[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 162 บทที่ 8 ตอนที่ 19
บทที่ 8 ตอนที่ 19
หลังจากออกห่างจากโนโซมุ ซีน่าก็เข้าหาคนที่เธอกำลังมองหา
คนหนึ่งเป็นเอลฟ์ชราที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเป็นปู่ทวด อีกคนเป็นเอลฟ์หนุ่มรูปงามผมสีทอง
「ไม่เจอกันนานแล้วนะ ซีน่า」
「ไม่เจอกันนานแล้วนะคะคุณไทรโฟเลี่ยม」(T/N:トリフォリウム)
「อย่าทำตัวแบบนั้นสิ พวกเขาเป็นคนปู่ทวดของเธอนะ」
ไทรโฟเลี่ยม・รูต
เอลฟ์เฒ่าที่เป็นปู่ทวดของซีน่า
เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสที่เป็นประธานของหมู่บ้านลี้ภัย
เขาเป็นญาติทางสายเลือดและผู้ปกครองเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของซีน่า
「นานแล้วที่ไม่ได้เจอกันนะลอรัส」
「อ่า ก็ผ่านมาได้สักพักแล้วนะ」
ลอรัส・โฟเลี่ยม (ラウルス・フォリウム)
เอลฟ์หนุ่มที่มาพร้อมกับปู่ทวดของซีน่า
แน่นอนว่ายังเป็นคนที่มีอำนาจมากที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดสถาบันได้
ตำแหน่งของเขาเป็นฑูตเจรจาระหว่างเผ่า
สำหรับเอลฟ์ที่ถูกบังคับให้ออกจากบ้านเกิดในช่วงการรุกรานครั้งใหญ่และอาศัยอยู่ในดินแดนอื่น การเจรจากับเผ่าอื่นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเอลฟ์คนนี้ถึงมีบทบาทสำคัญสุดๆ
「ที่นี่ค่อนข้างเสียงดังเกินไปออกไปคุยข้างนอกกันเถอะ」
ไทรโฟเลี่ยมพูดขณะที่หันหลังและเริ่มเดินโดยไม่รอซีน่า
ลอรัสและซีน่าเองก็เดินตามไปอย่างเงียบๆเช่นกัน
พวกเขาทั้งสามออกจากห้องโถงใหญ่และเดินเข้าไปในสวนของบ้านรับแขก
สวนที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างด้วยโคมไฟวิเศษสำหรับส่องแสง และสายลมอันเงียบสงบสะท้อนความเร่าร้อนและคึกคักของห้องโถงใหญ่
「ชุดนั้นเหมาะกับเธอดีนะ」
「ขอบคุณนะ ชุดนี้ได้มาจากพ่อของเพื่อน ดังนั้นคิดว่าเพื่อนของฉันเองก็น่าจะมีความสุข」
ลอรัสชมเชยพร้อมกับยิ้ม
อย่างไรก็ตามซีน่าตอบอย่างสุภาพและไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อย
ลอรัสยิ้มกับท่าทางของซีน่า
「ยังคงเหมือนเดิมเลยนะ นี่ผมเป็นคู่หมั้นของเธอนะ……」
ในความเป็นจริงลอรัสเป็นคู่หมั้นของซีน่า
นับตั้งแต่การรุกรานครั้งใหญ่ เผ่าพันธุ์ทั้งหมดก็เสื่อมถอยลงโดยเฉพาะเอลฟ์ และเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องส่งต่อผู้นำเผ่าคนถัดไป
「คุณลอรัส แม้คุณจะเป็นคู่หมั้นของดิฉันก็เถอะ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการและ ฉันยังไม่มีอารมณ์มาเลือกคู่ครองหรอกนะคะ」
ซีน่าตอบกลับเช่นนั้นและยกมือขึ้นมาด้วยความขยะแขยง
ไทรโฟเลี่ยมที่เห็นท่าทางเช่นนั้นก็เลิกคิ้ว
「ซีน่า ข้าจะพูดอีกครั้งกลับบ้านได้แล้ว」
「ไม่ค่ะ ฉันจะไม่กลับไปหาเผ่าเอลฟ์อีกแล้ว ฉันมีเรื่องที่ฉันอยากจะทำ」
เดินทีซีน่าโดนคัดค้านที่มาที่อาคาร์ซัมและน้ำเสียงของไทรโฟเลี่ยมเองก็แข็งกร้าว
