ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว - ตอนที่ 116 ป๊ะป๋างอนแล้ว ตั้งใจจับผิดเธอสินะ
ตอนที่ซินเหยากินมื้อดึกนี้กับซือชิงเสร็จก็เป็นเวลาเกือบจะตี5แล้ว ทั้งสองต่างก็ดื่มเหล้าไปไม่น้อย ซินเหยาดื่มจนแก้มทั้งสองข้างแดงเหมือนลูกพีช แต่ว่าตาของเธอก็ยังคงสว่างและได้สติอยู่
ซือชิงเอาแต่จ้องไปที่ใบหน้าอันสะสวยนี้ของซินเหยาจนไม่อาจจะละสายตาได้
"ซือชิง ฉันต้องขอบคุณนายมากจริงๆ นายก็กลับไปพักผ่อนอาบน้ำเช้าๆหน่อยล่ะกัน" ซินเหยาโบกมือลาซือชิงพร้อมพูดขึ้น
"อืม ผมดูคุณเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วผมก็จะกลับ" ซือชิงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นให้ซินเหยาและพูดขึ้น
ซินเหยาก็ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นจึงได้หันหลังกลับและเดินเข้าโรงแรมไป
ซือชิงเพียงแต่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน เพียงมองแต่ภาพข้างหลังของซินเหยาค่อยๆไกลห่างและหายไป ถึงจะยิ้มออกมา และขับรถจากไป
จิงเฉินตอนนี้กำลังยืนมองอยู่ที่หน้าต่าง ในมือจับไว้แก้วแชมเปญ มองลงไปที่ไฟข้างทางในบรรยากาศที่อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ที่ที่ซินเหยาและซือชองกำลังร่ำลากัน
จิงเฉินดื่มไวน์ในแก้วแชมเปญนั้นจนหมดแก้ว จากนั้นโยนแก้วใบนั้นลงไป เสียงแตกที่ได้ยินมันช่างดังเอามาก ตอนนี้เเก้วแชมเปญก็แตกเป็นเสี่ยงๆกองอยู่บนพื้น
เช้าวันต่อมา ซินเหยาก็นำแผนนำเสอนที่เธอได้ทำทั้งคืนมาส่งให้จิงเฉินดู
มือเรียวยาวของจิงเฉินได้รับแผนนำเสนอนี้ไป แต่ไม่ทันที่จะได้เปิดดูสักหน้า ก็แสดงสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกออกมา หัวเราะเล็กน้อย และหันหัวขึ้นมาพูดกับซินเหยาว่า : "ไม่ผ่าน ไปทำมาใหม่"
ซินเหยาโดนสายตาอันเย็นชาคู่นั้นมองเธอจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่หลังจากที่ได้ยินคำที่จิงเฉินพูด มันก็ยิ่งทำให้เธอโกรธควันออกหูจริงๆ ไม่มีที่ไหนในร่างกายที่เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย
ป๊ะป๋านี่คือจ้องจับผิดหาเรื่องคนอื่นตลอด แผนนำเสนอที่เธอทำออกมาอย่างสุดความสามารถป๊ะป๋ากลับยังไม่ทันอ่านสักหน้าก็บอกว่าไม่ผ่านเสียแล้ว
เกิดเป็นคนไม่ต้องคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเอง คิดว่าหล่อรวยก็ทำอะไรทุกอย่างได้แล้วสิ?
