บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! - ตอนที่ 352 จดหมายกองเท่าภูเขาล่ะ!
ปัจจุบันแปลถึง 2002 ตอน สนุกมากครับ มีคนรีวิวสนุกเยอะ ทักมาสอบถามได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยาย
SGS บทที่ 352 – จดหมายกองเท่าภูเขาล่ะ!
ระหว่างทางเดินกลับคฤหาสน์ วู่หยานได้ขมวดคิ้วแน่นด้วยสีหน้าใช้ความคิดไปตลอด แม้แต่เหลานักเรียนที่ชี้มือชี้ไม่ใส่เขาก็ไม่สังเกตุเห็น บ่งบอกว่าตอนนี้วู่หยานกำลังเพ่งสมาธิคิดขนาดไหน
ได้ไปคุยกัยคนใหญ่คนโตทำให้วู่หยานรู้ว่าตอนนี้เขากับสาวๆได้กลายมาเป็นเป้าสายตาของทุกคนแล้ว!
เขาคาดไว้อยู่แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะได้ไปข้องเกี่ยวกับตัวตนทรงอำนาจของโลกนี้ ที่เขาคิดไม่ถึงคือมันจะเร็วขนาดนี้!
ตอนแรกเขาก็คิดว่าพลังของกลุ่มเขามันยังไม่นับว่าเป็นอะไรได้…..อิคารอส แอสเทรีย มิโคโตะ ที่เป็นแรงค์8 ส่วนแรงค์7ก็มีแค่ ฮินางิคุกับมิซากิ ส่วนฟรานจัง….อันนี้เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะนับเธอเป็นกำลังของตัวเองได้…..
ทว่าความจริงก็คือในสายตาของตาแก่พวกนั้น แรงค์8ไม่นับเป็นอะไรก็จริง แต่แรงค์8ที่เยาว์วัยแบบนี้มันต่างกัน!
เพราะยังเด็กจึงสามารถเติบโตได้อีก เพราะงั้นพวกตาแก่นั่นถึงได้หันมาสนใจมิโคโตะกับอิคารอส
คิดๆดู จากทั้งโรงเรียน มากกว่า10ล้านคน กลับมีแค่ไม่กี่คนที่เป็นแรงค์8ก่อนอายุ25………..
แต่ทางฝั่งเขากลับมีแล้วสอง แถมตาแก่พวกนั่นยังรู้ว่าอิคารอสแข็งแกร่งกว่าซิลฟ์และมิโคโตะ……
ทันใดนั้นฝีเท้าวู่หยานหยุดกึก ใช่แล้ว ในเมื่อสนใจอิคารอสกับมิโคโตะแล้วทำไมถึงต้องเรียกตูไป?
อย่าบอกนะว่ารู้ความสัมพันธ์ของเขากับพวกเธอแล้ว? หรือ…..คิดว่าตูดูแกล้งง่ายกว่า?……
…………………….
“พี่สาวเฟยเฟย! ลูลู่!”
วู่หยานร้องเรียกทั้งสองที่กำลังคุยกับ มิโคโตะ ฮินางิคุ และ อิคารอส เขาทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นพวกเธอ
เพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งเจอปู่ของลูลู่มาเอง แป๊ปๆก็มาเจอลูลู่ต่อ ทำให้วู่หยานถึงรู้สึกใจสั่นหวาดผวาแปลกๆ ราวกับกลัวอะไรสักอย่าง…….
“หยาน!/มาสเตอร์!”
มิโคโตะ ฮินางิคุ และ อิคารอสลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินมหยุดอยู่ห่างจากตัววู่หยานครึ่งก้าว ทั้งสามมองสำรวจขึ้นๆลงๆตัวเขาไม่หยุด ราวกับกำลังมองหาว่ามีส่วนไหนในร่างเขาขาดหายไปรึเปล่า เห็นแบบนี้วู่หยานก็หัวเราะแห้งๆ……
“โอ้!หยาน!” ลูลู่ร้องออกมาหลังจากอึ้งกับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสามของเธอ
“เฮ้…..” ฝืนไม่ให้ตนพูดตบมุข วู่หยานยกหมัดเขกหัวใส่ มิโคโตะ ฮินางิคุ และ อิคารอส แล้วกรอกตาพูด “พวกเธอทำอะไรกัน? ฉันก็แค่ไปหาตาแก่….แค่ก เจอสภาผู้บริหารเอง ไม่ได้ไปปราบมังกรซะหน่อย”
“สภาผู้บริหาร!” สามสาวยังไม่ทันพูดอะไร เฟยเฟยกับลูลู่ก็ตะโกนออกมาก่อน
ลูลู่ก้าวฉับๆมาด้านหน้าวู่หยาน แล้วตะโกนใส่หน้าเขา “หยาน! นายพูดว่าสภาผู้บริหารงั้นเหรอ!”
