บันทึกลับนางเอก -คริสติน่า เบลทรัมต์- - ตอนที่ 2
เช้าหลังจากทราบการลักพาตัวเจ้าหญิงลำดับที่สอง ฟลอร่า ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเต็มฟ้า และมืดในตอนเช้าที่ปราสาทอาณาจักรเบลทรัมต์
เมื่อคืน โรอาน่าพักอยู่ในห้องของคริสตินาในปราสาท ฟลอร่าถูกลักพาตัว และเธออยากอยู่เคียงข้างคริสตินา แม้ว่าเธออาจจะไม่สนใจก็ตาม
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะนอนห้องเดียวกัน เนื่องจากเธอเป็นถึงองค์หญิงลำดับที่หนึ่ง
ห้องนั่งเล่นของคริสตินาจึงแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น ห้องพัก จะมีห้องนอนหลัก ห้องแต่งตัว ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องอ่านหนังสือ และห้องนอนรอง
โรอาน่าพักอยู่ในห้องนอนรองเมื่อคืนนี้…
「 ค่ะ…… 」
ยามรุ่งสาง เธอตื่นขึ้นมา และได้ยินเสียงว่ามีคนอยู่นอกห้อง ข้างนอกหน้าต่างยังค่อนข้างมืด
( …ท่านคริสติน่า ? )
เป็นไปได้ไหมว่าเธอตื่นแล้ว ?
เมื่อคืนนี้ เพิ่งเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น บางทีเธออาจจะนอนไม่หลับเพราะอาการช็อค ?
โรอาน่าขยี้ตาที่กำลังงัวเงียของเธอ เพื่อเรียกสติของเธอ และเปิดประตูที่ทอดยาวไปสู่ห้องนั่งเล่น จากนั้น เธอเห็นคริสติน่าที่กำลังหยิบเครื่องแบบ และเสื้อคลุมของราชวิทยาลัยออกจากห้องแต่งตัว…
「 …ท่านคริสตินา ท่านกำลังทำอะไรอยู่คะ ? 」
โรอาน่าประหลาดใจ ราวกับว่าเธอไม่ได้พักผ่อนเลยจึงเอ่ยถามคริสตินา
「 ฉันจะไปห้องสมุดโรงเรียน 」
「 …ตอนนี้เหรอคะ ? ฟ้ายังไม่ถึงรุ่งสางเลยนะคะ 」
โรอาน่ามองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงสลัว ๆ เป็นเรื่องจริงที่ว่าวันนี้มีการเรียนที่สถาบัน แต่ถึงแม้จะไปทันคาบแรก แต่ก็ยังเหลือเวลาก่อนเริ่มตาบอีกตั้ง 2-3 ชั่วโมง
「 เธอนอนต่อก็ได้ 」
คริสติน่าไม่ได้กล่าวอะไรมาก แต่หยิบเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนที่เธอหยิบออกมา และกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ห้องของเธอ
「 เอ่อ… เอ่อ คอยเดี๋ยวก่อน ! ฉันจะช่วยด้วยคะ ! 」
ในฐานะลูกสาวของดยุค
โรอาน่าเป็นขุนนางเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เป็นเพื่อนกับคริสตินา และฟลอร่า บางครั้งเธอก็ดูแลราวกับเหมือนเป็นข้าราชบริพาร
โรอาน่ารีบตามคริสติน่าไป โดยไม่อยากให้คริสติน่าเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยตัวเอง จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่ห้องนอนของคริสติน่า
「 ทำไมท่านถึงจะไปห้องสมุดโรงเรียนเวลานี้เหรอคะ ? 」
ห้องสมุดของราชวิทยาลัย และยังเป็นห้องวิจัยสำหรับอาจารย์อีกด้วย
เธอควรจะสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ ตราบใดที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยามกลางคืน
แต่การมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุดดึกดื่นนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติซึ่งปกติแล้วคริสติน่าจะเคยทำ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวของฟลอร่าเมื่อคืน
โรอาน่ากล่าวถามอย่างลังเล และสงสัยว่าเธอกำลังตามหาเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้
「 ฉันสงบสติอารมณ์ไม่ได้ 」
คริสติน่าตอบด้วยความรู้สึกรำคาญ เห็นได้ชัดว่าเธอกลุ่มใจ และกังวลมากกว่าจะเป็นความโกรธ ฉันไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนว่าทำไมฉันรู้สึกกังวล
「 …อาหารเช้าล่ะคะ ? 」
ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาอาหารเช้า
「 แล้วท่านล่ะ… ? 」
ถึงอย่างนั้น ทำไมท่านถึงไปห้องสมุดในเวลานี้ล่ะ ? หรือท่านคริสติน่าจะมีจุดประสงค์อื่น ?
