บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - บทที่ 449 หรือว่าจะเป็นนักรบวานรจริงๆ!
บทที่ 449 หรือว่าจะเป็นนักรบวานรจริงๆ!
ชั่วขณะที่ทุกคนกำลังตกใจก็มีอีกกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งพุ่งออกมา!
เห็นได้ชัดมากว่ามีผู้แข็งแกร่งกำลังมาเยือน!
กลิ่นอายพลังนั้นมหาศาลยากจะคาดเดา เหมือนคลื่นยักษ์สูงเทียมฟ้าถาโถมลงมา พลันดึงดูดสายตาของทุกคน!
ทุกคนมองตามไปก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินมาช้าๆ!
คนนั้นสวมชุดคลุมขาวดั่งหิมะ มีสีหน้าเคร่งขรึม ทั่วร่างแผ่ความโอหังอวดดี!
คนนั้นมีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งเหมือนดวงตะวัน เปล่งแสงเทพสว่างจ้าทั้งตัว สั่นสะเทือนที่แห่งนี้!
“เป็นองค์ชายสือเทียนจื่อ!”
“เขาก็มาด้วยเหมือนกัน!”
มีคนร้องตกใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคารพ
ตอนนั้นในสำนักมนุษย์ สือเทียนจื่อพูดเองว่าสู้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้ กระทั่งยกตำแหน่งอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ให้!
แต่การทำเช่นนี้ไม่ส่งผลกับชื่อเสียงของสือเทียนจื่อมากนัก เพราะอย่างไรก็เป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ มีกำลังรบเหนือกว่าคนธรรมดา
การปรากฏตัวของสือเทียนจื่อย่อมก่อให้เกิดความฮือฮา!
สือเทียนจื่อลอยลงพื้น ไม่ได้สนใจคนอื่น แต่มองไปรอบๆ เขาเพ่งสายตามองเสิ่นเทียน ดวงตาเปล่งประกายแวววาว!
เวลานี้ สือเทียนจื่อเองก็ได้ข่าวผลการรบในเมืองทะเลบูรพาของเสิ่นเทียนเช่นกัน แม้เขาจะไม่มั่นใจว่าข่าวลือนี้มีน้ำผสมกี่ส่วน
แต่เขารู้ว่าเสิ่นเทียนมีกำลังรบแกร่งมาก อาจจะสู้กับเจ้าอริยะได้จริงๆ
นี่ไม่ส่งผลกับสือเทียนจื่อ แต่ยิ่งกระตุ้นความมุ่งมั่นต่อสู้ในใจ!
เขามองเสิ่นเทียนเป็นเป้าหมายไล่ตาม อยากจะเอาชัยชนะกลับคืนมาจากเขาให้ได้!
ยิ่งเสิ่นเทียนแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งปลุกเร้าเขามากเท่านั้น!
หลังเห็นสือเทียนจื่อมองมา เสิ่นเทียนก็พยักหน้าขานรับ ใบหน้าเผยรอยยิ้มเจิดจ้า
เพราะเขาเห็นหมอกม่วงไหลเวียนบนวงรัศมีดวงชะตาสีม่วงเข้มเหนือศีรษะสือเทียนจื่อ เหมือนว่าจะปรากฏภาพโชคลิขิตแล้ว
เห็นได้ชัดมากว่า ด้วยดวงชะตาของสือเทียนจื่อจะต้องได้มหาโชคลิขิตในโลกสะพานเชื่อมฟ้าแน่นอน
กุยช่ายที่ทั้งใหญ่และอุดมสมบูรณ์ต้นนี้ ในที่สุดก็ได้เก็บเกี่ยวแล้ว!
…..
และจากนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นในกลุ่มคนอีกครั้ง โดยเฉพาะโอรสสวรรค์บุรุษของสำนักมนุษย์ ยิ่งส่งเสียงดัง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
“เป็นเทพธิดาชิงเยวี่ย!”
“เทพธิดาออกด่านบำเพ็ญแล้ว!”
โอรสสวรรค์บุรุษมากมายถึงกับร้องตกใจ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคารพรัก
“สตรีที่ไม่ชอบต่อสู้นั่นก็มาด้วย!”
ฉีจ้านแปลกใจเล็กน้อย เงยหน้ามองไป
ก่อนที่สือเทียนจื่อกับเสิ่นเทียนจะเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย คู่ต่อสู้ของเขาคือเทพธิดาชิงเยวี่ย!
แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยไม่ชอบการต่อสู้ จะปิดด่านบำเพ็ญยาวนาน!
กล่าวได้ว่าเป็นหญิงชอบเก็บตัวที่สุด
ไม่นึกเลยว่าสะพานเชื่อมฟ้ามาเยือน จะดึงนางออกมาได้
เสิ่นเทียนได้ยินเช่นนั้นก็มองไปเช่นกัน เห็นร่างงดงามเดินมาอยู่ไม่ไกล นั่นคือหญิงสวมชุดกระโปรงเซียนหยกคราม ใบหน้างดงามดั่งหยก ผิวพรรณขาวผ่องเหมือนหิมะ
นางแผ่เอกลักษณ์เย็นเยือก หยิ่งยโส สงบนิ่ง รักสันโดษและไม่ต้องการสิ่งใดทั้งตัว
เหมือนกับเทพธิดาบนฟ้า ได้แต่มองแต่ไม่อาจหมิ่นประมาท
เทพธิดาชิงเยวี่ยปรากฏตัวขึ้น ทำให้โอรสสวรรค์บุรุษต่างหลงใหล!
นางไม่ได้มีแค่ศักยภาพแข็งแกร่ง แต่ยังงดงามเหมือนเซียนสวรรค์ นี่คือเทพธิดาของโอรสสวรรค์บุรุษสำนักมนุษย์
ธิดาสวรรค์มากมายพบเทพธิดาชิงเยวี่ยแล้วยังอดก้มหน้าลงมิได้ ละอายใจที่เทียบไม่ได้
สตรีคนนี้ควรอยู่แค่บนสวรรค์ หาได้ยากยิ่งในโลกมนุษย์
แม้แต่ฉีจ้านยังเกาศีรษะ “ถึงนางจะไม่งดงามเท่าสตรีเผ่าข้า แต่ก็มีความงามอยู่หลายส่วน คู่ควรกับพี่ใหญ่!”
เสิ่นเทียนพูดไม่ออก
ทุกคน “amp;*¥#%”
เจ้าลิงกังนี่พูดบ้าอะไร
อะไรคือเทพธิดาชิงเยวี่ยไม่งามเท่าหญิงงามเผ่าลิงพวกเจ้า ลิงตัวเมียปากแหลมแก้มลิงพวกนั้นจะเทียบกับเทพธิดาชิงเยวี่ยได้หรือ
เมื่อได้ฟังคำพูดของฉีจ้าน โอรสสวรรค์มากมายแอบกัดฟัน มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
หากไม่ใช่เพราะลิงกังนี่แข็งแกร่ง พวกเขาอาจจะพุ่งเข้าไปทุบตีมันสักยก!
ผีเท่านั้นที่รู้ว่ามุมมองด้านความงามของลิงน่ากลัวเพียงใด!
แต่คำพูดช่วงหลังก็พูดได้ถูกแล้ว พวกเขาอดตกใจขึ้นมามิได้!
เทพธิดาบนฟ้าเช่นนี้คู่ควรกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จริงๆ!
สองคนมีใบหน้าเป็นที่สุดแห่งยุค และยังมีศักยภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
สองคนอยู่ด้วยกันเหมือนการประกบของสวรรค์ เป็นคู่ชีวิตแห่งเทพเซียน!
จางอวิ๋นซีและพวกองค์หญิงหลิงหลงกัดฟันงาม ดวงตาเหมือนกระบี่ ถลึงตามองฉีจ้านโหดๆ ทีหนึ่ง
อะไรคือคู่ควรกับศิษย์น้อง นางคู่ควรที่ใดกัน คนที่คู่ควรกับศิษย์น้อง/สหายเสิ่น มีเพียงข้าเท่านั้น!
……
ฉีจ้านรู้สึกเย็นที่แผ่นหลัง จึงเกาศีรษะด้วยความงุนงน ไม่เข้าใจความหมาย
และตอนนี้เองเทพธิดาชิงเยวี่ยย่างก้าวดอกบัวเดินตรงไปทางเสิ่นเทียน!
หลังเทพธิดาชิงเยวี่ยเห็นใบหน้าเสิ่นเทียนแล้วก็ตกตะลึงในใจ โลกนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีบุรุษรูปงามเหนือธรรมดาเช่นนี้
เทพธิดาชิงเยวี่ยมีจิตใจใสสะอาดปราศจากความปรารถนา โลกนี้มีน้อยคนมากที่จะทำให้นางหน้าเปลี่ยนสี!
แต่เมื่อได้พบเสิ่นเทียน จิตใจนางยังเกิดคลื่นกระเพื่อม ใบหน้างามแดงขึ้นมาเล็กน้อย!
เทพธิดาชิงเยวี่ยโค้งตัวเล็กน้อย “ขอคารวะศิษย์น้องเสิ่นเทียน! ศิษย์น้องเสิ่นเทียนสังหารเจ้าอริยะลัทธิวิญญาณร้ายได้ มีศักยภาพแข็งแกร่งจริงๆ สมกับเป็นมังกรในหมู่มนุษย์!”
นางเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์รุ่นสี่ของแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก อาจารย์คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกเคยแจ้งข่าวกับชิงเยวี่ยแล้วว่าให้นางผูกมิตรกับเสิ่นเทียน!
ดังนั้นนางถึงเข้ามาทักทายก่อน!
เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มๆ “ศิษย์พี่หญิงชิงเยวี่ยชมเกินไปแล้ว แค่ข่าวลือเท่านั้น! แซ่เสิ่นแค่ไล่เจ้าอริยะเสียหั่วไป ไม่ได้สังหารเขา”
เขาก็ยังถ่อมตัวมาก อธิบายออกไป
หากถูกคนจับตามอง นั่นจะไม่ใช่เรื่องดี!
ถึงอย่างไรปืนก็ยิงนกที่โผล่หัวมาก่อน!
ข้าชอบฟาร์มเงียบๆ มากกว่า
…..
แต่จากนั้นเสิ่นเทียนก็อึ้งไปเล็กน้อย สายตาจับจ้องหน้าผากของเทพธิดาชิงเยวี่ย!
เพราะเขาเห็นว่าเหนือศีรษะเทพธิดาชิงเยวี่ยมีวงรัศมีดวงตาสีม่วงสว่างจ้าอย่างยิ่งกำลังขยับแสงวูบวาบ!
กระทั่งในนั้นยังมีภาพโชคลิขิตลอยขึ้นมา!
เสิ่นเทียนดีใจอยู่ข้างใน!
มาแล้วๆ!
กุยช่ายใหญ่มาแล้ว!
สมกับเป็นอดีตอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ ดวงชะตาไม่ธรรมดาจริงๆ กระทั่งไม่ด้อยไปกว่าฉีจ้านเท่าไร!
เสิ่นเทียนมีความสุขในใจ กุยช่ายใหญ่ขนาดนี้ เขาจะต้องคว้าเอาไว้ให้ดี จะต้องเกาะเอาไว้!
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนมองตนตลอด เทพธิดาชิงเยวี่ยก็หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
เหตุใดศิษย์น้องเสิ่นเทียนถึงจ้องข้าตลอดเลย หรือว่า…
ไม่รู้เพราะเหตุใด เทพธิดาชิงเยวี่ยถึงหน้าแดงขึ้นมานิดๆ!
…..
หลังเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนมีดาวล้อมเดือน แม้แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยยังชื่นชอบเขา ในที่สุดก็มีคนอดใจไม่ไหวบ่นพึมพำ
“ก็แค่รุ่นเยาว์คนเดียว โม้เสียเกินจริงไปเลย ข้าว่าคงเป็นพวกมีชื่อเสียงจอมปลอม!”
บุรุษหนุ่มคนนั้นสวมชุดคลุมยาวสีแดงเพลิง ตรงหน้าผากมีสัญลักษณ์ดวงตะวัน!
คนนี้คือบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นแรกของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!
แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันไม่ถูกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาตลอด เมื่อเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์โด่งดังเช่นนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกยังไม่พอใจอยู่ข้างใน
เขารักและเคารพเทพธิดาชิงเยวี่ยมาตลอด เห็นนางฟ้าของตนไปใกล้ชิดเสิ่นเทียน ก็เหมือนกับกินมะนาวอมตะหมื่นปี อิจฉาขึ้นมาทันที
ดังนั้นเขาถึงก้าวออกมาอยากจะหาเรื่องต่อว่าเสิ่นเทียน!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกไม่เชื่อว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังเอาชนะเจ้าอริยะได้
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายยังไม่มีกำลังรบนี้ แล้วนับประสาอะไรกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตัวจ้อย
คิดว่าเจ้าอริยะเป็นขยะ ถูกขยี้ตายไปตามใจรึ
คนที่ไปถึงระดับเจ้าอริยะได้ล้วนเป็นยอดฝีมืออาวุโสที่อยู่มาพันปีกระทั่งหลายพันปี ตอนหนุ่มสาวยังเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์
การคงอยู่ระดับนี้จะถูกเด็กอายุยี่สิบกว่าปีขับไล่กระทั่งสังหารได้หรือ หลายพันปีมานี้ไปฝึกฝนบนตัวสุนัขกันหมดรึ
เก้าตะวันรุ่นแรกคิดว่าเสิ่นเทียนก็แค่ชอบเป็นที่สนใจของทุกคน เสแสร้งให้ตัวเองดูลึกลับ!
เสิ่นเทียนไม่สนใจ มีคนริษยาเขาเยอะมาก หรือว่าจะต้องไปหาถึงหน้าบ้านทุกคนเลยรึ
เขายังไม่ทันเอ่ย โอรสสวรรค์รอบกายเขาพลันระเบิดขึ้นแล้ว!
“เจ้าเด็กนี่พูดอะไร”
ฉีจ้านเดิมทีเป็นลิงฉุนเฉียวอยู่แล้ว จะไปทนให้คนมาใส่ร้ายเสิ่นเทียนได้อย่างไร
เขาเคารพเสิ่นเทียนเป็นพี่ใหญ่มานานแล้ว มีแต่ความเคารพ!
อีกทั้ง แม้แต่จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ยังให้เขาผูกมิตรกับเสิ่นเทียน
ไม่ว่าจะเนื่องด้วยตนหรือความยินยอมของบรรพบุรุษ เขาก็ต้องปกป้องชื่อเสียงของเสิ่นเทียน
ฉีจ้านเดินเข้ามา ถลึงตาโต จิตต่อสู้หมุนม้วนไปทั่วร่าง จ้องเก้าตะวันรุ่นแรกตาเขม็ง
เก้าตะวันรุ่นแรกตัวสั่น ถูกพลังของฉีจ้านกดขี่จนหน้าแดง!
ถึงอย่างไรฉีจ้านก็เป็นอันดับหนึ่งสำนักอสูร อีกทั้งพลังทะลวงพลังบำเพ็ญแล้วยังน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม!
ส่วนเก้าตะวันรุ่นแรกอยู่แค่สิบอันดับแรกรายนามโอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ จะไปสู้ฉีจ้านได้อย่างไร!
ภายใต้การกดดันของฉีจ้าน บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกพูดยังพูดไม่ออกเลย!
“เจ้าหนู เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
ทว่าตอนนี้เองมีกลิ่นอายพลังมหาศาลพุ่งเข้ามา กระแทกกลิ่นอายพลังของฉีจ้านสลายไป!
ก่อนจะเห็นชายวัยกลางคนเดินเข้ามา ใบหน้ามืดทะมึน ตรงหน้าผากยังมีสัญลักษณ์ดวงตะวันสามดวง
เมื่อเห็นคนนี้ปรากฏ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรุ่นแรกก็ทำหน้าดีใจใหญ่ ร้องด้วยความตกใจ “อาจารย์!”
คนนี้ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!
“มีอะไร ตาแก่อย่างเจ้าคิดจะสอดมือรึ”
แม้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจะปรากฏตัวแล้ว ฉีจ้านก็ยังไม่เกรงกลัว!
เมื่อถูกรุ่นเยาว์ยั่วยุต่อหน้าทุกคน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันหรี่ตาลงเล็กน้อย ทำเสียงขึ้นจมูก “นี่เหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับเผ่าวานรอัคคีเนตรทองกระมัง”
เผ่าวานรอัคคีเนตรทองเป็นขุมอำนาจไม่ธรรมดาเลยในดินแดนกลาง กระทั่งเหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!
แต่นั่นเป็นเพียงศักยภาพแฝงของเผ่า ไม่ใช่ศักยภาพของฉีจ้าน
ถึงอย่างไรเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันก็เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ อยู่มาพันกว่าปี พลังบำเพ็ญถึงเจ้าอริยะแล้ว
เขาย่อมไม่เห็นรุ่นเยาว์ฉีจ้านคนนี้อยู่ในสายตา
แต่เห็นแก่หน้าของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจึงไม่อยากมีปัญหาขัดแย้ง!
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นพี่ใหญ่ของข้า เจ้าว่าเกี่ยวกับข้าหรือไม่ พวกเจ้าใส่ร้ายพี่ใหญ่ มีเจตนาอย่างไรกันแน่”
ฉีจ้านไม่สนใจอะไรมากขนากนั้น เขายืดคอตรง จะเอาคำอธิบาย!
“หาญกล้านัก เป็นแค่รุ่นเยาว์ กลับกล้าอวดดีต่อหน้าข้า!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันโมโหจัด ฉีจ้านนี่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย!
กลิ่นอายพลังเขาหมุนม้วนไปทั้งตัว ระเบิดพลังน่ะสะพรึงออกมา เหมือนจะกำราบเขาไว้ในทันที!
“อวดดีแล้วอย่างไร หากวันนี้เจ้าไม่พูดให้ชัดเจนก็อย่าได้ไปเลย!”
ฉีจ้านโมโหเช่นกัน โลหิตยุทธ์เขาโหมซัดสาดไปทั้งตัว จิตต่อสู้น่าสะพรึงหมุนม้วนออกมา ยกระดับพลังถึงขีดสุด!
แม้ฉีจ้านจะเป็นผู้อริยะสามด่านเคราะห์ แต่กลับก็ไม่ด้อยไปกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเลย!
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนโดยรอบมีสีหน้าตื่นตกใจ!
“อะไรกัน ฉีจ้านทะลวงผู้อริยะสามด่านเคราะห์ตั้งแต่เมื่อไร”
“ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ไม่ใช่รึ เหตุใดไปเมืองทะเลบูรพาครั้งเดียว พลังบำเพ็ญถึงขึ้นเร็วขนาดนี้”
“ฉีจ้านตอนอยู่จุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็สู้กับอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้แล้ว ตอนนี้ทะลวงผู้อริยะสามด่านเคราะห์ คงสู้ได้กระทั่งเจ้าอริยะกระมัง!”
“ข่าวลือจากเมืองทะเลบูรพาเป็นความจริง!”
“เช่นนั้นดูท่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คงสังหารเจ้าอริยะได้จริงๆ!”
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกล้ายั่วยุบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เกรงว่าคงซวยแล้ว!”
…..
ทุกคนต่างตื่นตะลึง
แค่ไม่กี่เดือน จากจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ทะลวงไปผู้อริยะสามด่านเคราะห์ นี่มันน่ากลัวยิ่งนัก!
หรือว่าเจ้าลิงกังนี่ได้โอสถอมตะอะไรไป
ต่อให้ได้กินโอสถจักรพรรดิก็ไม่ควรจะน่ากลัวถึงขนาดนี้สิ!
ไม่กี่เดือนเลื่อนไปสามขั้น ทั้งยังเป็นขอบเขตผู้อริยะ!
น่ากลัวยิ่งนัก!
เหมือนมีคนนึกอะไรได้ ก็ร้องตกใจ “พวกเจ้าว่าฉีจ้านจะได้สุดยอดโชคลิขิตใดในเมืองทะเลบูรพาหรือไม่”
มีเพียงได้สุดยอดโชคลิขิตเท่านั้นถึงทำให้เปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ได้!
มีอีกคนขานรับ “ข้ารู้แล้ว ต้องเป็นเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แน่! บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นบุตรแห่งโชคที่สุดในประวัติการณ์ มีดวงชะตาสูงสุด!
ฉีจ้านไปเจอบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เมืองทะเลบูรพา ได้รับผลจากดวงชะตาสูงสุด ทำให้ได้โชคลิขิตจำนวนมาก ถึงได้เพิ่มพลังบำเพ็ญมากขนาดนี้!”
ยิ่งคิดยิ่งตกใจ ทุกคนมั่นใจในมุมมองความคิดนี้แล้ว!
เพราะมีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะสมเหตุผล!
ฉีจ้านเองก็ไม่คิดปิดบัง “ไม่ผิด เป็นเพราะพี่ใหญ่เสิ่นเทียน ข้าถึงยกระดับพลังได้มากขนาดนี้ เจ้าพวกนี้กล้าใส่ร้ายพี่ใหญ่ ก็เท่ากับใส่ร้ายข้า!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน เจ้าคิดจะสู้หรือไม่”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันหน้าแข็งทื่อ
เขาไม่นึกเลยว่าฉีจ้านจะแกร่งขนาดนี้ ทั้งยังมีใจปกป้องเสิ่นเทียน นี่ทำให้เขาไม่มีที่ลงเลย!
“โอหัง ไม่รู้จักเจียมตัว!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันทำเสียงขึ้นจมูก กลิ่นอายพลังทั่วร่างสั่นกระเพื่อม ระเบิดพลังน่ากลัวออกมา!
เขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งอาวุโส จะอายุสองพันปีแล้ว พลังบำเพ็ญถึงเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ มีศักยภาพแข็งแกร่งยิ่ง!
ถูกรุ่นเยาว์คนหนึ่งใส่ร้ายป้ายสี เขาจะไปยอมทนได้อย่างไร
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแค่นเสียงขึ้นจมูก “วันนี้ ข้าจะสั่งสอนพวกเจ้าแทนผู้อาวุโสของพวกเจ้าเอง!”
เขาเปล่งแสงสว่างทั้งตัว เหมือนดวงตะวันลอยขึ้น มาพร้อมกับพลังน่ากลัวมากมายมหาศาล!
เจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์คือการคงอยู่สุดยอดแล้ว!
“ตาแก่นี่หน้าไม่อายจริงๆ เด็กสู้ไม่ได้ก็ส่งคนแก่มา!”
ฉีจ้านก็โกรธเหมือนกัน ตนเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์ จึงไม่เคยกลัวใคร!
ต่อให้เป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ เขาก็จะสู้
“ข้าว่าตาแก่นี่คงริษยาสหายเสิ่น! ไม่ใช่แค่ศิษย์สายพวกเขาที่ริษยาสหายเสิ่นนะ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอาวุโสยังริษยาด้วย! น่าขายหน้าจริงๆ!”
เสียงเย้าหยอกของหวังเสินซวีดังแว่วมา
ทุกคนพูดไม่ออก
เจ้านี่ปากร้ายมากจริงๆ!
แม้แต่เจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ยังกล้าด่ารึ
เขาปากร้ายเช่นนี้ ไม่ถูกคนทุบตีตายก็ดวงดีมากแล้ว!
คำพูดของหวังเสินซวีเหมือนกับราดน้ำมันบนกองไฟ พลันทำให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันไฟโทสะลุกท่วม!
“ดี ข้าอยากรู้นักว่าพวกเจ้าจะเก่งกันสักเพียงใด!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยื่นมือใหญ่ออกมา กลายเป็นดวงตะวันสีทองกดใส่ฉีจ้าน
ฉีจ้านเผยแววตาจริงจัง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีศักยภาพแข็งแกร่งกว่าเจ้าอริยะเสียหั่ว!
แม้เขาจะพลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็ยังไม่กล้าดูถูก!
ฉีจ้านขนทองตั้งขึ้นทั้งตัว จิตต่อสู้สีแดงหมุนม้วนออกมา!
เขาถือกระบองเทพตามใจนึก เกราะอริยะสัประยุทธ์ปรากฏขึ้นบนผิวกาย เหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย เหมือนจะสู้ตายกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!
ทว่ากลับมีเสียงหยาบคายดังขึ้น เหมือนสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นระเบิด สั่นสะเทือนสองหูคน!
“ใครมันกล้าแตะต้องลูกลิงบ้านข้า”
ก่อนจะเห็นวานรยักษ์สีทองตัวหนึ่งพุ่งลงมาจากขอบฟ้า มาพร้อมกับพลังบ้าคลั่งยิ่งหมุนตลบฟ้าดิน
วานรยักษ์สีทองควงหมัดใหญ่ กลายเป็นประกายกำปั้นสีทอง พละกำลังมหาศาลยากจะปัดป้อง!
ประกายหมัดสีทองพลันพุ่งลงมาพร้อมกับน้ำหนักหมื่นชั่ง เหมือนกับขุนเขาเทพโบราณตกลงมา!
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่น!
ประกายหมัดสีทองกับดวงตะวันปะทะกันอย่างแรง เกิดการระเบิดดังสนั่นฟ้าขึ้น!
กลิ่นอายพลังน่าสะพรึงพลันปะทุขึ้น หมุนม้วนพายุคลั่งไม่มีสิ้นสุด อานุภาพน่ากลัวถึงที่สุด!
คนมากมายมีแววตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!
นี่คือการต่อสู้ระดับเจ้าอริยะรึ
นี่มันจะน่ากลัวไปหน่อยแล้ว!
……
การโจมตีของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันถูกทำลาย ดวงตะวันสีทองกลายเป็นประกายไฟหายไปในฟ้าดิน!
เขาตัวสั่นสะท้าน สองมือสั่นไหว เหมือนรับพละกำลังที่ต้านไว้ได้ยาก!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีสีหน้าจริงจังมาก สายตาเพ่งมองไปข้างหน้า!
ด้านหน้าเขาเป็นวานรยักษ์สีทองร่างกำยำใหญ่ลอยอยู่ วานรยักษ์สีทองมีขนเหมือนเข็มเหล็กกล้า พลังบ้าคลั่งถึงที่สุด ประหนึ่งราชานักรบบ้าคลั่ง!
เหมือนว่าเมื่อวานรนี้ปรากฏตัว จะสร้างแรงกดดันให้เขาอย่างยิ่ง!
ฉีจ้านดีใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านพ่อ ท่านมาได้อย่างไร”
ไม่ผิด วานรยักษ์ตัวนี้คือเจ้าเผ่ารุ่นปัจจุบันของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง ฉีเต๋อหรง!
“เจ้าเด็กนี่นับวันยิ่งใจกล้าขึ้นเรื่อยๆ แล้ว รู้จักหาแต่เรื่องเช้าจรดเย็น! ครั้งนี้เกินไป สร้างปัญหาถึงข้า ถ้าข้าไม่มา เจ้าคิดว่าจะสู้ได้รึ”
ฉีเต๋อหรงตบศีรษะฉีจ้าน ใบหน้าเผยความเอ็นดู
“แหะๆ!”
ฉีจ้านเกาศีรษะ ยิ้มซื่อๆ
ฉีเต๋อหรงไม่ใช่แค่เจ้าเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง แต่ยังเป็นบิดาเขา ย่อมโต้เถียงไม่ได้
แต่จากนั้นฉีเต๋อหรงก็ทำเสียงขึ้นจมูก “แต่ว่าเผ่าเราก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว! ใครกล้าล่วงเกินเรา ก็ทุบตีมัน!”
ฉีเต๋อหรงรักและเอ็นดูฉีจ้าน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นวานรอริยะสัประยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวของเผ่าพวกเขา!
เผ่าวานรอัคคีเนตรทองมีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ เดิมทีชอบการต่อสู้ ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด!
“ตาแก่นี่คิดจะรังแกเด็ก ให้ข้าฝึกกับเจ้าดีกว่ากระมัง”
ฉีเต๋อหรงมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตต่อสู้
กลิ่นอายพลังเขาบ้าคลั่งยิ่ง ปลุกศักยภาพของเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์ถึงขีดสุด เหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย!
ฉีเต๋อหรงเป็นเจ้าเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง มีศักนภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!
“ฉีเต๋อหรง เจ้าคิดจะสู้ตายไม่เลิกรากับข้ารึ”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีสีหน้าปั้นยาก ไม่ใช่ว่าเขากลัวฉีเต๋อหรง
สองคนเป็นเจ้าอริยะแปดด่านเคราะห์เหมือนกัน ความจริงกำลังรบไม่ต่างกันเท่าไร
แต่ก็จนปัญญาเพราะเผ่าวานรอัคคีเนตรทองชอบการต่อสู้มาตลอด หากถูกพัวพันจะหลุดมาได้ยากมาก
อีกทั้งวัดกันที่การต่อสู้ยาวนาน เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉีเต๋อหรงจริงๆ!
หากสู้ต่อไป บางทีอาจจะแตกพ่ายทั้งสองฝ่าย!
และที่เป็นไปได้มากกว่านั้นคือเขาอาจจะถูกทุบตี…
แค่กๆ~
หลักๆ เป็นเพราะตอนนี้คือช่วงที่ต้นไม้สะพานเชื่อมฟ้าปรากฏ เขาไม่อยากพลาดโชคลิขิต!
“คิดว่ากลัวเจ้าหรือ”
ฉีเต๋อหรงชำเลืองตามองทีหนึ่ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม!
ในกายเขาก็มีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ส่วนหนึ่งเช่นกัน แม้จะไม่ถึงขั้นหวนคืนสู่บรรพบุรุษ แต่ก็มีจิตต่อสู้ดุดันเหมือนกัน!
สายเลือดนี้ชอบการต่อสู้ จะไปเกรงกลัวได้อย่างไร
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแค่นเสียงขึ้นจมูก “ข้าไม่อยากมาพัวพันกับเจ้า!”
แม้เขาจะไม่กลัวฉีเต๋อหรง แต่ก็ไม่อยากสร้างปัญหามากเกินไป
“อ้อ เจ้ามาหาเรื่องสหายน้อยเสิ่นเทียน ก็เท่ากับหาเรื่องเผ่าข้าเช่นกัน! สหายน้อยเสิ่นเทียนเป็นคนสำคัญของเผ่าข้า รังแกเขา ก็เท่ากับหยามเผ่าวานรอัคคีเนตรทองข้า ขอโทษสหายน้อยเสิ่นเทียน ไม่อย่างนั้นข้าจะเอากระบองกระแทกเจ้าให้ตาย!”
ฉีเต๋อหรงทำเสียงหึ จ้องเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเขม็ง
ตอนที่ฉีจ้านกลับมาได้รายงานฉีเต๋อหรงทันทีแล้ว กระทั่งบอกเรื่องจวนอริยะสัประยุทธ์กับโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าทั้งหมด
เรื่องนี้ทำให้ฉีเต๋อหรงตื่นเต้นอย่างยิ่ง!
ถึงอย่างไรการที่เผ่าพวกเขามีวานรอริยะสัประยุทธ์เพิ่มมาอีกสองตัว ก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง!
และทุกอย่างเป็นเพราะเสิ่นเทียน!
ฉีเต๋อหรงอยู่มาหลายพันปี จะไม่รู้ความหมายของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ได้อย่างไร!
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะผูกมิตรกับเสิ่นเทียน เพียงแต่ไม่มีเวลาก็เท่านั้น!
ตอนนี้คือโอกาสดีที่ได้กอดต้นขา ฉีเต๋อหรงจะพลาดไปได้อย่างไร!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดเลยว่าฉีเต๋อหรงจะหัวแข็งขนาดนี้!
หรือว่าเขาจะทำศึกใหญ่กับข้าจริงๆ
ทุกคนโดยรอบมีสีหน้าตกใจยิ่งกว่า!
เผ่าวานรอัคคีเนตรทองมีฐานะสูงยิ่งในดินแดนกลาง กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในขุมอำนาจสุดยอด!
เจ้าเผ่าพวกเขายอมรับเสิ่นเทียนเป็นแขกคนสำคัญของเผ่าวานรอัคคีเนตรทอง!
…..
หรือว่าเสิ่นเทียนจะลงนามสัญญากับฉีจ้านจริงๆ กลายเป็นพันธมิตรเผ่ามนุษย์ของเผ่าวานรอัคคีเนตรทองหรือ
เหมือนว่าในห้าดินแดนแปดทิศจะไม่เคยมีนักรบวานรมาก่อนเลยกระมัง!
…………………