[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 154 บทที่ 8 ตอนที่ 11
บทที่ 8 ตอนที่ 11
โนโซมุออกจากห้องของวิคเตอร์ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกในอก ก้าวของเขาหนักหน่วงราวกับแบกรูปปั้นหินไว้บนหลัง
ได้ยินอดีตของไอริส แม้ว่าตัวเธอจะยังเด็ก แต่เธอก็มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
เขารู้สึกเข้าใจตัวเธอมากขึ้นกว่าเดิมในตอนนี้ แต่รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอตัดสินใจเช่นไร
「เอ่อ? นั่นมัน……」
ในเวลานั้นก็สังเกตเห็นแสงลอดออกมาจากห้องโถงของคฤหาสน์
แสงลอดผ่านช่องว่างของประตูที่เปิดอยู่เล็กน้อย โนโซมุมองลอดผ่านช่องว่างด้วยความสงสัย
「ไอริส?」
「โนโซมุ? ออกมาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้ล่ะ?」
ในห้องโถงนั้นมีไอริส สวมชุดผ้าไหมที่ดูเคลื่อนไหวง่าย มีเหงื่อออกบนหน้าผากของเธอ และเสื้อผ้าเองก็ค่อนข้างจะเปียก
กระจกบานใหญ่อยู่ตรงหน้าเธอและแสงเทียนที่ส่องประกายทำให้เห็นเรือนร่างของเธอผ่านเสื้อผ้าที่เปียกชื้น
「นอนไม่หลับก็เลยออกมาเดินเล่นครับ แต่ว่าไอริสซ้อมเต้นยันป่านนี้เลยเหรอ?」
「อืม ในฐานะลูกสาวของตระกูลฟรานซิส จะทำตัวขายหน้าในงานปฐมนิเทศไม่ได้ค่ะ」
「…………」
โนโซมุรู้สึกได้ถึงปมที่อยู่ลึกในอกของเธอมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาเห็นไอริสฝึกซ้อมจนดึกดื่นป่านนี้ โดยไม่ย่อท้อเลย
สำหรับไอริสการเต้นรำในงานสังคมควรเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคย นั่นมันน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเธอมากกว่า
ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ประมาทตั้งใจฝึกซ้อม แบกภาระอันยิ่งใหญ่ไว้บนหลัง
「ใช่แล้ว โนโซมุมาฝึกด้วยกันสักหน่อยไหมคะ วันนี้ฉันไม่ค่อยได้ซ้อมเต้นแบบมีประสิทธิภาพเลย ดังนั้นถ้าไม่รังเกียจช่วยเป็นคู่เต้นให้หน่อยได้ไหมคะ?」
ในระหว่างการฝึกซ้อมวันนี้โนโซมุสะดุดล้มระหว่างตอนเต้นทำให้ฝึกได้ไม่ดีนัก
เขามีเวลาฝึกเพียงน้อยนิด แต่มันก็เหมือนกับการซ้อมเต้นรำแบบงูๆปลาๆเท่านั้น ไม่ใช่การเต้นรำที่เหมาะจะเข้าสังคมเลย
โนโซมุตกใจกับคำขอของไอริส แต่เนื่องจากเป็นโอกาสอันดี เขาจึงตัดสินใจที่จะซ้อมกับเธอ
「อ่า อืม นั่นสินะ」
「เอาล่ะ โนโซมุ ฝากตัวด้วยนะคะ……」
โนโซมุประคองมือของไอริสเบาๆจากด้านล่าง
มือเรียวบางและงดงาม อย่างไรก็ตามในมือของเธอรู้สึกได้ถึงความแข็งกระด้าง ซึ่งพิสูจน์ถึงความพยายามอย่างหนัก
พอเห็นแบบนี้เขาก็ปวดใจเล็กน้อย
「ถ้างั้นจับตรงนี้……」
โนโซมุพยายามคุมไอริสตามที่เขาได้เรียนมาในวันนี้ พยายามระงับความรู้สึกใจเต้นที่หน้าอก เขาทำมันในขณะที่ประคองสติ แต่ว่าตัวเขาก็สั่นไม่หยุด
