ปลายฝนต้นเหมันต์ - ตอนพิเศษ 1 ฤดูร้อน ฤดูรัก 2/3
“หมัดหนักชะมัดเลย”
หลังจากเคลียร์ใจสองหนุ่มก็นั่งคุยกันอยู่มุมหนึ่ง ในขณะที่วัสสานพาลูกน้อยไปนั่งปลอบขวัญอยู่อีกมุม
“หึงแรงเหมือนกันนะครับ” น่านฟ้าเอ่ยแซวอดีตลูกค้ารายใหญ่
“ใครจะรู้ล่ะว่าเป็นคุณ” เหมันต์ละสายตาจากลูกเมีย ก่อนจะหันมาจ้องหน้าน่านฟ้าอีกครั้ง “ว่าแต่ สนิทสนมกับเรนตั้งแต่เมื่อไร ผมเพิ่งรู้ว่าเรนรู้จักคุณด้วย”
“ผมสะเพร่าเองครับที่ทำให้คุณวัสสานเห็นหน้าตอนที่ตามไปส่งที่มหาวิทยาลัย เขาจำได้ว่าผมเคยช่วยไว้ที่พิพิธภัณฑ์ก็เลยเข้ามาทัก”
พอเห็นสายตาจับผิดของเหมันต์น่านฟ้าก็รีบอธิบายต่อ
“คุยกันแค่ครั้งเดียวจริง ๆ ครับ ไม่มีนอกรอบผมรับรอง” น่านฟ้ายกสามนิ้วขึ้นมาตรงหน้าราวกับถ้าไม่เชื่อเขาก็พร้อมจะสาบาน “คุณเหมก็รู้น่า ว่าแฟนคุณไม่ใช่สเปกผม”
ต้องหล่อล่ำอย่างจักรกฤษถึงจะเป็นสเปกของน่านฟ้า เรื่องนี้เหมันต์รู้ดี แต่วัสสานนั่นสิรู้หรือเปล่า ออกอาการดี๊ด๊าจนน่าหมั่นไส้ ผู้มีพระคุณหรือว่าคนที่ถูกใจ เหมันต์คิดอย่างน้อยใจในขณะที่นั่งคุยกับน่านฟ้าต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับ ตอนเดินมาหาวัสสานรายนั้นก็สะบัดหน้าใส่อย่างโกรธเคือง
หลังจากวัสสานวางลูกชายไว้ในคาร์ซีทด้านหลังก็ไม่ยอมมาขึ้นด้านหน้า แต่กลับนั่งอยู่กับลูกชายตรงนั้นโดยไม่พูดอะไร
“ใครกันแน่ที่ต้องโกรธ!”
เหมันต์กระชากรถออกไปอย่างแรงด้วยมีอารมณ์เช่นกัน ก็มีอย่างที่ไหนทำตัวสนิทสนมกับเขาไปทั่ว พูดคุยใกล้ชิดราวกับสนิทกันมาแรมปี ทั้ง ๆ ที่น่านฟ้าบอกว่าเคยคุยกันแค่ครั้งเดียว
“ชอบนายนั่นหรือไง?”
คำถามหาเรื่องจึงดังออกมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนที่นั่งกอดอกอยู่ด้านหลัง
“สนิทกันจังนะ”
มือทั้งสองข้างกำพวงมาลัยไว้แน่น เท้าก็เหยียบคันเร่งจนเกือบมิด ปากก็ต่อว่าการกระทำของคนรัก
ในขณะที่เหมันต์ประชดชันประชันอยู่นั้น วัสสานก็ยังนั่งนิ่งตลอดทาง ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างพยายามจะระงับอารมณ์เช่นกัน
ไหนเคยบอกว่าจะใจเย็น ไหนเคยสัญญาว่าจะไม่เลือดร้อน แต่เหมันต์กับต่อยหน้าคนอื่น ทั้ง ๆ ที่อุ้มลูกน้อยอยู่เนี่ยนะ
หึงหวงกันก็ไม่ว่า ถ้าถามไถ่กันดี ๆ เขาก็ยินดีจะอธิบาย แต่ไม่ใช่เอะอะก็จะมาใช้กำลังแบบนี้ วัสสานไม่ชอบ!
คนตัวเล็กจึงสะบัดหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่สนใจว่าเหมันต์จะฮึดฮัดมากแค่ไหน
รถเบนซ์สีดำพุ่งทะยานไปเบื้องหน้าด้วยความเร็วสูง เพราะอารมณ์ของคนขับ ซึ่งนั่นทำให้วัสสานยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีกที่เหมันต์ใช้แต่อารมณ์
“พาคุณเหนือไปอาบน้ำที่ตึกใหญ่ เดี๋ยวเรนตามไปรับ” วัสสานส่งลูกชายให้พี่เลี้ยงทันทีเมื่อมาถึงบ้านเรือนไทย “คืนนี้เราไปนอนกับคุณตาคุณยายกันนะครับ” วัสสานลูบศีรษะลูกน้อยอย่างแสนรัก ก่อนจะพยักหน้าให้พี่เลี้ยงพาลูกชายออกไป
“ใครอนุญาต”
ทันทีที่ลูกชายพ้นชายคาบ้านเรือนไทย เหมันต์ก็กระชากต้นแขนของวัสสานอย่างหาเรื่อง
“เรนไม่อยู่กับหมาบ้า”
วัสสานสะบัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุมก่อนจะรีบเดินเข้าห้อง
“ใช่สิ อามันเป็นหมาแก่ ๆ แถมหัวเน่าอีกตางหาก คงเบื่อแล้วสินะ ถึงได้ระริกระรี้นักเวลาที่เจอผู้ชายคนอื่น”
วัสสานหันขวับกลับมาเผชิญหน้าเมื่อคนแก่กว่าพูดจาหาเรื่อง
“ใช่ เรนเบื่อ” วัสสานกระแทกเสียงใส่จนเหมันต์ใจเสีย ไม่คิดว่าคนรักจะพูดคำนั้นออกมา
“เรนเบื่อที่อาเหมชอบใช้แต่อารมณ์ เอะอะก็ใช้กำลัง แถมยังทำเรื่องแย่ ๆ แบบนั้นต่อหน้าลูกอีก อาเหมยังเป็นพ่อคนได้อยู่อีกหรือเปล่า อาเหมจะสอนลูกยังไง ในเมื่อตัวเองทำตัวเป็นนักเลงใช้แต่กำลัง ไม่มีเหตุผลแบบนี้”
“ก็ใครใช้ให้เอาตัวไปใกล้ผู้ชายคนอื่นขนาดนั้น ปล่อยให้ลูกผัวรออยู่ในรถแล้วตัวเองก็ระริกระรี้กับผู้ชาย มันใช้ได้เหรอ”
“เรนแค่เข้าไปทักทายพี่น่านฟ้า มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”
“พี่น่านฟ้า? สนิทสนมจนถึงขั้นนับญาติกันตั้งแต่เมื่อไร อยากได้เป็นพี่หรืออย่างได้เป็นผัวกันแน่”
“อาเหม!”
เมื่ออธิบายแล้วเหมันต์ก็ไม่ยอมฟัง วัสสานจึงสะบัดหน้าหนีเข้าไปในห้องนอน หนุ่มน้อยเช็ดน้ำตาที่มันไหลออกมาด้วยความน้อยใจ เหมันต์คิดได้อย่างไรว่าเขาจะมีใจให้คนอื่น
ที่ผ่านมามันยังไม่พออีกเหรอที่จะเชื่อมั่นในกันและกัน จะต้องตายจากกันอีกกี่ชาติมันถึงจะพิสูจน์ได้
วัสสานกวาดเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเดินทาง ไม่อยู่ด้วยแล้วกับคนไม่มีเหตุผล
“ทำอะไร?”
เหมันต์ที่ตามเข้ามารีบเหวี่ยงกระเป๋าเสื้อผ้าไปอีกทาง แล้วจับร่างบางเหวี่ยงไปบนเตียง
“ปล่อย! เรนจะไปบ้านคุณพ่อ”
ตลอดสี่ปีหลังชีวิตแต่งงาน ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่วัสสานกับเหมันต์จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทันทีที่ได้ยินว่าวัสสานจะออกจากบ้าน เหมันต์ก็เริ่มได้สติขึ้นมา
อีกทั้งน้ำตาของคนตัวเล็กที่มันกำลังไหลทะลักออกมาโดยที่ไม่มีเสียงสะอื้นเลยสักแอะ มันทำให้เหมันต์คิดถึงคำพูดของตัวเอง
“อาจะทำให้เรนมีความสุขแบบนี้ทุกวัน ตลอดไป อาสัญญา”
วันนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เหมันต์เห็นน้ำตาของคนรัก
“เรน” เหมันต์ส่งเสียงครางในลำคอ พร้อมกับยื่นมือไปหวังเช็ดน้ำตาให้
แต่วัสสานกลับปัดมือนั้นอย่างโกรธเคือง พร้อมกับทรงตัวลุกขึ้นมา เสื้อผ้าที่เหมันต์เหวี่ยงกระจายไปทั่วพื้นห้องถูกรวบใส่เข้าไปในกระเป๋าอย่างลวก ๆ ก่อนที่วัสสานจะลากมันออกมาจากห้อง