บุปผาลิขิตแค้น - ตอนที่ 169 ความจริงใจ
ถ้วยชากลิ้งบนโต๊ะส่งเสียงดังออกมา
เหล่าพ่อค้าที่ยืนอยู่ภายในห้อง รวมทั้งเหยินซินแสที่คุณชายเหวินแนะนำให้โจวเสวียนต่างเกร็งขึ้นมา
เฉินตันจูตีคนไม่มีผู้ใดกล้าทำอันใดนาง แต่โจวเสวียนนี้ฆ่าคนก็ไม่มีผู้ใดกล้าทำอันใดเขาเหมือนกัน
คนโหดเหี้ยมทั้งสองทำการค้ากัน น่ากลัวเหลือเกิน
ถึงแม้อาเถียนจะเป็นสาวใช้ แต่นางไม่เกรงกลัว อีกทั้งยังไม่พอใจ “คุณชายโจวท่านต้องการซื้อจวนเกี่ยวข้องอันใดกับคุณหนูของพวกข้ามาหรือไม่”
“ขายจวน แต่เจ้าของไม่มา เจ้าว่าเกี่ยวข้องหรือไม่” โจวเสวียนตะคอก
“มีราคาก็พอแล้วเจ้าค่ะ” อาเถียนยืนกราน ก่อนจะเสนอราคาออกมา “ราคานี้ได้มาหลังจากเหล่าพ่อค้าสำรวจและพิจารณา คุณชายท่านว่าอย่างไร”
โจวเสวียนไม่แม้แต่จะฟัง พูดขึ้นทันที “ ให้เฉินตันจูมาคุยกับข้า ไม่แม้แต่จะมา เมื่อรอข้าตกลงราคา นางจะกลับคำกับข้าอีกทีหรือ ข้าไม่มีเวลาวุ่นวายกับนาง”
“ไม่เจ้าค่ะ คุณหนูของพวกเรากำลังยุ่ง” อาเถียนอธิบาย “ราคานี้คุณหนูรู้แล้ว นางไม่มีทางกลับคำเจ้าค่ะ”
“กำลังยุ่ง?” โจวเสวียนหัวเราะ ยื่นมือชี้สาวรับใช้นี้ “ยังบอกว่าไม่ได้ดูถูกคน ในสายตาของนาง ข้าโจวเสวียนไม่ใช่สิ่งใดทั้งนั้น ดี นางยุ่ง ข้าว่าง ข้าไปพบนางเอง”
พูดพลางลุกขึ้นเดินไปด้านนอก
อาเถียนส่งเสียงเรียก คิดจะรั้งก็รั้งไม่อยู่ ทำได้เพียงเดินตามออกไป
เหยินซินแสและเหล่าพ่อค้าตรงข้ามมองหน้ากัน พวกเขาทำอย่างไรดี
ยืนอยู่บนถนน เมื่อเห็นโจวเสวียนขึ้นม้ากำลังจะเดินทางไปภูเขาดอกท้อ อาเถียนทำได้เพียงบอกเขา “คุณหนูไม่อยู่บนภูเขา นางกำลังยุ่งอยู่จริงๆ เจ้าค่ะ”
โจวเสวียนเพียงแค่พูดเสียงเย็น “นำทาง”
อาเถียนขึ้นรถนำทางไปอย่างไม่พอใจ อันที่จริงนางก็ไม่รู้ว่าคุณหนูอยู่ที่ใด รู้เพียงว่าวันนี้คงจะอยู่บนถนนเส้นนั้น ทำได้เพียงวิ่งไปตามทาง ไม่ได้วิ่งมาไกลนัก ก็เห็นแผ่นหลังของเฉินตันจูในร้านยาแห่งหนึ่ง
ร้านยานี้ไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงเฉินตันจูและไต้ฟูที่นั่งตรงข้าม หลังตู้มีเด็กในร้านสองคนหดตัวอยู่
ตอนแรก ทุกคนยังไม่รู้จักเฉินตันจู แต่ตามการเดินไปเดินมาอยู่บนถนนทุกวัน ทุกคนก็จำนางได้ ก่อนจะแพร่กระจายออกไป
ดังนั้นเมื่อนางเดินเข้าร้านแห่งหนึ่ง คนในร้านต่างวิ่งออกมา คนด้านนอกก็ไม่กล้าเข้าไป
โจวเสวียนกระโดดลงจากม้าบริเวณด้านหน้าร้าน ขายาวก้าวเท้าเข้าไป ทิ้งอาเถียนที่นั่งบนรถไว้ด้านหลัง
เฉินตันจูหันหลังให้ประตูจึงไม่รู้ว่ามีคนเดินเข้ามา แต่ถึงแม้รู้นางก็ไม่สนใจ