ในทางกลับกันไอริสที่มองโนโซมุกำลังผ่อนคลายราวกับเห็นปฏิกิริยาที่น่าสนใจ
「ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้นะคะ มาดามพัลรีนกล่าวไว้ว่าการเต้นรำที่ดีทั้งสองฝ่ายจะต้องผ่อนคลายเข้าไว้ค่ะ」
「นะนะนะนั่นสินะครับ……」
สีหน้าของไอริสขณะที่เธอพูดกับโนโซมุนั้นยิ้มจนออกนอกหน้าเลยทีเดียว
ในทางกลับกันโนโซมุพยายามเอามือโอบเอวไอริสแล้วเริ่มนำ แต่ดูเหมือนเขาจะรนและก้าวอย่างไม่มั่นคง
เธอยังคงยิ้มและถอนหายใจราวกับว่าช่วยไม่ได้ เธอกดมือที่วางไว้บนไหล่ของโนโซมุ
「ตรงนี้เกร็งเกินไปแล้วนะคะ โนโซมุ โน้มตัวเข้าหาฉันมากขึ้นอีกค่ะ」
「เอ๊ะ?」
เมื่อไอริสโน้มตัวเข้าไปใกล้โนโซมุมากขึ้น ระยะห่างของทั้งสองคนแทบจะติดกัน
ระยะห่างที่ห่างกันนั้นน้อยกว่าห้าเซนติเมตร เมื่อเป็นเช่นนั้นโนโซมุก็ใจเต้นแรง
กลิ่นหอมหวานและอุณหภูมิร่างกายของเธอกระตุ้นสมองของโนโซมุอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันความร้อนทั่วร่างกายก็เพิ่มขึ้น และสมองก็เริ่มที่จะหยุดคิด
「อืม แบบนั้นแหละค่ะ โนโซมุ ถ้างั้นก็เริ่มได้เลยนะคะ」
「เอ่อ! อะ ครับ!」
ไอริสเริ่มขยับร่างกายโดยไม่สังเกตเห็นถึงความสับสนของโนโซมุ
โนโซมุเริ่มขยับเท้าของตัวเองอย่างเร่งรีบในขณะที่เธอก็เร่งจังหวะมากขึ้นไปอีก
แต่ว่า การที่เธอเร่งจังหวะมากเกินไปไม่พอดีกับตัวเขาทำให้โนโซมุแทบจะสูญเสียการทรงตัว
「เหวออออออ……」
「โนโซมุ ช้าเกินไปแล้วค่ะ เร็วขึ้นอีกครึ่งจังหวะนะคะ」
「อะ อืม เข้าใจแล้ว!」
「ครั้งนี้เร็วเกินไปค่ะ ผ่อนคลายไหล่อีกหน่อยนะคะ」
「นั่นสินะครับ…」
「มันก็เหมือนกับการเหวี่ยงดาบนั่นแหละค่ะ ไม่สามารถทำมันได้ด้วยแขนข้างเดียวใช่ไหมล่ะ กล้ามเนื้อหน้าท้อง หลัง ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน และปรับเพียงแค่ “ลมหายใจ”ก็พอค่ะ」
「ท้อง หลัง และการหายใจเหรอ……」
「แบบนั้นแหละค่ะ จากนี้โนโซมุ มองมาที่ฉันสิคะ」
ไอริสจ้องมองเขาและโนโซมุก็จ้องมองไอริส
ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาอย่างอ่อนโยน โดยธรรมติ ขณะเดียวกันความเจ็บปวดที่หน้าอกเขาก็เริ่มหายไป
「อึก……」
โนโซมุหายใจเข้าลึกๆ ขยับร่างกายอย่างอิสระและรับน้ำหนักของเธอ
เท้าของพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ และด้วยจังหวะที่สอดคล้องกัน พวกเขาเริ่มจะเข้าขากันได้ดี
โดยใช้ส้นเท้าเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นตัดสิใจหมุนร่างของไอริสและวาดเส้นโค้งอันแสนงดงามตามตำแหน่งร่างกายที่เปลี่ยนไป
「อืม แบบนั้นแหละกำลังดีเลย ถ้างั้นฉันจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนะคะ」
「เข้าใจแล้ว」
เพื่อให้จังหวะใกล้เคียงกับเพลงต้นฉบับมากขึ้น การเคลื่อนไหวของไอริสจึงเร็วขึ้นอีก
