[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) - ตอนที่ 23
ตอนที่ 23
「กัดฟันไว้แน่นๆ นะไอ้เวร……!」
「อย่ามาดูถูกกันไอ้มนุษย์……!」
ชั้นรวมพลังทั้งหมดไว้ที่หมัดและซัดไปทางเอมี่
เอมี่เองก็ตอบสนองด้วยการสร้างหอกเพลิงขึ้นมาและยิงใส่ชั้น
แต่……。
「「ย๊ากกกกกกกกห์!」」
「กะฮะฮะฮะ!?」
การโจมตีของชั้นถูกหยุดด้วยหอกเพลิง แต่ว่าชั้นมีร่างโคลนอยู่
ร่างโคลนทั้งสองพุ่งเข้าหาเอมี่ในขณะที่ชั้นรับมือกับหอกเพลิง และทั้งสองก็กระแทกหมัดเข้าที่ลำตัวของเอมี่
ชั้นมองไปที่เอมี่ที่โดนซัดปลิวว่อนและออกคำสั่งกับร่างโคลนที่เหลือ
「พามานะหนีไปซะ!」
「ไอโย่!」
ทันทีที่พูดเช่นนั้น ร่างโคลนตัวสุดท้ายก็พามานะหนีไป
ร่างโคลนนี่มีประโยชน์จริงๆ
แม้ว่าจะไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ก็ทำตามคำสั่งชั้นเป็นอย่างดี
ในความเป็นจริง สามารถออกคำสั่งได้โดยไม่ต้องพูดออกมาด้วยซ้ำ
เพียงแค่ส่งเสียงในสมองก็เข้าใจกันแล้ว นี่นะเหรอก็อบลิน
ก็อบลินนั้นน่าจะอ่อนแอตามที่แมมมอนบอก แต่ชั้นคิดว่าดูยังไงเจ้านี่ก็แข็งแกร่งเกิน
น่าเสียดายที่พลังเวทย์ของชั้นนั้นอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเลยแสดงศักยภาพเต็มที่ไม่ได้
จากนั้นเอมี่ที่โดนซัดปลิวว่อนละติดอยู่ในซากปรักหักพังก็กระโดดออกมาพร้อมกับวังวนแหง่เพลิง
「หน่อยไอ้แมลงน่ารำคาญ…จะแสดงให้เห็นเองว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันเป็นเช่นไร!」
「!」
จากนั้นเอมี่ก็กางแขนออกและเปลวไฟก็ล้อมรอบตัวเธอ
เปลวไฟที่กระจายไปทั่วทุกสถานที่เปลี่ยนรูปลักษณ์กลายเป็นปีศาจ
อย่างไรก็ตามปีศาจตรงหน้าไม่เหมือนอิมป์ ตรงที่มีขนาดพอๆกับผู้ใหญ่
ขณะที่รู้สึกประหลาดใจกับการมีอยู่ของปีศาจด้านหน้า แมมมอนก็อธิบายอย่างใจเย็น
『นั่นคือปีศาจ』
「ปีศาจ?」
『อ่า ต่างจากปีศาจมีชื่อ เป็นทหารไร้นามนั่นแหละ』
ชั้นยังไม่รู้เกี่ยวกับปีศาจมากนัก แต่คนมีชื่อนั้นแข็งแกร่งกว่าทั่วไป
ชั้นหมายถึงโลกที่ถูกแบ่งออกด้วยบาเรียนี่ ดังนั้นก็เลยทำทุกอย่างที่ต้องการได้ แต่ถ้าเป็นในโลกแห่งความจริงคงจะวุ่นวายน่าดู
ขณะที่คิดถึงความหายนะ ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นก็เข้ามาโจมตีชั้น
「เกี๊ยกกกกกก!」
「ก็แค่ลูกกระจ๊อกน่า!」
โชคดีที่พวกนี้ไม่มีสติปัญญามากนัก และเช่นเดียวกับอิมป์ มันแค่รวมตัวกันเป็นกลุ่มโจมตีด้วยกรงเล็บและเขี้ยวของมัน
ถ้าพวกนี้ดุดันกว่านี้ อาจจะใช้พลังเวทย์ แต่นั่นคงจะลำบาก
「แมมมอน ! ไอ้พวกนี้โผล่มาไม่หยุดเลย!?」
『ไม่ใช่แบบนั้นหรอก แม้ว่าจะเป็นปีศาจจากนรกที่ชักนำโดยเอมี่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกกองทัพขนาดใหญ่ออกมาเพราะงั้นสังเกตจาก การบุกแล้วน่าจะมีขีดจำกัด?』
ดังที่แมมมอนพูด หลังจากที่ตัวชั้นทั้งสามคนจัดการพวกปีศาจไปได้ประมาณสิบตัว ก็สังเกตเห็นว่าพวกมันกำลังลดลง
「……เป็นจอมมารช่างจ้อเสียจริง」
『หะ! ข้าก็แค่พูดความจริง?』
เอมี่หงุดหงิด แต่แมมมอนก็ยั่วยุใส่
「แม้ว่าจะมีขีดจำกัดก็ตาม แต่ความพ่ายแพ้ของแกมันถูกกำหนดไว้แล้ว ! เลบอย!」
「ไฮโย่!」
ในขณะนั้น เมื่อเอมี่ตะโกนเรียกเลบอย เลบอยก็ยื่นแขนขวาไปหาเอมี่
จากนั้น บางอย่างเช่นพลังงานโปร่งแสงก็ไหลเข้าสู่ตัวเอมี่
「หุหุหุหุหุ ! พวกเราน่ะมีพลังเวทย์เยอะกว่าที่คิด……!」
「พวกข้ากำลังสู้กับจอมมารเลยนะเพราะงั้นก็ต้องเตรียมการมาเป็นธรรมดา……!」
เห็นได้ชัดว่าพลังเวทย์ถูกส่งให้เอมี่โดยตรง และเลบอยที่เสียพลังเวทย์ไปเป็นจำนวนมากก็ล้มลง
ในเวลาเดียวกันร่างกายของเอมี่ก็ขยายใหญ่
นอกจากนี้ เมื่อส่วนต่างๆของร่างกายระเบิด เปลวไฟสีน้ำก็ปะทุออกมาจากพวกนั้น
และในที่สุดปีศาจเปลวไฟสีน้ำเงินขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น
「ตอนนี้ก็พร้อมแล้ว มาเตรียมวัตถุดิบอย่างจอมมารแห่งความโลภไปเสิร์ฟให้นายท่านกันดีกว่า!」
『เรียกใครว่าวัตถุดิบฟะ ! นี่ คาเนะฮิโตะ จัดการมันเลย!』
「นี่แกสั่งชั้นเรอะ!」
ขณะที่สาปแช่งกับคำพูดของแมมมอนชั้นก็รีบเข้าโจมตี
「โอ้ ชิท!」
「ไอ้โง่ ตายไปด้วยไฟนรกของชั้นซะเถอะ!」
จากนั้นเอมี่ก็หันฝ่ามือใหญ่ๆมาทางชั้น และปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงินออกมา
พลังและความแข็งแกร่งเทียบกับก่อนหน้านี้ไม่ติด และชั้นพยายามจะจัดการเหมือนเดิมด้วยการต่อยสวนแต่ก็ปลิวซะเอง
「อั่ก!」
「หมัดของแกมันไม่ได้ผลอีกแล้ว ! วัตถุดิบน่ะก็ควรอยู่เฉยๆให้ถูกล่าดีกว่านะ」
「!」
นอกจากนี้เปลวไฟยังปะทุมาล้อมรอบตัวชั้น และอย่างที่หมอนั่นพูด ร่างของชั้นกำลังถูกย่าง
「อะจ๊ากกกกกกกกก!」
อย่างไรก็ตามอยู่เฉยไม่ได้แล้ว
ชั้นออกคำสั่งกับร่างโคลนและทั้งสองก็เข้าหาเอมี่ด้วยความเร็วสูงสุด
「「ย๊ากกกกกกกกกกห๋!」」
「หึ่ม ลูกไม้ตื้นๆ!」
ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยม่านเพลิง เอมี่สะบัดมือของเธอและร่างโคลนของชั้นก็ปลิวหายไปด้วยแรงนั้น
โชคดีที่การโจมตีนั้นไม่ได้ทำลายร่างโคลนของชั้น แต่ความเสียหายก็หนักเอาเรื่อง
「ไอ้เวรเอ้ย……!」
หากทำแบบนี้ต่อไป ชั้นคงโดนย่างเกรียมแน่ๆ คิดเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปรอบๆก่อนที่มันจะเผาร่างชั้น
เมื่อสามารถหนีออกมาจากที่นั่นได้ ก็ดับไฟด้วยการกลิ้งไปรอบๆ
「ฮึ่ม กลิ่นกำลังดีใช้ได้เลย……แต่ว่าความสดใหม่นั้นคงอยู่ได้ไม่นาน?」
「แฮ่ก…แฮ่ก……」
อย่างที่เอมี่บอก ชั้นได้รับบาดเจ็บแล้ว
……ไพ่ใบเดียวของชั้นคือร่างโคลนที่มีอยู่กับเวทย์เสริมพลังกาย
ยิ่งไปกว่านั้นพลังกายที่ได้รับการเสริมพลังจากการแปลงร่างก็ยังไม่เพียงพอ
ไพ่ในมือตอนนี้หมดสิ้นแล้ว
ตรงกันข้ามกับชั้นที่ไพ่หมดมือ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปชั้นได้แพ้แน่ๆ
……มีทางเดียวที่จะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้
นั่นคือการเพิ่มตัวเสริมพลังกายให้มากยิ่งขึ้น
เวทย์เสริมพลังกายแบบดั้งเดิมช่วยเพิ่มความสามารถมากกว่าปกติโดยการหมุนเวียนพลังเวทย์ด้วยความเร็วสูง
และยิ่งไหลเวียนได้เร็วมากเท่าไรพลังก็จะยิ่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะชั้นไม่ได้ลองใช้อย่างจริงๆจังๆ
อัตราการเสริมพลังมากที่สุดตอนนี้คือสองเท่า แต่ชั้นสามารถทำได้เร็วกว่านั้นอีกไหม…
ขณะนั้น――――。
「มันไม่เกี่ยวว่าจะทำได้ไหม ถ้าทำไมได้ก็นอนจมกองเลือดตรงนี้ละโว้ย!」
ถ้าทำไม่ได้ก็คือจบ
ชั้นยังมีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ!
「ถ้าคิดได้แบบนั้นก็ดี…….ชั้นไม่ฆ่าแกที่นี่หรอก หลังจากที่ย่างจนหอมสุกแล้วจะเอาไปให้นายท่านของชั้น」
「ฝันไปเหอะวะ…….ใครจะไปยอมกันฟะ!」
「หะ」
ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ชั้นยกเศษซากจากกองที่ทำให้อาคารรอบๆแตกกระจายเป็นชิ้นๆขึ้นมาและโยนไปสุดกำลัง
ชั้นเองก็สั่งร่างโคลนตัวอื่นๆให้ทำแบบเดียวกัน โยนไปพร้อมกัน
「เลียนแบบกันงั้นเรอะ……!?」
ราวกับปัดแมลงวันออกไป เอมี่เผาซากปรักหักพังด้วยเปลวเพลิงสีน้ำเงินอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันพวกเราทั้งสามก็ซ่อนตัวอยู่ในซากเหล่านั้น
……แม้ว่าจะโจมตีด้วยพลังสูงสุดในตอนนี้ ก็ต้องเข้าใกล้ไปในระยะโจมตีก่อน
นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องซ่อนตัว
ดังนั้นจึงเตรียมการอีกครั้งหลังจากซ่อนตัวได้สำเร็จ
「หนีไป หนีมา อย่างกับพวกหนูในท่อเลยนะ จอมมารมีฤทธิ์แค่นี้เองเรอะ!?」
ขณะที่เอมี่กางแขนออก พายุแห่งเปลวเพลิงสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพัดเอาเศษหินรอบๆไปขณะที่เคลื่อนตัวไปด้านหน้า
「อยากซ่อนก็ซ่อนให้สมใจยาก สิ่งที่ชั้นต้องทำก็คือระเบิดมันให้เป็นจุล!」
ถ้าเป็นแบบนี้ชั้นก็คงแพ้แน่ๆ
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นโอกาสด้วย
ต้องขอบคุณพายุไฟขนาดมหึมาและเศษซากที่ปลิวไปทำในทัศนวิสัยแย่ลง
และ――――。
「ถึงเวลาเอาคืนล้าาาาาาา!」
เมื่อเขาย่องไปด้านหลังเอมี่ได้ก็ใส่สุดแรงเกิน
แต่……。
「คิดว่าการโจมตีอ่อนหัดแบบนั้นจะเอาชนะชั้นได้งั้นเรอะ?」
「หาาา!?」
ชั้นถูกโจมตีอย่างแรงด้วยหอกในมือขวาและขณะที่ปลิว ตัวชั้นก็หายไป
「หะ หายตัวงั้นเหรอ!」
「――――อยู่ทางนี้ต่างหากโว้ย!」
ร่างโคลนของชั้นหายไป และคราวนี้ชั้นก็โจมตีจากอีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่เอมี่หันมาทางนี้ ตัวชั้นอีกคนหนึ่งก็กระโดดออกมาจากอีกด้านหนึ่ง
「หะ!?」
ชั้นเข้าโจมตีจากด้านหน้าและหลังพร้อมกัน
「อย่ามาล้อกันเล่นนะ」
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเอมี่จะดูสั่นกลัวไปชั่วขณะ แต่ก็กลับมาสงบสติได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อจะจัดการกับตัวชั้นที่เข้ามาจากด้านหน้า เธอจึงแทงหอกในมือขวาลงพื้นและมีบางอย่างเหมือนโซ่แห่งเปลวเพลิงปรากฏจากพื้นดิน สิ่งนั้นปรากฏตัวขึ้นและรั้งขาของชั้นไว้
「อ๊ากกกกกกกกกก!」
ขณะที่ชั้นกำลังเข้าจากด้านหลัง ก็โดนปีกเพลิงขนาดมหึมาซัดปลิวและชนกับอาคารใกล้เคียง
「หา? นี่ก็ร่างแยกอีกงั้นเหรอ」
จากนั้นเนื่องจากโดนโซ่แห้งเพลิงคุมตัวไว้ แขนขาจึงถูกเผาขณะเข้าโจมตีที่ด้านหน้า และในที่สุดร่างโคลนของชั้นก็หายไป
เอมี่ที่เห็นภาพตรงหน้าก็คว้าตัวชั้นที่ปลิวกระเด็นทางด้านหลังและพยุงชั้นที่ลุกไม่ได้ขึ้นมา
「อึก……」
「จบแล้วสินะ」
ชั้นพยายามดิ้นรนจากโซ่ตรวนที่เผาร่าง แต่เปลวไฟก็กัดกินร่างไปเรื่อยๆ
เอมี่ยิ้มอย่างทารุณเมื่อเห็นชั้นดิ้นรนอย่างยากลำบาก
「ฮะฮะฮะ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวแบบนั้น เยี่ยมมาก ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งดูน่าอร่อยเข้าไปอีก?」
ดูเหมือนว่าชั้นเองก็เป็นวัตถุดิบเช่นกัน
ขณะที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ที่ข้อเท้า เลบอยก็เข้ามาใกล้ๆ
「อ่า ในที่สุดก็จบแล้วเหรอ」
「อืม ตอนนี้ หากพาเจ้านี่ไปก็จะได้แพ็คคู่เลยล่ะ」
「หนอย……!」
รอยยิ้มของเอมี่นั้นโหดเหี้ยมขณะที่ชั้นยังไม่ยอมแพ้
「แหม สายตาสิ้นหวังแบบนั้น คิดจะทำอะไร? จอมมารแห่งความโลภและแกจะต้องตาย แม้จะเป็นจอมมารแต่จุดจบกลับเรียบง่ายเหลือเกินนะ……」
เอมี่ยั่วแมมมอนด้วยสีหน้าดีใจ