เมื่อคืนยังขอเข้าร่วมการตามหาฟลอร่าด้วยซ้ำ และถูกองค์ราชาดุ
โรอาน่าอยากได้ยินมากกว่านี้ แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรอีก
ระหว่างนั้น คริสติน่าก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว…
「 ฉันจะไป… 」
คริสติน่าพยายามออกจากห้องอย่างรวดเร็วราวกับว่าเวลาของเธอกำลังจะหมดลง
「 กรุณารอก่อนค่ะ ! ฉันจะไปกับท่านด้วย ! ฉันจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ! 」
ฉันตรงไปที่ปราสาทหลังจากออกจากโรงเรียน และอยู่ที่นั่นดังนั้นฉันจึงต้องมีเครื่องแบบ โรอาน่าตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
จากนั้น คริสติน่า และโรอาน่าสวมเสื้อคลุมที่นักเรียนในสถาบันสวมใส่ และออกจากห้องในทันที มีอัศวินหญิงยืนเฝ้าอยู่นอกประตู…
「 ไปโรงเรียนเหรอคะ ? พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย… 」
แน่นอนว่าเธอไม่พอใจกับการที่องค์หญิงลำดับที่หนึ่ง ออกไปข้างนอกอย่างผิดปกติในช่วงเช้าตรู่
「 มันคงช่วยไม่ได้ตั้งแต่เธอตื่นแล้วล่ะ 」
คริสติน่าพูดกล่าวอย่างไม่พอใจ
「 ท่านคิดจะทำอะไรในเวลาแบบนี้กันคะ… ? 」
เธอถามอย่างสงสัย
「 ฉันรู้สึกไม่สบายใจแม้จะอยู่ในห้อง ฉันพยายามอ่านหนังสือเพื่อเบนความสนใจ 」
แต่ว่า…
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าท่านคริสติน่า และท่านฟลอร่าเป็นพี่น้องกัน
เมื่อพิจารณาถึงความรู้สึกของคริสติน่าหลังจากที่น้องสาวคนสำคัญของเธอถูกลักพาตัวไป เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม อัศวินหญิงยังคงไม่เต็มใจ
ถ้าพูดว่า “แต่” เดาว่าท่านตอบไปตามปกติแล้ว…
「 มันเป็นปัญหาเรื่องเวลา อย่างน้อยขอฉันคุยกับหัวหน้าวาเนสซ่าก่อนพะยะค่ะ… 」
「 วาเนสซ่าได้ออกเวลาออกไปตามหาฟลอร่าแล้วใช่มั๊ย ? 」
วาเนสซ่ารับผิดชอบในการค้นหาฟลอร่าร่วมกับเซเรียตั้งแต่รุ่งเช้า ถ้าเข้าไปแล้วคงไม่มีทางได้คุยกัน
「 …ไม่ค่ะ เราจะออกเดินทางกันหลังรุ่งสาง ดังนั้นฉันคิดว่าท่านกำลังทานอาหารเช้าอยู่ 」
เมื่ออัศวินสาวพูดด้วยท่าทีลำบากใจ…
「 เร็ว ๆ สิ บอกทีว่าตอนนี้วาเนสซ่าอยู่ที่ไหน 」
ดวงตาของคริสติน่าหรี่ลง และเธอพูดอย่างห้วน ๆ
「 ……เข้าใจแล้วพะยะค่ะ 」
อัศวินหญิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจ จากนั้น เราทั้งสามคนก็มุ่งหน้าไปที่ห้องอาหารที่วาเนสซ่าอยู่
เซเรียก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเธอกำลังทานอาหารร่วมกันก่อนออกเดินทาง
เมื่อฉันอธิบายให้วาเนสซ่าฟังอีกครั้ง คำอธิบายที่ฉันให้เกี่ยวกับโรอาน่า และอัศวินหญิง…
「 ก็ได้พะยะค่ะ อย่างไรก็ตาม โปรดให้เธอติดตามไปเป็นเพื่อนท่านจนกว่าจะถึงเวลาไปสถาบันเถอะค่ะ 」
วาเนสซ่าคำนึงถึงความรู้สึกของคริสติน่า เธออาจกังวล และอนุญาตให้เธอไปห้องสมุด
「 การให้คอยตามตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน จะไม่น่ารำคาญเหรอคะ ? 」
เป็นที่ทราบกันดีในหมู่อัศวินหญิง ว่าคริสติน่ามีพื้นที่ส่วนตัวขนาดใหญ่ วาเนสซ่าทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วย จึงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
「 ฉันคิดจะให้พวกเธอรอตรงเคาน์เตอร์ห้องสมุด 」
วาเนสซ่ารีบตอบทันทีว่าห้องสมุดมีการเช็คอิน และเช็คเอาท์ จึงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ที่นั่น
「 ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นอะไร ไปเถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว เธอต้องออกตามหาตัวฟลอร่าอีก 」
「 …ขอบคุณที่อุตส่าห์เข้าใจ 」
ดวงตาของวาเนสซ่าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อวานเธอร้อนใจมากจนสูญเสียความเยือกเย็น แต่ตอนนี้เธอกลับเข้าใจอย่างน่าประหลาดใจ
「 ฉันคาดหวังในตัวคุณนะ อาจารย์เซเรีย ขอโทษที่ทำให้คุณต้องออกไปนอกปราสาท 」
「 ไม่หรอกค่ะ พวกเราจะเดินทางด้วยรถม้าน่ะค่ะ 」
「 ถ้าอย่างนั้น …พวกเราต้องขอตัวก่อน ไปกันเถอะโรอาน่า 」
ด้วยเหตุนี้ คริสติน่าที่พูดจบ หันหน้าแล้วเดินจากไป
「 ขอตัวก่อนน่ะคะ 」
โรอาน่าโค้งคำนับ และเดินตามคริสติน่าไป พร้อมกับอัศวินหญิงคุ้มกันทั้งสามคนไปที่ห้องสมุดของราชวิทยาลัย
การพูดคุยเริ่มเมื่อประมาณชั่วโมงที่แล้ว แม้ว่าจะยังเช้าอยู่ แต่ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นเต็มฟ้าแล้ว เมืองหลวงของราชวงศ์ก็แจ่มใส
ตำแหน่งปัจจุบันอยู่ห่างจากสลัมเพียงไม่กี่ช่วงตึก ทันทีหลังจากที่วาเนสซ่า และเซเรียเริ่มออกเดินทาง และรถม้าก็ออกไปแล้ว
「 จนได้สิ… 」
วาเนสซ่าเอามือกุมศรีษะตัวเอง
เบื้องหน้าของฉันคือ “คริสติน่า เบลทรัมต์” ซึ่งควรจะมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดของราชวิทยาลัย และโรอาน่า ฟอนเทนต์ ผู้ติดตามของเธอ
「 อ่า ฮ่ะ… 」
เซเรียยิ้มอย่างขมขื่น บางทีอาจจะรู้สึกเสียใจแทนวาเนสซ่า
「 …ท่านมาที่นี่ได้ยังไง ? 」
วาเนสซ่าถอนหายใจ และถามคริสตินา
「 ฉันได้ซ่อนตัวบนรถบรรทุกสินค้า 」
คริสติน่าตอบอย่างเคอะเขิน ๆ ท่าทางที่สง่างามของเธอแม้ว่าจะหนีออกจากปราสาทมาแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกตกใจ และยังชื่นชมเธออีกด้วย
โรอาน่าดูไม่สบายใจเล็กน้อย แต่หลังจากเห็นแผ่นหลังของคริสติน่า เธอรู้สึกเหมือนจะเข้มแข็งขึ้น
「 ไม่สิ …แล้วอัศวินที่ควรอยู่กับท่านล่ะ ? 」
「 บางทีอาจจะอยู่ที่ห้องสมุด ไม่ก็อาจจะรู้สึกตัวว่าเราหายไปแล้ว ฉันเลยตั้งใจทิ้งโน้ตเอาไว้ 」
「 …ฉันน่าจะออกคำสั่งให้เข้มงวดในการจับตาท่านเอาไว้ 」
วาเนสซ่าเอามือแตะหน้าผากแล้วหายใจเข้าลึก ๆ
「 แต่ท่ท่านขึ้นรถม้ามาได้อย่างไร ? 」
「 แม้ว่าท่านจะแอบเข้าไปในรถที่บรรทุกสินค้า แต่ก็เหมือนยากที่จะขึ้นลงโดยที่คนขับไม่สังเกตุ… 」
หลังจากที่เซเรีย และคนอื่น ๆ ลงจากรถม้าไป
คริสติน่า และโรอาน่าก็ลงจากรถคันหลังที่ห่างไปเล็กน้อยแล้วไปสมทบกับเซเรีย และคนอื่น ๆ
วาเนสซ่า และเซเรียคงจะสังเกตเห็นว่าพวกเธออยู่ในกระโจน สถานที่ขึ้นสำหรับรถบรรทุกสินค้า
แต่เนื่องจากโครงสร้างของรถม้าที่ขุนนางนั่ง ห้องโดยสารจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ และการที่จะยกสัมภาระขึ้นได้มีเพียงหลังคาด้านนอกของรถม้าเท่านั้น
เวลาบรรทุกสินค้า จะถูกคลุมด้วยผ้ากันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้โดนลม และฝน จึงแปลกมากที่พวกเธอจะแอบขึ้นโดยไม่มีใครเห็น
เนื่องจากพวกเขาจะต้องตรวจสอบสินค้าก่อนออกเดินทาง