"คุณยังไม่ได้เปิดดูสักหน้าเลยนะคะ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าไม่ผ่าน?"ซินเหยาถามกลับอย่างไม่พอใจ
"ไม่ต้องดูหรอก ผมพูดว่าไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน" จิงเฉินพูดจบก็โยนแฟ้มเอกสารพวกนั้นทิ้งลงถังขยะทันที
แม่เจ้า นี่มันทำเกินไปหรือป่าว แฟ้มเอกสารนั่นไม่ต้องใช้เงินซื้อหรือไง ไอ้บ้านี่
"ทำไมล่ะคะ?" ซินเหยากัดฟันอย่างแน่นและถามขึ้น อยากจะขุดศพบรรพบุรุษของจิงเฉินทั้งหมดออกมาดูจริงๆ
"ก็เพราะผมเป็นเจ้านายคุณไง ทุกอย่างในบริษัทล้วนเป็นผมที่เป็นคนตัดสินใจ" จิงเฉินพูดตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
"คุณตั้งใจแกล้งฉันก็ไม่ว่า?" ถ้าเธอไม่รู้จริงๆว่าจิงเฉินแกล้งเธอแล้วล่ะก็ เธอคงจะต้องล้มเหลวกับการใช้ชีวิตตลอด20ปีที่ผ่านมาของเธอมากแน่ๆ
จิงเฉินยิ้มมุมปากขึ้น และแสดงร้อยยิ้มออกมาพร้อมพูดว่า : "ใช่ คุณเพิ่งจะรู้หรอ"
เห้อ……ทำไมป๊ะป๋าหน้าหนายอมรับได้ตรงๆแบบนี้เลยหรอ
"คุณทำเกินไปแล้วนะคะ เอกสารพวกนี้ฉันใช้เวลาทำทั้งคืนเลยนะคะ คุณยังไม่ทันที่จะเปิดอ่านก็บอกว่ามันไม่ผ่านแล้ว นี่มันเป็นการไม่เคารพงานที่ฉันทำออกมาเลยนะคะ ถ้าเกิดว่าคุณยังทำแบบนี้กับแผนออกแบบนำเสนอของฉันล่ะก็ ฉันไม่ยอมจริงๆนะคะ คุณมันเป็นคนเจ้าอารมณ์" ซินเหยาโดนจิงเฉินที่หน้าหนาขนาดนี้ปั่นเสียจนควันออกหูแบบโกรธเอามาก
ความสูงส่งและความเจ้าอารมณ์ที่ส่งออกมาจากภายในของจิงเฉินมันคนละเรื่องกันเลย
"หึ" ตอนนี้ซินเหยาได้แค่โอดร้องอยู่ภายในใจของตัวเองอย่างเจ็บปวดโดยที่ไม่สามารถจะพูดออกมาได้สักคำเดียว เธอก้าวไปด้านหลัง2ก้าวและพูดขึ้นว่า : "ในเมื่อท่านประธานบอกว่าแผนออกแบบของฉันมีปัญหา งั้นฉันจะไปทำมาใหม่ค่ะ"
พูดยังไม่ทันจบ ซินเหยาก็หันหลังและวิ่งกลับไป
คนอย่างจิงเฉินที่เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ใจโหดเหี้ยมอำมหิตแบบนี้ คนที่อยู่รอบข้างเขาคงจะต้องรู้สึกไม่ดีเอามากแน่ๆ
เธออยากจะวิ่งออกไป แต่มันติดที่ว่าวิ่งออกไปไม่ได้น่ะสิ
เธอยังไม่ทันวิ่งถึงหน้าประตู ก็มีมือคู่หนึ่งลากจับเธอไว้แล้ว
แรงที่ลากเธอกลับมามันเยอะมาก เธอโดนลากกลับมาอยู่ในอ้อมกอดที่มีกลิ่นยอมเย็นอบอวลไปทั่ว ซินเหยาตอนนี้รู้สึกตัวเองงานเข้าเสียแล้ว
จิงเฉินแค่เพียงหันหลังกลับมาก็สามารถกำหราบซินเหยาให้นอนคาอยู่ที่หน้าประตูได้แล้ว
เธอชนโดนประตู เจ็บจนน้ำในตาเธอจะทะลักออกมาเป็นสายฝนที่โหมกระหน่ำอย่างยังอย่างงั้น
ไอ้สัตว์ป่า ไอ้ปีศาจร้าย บอกกันดีๆเป็นรึปล่าว? นี่มันชักจะอันธพาลเกินไปแล้วนะ
"พูดต่อสิ เมื่อกี้เห็นปากดีนัก พูดออกมาต่อเลย" จิงเฉินกดเธอไว้ที่ประตูและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
หึหึ……ป๊ะป๋าคุณเป็นปีศาจร้ายที่ปากไม่ตรงกับใจจริงๆ
ถ้าเกิดว่าเธอพูดแล้ว กลัวว่าป๊ะป๋าจะต้องฆ่าเธอทิ้งทันทีที่ได้ฟังเป็นแน่
"ฉันไม่พูด" ซินเหยาส่ายหน้า แสดงให้ป๊ะป๋าเห็นว่าเธอไม่ยอมทำตามความเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของป๊ะป๋าแน่ๆ
ใบหน้าของทั้งสองตอนนี้มันใกล้กันแทบจะชนกันอยู่แล้ว ลมหายใจที่มีความร้อนของจิงเฉินมันไปกระทบเข้าที่หน้าของซินเหยาอย่างจัง ปลายจมูกของทั้งสองแทบจะแนบชิดติดกัน ระยะห่างของพวกเขาตอนนี้มันอยู่ในขั้นที่ไม่ปลอดภัยเอาซะเลย แต่ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่อึดอัดอะไรมากมาย
เพียงแต่ซินเหยาแค่รู้สึกว่าระยะห่างนี้มันจะดูล่อเเหลมเกินไปหรือป่าว?
เธอนำสองมืออันบางเรียวของเธอพลักไปที่หน้าอกอันแข็งแกร่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนักของจิงเฉินออก และพูดขึ้นว่า : "คุณช่วยอยู่ห่างฉันหน่อยจะได้หรือป่าว?"
ซินเหยาตอนนี้รู้สึกตัวเองเหมือนจะหายใจไม่ออกเบอร์นั้น จิงเฉินตอนนี้ได้นำน้ำหนักตัวทั้งหมดของตัวเองทับไปบนตัวของซินเหยา ตอนที่จิงเฉินใส่ไว้เสื้อผ้าแบบนี้ถึงจะดูสูงและดูลีนเอามาก แต่เมื่อถอดเสื้อผ้าออกต้องมีแต่กล้ามเป็นมัดๆแน่ๆ ตอนนี้เธอรู้สึกหนักเอามากจริงๆ
จิงเฉินใช้มือของตัวเองที่ใหญ่กว่าซินเหยาเอามากในการรวบจับมือซินเหยาที่พยายามจะพลักเขาออกได้อย่างไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย เมื่อรวบเสร็จก็นำมือซินเหยาลากขึ้นข้าบน และกดไว้บนหัวที่อยู่บนประตู
"ให้เหตุผลผมสักหน่อย"
จิงเฉินโถมตัวเข้าไปที่คอที่กำลังเปลือยอยู่ของซินเหยา และดมมันอย่างเบาๆ
เหมือนกับสัตว์ป่าที่ดุร้ายกำลังตรวจสอบเยื่อของตัวเองอยู่ว่ามีกลิ่นที่แปลกไม่พึงประสงค์หรือป่าว มันดูดิบเถื่อนเอามากๆ
แม่เจ้า ให้ออกห่างหน่อยก็ต้องมีเหตุผลให้หรอ?
เพราะงั้น ป๊ะป๋ะเป็นคนราศีกันย์ที่น่ารังเกียจมากๆ คนราศีกันณ์ ชอบหน้าบึ้งตึงแถมยังไม่ชอบอธิบายอะไรอีก
ถ้าเกิดเธอบอกว่าตอนนี้เธอโดนป๊ะป๋าทับจนหายใจจะไม่ออกแล้ว แต่ว่าท่าทีของป๊ะป๋าที่กำลังโกรธควันออกหูแบบนี้คงจะไม่ปล่อยเธอแน่ๆ เเต่กลับกัน คงจะทับเธอให้ตายเสียมากกว่า
"เอ่อออ……" ซินเหยานิ่งไปสักพัก และมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของจิงเฉินและพูดขึ้นว่า : "คุณทับหน้าอกฉันจนมันแบนไปหมดแล้ว!!!"
เกิดเป็นหญิงขาดอะไรก็ได้หมด แต่ไม่ใช่หน้าอกนี้แน่
ทับจนหน้าอกคนอื่นแบน ความแค้นนี้มันเทียบได้กับการฆ่าพ่อแย่งเมียเลยนะ
จิงเฉิน : ……
ดวงตาที่เปร่งประกายวาวของซินเหยา ตอนนี้มันกำลังดูไปที่จิงเฉินอยู่เหมือนมีน้ำกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ภายใน ในส่วนของจิงเฉิน ตาของเขาตอนนี้เบิกข้ึนและกวาดมองไปที่หน้าอกของซินเหยาอย่างไม่ได้ปิดบังว่ากำลังมองอยู่
ตอนที่จิงเฉินทับไปที่ทรวงอกของซินเหยาคงจะออกเเรงมากไปหน่อย เพราะมันโดนทับจนเปลี่ยนรูปร่างไปหมแล้ว จากมุมองศาของจิงเฉินสามาถมองลงไปที่เสื้อเชิ้ตสีขาวที่กระดุมเม็ดด้านบนหลุดออกเห็นเป็นเนินเขาที่ซ่อนอยู่ภายในได้ เนินเขานี้บรรยากาศทิวทัศน์ไม่เลวเลยจริงๆ เนินเขาที่สวยงามได้สงบอารมณ์ที่ไม่ดีของจิงเฉินลงไปได้อย่างราบคาบ
"หึ….." ถึงแม้ว่าอารมณ์ตอนนี้ของจิงเฉินไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็โดนนิสัยบ้าบอของซินเหยาทำให้เขาสามารถยิ้มออกจนได้