ตึก、ตัก、ตั๊ก! ตึก、ตัก、ตั๊ก! ร่างทั้งสองยังคนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านห้องโถงราวกับกระแสน้ำที่ไหลผ่าน ในขณะที่ยังคงรักษาจังหวะเอาไว้
「แบบนี้เหรอครับ?」
「อืม ! เยี่ยมมากเลยค่ะ……」
ก่อนที่จะรู้ตัวโนโซมุก็เต้นรำอย่างเป็นธรรมชาติ
ความตึงเครียดทั้งหมดหายไปก่อนที่จะรู้ตัวก็กลายเป็นความตื่นเต้น และความร้อนของร่างกายที่เพิ่มขึ้น
ทั้งสองจับจังหวะได้อย่างสมบูรณ์
เหงื่อที่ไหลไปทั่วร่างกายของเขา ทิวทัศน์ในห้องโถงที่กลายเป็นเหมือนเส้นที่ถูกวาดไปตามทาง ขณะเดียวกันไอริสกับโนโซมุก็สบตากัน
เมื่อเห็นความเร่าร้อนในดวงตาของโนโซมุ รอยยิ้มของไอริสก็มีมากขึ้นและเธอยิ่งเร่งความเร็วขึ้นไปอีก
「เอาล่ะนะคะ ดิฉันจะเอาจริงแล้วนะตามจังหวะฉันให้ทันนะคะ」
「อืม!」
จังหวะที่เต้นนั้นไหลไปตามธรรมชาติจนตอนนี้มาถึงจุดไคล์แม็กซ์
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่พวกเขาเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้นออกแรงบนส้นเท้า ขาที่รับน้ำหนักก็ลื่นไถลไปไกล
「「อาาาาาาาาาา」」
เท้าของเขาลื่นไปโดนเหงื่อที่หยดลงบนพื้น
แม้ว่าโนโซมุกับไอริสพยายามฟื้นสมดุล แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะทำเช่นนั้น ร่างของพวกเขาปลิวไปตามพื้นหินอ่อนอย่างรุนแรง
ในห้องโถงยามค่ำคืนอันเงียบสงบ มีเสียงดังปัง ! ก้องกังวาล
「อิต๊ะ ต๊ะ ต๊ะ ต๊ะ…ไอริสไม่เป็นไรนะครับ?」
「อืมไม่ได้รับบาดแผลอะไรค่ะเพราะมีโนโซมุเป็นเบาะให้」
ไอริสที่นั่งค่อมโนโซมุอยู่บนอกของเขาก็ตอบด้วยความสับสนเล็กน้อย
โนโซมุโอบแขนไว้รอบเอวไอริสร่างกายเขาจึงเผลอปกป้องไอริสโดยธรรมชาติ
เด็กสาวผมขาวอ้าปากค้างโดยไม่ตั้งใจขณะเงยหน้ามองโนโซมุที่กำลังสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด
「ไอริส มีอะไรงั้นเหรอ?」
「ปะปะปะเปล่าไม่มีอะไรค่ะ……」
ด้วยท่าทางเขินอายของไอริสเธอขยับร่างและนั่งลงข้างๆโนโซมุ
เมื่อโนโซมุเริ่มลุกขึ้นและมองไปข้างๆ เขาเห็นเธอมองมาด้วยรอยยิ้มซุกซนบนใบหน้า
「ฮุฮุ โนโซมุถ้าเอาจริงก็เต้นได้ดีเลยนี่คะ?」
「แม้ว่าตอนจบจะเละไม่เป็นท่าก็เถอะนะครับ」
ฮ่าๆๆๆๆๆ ! ทั้งสองคนต่างหัวเราะ
แม้ว่าจะเต้นกันได้อย่างดุเดือด แต่มันก็น่าตลกดีที่ฉากจบดันจบได้ตลกเช่นนี้
「ไอริส สุดยอดมากเลยนะครับ……」
「เอ๊ะ? มีอะไรงั้นเหรอคะ?」
「ระหว่างที่เต้นเมื่อครู่นี้ ไอริสเป็นฝ่ายนำผมตลอดเวลาเลยใช่ไหมล่ะ ยังมีอีกหลายอย่างเลยที่ผมต้องเรียนรู้……」
หลังจากพูดจบโนโซมุก็กลืนน้ำลาย
อาการเจ็บปวดที่หน้าอกที่หายไปมันเริ่มกลับมามีอีกครั้ง
「……โนโซมุ?」
ขณะที่เงยหน้าขึ้นมองไอริสซึ่งทำท่าทีสงสัย โนโซมุนึกถึงเรื่องราวที่ได้ยินจากพวกมาซาริเน็ตก่อนหน้านี้