อย่างไรก็ตามแมมมอนนิ่งเฉย
นั่นทำให้เอมี่โกรธ
「……ยังพยายามทำตัวเข้มแข็งอีกเรอะ? ข่างโง่เขลา――――」
「――――แกนั่นแหละที่โง่」
「หะ?」
「หมายความว่าไง!?」
ตัวชั้นอีกคนหนึ่งใช้โอกาสที่เอมี่พูดเหน็บแหนมเข้าไปด้านหลังเลบอย
จริงๆแล้ว ตอนที่เอมี่จัดชุดใหญ่ ทำให้ชั้นนึกถึงตัวชั้นอีกคนที่อยู่กับมานะ
พูดตามตรงมันเสี่ยงมากที่ทิ้งมานะไว้ด้านหลัง แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รอดแน่
เพราะแบบนั้นหลังจากพามานะไปที่ปลอดภัย ก็เรียกให้กลับมาสบทบและตั้งเป้ารอช่วงเวลานี้
หากตัวชั้นคนอื่นๆโดนจัดการไปจนหมด ก็น่าจะหลอกได้ว่าไม่เหลือตัวชั้นอีกคนแล้ว
มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะที่เหลือตัวชั้นอีกคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย
และ――――。
「เฮ้ย…..กัดฟันไว้แน่นๆละไอ้เวร!」
「เฮ้ย หยุดนะ――――」
「อ๊ากกกกกกกกกกกกก!」
「หึหึหึหึหึหึหึ!?」
เมื่อหมัดของชั้นซัดเข้าไปที่หน้าของเลบอย ตัวหมอนั่นก็บินไปด้วยแรงอันมหาศาลจนควงสว่านทะลุไปหลายหลัง
ใช่แล้วเป้าหมายของชั้นคือเลบอย
เป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะเอมี่
อย่างไรก็ตาม แมมมอนบอกชั้นว่า ถ้าเจ้านายถูกจัดการ ข้ารับใช้เองก็ถูกจัดการไปด้วย
「ฮึก งี่เง่าน่า ห๊ะ!? พลังของชั้น……!」
จริงๆแล้วรูปลักษณ์ของเอมี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก อาจเนื่องจากความเสียหายที่เลบอยได้รับ
โหมดปีศาจสีน้ำเงินที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ ก็กลับสู่ร่างปกติ
แต่ว่ายังจัดการไม่ได้……!
「อึ…….อ๊ากกกกก……」
เลบอยส่งเสียงครวญคราง แต่ว่ายังได้สติอยู่
ถ้างั้นจะทำให้จบเดี๋ยวนี้!
ตัวชั้นอีกคนหนึ่งพยายามเข้าไปซัดเลบอยอย่างเต็มที่
「ม่ายยยยยยยยยยยยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
จากนั้นเอมี่ก็ทิ้งชั้นไว้และไล่ตามตัวชั้นอีกคนไปด้วยพลังมหาศาล
เอมี่ใจร้อนเกินไปจนปล่อยพันธนาการออกจากชั้น แต่ชั้นเองก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป
เมื่อเอมี่ไล่ตามตัวชั้นอีกคน เธอก็ทำลายมันทิ้ง แต่ชั้นเองก็เข้าใกล้เลบอยได้แล้ว
「หะ !!! ยังขยับได้อีกงั้นเรอะ!?」
เอมี่ที่เห็นชั้นก็รีบเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว แต่ชั้นยังไม่ยอมแพ้ที่จะกำจัดเลบอย
ใครจะชนะ มันเป็นเกมที่ตัดสินว่าใครจะไปถึงตัวเลบอยก่อน
ผู้ชนะก็คือ ชั้นคนนี้
เมื่อเอมี่ตามมาถึงเลบอย แต่ก็ไม่ทันชั้นที่ง้างกำปั้นไว้ซะเต็มที่