ไม่มีทางสำเร็จแน่ ๆ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ
「 จริงเหรอคะ…? 」
「 ฉันอธิบายสถานการณ์ให้คนขับรถม้าเข้าใจ ฉันเลยขึ้นนั่งรถม้าที่วาเนสซ่าจะขึ้นกันอย่างลับ ๆ 」
คริสติน่าเผยว่าเธอกอดอกเอาไว้
「 …ไม่ใช่การอธิบาย แค่เป็นข่มขู่มากกว่านะคะ ? 」
วาเนสซ่าถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วน สารถีหากองค์หญิงลำดับที่หนึ่ง กล่าวพูดก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลย
เขาจะไม่สามารถขัดขืนได้เลย แม้ว่าจะรู้สึกสงสัยก็ตาม
แต่…
หากคุณพูดไม่เข้าเรื่อง อาจทำให้เธออารมณ์เสีย ก็อาจเป็นเหตุให้คอหลุดได้เลย
「 ไม่รู้เลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง 」
「 เราควรทำอย่างไรดี ? 」
เซเรียถามวาเนสซ่าว่าเธออยากจะทำภารกิจค้นหาฟลอร่าต่อไปไหม หรือพยายามส่งคริสติน่า และโรอาน่ากลับไปที่ปราสาท แต่รถม้าก็ดันออกไปเสียแล้วฃ
รถม้าที่มารับกลับ ก็จะมาตอนเที่ยง…
หากไปที่ศูนย์ทหารในเมืองหลวง อาจจะพอมีรถม้า แต่ก็ต้องใช้เวลาไปกลับ 1 ชั่วโมง ทำให้เสียเวลาอย่างมาก
วาเนซซ่าถึงกับพูดไม่ออก และนิ่งเงียบไปสักพัก
「 เธอจะออกไปตามหา แล้วปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวเหรอ ? 」
คริสติน่าเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของวาเนสซ่า และพูดอย่างไม่ลังเล
วาเนสซ่าก็มองย้อนกลับไปที่คริสตินาเช่นกัน
คริสติน่าเป็นเด็กที่มีไหวพริบ
เหตุผลที่เธอปรากฏตัวเวลานี้หลังจากส่งรถม้ากลับนั้น น่าจะคำนวนเอาไว้แล้ว
「 ในเมื่อในสถานการณ์เป็นเช่นนี้ คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องให้ร่วมทางไปด้วย 」
「 ช่างเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นมาก… 」
มีความกล้าหาญ และเฉลียวฉลาด แต่ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหน ก็ยังหุนหันพลันแล่น แต่ความฉลาดแกมโกงจนไม่คิดว่าเป็นเด็ก 7 ปี เอาเสียเลย
วาเนสซ่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดีกับคริสติน่า เมื่อพิจารณาว่าเธอทำทุกอย่างเพราะเธอคิดถึงฟลอร่า ดังนั้น…
「 …ในสลัมโปรดเชื่อฟังฉันด้วยนะคะ 」
หลังความขัดแย้งที่รุนแรง วาเนสซ่ายอมรับคริสตินา และโรอาน่า
「 ฉันรู้แล้ว… 」
วาเนสซ่าพยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
「 นอกจากนี้ โปรดเตรียมใจโดนดุหลังจากนี้ด้วยนะคะ ฉันปกป้องเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะคะ 」
「 ฉันรู้เรื่องอยู่แล้ว 」
ด้วยวิธีนี้ คริสติน่า และโรอาน่าจึงร่วมกันค้นหาฟลอราได้ และเข้าไปในเขตสลัม
ไม่กี่นาทีต่อมา คริสติน่า และคนอื่น ๆ ก็เดินไปบนถนนในเขตสลัม
ตามคำแนะนำของวาเนสซ่า คริสติน่า โรอาน่า และเซเรียตัดสินใจปกปิดใบหน้าของพวกเธอด้วยเสื้อคลุมของพวกเขา
สลัมเป็นเขตนอกกฏหมาย
สำหรับคริสตินา และคนอื่น ๆ เกิด และเติบโตในปราสาทหลวง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเธอได้มองเห็นโลกแห่งความยากจน
อาจเป็นเพราะยังเช้าอยู่ จึงมีคนอยู่น้อยมากในเขตสลัม
มีบ้านที่สร้างอย่างหยาบ ๆ เรียงรายเป็นแถบ แต่บริเวณนี้ช่างเงียบสงบ อย่างไรก็ตาม รู้สึกได้ว่ากลิ่นบางอย่างลอยโชยเข้ามา