ในทางกลับกันซีน่านั้นรู้ดีว่าอีกฝั่งต้องการอะไร เธอเลยปฏิเสธทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของซีน่า ไทรโฟเลี่ยมก็ทั้งตกตะลึงและหงุดหงิด
「ยังจะดื้อรั้นอยู่อีกเรอะ เจ้าตัวคนเดียวจะทำอะไรได้!?」
「ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวสักหน่อย ฉันมีเพื่อนที่ไว้วางใจได้และคอยฝากแผ่นหลังนี้ไว้ได้แล้วนะคะ」
「เพื่อน? ฝากแผ่นหลัง? เผ่าอื่นเนี่ยนะ?」
「ค่ะ」
「จะเชื่อได้ยังไงว่าพวกมันจะไม่ทรยศหักหลังพวกเราและซ่อนแผนการชั่วๆไว้เบื้องหลังรอยยิ้มนั่น? อย่ามาไร้สาระนะ」
ไทรโฟเลี่ยมปฏิเสธคำพูดของซีน่า
จากมุมมองของเอลฟ์ ที่ว่าเผ่าอื่นนั้นใช้วิธีสื่อสารทางอ้อมด้วยการใช้ภาษาเท่านั้น และผู้ที่ไม่เข้าใจถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงไม่ควรได้รับความไว้วางใจ
「ท่านไทรโฟเลี่ยม พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยากจะอยู่กับเหล่าภูติ ไม่คิดว่ามันสมเหตุสมผลหรอกครับ」
ลอรัสที่อยู่ข้างๆแนะนำ แต่คำพูดของเขานั้นดูถูกเหล่ามนุษย์
เหตุผลที่เอลฟ์ดื้อรั้นไม่คบค้ากับเผ่าอื่นเพราะมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนคำพูด
หากสิ่งมีชีวิตดังกล่าวถูกเลี้ยงดูมาด้วยอายุไล่เลี่ยกัน ในขณะที่เผ่าอื่นต้องใช้คำพูดๆคุยกัน จะถูกมองว่าด้อยกว่าทันที
(T/N: ถ้าใครนึกไม่ออกให้นึกถึงกรณีของร็อกซี่ของเกิดชาตินี้พี่ต้องเทพ กรณีเดียวกันครับ)
นอกจากนี้หากถูกหลอกด้วยการสมรู้ร่วมคิด มันก็จะยิ่งทรงพลังไปอีก
「แต่เพราะความหยิ่งยโสของพวกเราเลยต้องเสียบ้านเกิดไปไม่ใช่เหรอไงกันคะ?」
「…………」
คำพูดของซีน่านั่นเป็นข้อเท็จจริงที่หักล้างไม่ได้
เธอพูดถูกเพราะสิ่งนั้นทำให้เอลฟ์สูญเสียบ้านเกิด
พวกเขาปฏิเสธความช่วยเหลือจากเผ่าอื่นจนกระทั่งนาทีสุดท้าย และด้วยเหตุนี้จึงเกือบเป็นเผ่าที่ล่มสลาย
ไทรโฟเลี่ยมที่รู้เรื่องนั้นดียังแสดงสีหน้าขมขื่น
「แหมๆ ทั้งคู่ช่วยใจเย็นๆกันหน่อยนะ」
ลอรัสเข้ามาแทรกทั้งคู่ที่เริ่มปล่อยจิตสังหารออกมา
「ก็รู้ดีนี่ท่านไทรโฟเลี่ยมพวกเราไม่ควรจะไปถามเธอแบบนี้? ซีน่าเองก็ใจเย็นๆก่อนคำพูดของผู้อาวุโสอาจจะรุนแรงแต่เขาเป็นห่วงเธอนะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของลอรัสทั้งสองก็เชิดหน้าใส่กัน
ทั้งสองฝ่ายไม่มีความคิดที่จะลดอีโก้ลง
เมื่อเห็นซีน่าและไทรโฟเลี่ยมเป็นแบบนี้ลอรัสยักไหล่ราวกับอดไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นประจำ
อย่างไรก็ตามลอรัสหันไปหาซีน่าด้วยท่าทางจริงจัง
「แต่ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของท่านไทรโฟเลี่ยม เธอไม่ควรอยู่ที่เมืองนี้ในตอนนี้」
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นซีน่าก็ยิ่งขมวดคิ้ว
「ไม่เลยสักนิดยังไงก็ทวงคืนพันธสัญญาวิญญาณไม่……」
「โกหก เธอได้รับมันกลับมาแล้วนี่? แต่ตอนนี้ก็แค่ทำพันธสัญญาวิญญาณไม่ได้เฉยๆใช่ไหมล่ะ?」
「……หมายความว่าไง」
「ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังหรอกนะ ในความเป็นจริงเธออ่อนแอมากตอนที่มาที่เมืองนี้ ดูเหมือนว่ายากที่จะขัดเกลาพลังเวทย์ เหตุผลก็คือในการต่อสู้จำลองแม้แต่กระสุนเปลวเพลิงในระดับนั้นก็เอาเธอยังรับมันไม่ได้ด้วยซ้ำ」
「…………」
ลอรัสพูดซีน่าก็รู้สึกว่าถูกจี้ใจดำ
เขาพูดถูกมันยากสำหรับซีน่าที่จะขัดเกลาพลังเวทย์ นับประสาอะไรกับการทำสัญญาวิญญาณ
「เหตุผลที่ยอมมาที่อาคาร์ซัมแห่งนี้ แม้จะโดนต่อต้านก็ตามเพราะเธอไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ แต่จะทำอะไรได้ล่ะถ้าหากไม่มีพลังเวทย์ที่สามารถใช้ได้จริงๆ」
「…………」
「เหตุผลที่เธอกลับมาได้ก็เพราะชายหนุ่มคนนั้นใช่ไหม?」
「หาาาา!?」
ราวกับแทงทะลุใจดำซ้ำครั้งที่สอง ซีน่าที่ตลอดจนถึงตอนนี้เริ่มหน้าซีด
สาเหตุที่ซีน่าอารมณ์เสีย มันเกิดจากพันธสัญญาโลหิตกับโนโซมุ
ความสามารถพิเศษของโนโซมุคือโซ่ผนึกวิญญาณ
ความผิดปกติอันทรงพลังที่สามารถผนึกจิตวิญญาณของเทียแมตเข้าไปในร่างของตัวเองได้ส่งผลกระทบต่อวิญญาณของซีน่าซึ่งเชื่อมต่อกับโนโซมุผ่านพันธสัญญาโลหิตทำให้ความสามารถของเธอลดลงอย่างมาก
「ท้ายที่สุดแล้วก็ใช่สินะ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำพันธสัญญาโลหิตกันด้วย」
「……พูดอะไรน่ะ!?」
「ผมรู้สึกได้ตอนที่ได้คุยกับพ่อหนุ่มคนนั้นก่อนหน้านี้ พันธสัญญาอันแข็งแกร่งระหว่างพวกเธอสองคน」
คำพูดของลอรัสผลักดันซีน่าเข้าไปอีก
เขาเป็นฑูตเพียงหนึ่งเดียวที่เจรจากับหลากเผ่า ลอรัสทมีพรสวรรค์มาก
ในสายตาของเขา เขาสามารถมองเห็นพันธสัญญาอันแข็งแกร่งระหว่างโนโซมุและซีน่า
「ข้าน่ะมันเป็นสิ่งไร้สาระที่จะทำแบบนั้น……..เอลฟ์และมนุษย์มีอายุไขต่างกันมากและแม้แต่พันธสัญญาโลหิตเอง……」
「ซีน่า! เธอเต็มใจที่จะอุทิศชีวิตของตนเองเพื่อชายคนนั้นใช่ไหม!」
บางทีเขาคงรู้สึกเจ็บปปวดมากจากการกระทำของซีน่าจนลอรัสเอามือก่ายหน้าผากมองไปบนท้องฟ้า
ในทางกลับกันไทรโฟเลี่ยมก็สติหลุดเสียความสงบ พยายามจะถ่มน้ำลายใส่เธอ
「……ความตั้งใจของฉันมันไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ」
ซีน่าที่เปิดเผยความจริงโดยไม่ต้องการปิดบังอีกแล้ว ก้มหน้าลง
ลอรัสถอนหายใจและฟังคำพูดของซีน่าและหันไปหาไทรโฟเลี่ยม
「ท่านไทรโฟเลี่ยมวันนี้พวกเรากลับกันเถอะครับ มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่จะพูดอะไรกับเธอในตอนนี้」
「อย่ามาพูดบ้าๆนะ ! เจ้าจะปล่อยให้คนสำคัญของเจ้าเป็นแบบนี้จริงๆเรอะ!」
ทั้งสองเป็นสายเลือดเดียวกันคิดว่าสิ่งที่ซีน่าทำคงทำให้เกิดความอับอาย
ในกรณีนี้ไทรโฟเลี่ยมโกรธหนักมากจนอยากจะไปฆ่าตัวตนเหตุอย่างโนโซมุ
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสลอรัสก็พูดโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไป
「ที่นี่คืออาคาร์ซัม หากพวกเราทำร้ายเขาภายใต้การคุ้มครองของเมืองนี้ แม้จะเป็นเอลฟ์เองก็ตามไม่มีสิทธ์ทำอะไรตามอำเภอใจหรอกนะครับ」
หากคิดถึงเผ่าเอลฟ์จริงๆ ก็ไม่ควรจะก่อความวุ่นวายในอาคาร์ซัม
สำหรับลอรัสซึ่งรับผิดชอบในการเจรจากับเผ่าอื่นการทำร้ายโนโซมุนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตามสำหรับไทรโฟเลี่ยมเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเหลนของเขา ในสถานะปัจจุบันแค่คำพูดของลอรัสไม่เพียงพอที่จะหยุด
「แม้ว่าจะบังคับให้เธอกลับไปได้ เธอก็ไม่เชื่อฟังพวกเราหรอกครับ นอกจากนี้เองซีน่าก็ไม่สามารถอยู่ในสถาบันแห่งนี้ต่อไปได้หากอ่อนแอลงเรื่อยๆ พวกเราทำได้แค่เงียบและรอให้เธอยอมแพ้ครับ」
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาใช้เวลาในการโน้มน้าวให้กับซีน่าและตัวเขาเอง
ด้วยความสามารถที่ลดลงอย่างมาก แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะอยู่ในสถาบันโซลมินาติ
บางทีไทรโฟเลี่ยม อาจเห็นด้วยกับคำพูดของลอรัส หันหลังกลับด้วยความเครียดและคิดว่าพูดอะไรไปคงฟังไม่ขึ้น
มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าในตอนนี้เธอเอาตัวรอดจากปู่เธอได้แล้ว แต่สีหน้าของเธอกลับมืดมนและทรมาน
「ซีน่าผมรู้ว่าเธอเต็มใจที่จะทำพันธสัญญาโลหิตกับชายคนนั้นและละทิ้งฝันของตัวเอง ในส่วนของผมๆเองก็คิดว่าความสัมพันธ์กับเผ่าอื่นเป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน แต่ว่าพวกเราเป็นเผ่าเอลฟ์ที่อายุยืนยาว ควรจะละเว้นจากการกระทำที่ไปตามอารมณ์จะดีกว่านะ」
จำนวนของเอลฟ์ลดลงอย่างมากจากการรุกรานครั้งใหญ่และจำนวนผู้ใหญ่ในเผ่าเอลฟ์ก็ลดลงมากเช่นกัน
หากประชากรยังลดลงต่อไปอีกไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามเผ่าพันธุ์ก็จะล่มสลายในไม่ช้า
การที่มีอายุยืนยาวก็ยิ่งทำให้คนรุ่นต่อไปเกิดได้ยากเช่นกัน
หากจำนวนยังคงลดลงเอลฟ์จะหายไปจริงๆแล้วขอบเหวนั้นก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญ
สำหรับเอลฟ์ในปัจจุบัน หมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ไม่ใช่ที่อุดมสมบูรณ์นัก เพื่อรักษาประชากรและเพิ่มจำนวนเอลฟ์ จึงจำเป็นต้องเรียกคืนผืนป่าบ้านเกิดและร่วมมือกับเผ่าอื่นเพื่อจุดประสงค์นี้
แน่นอนว่าซีน่าเองก็เข้าใจสิ่งนั้น
ความฝันของซีน่าคือการทวงคืนบ้านเกิด แต่มันเกิดจากการที่อยากจะแก้แค้นให้ครอบครัว แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องประชากรขั้นต่ำของเอลฟ์อยู่อีก
「ที่ผมมาที่เมืองนี้แม้จะมีคนมากมายจำนวนมากจะต่อต้านผม แต่ฉันก็หวังว่าอย่างน้อยเธอจะเข้าใจ……」
เพื่อทวงคืนบ้านเกิด
สำหรับซีน่าที่เก็บความปรารถนานั้นในใจเป็นเวลานาน ทิ่มแทงใจของซีน่า
เพราะต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าฝันของเธอกำลังพังทลาย
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
หลังจากไทรโฟเลี่ยมและลอรัสออกไปซีน่าก็ยืนอยู่คนเดียวในสวน
ซีน่ากำลังยืนเหม่อ
「ซีน่า หมายความว่ายังไง?」
ต่อหน้าซีน่า มิมูรุปรากฏตัวขึ้นในชุดเดรส
สีหน้าของซีน่ากำลังกระวนกระวายใจในขณะที่ตกใจกับมิมูรุ
「มิมูรุมีอะไรงั้นเหรอทำไมอยู่ที่นี่……」
「ก็ออกมาเพราะอารมณ์เสียแหละ ก็เลยออกมาตาม………..แต่สิ่งนั้นหมายความว่ายังไง?」
ความเงียบเข้าสู่ระหว่างทั้งสอง
「เปล่านี่「จะบอกว่าไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ? ฉันได้ยินทั้งหมดแล้วนะ」เอ๋!」
ซีน่าพูดไม่ออก
เธอกันริมฝีปากและกำมือไว้ในถุงมือไหมสีน้ำเงิน
「ก็คิดว่าทำไมถึงดูแปลกๆในการต่อสู้จำลองวันนี้ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่สามารถฝึกพลังเวทย์เพิ่มขึ้นได้……」
เธอรู้ว่าซีน่าไม่สบายใจ แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ในสภาพเลวร้ายขนาดนี้
มิมูรุวางมือบนหน้าผากด้วยความสับสนและเงยหน้ามองฟ้า
「และสาเหตุนั่นมาจากโนโซมุใช่ไหม เขารู้เรื่องนี้รึเปล่า?」
「……ไม่รู้」
เมื่อได้ยินเช่นนั้นมิมูรุก็หันหลังอย่างเงียบๆ
ซีน่ารู้สึกถึงแรงข่มขู่จากมิมูรุขณะที่เธอเดินเข้าไปในบ้านรับแขก พยายามรั้งเพื่อนสนิทที่ทำสีหน้าหวาดกลัว
「……เดี๋ยวสิ จะทำอะไรน่ะ?」
「ก็ตัดสินใจแล้วน่ะสิ ฉันจะบอกเรื่องทั้งหมดของซีน่าให้โนโซมุฟัง ฉันไม่รู้เรื่องพันธสัญญาอะไรนั่นหรอก แต่ฉันก็ไม่ควรปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ใช่ไหมล่ะ」
「อ่าา ถ้าเป็นแบบนั้นแย่แน่ๆ!」
ทันทีที่ได้ยินสิ่งเหล่านั้นซีน่าก็ขับเคลื่อนไปด้วยความกลัว
เธอวิ่งหามิมูรุทันทีและคว้ามือเพื่อหยุด
「ทำไม? มีอะไรต้องปิดบัง?」
ทำไมต้องหยุดล่ะ
ดวงตาของซีน่ากะพริบเมื่อมิมูรุกำลังจะตำหนิเธอ
「ตอนนี้แค่เขารับมือกับเทียแมตก็เต็มกลืนแล้ว อย่าสร้างภาระให้เขาสิ……」
「นั่นหมายความว่าจะให้ฉันอยู่เงียบๆแบบนี้งั้นเหรอ? เธอบ้ารึเปล่า!」
ความโกรธของมิมูรุทำให้ใจของซีน่าสั่นสะเทือน
สำหรับมิมูรุที่ชอบพูดตรงๆ ซื่อสัตย์ ชัดเจนต่อคนรัก พฤติกรรมของซีน่านั้นเธอไม่ยอมรับเด็ดขาด
「……ก็เพราะว่ารักโนโซมุคุงนะสินะ」
「หะ รักเหรอ ฉันคนนี้เนี่ยนะมีความรัก……」
「คิดว่าจะไม่รู้เหรอ? นั่นคือสิ่งที่ซีน่าเอลฟ์ที่แข็งแกร่งถึงขนาดยอมทำพันธสัญญาเลือดเลยนะ」
ก่อนที่จะรู้ตัว ก็ตกหลุมรักไปแล้ว และความรักที่มันเอ่อล้นออกมาเธอทนไม่ไหว
เพื่อนสนิทของซีน่าได้ยินเช่นนั้นก็รับรู้ความรู้สึกของเธอได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องง่ายๆมิมูรุที่จะเข้าใจความรู้สึกของซีน่าที่ไม่คุ้นเคยกับความรัก
เพราะเธอหลงรักเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อทอมมาโดยตลอด
จากมุมมองนี้ไม่ว่าจะมองยังไงมิมูรุมีประสบการณ์มากกว่าร้อยเท่า
「ฉันเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกที่อยากจะช่วยคนที่ตัวเองรักอยู่หรอกนะซีน่า แต่แบบนี้มันไม่ดีเลย ถ้ายังเงียบต่อไปแบบนี้ เธอได้มาเสียใจภายหลังแน่ๆ」
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอจะไม่ยอมให้เพื่อนสนิทของเธอผิดพลาดเป็นอันขาด
มิมูรุคิดว่าถ้าเธอยังหักห้ามใจตัวเองต่อไปแบบนี้ไม่ระบายความรู้สึกออกไปต้องได้เสียใจภายหลังแน่
ถึงกระนั้นซีน่าก็ปฏิเสธที่จะปล่อยมือมิมูรุ
ด้วยความใจร้อนมิมูรุพยายามสะบัดมือซีน่าออก
「ซีน่า มาเถอะ……」
「ไม่ ยังไงก็ไม่ได้ผลหรอก ก็เขาน่ะ….」
มือของมิมูรุยังคงจับไว้แน่น
คร่ำครวญว่ามือของเธอนั้นอ่อนแอไร้ซึ่งพลังใดๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทำกับเธอเป็นตลกคาเฟ่
มิมูรุหันกลับมาก็พบกับซีน่าที่น้ำตาคลอ
「หากเขารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ มันจะไม่จบแค่นี้แน่มันจะยิ่งต้อนโนโซมุให้จนมุม เขาเคยหันดาบใส่พวกเราตั้งสองครั้งแล้วและเขายังเป็นคนใจร้อนเมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น……」
มิมูรุใช้เวลากับพวกเขาที่สถาบันแห่งนี้ก็พอจะเข้าใจถึงความหงุดหงิดของโนโซมุที่พยายามฝึกแทบตายได้
นี่เป็นเพราะเขาพยายามจะฝึกเพื่อควบคุมพลังของมังกรเทียแมต ตั้งแต่เช้าเขาฝึกจนหมดแรงมีทั้งกลิ่นเลือดและจิตสังหารออกมาจากเขาวันแล้ววันเล่า
ในขณะเดียวกัน ก็จินตนาการถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของซีน่า
เรื่องราวของ “การบดขยี้ความฝันของซีน่า”ให้กับโนโซมุได้ฟังซึ่งตอนนี้กำลังถูกความโกรธเข้าครอบคลุม มันจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี
โดยเฉพาะกับคนที่ใจดีเช่นเขา
ถ้าโนโซมุโดนเทียแมตควบคุมอีกครั้งไม่รู้ว่าครั้งนี้พวกเขาจะพาเขากลับมาได้หรือไม่
「ไม่เป็นไรหรอก เพราะงั้นฉันไม่เป็นไรจริงๆ……」
ซีน่ายิ้ม หยุดยั้งความฝันของเธอ ความรัก และความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไป
ต่อหน้ารอยยิ้มที่สวมหน้ากากนี่ทำให้มิมูรุได้แต่กัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
ในขณะเดียวกันโนโซมุได้เผชิญหน้ากับคนๆหนึ่ง
「ยินดีที่ได้รู้จัก ไม่ทราบว่าท่านคือโนโซมุใช่ไหมคะ」
สตรีผู้สูงศักดิ์ที่เคยพบกับไอริสครั้งเดียว
ผมสีม่วงเนียนของเธอเป็นคลื่นอันอ่อนโยนซึ่งไม่มีอะไรจะทรงเสน่ห์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ผู้หญิงสุดสวยที่จะไม่มีทางลืมเมื่อได้พบเธอ อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีความเย็นซ่อนอยู่ในใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
「คุณคือ……」
「ดิฉันเม็กเลีย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ มาคุยกันสักครู่จะได้ไหมคะ?」
เธอชี้ไปที่บันไดจะพาไปสู่ห้องแต่งตัวชั้นสอง
ด้วยสายตาอันหนาวเหน็บโนโซมุถึงกับกลืนน้ำลาย
มันเจ็บไปทั้งหัวใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ~~!
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง