็นพิเศษเลย ผมหวังว่าคุณสามารถที่จะเป็นแฟนผมได้" ซือชิงมองดูซินเหยาด้วยแววตาที่โชกโชน
เธอรู้สึกว่าสถานการณ์แบบนี้มันคุ้นมาก แต่ว่ารอบที่แล้วสติอาจจะหลุดไปหน่อย
"เออออ……" ซินเหยาก้าวไปข้างหลังสองก้าวเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเขาสองคนพร้อมพูดว่า : "ซือชิง อย่ามาล้อเล่นกันน่า นี่มันก็เดือน10แล้ว เราผ่าน April Fools' Day มานานแล้วนะ"
เธอรู้สึกว่าตั้งแต่เธอกลับมาจากต่างประเทศเธอก็เนื้อหอมไม่เบาทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นซวี่เจ๋อ หรือว่าจะเป็นซือชิง แบบนี้จะทำให้เธอไม่รู้สึกเนื้อหอมได้ไง
เมื่อคืนที่ออกไปกินมื้อดึกกับซือชิง ตอนแรกคิดว่าถ้าเธอแสดงกิริยาไม่สำรวม เหมือนผู้ชายออกมาแบบนั้นซือชิงจะรู้สึกไม่ชอบและจะไม่มายุ่งกับเธออีก แต่กลับกันเลย วันนี้เขาทำไมมาสารภาพรักกับเธอแล้วล่ะ?