「ผมได้ยินมาแล้วครับ เกี่ยวกับท่านแม่ของไอริส เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมไอริสถึงพยายามเข้าร่วมกลุ่มอัศวินเงินสีรุ้งก็ด้วย」
「เข้าใจแล้วค่ะ……」
เหตุผลที่ไอริสตั้งเป้าจะเข้าร่วมกลุ่มอัศวินเงินสีรุ้ง เพื่อปลดปล่อยโซเมียด้วยการสาบานกับแม่ผู้ล่วงลับของเธอและขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลฟรานซิส
เมื่อโนโซมุเล่าให้เธอฟังว่าเขาได้ยินเรื่องนี้ ไอริสก็หายใจเข้าลึกๆด้วยสีหน้าเศร้าๆด้วยเหตุผลบางอย่าง
「ผิดหวังงั้นเหรอคะ?」
「เอ๊ะ? ทำไมผมต้องผิดหวังล่ะ?」
「แม้ว่าฉันจะบอกว่าตัวเองจะเข้าร่วมอัศวินเงินสีรุ้ง เพื่อทุกคน แต่สิ่งเดียวที่ฉันคิดถึงก็คือโซเมีย ฉันคิดถึงแค่ครอบครัวของตัวเองเท่านั้นแหละค่ะ」
น้ำเสียงของไอริสค่อนข้างเศร้า สีหน้าของเขาเองก็ดูเจ็บปวดพอๆกับเธอ
โนโซมุตกใจเล็กน้อยที่เธอพูดความจริงออกมาแต่เขาก็ยังคงฟังเหตุผลของเธอ
「จริงๆแล้วจุดประสงค์ในการเชิญมาดามพัลรีนในวันนี้ไม่ใช่แค่ฝึกเต้นเท่านั้นหรอกค่ะ นี่คือการใช้ชื่อของเธอที่เป็นผู้สนับสนุนดิฉัน ฉันน่ะไม่ได้เป็นคนดีสูงส่งอย่างที่คุณคิดหรอกนะคะ」
「การปกป้องครอบครัวมันเป็นเรื่องปกตินี่ครับ? มันไม่แปลกเลย บอกตามตรงผมชื่นชมไอริสจากใจเลย ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กอายุหกขวบจะมีความคิดที่อยากปกป้องครอบครัวขนาดนั้น……」
แม้ว่าโนโซมุจะยอมรับคำพูดที่เธอดูหมิ่นตนเอง แต่เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
เป็นเรื่องน่าเศร้าแม้ไอริสจะดูแปดเปื้อน มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะอยู่ในสังคมขุนนาง แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดคือการดูถูกความตั้งใจของตัวเอง
「ถ้าผมไม่เจอปัญหาเรื่องลิซ่าและเคน ผมเองก็คงใช้ชีวิตตามปกติ ผมต่างจากไอริสตรงที่ว่าผมโดนทรยศหักหลังและหนีความจริงไม่สนใจผู้อื่น ไม่ยอมมองคนอื่นที่มองตัวเองทำได้แต่ปล่อยให้คนอื่นๆเข้าใจผิดไปเสียหมด」
โนโซมุพูดพร้อมนึกถึงความผิดพลาดในอดีต
หากเขาเผชิญหน้ากับลิซ่าและเคนอย่างตรงไปตรงมา เคนก็คงไม่พบจุดจบน่าเศร้าแบบนั้น และอาจมีผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้
「แต่ว่าคุณก็เอาชนะความเกลียดชังทั้งหมดได้และช่วยลิซ่ากลับมาได้ โนโซมุน่ะสุดยอดมากเลยนะรู้ไหม……」
「…เอ๊ะ?」
「คุณเป็นคนที่ยกโทษให้ผู้อื่น แม้ว่าจะโดนเขาเกลียดชังถูกหักหลังมามากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ได้แต่กลืนกินความเกลียดชังและความสิ้นหวังและก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับดิฉัน ฉันไม่สามารถให้อภัยใครได้หากฉันถูกใครสักคนทรยศ หากคนสำคัญของตนเองได้รับบาดเจ็บ ฉันเองก็คงจะคลั่งจนไม่สามารถหยุดตัวเองได้ หากจิตใจแหลกสลาย ฉันก็คงกลับมายืนหยัดเหมือนโนโซมุได้หรอกนะคะ」