「 เหม็นจัง… ท่านไหวมั๊ยคะ ท่านคริสติน่า ? ท่านควรเอาผ้าเช็ดหน้าปิดเอาไว้นะคะ… 」
โรอาน่ากังวลเรื่องสุขภาพของคริสติน่า
「 ไม่เป็นไร 」
คริสติน่าตอบเพียงแค่ว่ามันไม่สำคัญ ฟลอร่าอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในเขตสลัมแห่งนี้ ถ้าต้องกังวลว่าอยากกลับบ้านเพราะกลิ่นพวกนี้ ฉันคงไม่มาที่นี่ตั้งแต่แรก
กลับกันแล้ว—
「 [เสิร์ช] ของเซเรียคุง รัศมีประมาณ 50 เมตร สินะ 」
「 ค่ะ 」
「 กรณีนี้ หากใช้ในระยะต่อหลังเลยระยะนั้น น่าจะได้ประสิทธิภาพมากกว่า 」
วาเนสซ่า และเซเรียไม่ได้กังวลเรื่องกลิ่น และกำลังพูดคุยเรื่องที่จำเป็นสำหรับงานของพวกเธอ
「 ค่ะ มาลองกันเถอะ 《เสิร์ช》」
เมื่อเซเรียร่ายมนตร์ วงเวทปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้าของเธอ ต่อมาคลื่นแสงแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ…
「 …ไม่พบปฏิกิริยาใด ๆ เลย 」
เซเรียส่ายหัวอย่างเศร้าใจ
「 เข้าใจแล้ว เป็นไปได้ ฉันอยากลองสอบถามจากผู้อาศัยแบบสุ่ม ๆ เผื่อจะมีผู้เห็นเหตุการณ์บ้าง… 」
「 มีคนน้อยกว่าที่คาดไว้อีก 」
วาเนสซ่า และเซเรียมองไปรอบ ๆ ในทางกลับกัน—
เธอคงคิดว่าในเมื่อเธอบังคับฝ่าฝืนที่จะตามมา มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เธอสามารถช่วย คริสติน่าก็มองหาเบาะแสรอบ ๆ
「 คงไม่ดีแน่ ถ้าคนที่ไปสอบปากคำมีความเกี่ยวข้องกับพวกโจร 」
「 ถ้ามองจากด้านข้าง ไม่มีใครรู้หรอก 」
ขณะที่วาเนสซ่า และเซเรียกำลังเดินคุยกัน สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น…
「 แล้วเด็กผู้หญิงผมสีดำตรงนั้นล่ะ ? 」
คริสติน่าชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งในทางเดินมา พบเด็กน้อยผมสีดำคนหนึ่ง
「 ถ้าเป็นเด็ก ก็คงไม่ต้องระแวงใช่มั๊ยล่ะ ? 」
คริสติน่าอธิบายว่าสาเหตุที่เลือกเด็กคนนั้น
ดังนั้น…
「 …เอาล่ะ เด๊่ยวฉันจะไปสอบถาม พวกท่านทั้งสามรออยู่ข้างหลังฉันนะ 」
วาเนสซ่าเป็นผู้นำ ทุกคนจึงตัดสินใจเข้าหาเด็กคนนั้น
เด็กคนนั้นคุกเข่าบนพื้น ไม่มีการเคลื่อนไหว ด้วยสีหน้ากระสับกระส่ายราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เนื่องระยะที่ห่างมาก ฉันมองเห็นเธอคนนั้นได้ไม่ชัดเจน แต่เธอสวมเสื้อผ้าสกปรก ผิวหยาบกร้าน ผมเผ้ารุงรัง ยากที่จะบอกว่าเป็นเด็กผู้ชาย หรือเด็กผู้หญิง
ฉันมองเธอคนนั้น…
คริสติน่าอ้าปาก พูดอะไรไม่ออก
เธออายุอาจจะพอ ๆ กับฉัน แต่เธอห่างไกลจากภาพลักษณ์ของเด็กที่ตัวเองรู้จักมาก ฉันตกใจมากที่ได้เห็นว่ามีเด็กแบบนี้อยู่ในประเทศนี้
บางทีนั้นอาจเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมคริสติน่าอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเด็กคนนั้น ราวกับกำลังสังเกตุการณ์อย่างไม่ลังเลใจ…
「 นี่… เธอตรงนั้นน่ะ ? 」
วาเนสซ่ากล่าวพูดกับเด็กคนนั้น…
เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นอย่างเงียบสงบ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของวาเนสซ่า ต่อไปก็เบนความสนใจไปที่เซเรีย คริสตินา และโรอาน่าที่กำลังสวมฮู้ดปกปิดใบหน้า
ดวงตาของเด็กคนนั้นไม่เป็นมิตร เฉียบคม และเย็นชา กำลังระวังตัว บางทีอาจพยายามค้นหาตัวตนของคนที่เรียกตัวเอง
เธอจ้องมองกลับมาเหมือนที่ตัวเอง แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในชีวิต ทำให้คริสติน่าอดไม่ได้ที่เกิดอารมณ์เสีย ดังนั้น…
「 กลิ่น…… ? 」
ปฏิกิริยาตอบโต้อัติโนมัติ คำพูดรังเกียจออกมาจากปากของคริสติน่า แม้ว่าเธอจะเข้าใจว่าแหล่งที่มาของกลิ่นนั้นน่าจะเป็นสิ่งเฉพาะของเขคสลัม…
「 อย่าสูดเกินไปนะคะ เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ 」
โรอาน่ากังวลเรื่องร่างกายของคริสตินา
เด็กคนนั้นขมวดคิ้ว
「 เฮ้ย แกกำลังฟังฉันอยู่หรือเปล่า ? หรือว่าจะไม่เข้าใจคำพูดกันห๊ะ ? 」
วาเนสซ่าถามด้วยน้ำเสียงรุนแรง…
「 กำลังฟังอยู่ แต่อะไรล่ะ ? 」
เด็กคนนั้นเปิดปากเป็นครั้งแรก
「 แกเห็นเด็กผู้หญิงผมสีม่วงอ่อนบ้างไหม ? เธออายุพอ ๆ กับแกเลย 」
วาเนสซ่าเข้าประเด็นหลัก
อย่างไรก็ตาม…
เด็กคนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเหนื่อยล้า เหลือบมองคริสติน่า และคนอื่น ๆ จากนั้นก็ถอนหายใจ และกำลังหันหลังจะเดินจากไป
「 เฮ้ย ! เดี๋ยวก่อน ตอบคำถามมา 」
วาเนสซ่าเดาะลิ้นของเธอ และตะโกนเรียกเด็กคนนั้น แต่…
「 ไม่รู้ ! 」
เด็กตอบอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าไม่ได้ให้สนใจ
( เด็กคนนี้… )
เมื่อเห็นริโอะปฏิบัติต่อเธอราวกับเป็นเรื่องยุ่งยาก
คริสตินาก็เริ่มหงุดหงิดใจ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาเหลือจะมาถามอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม—
「 พูดความจริงมาซะ 」
คริสติน่าเปิดปากของเธอโดยสัญชาตญาณแล้วสั่งเด็กตรงหน้า
「 ถ้าพูดออก จะไม่ถูกตั้งข้อหา 」
โรอาน่าตามต่อคริสติน่า
เพราะฉะนั้น—
เด็กคนนั้นพยายามพูดต่อว่า “ไม่รู้”
「 ทุกคนคะ ฉันไม่คิดว่าเขาจะตอบหรอกคะ ถ้าไปถามเขาแบบนั้น 」
เป็นครั้งแรกที่เซเรีย เข้าร่วมการสนทนา พวกเธอปล่อยให้การสอบสวนอยู่ที่วาเนสซ่า แต่การสนทนาคนไม่คืบหน้า ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อยู่…
「 อืม เซเรียคุง 」
วาเนสซ่ามองไปที่เซเรีย
「 ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันนะคะ ท่านวาเนซซ่า 」
「 ฉันเข้าใจแล้ว เธอที่เป็นอาจารย์น่าจะเหมาะกับเรื่องนี้มากกว่า 」
วาเนสซ่าลังเลเล็กน้อย แต่ก็มอบไม้ต่อให้กับเซเรียที่ทำงานกับเด็ก ๆ ที่ราชวิทยาลัย
「 ขอโทษนะจ๊ะ ที่ทำให้เธอต้องตกใจ เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันชื่อเซเรีย 」
เซเรียก้าวไปหาเด็กตรงหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
「 …ริโอะ 」
เด็กคนนั้น―― ริโอะลดความระมัดระวังลงเล็กน้อยแล้วตอบอย่างเหม่อลอย
「 ริโอะ ? เป็นชื่อที่แปลกจังนะ 」
「 …เพราะผมเป็นลูกของผู้อพยพ 」
「 เข้าใจแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมีผมสีดำสินะ ว่าแต่ริโอะ มีเรื่องอยากจะถามเธอสักหน่อย ช่วยบอกฉันหน่อยได้มั๊ย 」
「 ไม่เป็นไรครับ 」
ทันทีที่ผู้สนทนาเป็นเซเรีย ริโอะก็เริ่มตอบอย่างเชื่อฟัง
( …อะไรนะ ? ไม่แม้แต่จะพูดกับเธอด้วยซ้ำ )
คริสติน่าเข้าใจที่เขาไม่ชอบทัศนคติของพวกเธอ แต่ก็ไม่อาจทำใจยอมรับความผิดของตัวเองได้ และจบลงด้วยการทำหน้าบูดบึ้ง
ท้ายที่สุดแล้ว…
เธอเป็นถึงองค์หญิงลำดับที่หนึ่งของประเทศนี้ ไม่เคยถูกสอนให้พูดคุยกับผู้คนในเขตสลัมมาก่อน —นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้พูดคุยกับคนอื่นที่ไม่ใช่ราชวงศ์ หรือขุนนาง
( …ฉันไม่ใจเลย )
คริสติน่าเปลี่ยนความรู้สึกเจ็บปวดของเธอไปทางริโอะ
แล้ว…
「 ฉันกำลังตามหาด็กผู้หญิงผมสีม่วงอยู่ แต่เธอไม่รู้จักเคยเห็นบ้างเหรอ ? 」
ในที่สุดเซเรียก็ถามเข้าประเด็นกับริโอะ
「 ผมไม่เคยเห็นเลยนะ 」
ริโอะยังคงส่ายหัว
「 แต่ว่า… 」
( แต่อะไร ? )
คริสติน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญ
เธอสงสัยว่าเด็กคนนี้ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ แต่อย่างไร หากตัวเองเข้าไปแทรกตอนนี้การสนทนาได้จบลงแน่
เธอจึงได้แต่กลั้นใจไว้ และมนเงียบต่อไป
「 เข้าใจแล้ว… ข้างหน้าเป็นเขตสลัมใช่มั๊ย ? 」
เซเรียลดน้ำเสียงลงราวกับผิดหวัง แต่เธอก็ตั้งสติ และพูดต่อ…
「 ใช่ 」
「 ข้างในมันกว้างหรือเปล่า ? ฉันกำลังคิดจะเข้าไปข้างใน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไร 」
「 ค่อนข้างใหญ่ และซับซ้อน แต่… คุณจะเข้าไปข้างในเหรอ ? 」
ริโอะถามด้วยสายตาเบิกกว้าง
「 ใช่ ฉันต้องไปหาเด็กคนนั้น 」
เซเรียเห็นด้วยโดยไม่ลังเล
「 คุณควรหยุดดีกว่านะ 」
「 ทำไมล่ะ ? 」
「 …เสื้อผ้าที่ดูดีจะตกเป็นเป้าให้เข้าโจมตีได้ 」
「 …ยังจะยังเช้าอยู่คนเลยไม่ได้เยอะ แต่ก็ยังมีคนเดินไปมา ไม่ใช่ที่สำหรับผู้หญิงแบบคุณ 」
หลังจากดูร่างกายของเซเรียแล้ว
ริโอะก็พูดคำแนะนำราวกับเขากังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเธอเอง
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างสุภาพ และค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่
สำหรับเด็กกำพร้า เขามีมารยาทที่ดีมาก
โรอาน่าดูประหลาดใจ และพึมพำ ในทางกลับกัน—
( อะไรน่ะ… สุภาพกับอาจารย์เซเรียมาก แต่ทำไมทีกับฉันถึง… )
คริสติน่าก็ประทับใจเช่นกัน แต่เธอก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกไม่สบายใจที่ไม่ทราบสาเหตุของตัวเอง
เขาก็พูดตามปกติ แล้วทำไมเธอถึงยังหวั่นไหวอยู่ล่ะ ?
พอคิดเกี่ยวกับเหตุผลในช่วงเวลา—
( หน้าตาแบบนั้น… )
คริสติน่าเธอตกใจเมื่อดวงตาของเธอสบเข้ากับริโอะเป็นครั้งแรก
ช่วงนั้นเองที่เขาหันมามองที่ฉัน ร่างกายของคริสติน่าสั่นเทาโดยไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากอารมณ์บางอย่างที่ตัวเองไม่รู้จัก
เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันสงสัยว่าจะสามารถเรียกสิ่งนี้ว่าความอัปยศอดสูได้มั๊ย หรืออาจจะเป็นความรู้สึกพ่ายแพ้ในฐานะองค์หญิงลำดับที่หนึ่ง
ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเมื่อคิดว่าตัวเองต้องหวั่นหวั่นแบบนี้
กลับกัน
ขณะที่คริสติน่ากำลังคิดเรื่องนี้อยู่…
「 เข้าใจแล้ว ช่วยได้เยอะเลยล่ะ 」
เซเรียกำลังสอบถามเขา
( ตอนนี้ฉันต้องหาฟลอร่าก่อน… ไม่ได้ประโยชน์ที่จะหงุดหงิดกับคนตรงหน้านี้ต่อไป )
คริสติน่ากลับมาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง
หลังจากนั้นเซเรียก็ถามริโอะเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ อย่าง เสื้อผ้าที่ผู้หญิงในเขตสลัมใส่กันสวมเสื้อผ้า ที่มาของความสุถาพของเขา หรือเรื่องที่เขาสูญเสียมารดาไป ?
เซเรียใช้เวทมนตร์ค้นหา และปรากฎว่าริโอะเป็นที่มีความสามารถทางเวทย์มนตร์
เมื่อมอบรางวัลให้กับริโอะสำหรับความร่วมมือ และเพื่อปิดปากได้เช่นกัน…
「 อืม…ขอบคุณจ๊ะ ที่ช่วยเตือน ฉันจะระมัดระวัง 」
「 …ไม่หรอก ยินดีครับ 」
「 โชคดีนะ 」
เซเรียอาจรู้สึกเห็นใจต่อสถานการณ์ของริโอะ ในขณะที่เขาสูญเสียแม่ และอาศัยอยู่ในเจตสลัม กล่าวคำอำลาอย่างเศร้าใจ
「 ไปกันเถอะเซเรียคุง 」
「 ค่ะ ! 」
เมื่อเรื่องเป็นเช่นนั้น…
คริสติน่า และคนอื่น ๆ ก็ได้ออกตามหาต่อ
นี่เป็นเรื่องราวที่คริสติน่า…
องค์แรกลำดับที่หนึ่งของอาณาจักรเบลทรัมต์ ได้พบเจอกับริโอะ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นผู้ช่วยเหลือชีวิตของเธอ
หลังจากนั้น…
คริสตินา และคนอื่น ๆ ออกจากเขตสลัม เนื่องจากวาเนสซ่าตัดสินใจทำตามคำแนะนำของริโอะ ที่ว่าเสื้อผ้าของพวกเธอสะดุดสายตาเกินไป
แล้ว…
「 ท่านคริสติน่า ท่านอยากกลับปรสาทตอนนี้เลยมั๊ย ? 」
เมื่อออกจากเขตสลัม วาเนสซ่าก็ร้องถามคริสติน่า
「 …… ? 」
คริสติน่าไม่เข้าใจความหมายจึงทำได้หน้าบูดบึ้ง
「 ถ้าต้องการซื้อเสื้อคลุม ฉันขอเสนอให้นำไปที่ศูนย์กักกัน 」
「 …ทำไมล่ะ ? 」
「 อย่างแรกเลย ฉันต่อต้านการที่ท่านคริสติน่าตามมาด้วย 」
วาเนสซ่าอธิบายเหตุผลที่อยากส่งคริสติน่ากลับไปที่ปราสาท
เป็นข้อแก้ตัวดีที่จะซื้อเสื้อคลุม
แทนที่จะซื้อเสื้อคลุม และส่งคริสติน่าไปที่ศูนย์ เธอกลับซื้อเสื้อคลุมขณะส่งคริสติน่าไปที่ศูนย์กัน คริสติน่าจะมองออก
( เพราะเขาพูดอะไรแปลก ๆ )
บทสนทนาของเธอ กับริโอะในเขตสลัมแวบขึ้นในหัวของเธอ ความข้องใจของคริสตินากับริโอะก็กลับมาอีกครั้ง
「 …ท่านคริสติน่าคงจะเข้าใจดี ความปลอดภัยในเขตสลัมนั้นหละหลวมใช่มั๊ย ? 」
วาเนสซ่าดูเขินอายมากพยายามเกลี้ยกล่อมคริสติน่า
「 ไม่เชิงหรอก ฉันเพิ่งเจอเด็กคนหนึ่ง 」
「 ฉันเห็นว่าท่านระวังเด็กคนนั้นเอามาก ๆ … ไม่กลัวบ้างเหรอคะ ? 」
วาเนสซ่าสามารถคาดเดาความรู้สึกของคริสติน่าได้ เมื่อเธอได้พบกับริโอะ ราวเธอไม่เป็นแค่หัวหน้าอัศวินเท่านั้น
「 …กลัวเหรอ ? 」
ไม่มีทางที่คริสติน่าจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
「 …ฉันหวังว่าจะคิดผิดนะคะ 」
วาเนสซ่ายักไหล่พร้อมกับถอนหายใจ
ไม่ต้องไปที่ศูนย์ พวกเราจะสืบสวนกันต่อไป…
คริสติน่าประกาศด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
แต่—
「 ถ้าอย่างนั้น… 」
「 ช่วยสัญญากับฉันว่าด้วยว่า เมื่อท่านเจอกับผู้คนในเขตสลัมอีกล่ะก็ ท่านจะอารมณ์เสียเช่นนี้อีก และไม่เอาแต่ใจด้วยนะคะ 」
「 ฉันไม่ได้อารมณ์เสียสักหน่อย 」
「 ถ้าอย่างนั้นช่วยฟังคำูดของฉันแต่โดยดีด้วยค่ะ 」
วาเนสซ่ายังพยายามคุมอารมณ์ของคริสติน่า
คริสติน่าที่แอบหนีออกจากปราสาท เธอบอกจะช่วยท่านฟลอร่า เธอบอกไม่สามารถฝากมันไว้กับคนอื่นได้
อย่างไรก็ตาม…
ในตอนนี้ฉันก็ไม่มีทางเลือกมากนัก บางทีเพราะตระหนักถึงความร้อนใจ และความสิ้นหวังของคริสติน่าได้ดี เธอเองก็ตระหนักได้แต่นิ่งเงียบด้วยอารมณ์หงุดหงิด
แต่…
「 …ฉันเข้าใจแล้ว 」
เพราะเธอรู้ …คำพูดของวาเนซซ่าไม่ได้ผิด คริสติน่าถึงจะดูไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ
ไม่กี่นาทีต่อมา…
คริสติน่าที่ได้อารมณ์เสียอีกครั้ง และได้ลงไม้ลงมือตบริโอะลงไป