ได้ยินดังก้องหู วู่หยานก็ยืนนิ่งอย่างตอบสนองไม่ทัน จนกระทั่งลูลู่ยืนหน้าเข้ามาใกล้มากเกินไป เขาจึงรีบผลักเธอออก (@กลัวปู่เอาเรื่อง555)
“มันจำเป็นต้องเวอร์แบบนี้มั้ย!”
“นี่นาย….” ลูลู่พูดต่อ “ได้เจอคุณปู่มั้ย?”
“เจอ…..” วู่หยานยิ้มแหย่ “ถึงจะแค่เงาแทนตัวไม่ใช่ตัวจริงก็เถอะ……”
วู่หยานไม่เข้าใจว่าทำไมห้าสาว มิโคโตะ ฮินางิคุ อิคารอส เฟยเฟย ลูลู่ ถึงได้ดูประหลาดใจขนาดนั้น เขารู้สึกพูดไม่ออก วู่หยานจึงถามออกไป
“ทำไมพวกเธอถึงได้ทำยังกับมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั่น?”
ฮินางิคุยกมือกุมหัว แล้วยิ้มกระอักกระอ่วน “พวกเราไม่รู้ว่า สภาผู้บริหาร นั่นเป็นคนยังไง มันเลยทำให้พวกเราเป็นห่วงนาย…..”
“ใช่!” มิโคโตะรีบเสริมฮินางิคุ จากนั้นมองสำรวจวู่หยานอีกรอบ “นายแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไรน่ะ?”
“ไม่เป็นอะไรจริงๆ!”
“งั้น….” ฮินางคุถาม “พวกเขาเรียกตัวนายไปทำไมงั้นเหรอ?”
“เรื่องนั่นเดียวค่อยคุยกัน…..” วู่หยานโบกมือให้สามสาว แล้วหันไปมองลูลู่กับเฟยเฟย
“ทั้งสองคนทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?”
เฟยเฟยยิ้มแล้วชี้นิ้วไปที่โต๊ะ ให้เขาหันไปดูเอง
วู่หยานทำหน้าสงสัยก่อนจะหันไปดู เมื่อเห็นชัดว่าอะไรอยู่บนโต๊ะเขาก็หน้าแข็งค้างทันที……
บนโต๊ะมี จดหมายสีแดงวางซ้อนทับกันเป็นชั้นๆจนเต็มโต๊ะ โดยที่บนสุดของภูเขาจดหมายมีฟรานจังกำลังนั่งเล่นจับจดหมายไปมาอยู่
วู่หยานสบถออกมา
“อะไรวะนั่น!”
เฟยเฟยยกมือปิดปากหัวเราะคิกคัก ก่อนจะกระแอ่มไอแล้วพูดเสียงซีเรียส “หมดนั่นเป็นจดหมายท้าประลอง!”
“จดหมายท้าประลอง?” วู่หยานมองจดหมายที่ล้นจนหล่นลงมาที่พื้นด้วยแววตาว่างเปล่า มุมปากบิดเบี้ยว
“นี่ฉันไปหาเรื่องคนมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”
ได้ยิน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็ยิ้มแห้งๆ ตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาจนถึงวันนี้มีกี่คนแล้วที่โดนนายปากดีใส่?…….
เฟยเฟยพูดด้วยท่าทางสนุก “นี่ไม่ได้มาจากคนที่นายหาเรื่องหรอก คืออีกไม่นานกิจกรรมแรก มหาการประลองยุทธ์ ก็กำลังจะเริ่มแล้ว”
“มหาการประลองยุทธ์?” มิโคโตะหูกระดิก แล้วเปิดปากด้วยความเร็วแซงฮินางิคุกับวู่หยาน……
“กำลังจะเปิดแล้ว? ดี! ดีมากเลย!” มิโคโตะกำหมัดแน่น โดยที่รอบหมัดมีประกายไฟฟ้าโผล่ออกมา และมุมปากเธอก็โค้งขึ้น
“ดวลกันครั้งก่อนกับซิลฟ์ยังไม่ได้ตัดสินผู้แพ้ผู้ขนะเลย คราวนี่แหละ ฉันจะต้องชนะเธอ!”
