แสงห้องใต้ดินเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด ทำให้คนไม่แยกย้ายสีหน้าของผู้ที่อยู่ในด้านไม่ออก
คณินเอียงศีรษะนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความขี้เกียจ เขานั่งเอาขาทั้งสองข้างก่ายกันแล้วยันโต๊ะเก่าไว้ แล้วกำลังเล่นกระป๋องเบียร์ในมือตามใจชอบ
เสียงของเขานิ่งเฉย และค่อนข้างเย็นชา “เรื่องของภรรยาของฉันไม่สามารถมีบุตรได้ ใครสั่งให้คุณไปบอกตระกูลชลปักษา?”
“ประธานคณินครับ! อภัยให้ผมเถอะ! ผมขอร้องล่ะ! ผมไม่ได้พูดจริงๆ!” ผู้อำนวยการถูกชายร่างกำยำแขวนไว้ตรงผนัง เขาถูกทำให้ทุกข์ทรมานจนผมยุ่งเหยิงและเต็มไปด้วยเหงื่อ จมูกและใบหน้าเขียวบวม ดูรันทดอย่างมาก
คณินบีบกระป๋องเบียร์ในมือจนดังเสียง “แคระ” ร่างยังคงพิงอยู่บนเก้าอี้ด้วยความขี้เกียจ “ทีแรกฉันคิดว่าแกเป็นคนมีหน้ามีตา เลยไม่อยากจะแสดงออกอย่างชัดเจน ดูท่าแล้วแกยังไม่เห็นแก่เกียรติที่ฉันให้สินะ”
ผู้อำนวยการตาเขียวบวมจนลืมไม่ขึ้น “ประธานคณิน จริงๆนะ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดจริงๆ ต้องเป็นคุณหนูรองตระกูลหทัยภักดี ตนนั้นเธอให้ผมบอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหทัยภักดีไม่สามารถมีลูกได้ จริงๆการผ่าตัดครั้งนี้ผมไม่ได้เข้าร่วม ถึงแม้จะแท้ง แต่สามารถมีบุตรได้หรือไม่ ผมก็ไม่ได้ไปสนใจ….คุณหนูรองตระกูลหทัยภักดีเป็นคนใช้อำนาจขู่ผม!”
คณินถึงจะเงยหน้าขึ้นมองผู้อำนวยการที่ยืนไม่ตรง “ชมพูนุช?”
“ใช่ครับ!” ผู้อำนวยการเสียใจจวนตาย รู้ตั้งแต่แรกว่าจะมีปัญหากับคณิน เขาคงยอมเร่ร่อนไปทุกที่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต้องทำให้ชื่อเสียงป่นปี้แน่ๆ ใครจะไปรู้ว่าวันข้างหน้าจะมีจุดจบยังไง
คณินลุกขึ้น แล้วกรอกเบียร์ในมือเข้าปาก แล้วโยนกระป๋องเปล่าไปไว้บนพื้นพร้อมใช้เท้าเหยียบให้แบน “ทีแรกฉันคิดว่าจะคิดบัญชีนั้นทีหลัง แต่พวกแกมันไม่รู้จักชั่วดี!”
ขายาวๆของชายคนนี้ยกขึ้น รองเท้าหนังเตะกระป๋องแบนที่ถูกเหยียบบนพื้น กระป๋องไปชนกับผนัง ทำให้เกิดเสียงดังขึ้นผู้อำนวยการตัวสั่น “ท่านประธานคณิน! ไม่เกี่ยวกับผม ผมก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน! ผมก็คือผู้เสียหายเหมือนกัน!”
“ตลกสิ้นดี หรือว่าผู้เสียหายที่สุดไม่ใช่ภรรยาของฉัน?” เสียงของคณินเย็นชามาก เขายกยิ้มจางๆ เหมือนงูพิษที่สวยงามตัวหนึ่งที่กำลังแลบลิ้น
ร่างกายของผู้อำนวยพรสั่นเทาจนควบคุมไม่อยู่ แล้วทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้นเลย พร้อมทั้งร้องไห้อ้อนวอน แล้วเปลี่ยนเป็นคุยกับชายที่หนุ่มกว่าเขายี่สิบปีด้วยคำพูดเคารพ “ท่านประธานคณิน! ผมเองที่ทำผิดต่อภรรยาของท่าน! ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย! ผมมีทั้งคนแก่และเด็กที่ต้องเลี้ยงดู! ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ!”
คณินค่อยๆเดินไปเดินมา ลมหายใจยังคงโศกเศร้าและโกรธ “หมอมีจิตมันสำนึก ผู้อำนวยการกลับลืมหน้าที่ของเขา ภรรยาของฉันได้รับความเสียหายโดยที่ไม่มีเค้ามาก่อน แกไม่สมควรได้เป็นคนที่ใส่ชุดกาวสีขาวเลย” นึกถึงตรงนี้ คณินก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ หันไปมองกระป๋องที่ถูกเขาถีบไปไกลๆ แล้วพูดเองเออเองด้วยเสียงต่ำ “ช่วงนั้นที่ฉันอยู่อเมริกา ทีแรกก็นึกว่าเธอไม่สามารถมีบุตรก็ไม่เป็นไร ถ้าสามารถทำเด็กหลอดแก้วก็ทำ ไม่สามารถทำพวกเราจะไปรับเลี้ยงเด็ก แค่ปิดบังคนที่บ้านก็พอแล้ว ใครก็คงไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆของพวกเรา ฉันมีวิธีปิดบังเรื่องนี้ให้มิด…….ถึงแม้ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าเธอมีความสำคัญในใจของฉันมากแค่ไหนกันแน่ แต่คิดว่ายังไงเธอก็ติดตามอยู่ข้างฉันมาหลายปีนี้……ฉันไม่สามารถเพราะว่าเธอไม่มีบุตรแล้วจะไม่เอาเธออีก ฉันก็มีหน้าที่ดูแลเธอจนแก่ ยังไงวันข้างหน้าพวกเราใช้ชีวิตถึงตอนแก่ เด็กจะมีหรือไม่มี ฉันตายไปก็คงไม่ได้เห็น”
คณินเดินบนบันได ก้าวเดินอย่างช้าๆ กลับมีเสียง “แท่ก…แท่ก” สะท้อนกลับในห้องใต้ดิน ผู้อำนวยการไม่กล้าพูดอะไร เห็นคณินใกล้เดินไปถึงสุดปลายของบันได เพิ่งจะรู้สึกโล่งอก ก็ได้ยินเสียงอันขี้เกียจของคณินดังขึ้น “ไหนๆก็ไม่ควรเป็นหมออีก มือนั้นก็อย่าเอาอีกเลย จะได้ไม่ต้องไปจับปากกาจ่ายยาไปมั่ว จับมีดผ่าตัดทำลายชีวิตของผู้ป่วยอีก”
ผู้อำนวยการถูกชายร่างกำยำสองคนล็อกไว้ คำพูดที่ตอบกลับคณินคือ “โอ๊ย!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น แค่ได้ยินเสียงกระดูกหักและเสียงเส้นเอ็นถูกดึง มือนั้นไม่ใช่ว่าไม่สามารถจับสิ่งของได้อีก แต่ไม่สามารถจับมีดผ่าตัดได้ตลอดกาล ผู้อวยพรชักบนพื้น “โอ๊ย! คณิน! นายจะเอาชีวิตของฉันไปเหรอ?”
MANGA DISCUSSION