ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 492 บรรพบุรุษตระกูลจิว!
“หืม ฉันพูดถูกสินะ”ดวงตาคู่งามสั่นระริกแฝงไปด้วยความตื่นเต้น หญิงสาวชักเท้าถอยหลังกลับ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งบนโซฟา เธอหันมามองจิวโมไป๋ที่ยืนแข็งทื่ออยู่ เธอเลิกคิ้วและตบลงบนโซฟาเบาๆ
“อย่ามัวแต่ยืนเป็นต้นไม้ มานั่งตรงนี้”
จิวโมไป๋เดินไปนั่งอย่างงุนงง ก่อนจะตั้งสติได้ เขามองหญิงสาวก่อนจะถาม
“รู้ได้ยังไงว่าฉันย้อนเวลามา”เขาได้แต่ยอมรับ ว่าความความลับที่สำคัญที่สุดในชีวิต ถูกเปิดเผย เขารู้ว่าต่อให้ปฏิเสธ อาจารย์สาวของเขา ก็สามารถเอาหลักฐานมายืนยัน ไม่ให้เขาดิ้นหลุด ตอนนี้เธออาจมีหลักฐานอยู่ในมือตอนนี้ด้วยซ้ำ เพราะถ้าไม่มั่นใจจริงๆเธอจะไม่ถามอะไรแบบนี้
เขาไม่อยากโต้เถียงให้เสียเวลา เขาสงสัยว่าอาจารย์สาวรู้ได้ยังไงมากกว่า หรือว่ามีคนเคยย้อนเวลามาก่อนหน้าเขาแล้ว
ลู่หว่านหัวเราะเบาๆยกมือม้วนเล่นผมยาว เธอเชิดหน้าเล็กน้อยด้วยท่าทางภูมิใจ
“หลังจากวันนั้นที่เราพบกันครั้งแรก ฉันได้ไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับนายทั้งหมด ฉันพบว่าเมื่อ 3 เดือนก่อน ตำหนักยุทธของนายถูกทำลายอย่างไม่สมบูรณ์ นายกลายเป็นคนพิการ ไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้อีก แต่หลังจากรักษาตัวไม่นาน นายก็กลับมาบ่มเพาะพลังได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้น จากคนที่เรียนวิชาการ ไม่สนการบ่มเพาะพลัง อยู่ๆก็ไม่ไปเรียนเลยตั้งแต่ 3 เดือนก่อน การบ่มเพาะพลังก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว และที่น่าประหลาดใจก็คือนายกลายเป็นนักปรุงยาที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ โดยที่ไม่เคยเรียนการปรุงยามาก่อน”
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าอาจารย์สาว จะค้นพบตัวตนนักปรุงยาของเขาได้ เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจกับหน่วยข่าวกรองเบื้องหลังของเธอ
ตัวตนนักปรุงของเขา ถูกระบบNuwa เก็บเอาไว้อย่างดี แม้แต่บุคคลระดับสูงของประเทศ ก็ไม่สามารถค้นพบได้ แต่ลู่หว่านสามารถเอาข้อมูลของเขามาได้
เขาไม่เคยรู้ว่ามาก่อน ว่ามีหน่วยข่าวกรองที่แข็งแกร่งขนาดนี้ในประเทศมังกร
ลู่หว่านมองจิวโมไป๋ ก่อนจะพูดต่อ
“ในช่วงเวลา 3 เดือนนี้ นายได้ทำอะไรลับๆหลายครั้ง และซ่อนการกระทำอย่างดี แต่ก็ไม่สามารถกำจัดร่่องรอยทั้งหมดได้ ฉันพบว่านายได้ใช้เทคนิคการปลอมตัวของสำนักของฉัน และมีครั้งหนึ่งที่นายได้ใช้วิชาหัตถ์ถอดกระดูก วิชาที่ฉันคิดค้นเพื่อทรมาน… ตั้งแต่สร้างวิชาหัตถ์ถอดกระดูกสำเร็จ ฉันยังไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้ ทำให้ฉันยิ่งสงสัย ว่านายได้เรียนรู้วิชาของฉันได้ยังไง ทั้งๆที่ฉันไม่เคยบอกใคร ไม่เคยบันทึงลงไปในเครื่องมือจดบันทึกใดๆ ไม่ว่าจะออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ตาม”
ลู่หว่านหยุดพูด ก่อนจะถอนหายใจ มองจิวโมไป๋ด้วยสายตาแปลกๆ
“ฉันต้องขอโทษ ที่ฉันได้สืบย้อนประวัติครอบครัวของนาย ในการสืบสวน ฉันได้ค้นพบบางอย่าง ซึ่งมันเกือบทำให้ฉันไขว้เขว”
จิวโมไป๋มองอาจารย์สาวด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าเธอจะสืบย้อนกลับไปไกลขนาดนั้น
ลู่หว่านอธิบายต่อ”นายคงรู้อยู่แล้วว่า เมื่อเข้าสู่ยุครุ่งอรุณ นอกจากคนทั่วไปที่มีตำหนักยุทธที่ช่วยให้ผู้คนบ่มเพาะพลังแล้ว ยังมีการปลุกสายเลือดและการปลุกความสามารถพิเศษต่างๆ ความสามารถเหล่านั้นบางอย่างก็แข็งแกร่ง บางอย่างก็อ่อนแอ บรรพบุรุษตระกูลจิว ตระกูลทางฝั่งพ่อของนาย ก็ได้ปลุกความสามารถขึ้นมาเช่นกัน”
จิวโมไป๋ขยับเล็กน้อย เมื่อได้ยินเกี่ยวกับตระกูลของตัวเอง เพราะมันเป็นปริศนาสำหรับเขามาตลอด หลังจากเข้าหน่วยลับ เขาได้ค้นหาเกี่ยวกับญาติทางฝั่งพ่อและแม่ ก็ไม่พบข้อมูลใดๆที่สำคัญ มีบันทึกเพียงแค่ว่า ญาติฝั่งพ่อและแม่ของเขาทั้งหมดเสียชีวิต
ซึ่งมันแปลกประหลาดอย่างมาก ที่ครอบครัวของพวกเขาเสียชีวิตทั้งหมด โดยไม่เหลือญาติซักคนเดียว
แต่ในตอนนั้นเขาเชื่อข้อมูลที่ตัวเองได้รับ เพราะข้อมูลที่เขาได้มาจากหน่วยมังกรซ่อนโดยตรง ข้อมูลจึงน่าเชื่อถือ
เขาคิดว่าตระกูลทางฝั่งพ่อและแม่โชคร้ายเสียชีวิตทั้งหมด เขาจึงไม่ได้ติดตามต่อ
แต่ตอนนี้ อาจารย์สาวได้พูดถึงบรรพบุรุษตระกูลจิว แสดงว่าตระกูลของเขาไม่ได้เสียชีวิตทั้งหมดจริงๆ มันต้องมีความลับอะไรบางอย่าง
ลู่หว่านปล่อยให้จิวโมไป๋ได้ใช้ความคิด เมื่อเห็นว่าจิวโมไป๋ได้ย่อยข้อมูลทั้งหมดแล้ว เธอมองไปยังดวงตาของจิวโมไป๋และโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ดวงตาคู่งามเปล่งประกายลึกลับ
“อยากรู้ไหม ว่าบรรพบุรุษตระกูลจิว ปลุกความสามารถอะไร?”
จิวโมไป๋นิ่งไม่ตอบสนองต่อการกั่นแกล้งเล็กๆของอาจารย์สาว เขารู้ว่า ถึงเขาจะไม่อยากรู้ อาจารย์สาวจะต้องพูดอยู่ดี
ลู่หว่านดึงตัวกลับและพ้นลมหายใจ อย่างไม่พอใจ เธอมั่นใจแล้วว่า จิวโมไป๋จะต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับตัว’เธอ’ ก่อนที่เขาจะย้อนเวลากลับมาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้ถึงลักษณะนิสัยของเธอได้ยังไง มันทำให้เธออารมณ์เสียเล็กน้อย ที่ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถกลั่นแกล้งจิวโมไป๋ได้ เธอสูดลมหายใจตั้งสมาธิ จากนั้นเธอก็เริ่มพูดต่อ
“บรรพบุรุษตระกูลจิว ปลุกความสามารถที่หายาก‘ทำนาย’“
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ความทรงจำบางอย่างผุดเข้ามาในใจ พลังกดดันพลันระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ลู่หว่านไม่คิดว่า จิวโมไป๋จะตอบสนองอย่างนี้ เธอรีบแผ่พลังกดดันของเธอ โอบล้อมห้องอย่างรวดเร็ว ทำให้มีเพียงโต๊ะหน้าโซฟาที่สร้างจากไม้อย่างดี แตกหักและพังลง
จิวโมไป๋รู้สึกตัว เขาก็ดึงพลังกดดันกลับ เขารู้สึกอายเล็กน้อยจึงก้มหัวขอโทษ
“จากปฏิกิริยาของนาย ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษตระกูลจิว จะต้องทำอะไรบางอย่างที่ไม่น่าให้อภัย จากที่ฉันสืบมาบรรพบุรุษตระกูลจิว ได้ตัดขาดกับตระกูลจิวสายสาขาทั้งหมด รวมถึงสายเลือดทางฝั่งพ่อของนาย นายจึงไม่เคยพบบรรพบุรุษตระกูลจิวมาก่อน แสดงว่าในอนาคตบรรพบุรุษตระกูลจิวจะต้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้นายต้องโกรธแค้น”ลู่หว่านคาดเดาบางอย่าง
จิวโมไป๋ยิ้มเย็น แต่ไม่ตอบ เขาไม่รู้จักบรรพบุรุษจิว แต่เขารู้ฉายาของอีกฝ่ายในนามของเทพพยากรณ์!