「เฮ้ยรอ……!」
「จะจบแล้วววววววววววววววววววววววว!」
ชั้นซัดหมัดขณะที่ใช้เวทย์เสริมพลังกาย
แต่――――。
「เอ๊ะ――――」
ทันใดนั้นตัวชั้นก็หมดแรง
ก่อนที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าการแปลงร่างของชั้นถูกยกเลิก
ในเวลาเดียวกันที่เคลื่อนไหวได้จนถึงตอนนี้เพราะแปลงร่างอยู่ แต่ชั้นดันกลับร่างเดิม หรืออีกนัยหนึ่งคือสภาพยับเยิน
『เฮ้ย เฮ้ย คาเนะฮิโตะ!?』
「เอาจริงเหรอวะเนี่ย……」
ตอนแรกที่สู้มาได้ถึงขณะนี้เพราะแปลงร่างอยู่ แต่ตอนนี้พึ่งรู้ตัวว่าการแปลงร่างไม่ได้ช่วยรักษาบาดแผลให้ชั้น
นอกจากนี้ ชั้นยังเข้าใจด้วยว่าทำไมการแปลงร่างจึงถูกยกเลิกกะทันหัน
「――――!」
รู้สึกเหมือนกระดูกทั่วทั้งร่างกำลังแหลกสลาย
นี่คือ ข้อเสียที่เกิดจากเวทย์เสริมพลังกาย
เดิมทีมันเป็นไปได้แค่ในทางทฤษฏีเท่านั้น ไม่มีใครใช้งานได้
ชั้นไม่รู้หรอกว่าทำไมชั้นถึงใช้ได้ แต่เนื่องจากไม่มีเอกสารอ้างอิง เลยไม่รู้ผลเสียที่ตามมา
อย่างไรก็ตาม หากอ้างอิงตามหลักวิชาการวัสดุที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งมากเกินไป จะรับภาระหนักเป็นพิเศษ
และร่างกายของชั้นรับมันไม่ไหวเพราะใช้การเสริมพลังกายที่ไม่สมเหตุสมผลในการต่อสู้จริง
ชั้นไม่สามารถคุมตัวเองได้และล้มฟุบไปกับพื้น
จากนั้นเลบอยที่อยู่ตรงนั้นก็ยิ้มออกมา
「ฮะ.ฮะ ฮะ น่าเสียดายจริงๆ!?」
「อึก……」
ขณะที่ชั้นจ้องมอง เลบอยก็ลุกขึ้นยืนด้วยฝีเท้าที่สั่นเทาและเตะเข้าที่ท้องของชั้น
「อั่กกกกก……!」
「แกบังอาจทำให้ข้ากลัว……..!」
「……ดูเหมือนว่าจะหมดแรงแล้วสินะ」
ในขณะเดียวกันเอมี่ก็เข้ามาหาชั้นอย่างสบายๆและมองมาด้วยแววตาเย็นชา
「ก็อยากจะสลักตราบาปที่บังอาจทำให้ชั้นต้องทรมานแบบนี้ แต่ชั้นจะไม่ฆ่าแกหรอก」
「เฮ้อ…ไงก็เหอะการจับกุมจอมมารเสร็จสิ้น」
『เฮ้ย คาเนะฮิโตะ ! เฮ้ย พยายามหนีเร็วเข้า!』
พูดอะไรไร้สาระน่า……。
ชั้นเองก็อยากจะหนีไปเหมือนกัน แต่ขยับไม่ได้เลย
「เอาล่ะ ในที่สุดก็จะนำไปเสิร์ฟให้นายท่านเสียที」
『คาเนะฮิโตะ! คาเนะฮิโตะ ตั้งสติไว้!』
เสียงของแมมมอนดังก้องในหัวของชั้น
……จนถึงตอนนี้……。
ไม่มีอะไรที่ชั้นทำได้และกำลังจะยอมแพ้
「!」
「อะไรวะ!?」
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนกระจกแตกดังก้องไปทั่ว
「――――จะช้าเกินไปแล้วไหม」
จากนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
ชั้นพยายามหันไปมองเพื่อดูว่าใครคือต้นตอของเสียงและที่น่าแปลกใจคือประธานนักเรียน รุ่นพี่มิยาบิ เอ็นโนมิยะกำลังยืนอยู่บนท้องฟ้า