โจวเสวียนได้ยินนางกระแอมไอต่อหน้าไต้ฟูด้วยสีหน้ากังวล
“…กระแอมไอเช่นนี้” นางพูด ก่อนจะกระแอมไออีกครั้ง “เสียงไม่ดังนัก แต่เมื่อไอก็ข่มไม่อยู่ คนป่วยเช่นนี้…”
โจวเสวียนหัวเราะเสียงเย็นอยู่ด้านหลัง “ที่แท้ก็เช่นนี้หรือ”
เฉินตันจูหันหน้าไปเห็นโจวเสวียน ก็ตกตะลึงเล็กน้อย “คุณชายโจว ท่านมาได้อย่างไร”
“คุณหนูตันจูมีเรื่องมากมาย ขายจวนไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ข้าไม่ได้ ข้าซื้อจวนอย่างจริงจัง ดังนั้นข้าจึงมาพบคุณหนู” โจวเสวียนพูดอย่างเรียบเฉย
อาเถียนเดินตามเข้ามาเรียกขานคุณหนู “คุณชายโจวบอกว่าหากคุณหนูไม่มาเท่ากับไม่มีความจริงใจเจ้าค่ะ”
เฉินตันจูกระจ่าง ยิ้มให้โจวเสวียน “ไม่ใช่ คุณชายโจว ข้าจริงใจอย่างมาก เพียงแค่…”
โจวเสวียนสำรวจร้านยา สายตาจับจ้องไปยังตัวของไต้ฟู ไต้ฟูถูกเขามองจนอยากจะหดตัวลง
“เพียงแต่มีความจริงใจต่อองค์ชายสามมากกว่า” โจวเสวียนพูดขัดคำพูดของเฉินตันจู “โรคไอ
วัดถิงอวิ๋นองค์ชายสามไปไม่เสียเปล่า ทำให้ท่านรักษาอาการให้องค์ชายสามได้”
เอ่อ…เช่นนี้หรือ โจวเสวียนคิดได้เช่นนี้ก็ไม่เลว อย่างน้อยนางไม่ต้องอธิบายแล้ว เฉินตันจูจึงแสร้งทำท่าอึดอัดเมื่อถูกเปิดโปง “ข้าไม่กล้าบอกว่ารักษาได้ เพียงแค่ลองดู”
โจวเสวียนหัวเราะสองที “คุณหนูตันจูท่านต้องรีบรักษาองค์ชายสามให้หาย ข้าไม่อาจรอซื้อจวนได้นาน มิฉะนั้นองค์ชายสามก็ไม่มีเหตุผลปกป้องท่านได้”
เฉินตันจูผงะ ก่อนจะยิ้มขึ้นอีกครั้ง “คุณชายโจว ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้ารักษาโรคให้องค์ชายสาม ไม่ได้ต้องการให้เขาปกป้องจวนของข้า” นางใช้มือกุมไว้ที่หน้าอก “ข้าทำเช่นนี้เพราะจิตใจคนเป็นหมอ”
โจวเสวียนหัวเราะร่า “เฉินตันจู เจ้าพูดเรื่องน่าขันเสียจริง” ก่อนจะถามไต้ฟูที่หดตัวลง “เจ้าว่า น่าขันหรือไม่”
ไต้ฟูถึงแม้จะรู้สึกขบขันก็ไม่กล้าขำ
เฉินตันจูไม่ได้โต้เถียง เพียงแค่ยกมือตบแขนของเขา “ข้าตั้งใจจะขายจวนให้ท่านด้วยใจจริง พวกเราไปคุยในโรงเหล้าเถิด”
พูดจบก็เดินผ่านโจวเสวียนไปทางด้านนอกอย่างรวดเร็ว
โจวเสวียนถูกนางแตะตัวอย่างไม่ทันตั้งใจ เขาก้าวถอยหลังไปอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะมองหญิงสาวคนนี้อีกครั้ง ท่าทางของนางดีใจจริงๆ อีกทั้งตอนที่ก้าวผ่านธรณีประตูยังกระโดดข้าม…อะไรกัน โจวเสวียนขมวดคิ้ว
โจวเสวียนและเฉินตันจูคนหนึ่งขี่ม้า คนหนึ่งนั่งรถจากไป บรรยากาศอึดอัดบนท้องถนนสลายไปทันที เด็กในร้านที่นั่งยองอยู่ด้านหลังตู้ลุกขึ้นมา ฝูงชนด้านนอกประตูก็หลั่งไหลเข้ามา
“คุณหนูตันจูมาทำอันใด”
“คุณหนูตันจูต้องการรื้อร้านยาของพวกเจ้าหรือ”
“ชายหนุ่มคนนั้นคือผู้ใด สง่างามมาก”
ไต้ฟูถูกคนนั้นคนนี้ล้อมรอบซักถาม
ถึงแม้ภายในดวงตาของไต้ฟูจะยังตื่นตระหนก แต่สีหน้าของเขาสงบลงแล้ว อีกทั้งยังปรากฏความได้ใจเล็กน้อย
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ เหตุใดคุณหนูตันจูจึงเข้าร้านยาทีละร้าน” เขาลูบเคราพลางพูด เมื่อพึงพอใจกับสีหน้าสงสัยของทุกคนแล้ว เขาจึงพูดเสียงเบา “เพื่อรักษาอาการไอให้องค์ชายสาม”
ทุกคนกระจ่าง ถึงแม้จะไม่เคยพบองค์ชายสาม แต่เวลานี้ในฐานะคนเมืองหลวง ทุกคนต่างรู้จักเหล่าองค์ชายเป็นอย่างดี องค์ชายสามและองค์ชายหกร่างกายไม่ดี
ที่แท้เฉินตันจูจะรักษาโรคให้องค์ชายสาม คนยโสอย่างเฉินตันจูจะเกาะเกี่ยวประจบองค์ชายสามก็ไม่แปลก เพียงแต่น่าขันสิ้นดี นางคิดว่าตนเองเป็นหมอเทวดารักษาทุกโรคหรืออย่างไร
“พระราชวังมีหมอหลวงมากน้อยเพียงใด”
“อีกฝ่ายเป็นองค์ชาย ฝ่าบาทย่อมต้องตามหาหมอฝีมือดีทั่วแผ่นดินให้เขา”
“ใช่ นางรักษาไม่ได้แน่ มิฉะนั้นเหตุใดจึงต้องวิ่งถามร้านยาทั่วเมืองหลวง”
“นางก็แค่ทำไปอย่างนั้น”
ชื่อของเฉินตันจูถูกแพร่กระจายไปอีกครั้ง มีคนหัวเราะนาง มีคนเสียดสีนาง แต่สำหรับเหล่าคุณหนูแล้ว พวกนางมีวิธีคิดอีกแบบ องค์ชายสามยังไม่แต่งงาน
เฉินตันจูคงไม่ได้มีความคิดในการเป็นฮูหยินขององค์ชายกระมัง
ในเวลาหนึ่งคำวิจารณ์ต่างๆ ปรากฏขึ้น คำวิจารณ์เหล่านี้แพร่เข้าไปในพระราชวังเช่นเดียวกัน
องค์ชายสามพักอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในพระราชวัง ร่างกายไม่ดีจึงไม่ได้อยู่ร่วมกับองค์ชายอื่น ตอนที่องค์ชายห้าพาองค์ชายสองและองค์ชายสี่เดินทางมา ภายในพระราชวังเงียบสงบ มีเสียงไอดังขึ้นบางครั้ง
“พี่สาม” องค์ชายห้าเรียกขาน ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าประตู ก็พบเห็นองค์ชายสามที่นั่งอ่านตำราอยู่หน้าโต๊ะ เขายกมือขึ้น “ยินดี ยินดี”
องค์ชายสองและองค์ชายสี่ที่เดินตามมาด้านหลังก็หัวเราะขึ้น
องค์ชายสามกระแอมไอหลายครั้ง ถาม “ยินดีเรื่องใด”
องค์ชายห้าปรบมือ “เฉินตันจูคุณหนูวิ่งหาร้านยาทั่วเมืองเพื่อรักษาโรคให้ท่าน ช่างเป็นการพลิกแผ่นดินหายาดีเสียจริง”
เฉินตันจูหรือ องค์ชายสามผงะเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มขึ้น
องค์ชายห้าส่งเสียงสงสัย “ไม่น่าขันหรือ พี่สาม โรคของท่าน หลายปีนี้เชิญหมอมีฝีมือมามากน้อยเพียงใด เฉินตันจูคิดว่าหาร้านยาทั่วไปก็ได้หรือ น่าขบขันสิ้นดี”
องค์ชายสามยิ้ม “อย่างไรก็เจตนาดี”