ถึงแม้วู่หยานจะไม่ได้ออกอาการเนื้อเต้นแบบมิโคโตะแต่มุมปากเขาก็โค้งขึ้นเหมือนกัน เพราะยังไงซะเขาก็ยังมีเควสจากระบบให้กลายเป็นอันดับ1อยู่
ทั้งอย่างนั้น ไม่กี่วันที่ผ่านมา อันดับเขาก็หยุดอยู่แค่25 นี่ทำให้วู่หยานไม่พอใจ…….
ถ้าให้เหล่าคนที่กัดฝันฝึกฝนบ่มเพาะหลายปีเพื่อให้ติดอันดับบันลังค์ได้ยินความคิดวู่หยานล่ะก็ พวกเขาคงได้ทุ่มสุดตัวกระโจนเข้าหาวู่หยานโดยไม่คำนึงถึงความต่างของพลังแน่………
ไม่นานวู่หยานก็สงสัยบางอย่าง “แล้ว การประลองยุทธ์ กับ จดหมายท้าดวล นี่มันเกี่ยวข้องกันยังไง?”
“แน่นอน ต้องเกี่ยวอยู่แล้ว!” เฟยเฟยอธิบาย “ทั้งโรงเรียน มีนักเรียนประมาณ10ล้านกว่าคน ถ้าให้แต่ล่ะคนมัวจับคู่ดวลกันเอง แล้วนายคิดว่าเมื่อไหร่การประลองถึงจะจบ?”
เห็นพวกวู่หยานทำหน้าเข้าใจ เฟยเฟยก็ยิ้ม “ดังนั้นทางโรงเรียนจึงได้ตั้งกฎว่า มีเพียงผู้ครองบันลังค์เท่านั้นที่มีสิทธ์เข้าร่วม มหาการประลองยุทธ์! ”
เฟยเฟยเดินมาหาภูเขาจดหมายแล้วหยิบขึ้นมาอันนึง จากนั้นหันไปแกว่งให้วู่หยานดู “คนที่ยังไม่มีอันดับน่ะเพื่อที่จะให้ได้สิทธ์ในการเข้าร่วมจึงต้องท้าประลองกับคนมีอันดับเพื่อยึดเอาอันดับของอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองไงล่ะ!”
ได้ยินคำอธิบายของเฟยเยฟ วู่หยานก็ปวดหัวจี๊ดทันที “แต่นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ……”
“เป็นเพราะนายเป็นเด็กใหม่ไงล่ะ ดังนั้นผู้คนเลยมีความคิดว่าตัวเองอาจจะโชคดี ก็เลยส่งจดหมายมาให้นาย เพราะยังไงถึงแพ้พวกเขาก็ไม่เสียอะไรอยู่แล้ว!”
วู่หยานมองดูกองจดหมายอย่างพูดไม่ออก ในเวลาเดียวกันฟรานจังก็ยังไม่หยุดเล่นเกมจดหมายของเธอ วู่หยานกัดฟันกรอด หมัดกำแน่น
เขาพอเข้าใจได้ว่าทำไมตาแก่พวกนั้นถึงคิดว่าเขาดูรังแกได้ง่าย แต่เขาไม่คิดเลยว่านักเรียนคนอื่นก็จะมองเขาเป็นเสื้อไม่มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน!
“ฮึ้ม! ใครบอกกันว่าแพ้แล้วไม่เสียอะไร!” วู่หยานหันไปมองเฟยเฟยด้วยความโมโห “พี่สาวเฟยเฟยรบกวนช่วยกระจายข่าวให้หน่อยว่า ใครหน้าไหนที่ต้องการจะท้าประลองกับฉัน ให้เตรียมมาหมื่นแต้ม ถ้าแพ้ก็ต้องโอนแต้มให้ฉันทันที!”
ได้ยิน แววตาเฟยเฟยก็กระจ่างวูบ
นักเรียนพวกนั่นซวยแล้วไง……
ปัจจุบันแปลถึง 2002 ตอน สนุกมากครับ มีคนรีวิวสนุกเยอะ ทักมาสอบถามได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยาย