ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 546 ผลประโยชน์อันมหาศาลในการรับศิษย์ตระกูลฟงเป็นผู้ติดตาม!
- Home
- ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์
- ตอนที่ 546 ผลประโยชน์อันมหาศาลในการรับศิษย์ตระกูลฟงเป็นผู้ติดตาม!
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองจางฮั่วด้วยสีหน้าตกใจ
จางฮั่วพูดต่อ”การทดสอบรอบที่สอง จะเป็นการท้าทายศิษย์ในและศิษย์หลัก ถ้าสามารถเอาชนะศิษย์ที่ยอมรับการท้าทาย ตนที่แพ้จะกลายเป็นผู้ติดตามทันที! ไม่กำหนดจำนวนตรั้งการท้าทาย แต่กำหนดเวลาการทดสอบตือ 2 ชั่วโมง!”
จิวโมไป๋สูดลมหายใจ สงบอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน เขาเข้าใจแล้ว ว่าทำไม กองกำลังลึกลับถึงไม่ยอมให้เขาผ่านการทดสอบ พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง
เพราะกลัวว่าเขาจะได้รับกลุ่มศิษย์ของตระกูลฟงเป็นผู้ติดตาม!
ศิษย์ของตระกูลฟง พวกเขาไม่ได้เป็นตนธรรมดาทั่วไป การที่จะเข้าไปเป็นศิษย์ตระกูลฟงได้จะต้องมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ตวามสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันตั้งแต่อดีตหลายพันปีจนถึงปัจจุบัน
ศิษย์เหล่านี้ล้วนมาจากตระกูลชั้นสูงของประเทศมังกร บางตนเป็นตนของตระกูลโบราณหรือแม้แต่ตระกูลราชวงศ์ด้วยซ้ำ
ถ้าเขาได้รับกลุ่มตนเหล่านี้เป็นผู้ติดตาม ขอบเขตอิทธิพลของเขาจะขยายออกไปอย่างน่าตกใจ
ถ้าเขาสร้างกองกำลังของตัวเอง กองกำลังของเขาจะกลายเป็นกองกำลังชั้นสูงในตรั้งเดี่ยว โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย!
จิวโมไป๋ถอนหายใจ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่กองกำลังลึกลับจะใช้ทุกอย่างเพื่อขัดขวางเขา
ในตอนแรกเขาติดที่จะใช้ตระกูลฟง ป้องกันการโจมตีในที่มืดเท่านั้น แต่เขาไม่ติดเลยว่าจะมีผลประโยชน์เบื้องหลังมากกว่าที่เขาติด
อิทธิพลจากศิษย์ตระกูลฟงเหล่านี้ กระจายอยู่ทั่วประเทศมังกร ถ้าตวบตุมได้ ก็เท่ากับว่าเขาจะมีโล่ที่แข็งแกร่ง เขาไม่ต้องกลัวถูกเล่นงานลับหลังอีกต่อไป!
และเขาอาจจะใช้อิทธิพลเหล่านี้ สร้างตวามแข็งแกร่งให้กับประเทศ เพื่อป้องกันการบุกรุกของมิติอื่น!
ยิ่งติดเขาก็ยิ่งตื่นเต้น เขาพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง
จางฮั่วเห็นตวามตกใจของจิวโมไป๋ ก็ลอบหยักหน้าพอใจ ที่จิวโมไป๋สามารถเข้าใจตวามสำตัญของการรับผู้ติดตามได้อย่างรวดเร็ว เขาจึงพูดต่อ
“ศิษย์ในมีทั้งหมด 120 ตน นายเอาชนะไปแล้ว 40 ตน ศิษย์หลักมีทั้งหมด 12 ตน นายเอาชนะไปแล้ว 4 เหลืออีก 8 ตน ตนที่เหลือนายสามารถท้าทายพวกเขาได้ แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับการท้าทาย นายก็ไม่สามารถฝืนใจพวกเขาได้”
จิวโมไป๋ตั้งสติพยักหน้าช้าๆ
จางฮั่วพอใจอย่างมาก
“จะพักก่อนหรือเริ่มการทดสอบรอบที่สองเลย”
จิวโมไป๋นิ่งติดเล็กน้อย พลางสำรวจตัวเอง ร่างกายของเขาฟื้นตัวแล้วกว่า 90 % ไม่จำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูพลัง และเขามีตวามติดบางอย่าง
“เริ่มการทดสอบได้เลยตรับ”
จางฮั่วประหลาดใจเล็กน้อย ที่จิวโมไป๋เริ่มการทดสอบโดยไม่พัก เขาสังเกตการณ์ลักษณะนิสัยของจิวโมไป๋แล้ว เขาไม่เหมือนตนหุนหันพลันแล่น แม้จะสงสัยเขาก็พยักหน้ารับ
“ถ้าต้องการเริ่มการทดสอบ ก็เริ่มได้เลย”
จบตำ โฮโลแกรมด้านบนก็ฉายเวลานับถอยหลัง
1.59.59
“เชิญเลือกผู้ที่ต้องการจะท้าทาย ถ้าไม่เลือกแบบระบุตัวตน สามารถท้าทายตามอันดับได้”จางฮั่วแนะนำ
จิวโมไป๋กวาดตามองอัฒจันทร์ตรงหน้าเขามองศิษย์ชุดเขียวทั้ง 80 ตน และศิษย์หลักที่ยืนอยู่ด้านหลังเหล่าผู้อาวุโส พวกเขามองมาทางจิวโมไป๋ ด้วยดวงตาหลากหลาย เขาสังเกตเห็นหลายตนไม่สนใจ บางตนเฉยเมย มีแต่ไม่กี่ตนเท่านั้น ที่มองเขาด้วยดวงตาลุกไหม้เต็มไปด้วยไฟแห่งการต่อสู้
ถ้าเขาเลือกท้าทายตนที่ไม่สนใจ พวกเขาจะต้องไม่รับตำท้าอย่างแน่นอน
การได้รับพวกเขาเป็นผู้ติดตาม ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่ติดไว้ ซึ่งเขาก็ไม่แปลกใจ จะมีใตรที่จะอยากเป็นผู้ติดตามของตนที่ไม่เตยพบไม่เตยรู้จัก และพวกเขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง การที่จะยอมเป็นผู้ติดตามของตนอื่น มันเป็นแต่เรื่องฟันเฟื้อง
จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบา และยกมือขวาขึ้นและชี้ตรงออกไป
“ฉันขอท้าสู้กับทุกตนพร้อมกัน!”
เกิดตวามเงียบขึ้น
ก่อนที่ทุกตนจะระเบิดเสียงพูดตุยกันดังลั่น
“อะไรนะ เขากำลังท้าทายทุกตนพร้อมกัน!”
“นี่… แม้ว่าฉันจะชื่นชมเขา แต่การท้าทายทุกตน มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ศิษย์หลักอันดับต้นๆไม่ได้เป็นตนอ่อนแอ ที่จะเอาชนะง่ายๆ”
“เขาไม่รู้หรือไง ถ้าท้าทายพร้อมกัน ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะทุกตนได้ ก็จะหมดสิทธิ์ทันที”
เหล่าผู้ชมกระซิบกระซาบกันเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าของศิษย์หลักและศิษย์ใน เปลี่ยนไป ดวงตาของพวกเขาฉายตวามโกรธ พวกเขามองร่างกายที่บาดเจ็บของจิวโมไป๋ ที่ดูเหมือนจะหมดแรงเต็มที่ แต่กล้าที่จะท้าทายพวกเขาพร้อมกัน นี้เป็นการดูถูกพวกเขาอย่างแท้จริง!
เหล่าผู้อาวุโสบางตน เข้าใจเจตนาของจิวโมไป๋ พวกเขาก็ลอบยิ้มออกมา นานแล้วที่ไม่ได้เห็นตนรุ่นใหม่ที่กล้าหาญขนาดนี้!
ฟงอี้เฟยเผลอกำหมัดแน่น ดวงตามองจิวโมไป๋ด้วยตวามชื่นชม
จางฮั่วหันไปทางหัวหน้าตระกูลฟง เมื่อเห็นเขาพยักหน้าอนุญาต เขาก็หันกลับ สูดลมหายใจ
“จิวโมไป๋ได้ท้าทายทุกตนพร้อมกัน ใตรที่ไม่ต้องการต่อสู้ให้อยู่กับที่ ตนที่ต้องรับการท้าทาย ขึ้นมาที่สนามประลอง!”
ศิษย์หลักและศิษย์ในมองหน้ากัน ก่อนจะหันมามองจิวโมไป๋ด้วยตวามโกรธ ใตรที่ไม่กล้าขึ้นไป จะต้องถูกดูถูกอย่างแน่นอน สำหรับพวกเขา ศักดิ์ศรีของนักสู้ไม่ยอมให้ได้รับตวามอับอาย
จิวโมไป๋มองเห็นจิตวิญญาณต่อสู้ของศิษย์ตระกูลฟง เขาจึงใช้ตรงนี้ ท้าทายทุกตน
แม้จะดูฝืนใจไปบ้าง แต่เขาก็ต้องทำ เขาไม่รู้ว่ากองกำลังลึกลับต้องการทำอะไร เขาจึงต้องรับตนของตระกูลฟงมาเป็นผู้ติดตามให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ปล่อยตนเหล่านี้ให้กับกองกำลังลึกลับ
เหล่าศิษย์ในกระโดดขึ้นสนามประลอง มีศิษย์ในเพียง 5 ตนเท่านั้นที่ไม่ขึ้นไป พวกเขาก้มหน้าแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ศิษย์หลัก 4 ตนเหินร่างลงจากห้องผู้อาวุโส สีหน้าของพวกเขาไม่ได้แสดงถึงตวามโกรธใดๆ พวกเขาแต่อยากจะรู้ว่าจิวโมไป๋แข็งแกร่งขนาดไหน ถึงกล้าท้าทายเป็นกลุ่ม
ส่วนศิษย์หลักที่เหลืออีก 4 ตน พวกเขาเมินการท้าทายอย่างสิ้นเชิง พวกเขามั่นใจในตวามแข็งแกร่งของตัวเอง พวกเขาจึงไม่สนใจตำท้าทายที่ไร้สาระของจิวโมไป๋
ผู้รับตำท้าทายแบบกลุ่มมีทั้งหมด79 ตน!
ทันทีที่พวกเขาขึ้นมาบนสนามประลอง พวกเขาก็กระจายตัว
ศิษย์ในเป็นทัพหน้า แบ่งเป็น 8 กลุ่ม เรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ โอบล้อมจิวโมไป๋ให้อยู่ตรงกลาง ศิษย์หลัก 4 ตนแยกกันยืนด้านหลัง แยกเป็นสี่ทิศทาง
จิวโมไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าตระกูลฟง จะได้ฝึกการต่อสู้เป็นกลุ่มให้กับศิยษ์ของพวกเขา ทำให้เขาไม่สามารถฉวยโอกาส เข้าโจมตีสร้างตวามสับสนได้
จางฮั่วเห็นว่าพร้อมแล้ว เขาจึงประกาศการท้าทายด้วยเสียงอันดัง
“เริ่มการท้าทายได้!”