บ่วงแค้น บ่วงรัก - ตอนที่ 35 เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
คณินคิดว่าตนจะดีใจถ้าชมพูแพรรับปาก แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น ชมพูแพรไม่สามารถทิ้งลูกที่มีกับมิสเตอร์ได้ แต่กลับทิ้งลูกที่มีกับตัวเองได้ เห็นได้ชัดว่าเธอเกลียดเขาเข้าไส้
ตอนเที่ยงวันหนึ่ง ชมพูแพรกำลังนอนกลางวันอยู่ คณินจึงอุ้มยาหยีลงไปว่ายน้ำในสระ เขาลอยตัวอยู่ในน้ำ โดยเอาเด็กวางไว้บนอกของตัวเอง ยาหยีตีน้ำเป็นฟองอย่างสนุกสนาน หัวเราะเสียงดังอย่างร่าเริง
ขาน้อยๆ ตีขาอยู่ในน้ำตลอดเวลา คณินพิจารณาใบหน้าของเด็กคนนี้ เธอมีขนตางอนยาว ริมฝีปากกระจับคล้ายกับใบหน้าของชมพูแพรตอนเด็กๆ
เขาควรจะมีลูกกับชมพูแพรสักคน แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกันแล้ว ชมพูแพรสำคัญต่อเขามากกว่า
“ยาหยี ไหนเรียกพ่อซิ”
“พ่อจ๋า” ยาหยีหัวเราะคิกคัก คณินอุ้มที่รักแร้ของเด็กน้อยปล่อยให้เธอตีขาอยู่ในน้ำ
คณินเอ่ยกับยาหยีว่า “พ่อสอนหนูดำน้ำบ้างดีไหม”
ยาหยีพยักหน้า
“ยาหยี หายใจลึกๆ ตามพ่อนะ” หลังจากที่คณินพูดจบก็พาเด็กดำลงไปใต้น้ำ เมื่อเด็กน้อยลงไปใต้น้ำกะทันหันเช่นนี้ก็ตกใจกลัวจึงอ้าปากกินน้ำเข้าไปจนสำลักเป็นฟองปุดๆ
ชมพูแพรเพิ่งตื่นนอนพอดีจึงเดินมาที่สระว่ายน้ำ เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนี้จึงรีบกระโดดลงไปในน้ำแล้วว่ายเข้าไปยังคณิน
เมื่อยาหยีลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ก็ไออย่างรุนแรงและร้องไห้อย่างน่าเวทนา
ชมพูแพรพุ่งเข้าไปตะโกนใส่คณิน “คุณคิดจะฆ่าเธอใช่ไหม! ใช่ไหม! คุณมันใจร้าย เธอเป็นเด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย” พูดจบก็อุ้มยาหยีว่ายน้ำขึ้นฝั่งไป ระหว่างว่ายน้ำก็ร้องเรียกหาหมอด้วยความหวาดกลัว
ตอนนั้นคณินรู้ตัวแล้วว่าตนหาเรื่องใส่ตัว ความเชื่อใจที่ค่อยๆ สร้างขึ้นมาได้หายไปหมดในชั่วพริบตา
ตลอดสองเดือนหลังจากนั้นชมพูแพรไม่พูดกับคณินเลยแม้แต่คำเดียว เวลากินข้าวยังไม่ยอมนั่งร่วมโต๊ะตัวเดียวกับเขา
ในวันหนึ่งยาหยีเกิดอยากวาดรูปขึ้นมา แต่ชมพูแพรหากระดาษกับพู่กันวาดรูปไม่เจอและไม่อยากเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากคนรับใช้ของคณิน เธอเลยเดินเข้าไปหาในห้องทำงานของคณิน
เธอจึงพบประวัติการเข้ารับการรักษาของคณินและรู้ว่าเขาทำหมันแล้ว ไม่สามารถมีลูกได้อีก ตอนนั้นเธอโกรธจนตัวสั่น ความรักความแค้นที่เก็บกดเอาไว้ในใจมาตลอดปะทุออกมา เธอทรุดลงไปนอนกองบนพื้นห้องทำงานของคณินแล้วร้องไห้แทบเสียสติ
คณินที่ยืนอยู่ด้านนอกไม่กล้าแม้แต่จะเคาะประตู เขาคิดไม่ถึงว่าประวัติการรักษาของตัวเองจะถูกพบและไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไร ตอนนี้ชมพูแพรคงจะเกลียดเขามากกว่าเดิม เพราะว่าเธออยากจะออกไปจากชีวิตเขาเสียขนาดนั้น
คณินเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเงียบๆ และสั่งคนให้ไม่ต้องเรียกเขากินข้าว
เวลาประมาณห้าทุ่ม ชมพูแพรเดินเข้ามาในห้องของคณิน และยืนถามเขาอยู่ปลายเตียง “นอนแล้วรึยัง”
คณินจึงตอบว่า “ยัง” แล้วลุกขึ้นนั่งพลางเปิดไฟหัวเตียง เขามองไปที่ชมพูแพรด้วยสายตานิ่งสงบแต่ในใจกลับเต้นระส่ำ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ไปกระตุ้นอาการป่วยของเธอขึ้นมาอีกหรือไม่ เขาขี้ขลาดจนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยอธิบาย
“คุณเป็นทายาทของตระกูลชลปักษา” ชมพูแพรกล่าวเสียงแข็ง
“อืม”
“ทำหมันหมายความถึงอะไรรู้ไหม” ชมพูแพรกำหมัดแน่น น้ำเสียงของเธอราบเรียบ แต่ดวงตาของเธอกลับอุ่นขึ้นยากจะข่มกลั้น
“ผมรู้”
“คุณรู้ แล้วทำไมถึงยังทำ”
“แน่นอนว่าผมต้องเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียเอาไว้แล้ว” เขาตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา ราวกับไม่เคยลังเลและไม่เคยรู้สึกผิดที่ตัดสินใจอย่างนี้
ชมพูแพรกัดฟันยิ้มอย่างแข็งกระด้าง “ข้อดี ข้อเสีย? ข้อดี ข้อเสียอะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจทำแบบนี้”
“ผมพูดไปคุณก็คงไม่อยากฟัง ข้อดี ข้อเสียที่คุณได้ยินแล้วก็คงจะไม่มีทางเชื่อ” ใช่ว่าคณินจะไม่อยากพูดความจริงทุกอย่างกับชมพูแพร แต่เป็นเพราะข้อแรก เขาไม่ชินกับการพูดจาซึ้งกินใจ ข้อสองเป็นเพราะเมื่อชมพูแพรเห็นเขาตั้งท่าจะพูดเรื่องอะไรก็ตาม มักจะรีบเดินหนีไป ไม่คิดจะฟังคำอธิบายของเขา