นั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของไอริส
มันเป็นความกังวลที่เธอรู้สึกเกี่ยวกับตนเองขณะที่เธอยังมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายของเธอ
โนโซมุหายใจเข้าลึกๆและหลับตาลง
คำตอบของความรู้สึกที่แท้จริงของหญิงสาวคนนี้ก็คือตัวเขาเอง
「ผมอยากจะยืนเคียงข้างเธอ…และไม่อยากทำให้ทุกคนต้องเสียใจ……」
โนโซมุนั้นชอบไอริส
จิตวิญญาณอันสูงส่ง ความเข้มแข็งที่ไม่หนีจากความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ
ความเป็นอยู่ที่แตกต่างจากการที่ต้องหนีความจริง
「ฉันน่ะคิดว่านายเปล่งประกายเอามากๆแม้จะซ่อนสัตว์ประหลาดนั้นไว้ในใจ แม้ว่าจะถูกทรยศ ก็แข็งแกร่งขึ้นพอที่จะกลืนกินความเกลียดชังและรักษาตัวตนเอาไว้ได้……」
ไอริสเองก็ชอบโนโซมุ
ภาพลักษณ์ของคนที่พยายามเอาชนะความเกลียดชังและไปข้างหน้า
แม้จิตใจจะแตกสลายแต่ก็กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
「โนโซมุ……」
คนที่มีพลังที่ฉันไม่มี นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ไอริสเริ่มสนใจในตัวโนโซมุ
“ฉันน่ะตกหลุมรักนายเข้าซะแล้วล่ะ……”
ไอริสครุ่นคิดถึงความรู้สึกนั้นในใจเธอ
ความรู้สึกเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เขาได้ช่วยน้องสาวสุดที่รักของเธอ และช่วยเหลือเธอในยามที่ยากลำบากตลอดมา
ความรักของเธอที่เบ่งบานเต็มที่แล้ว ได้มาถึงขีดจำกัดทันทีที่ได้ยินความรู้สึกของโนโซมุที่มีต่อไอริส
เหมือนกับน้ำที่ล้นแก้ว ความรักที่รั่วไหลกำลังจะไปหาคนข้างๆเธอ
「ฉันน่ะกับนายแล้ว……」
อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะได้บรรยายความรู้สึกออกไป สายตาของเธอเห็นแผลที่มือขวาของโนโซมุ
เลือดที่แห้งใหม่ๆ บาดแผลสดใหม่และเหนือสิ่งอื่นใดพลังเวทจางๆที่หลงเหลืออยู่บนบาดแผลหยุดความรู้สึกของไอริสที่กำลังจะพูดออกมา
「โนโซมุ แผลนั่นไปได้มาจากไหนกันคะ?」
「เอ่อ นี่เหรอ ซีน่าช่วยฝึกผมเรื่องเวทวิญญาณ เพราะงั้นก็เลยได้แผลมาน่ะ」
โนโซมุกล่าวว่าก่อนหน้านี้เขาได้ฝึกกับซีน่าเพื่อควบคุมเทียแมต
สัญญาอันทรงพลังที่ทำขึ้นด้วยโลหิต เป็นผลทำให้เขาสามารถสัมผัสวิญญาณได้
แน่นอนว่ามีบางอย่างที่ฉันไม่อยากจะบอกเขาตรงๆ ดังนั้นเลยไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นจากโนโซมุ หัวใจเธอก็เต้นแรงราวกับพายุ
「แล้ว….โนโซมุจะทำยังไงล่ะ?」
ไอริสระงับความสับสนวุ่นวายภายในตัวเธอ
เมื่อถามเขา เสียงของเขาเองก็สั่นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับเอลฟ์ซึ่งสังคมพื้นฐานอยู่กับสัญญาวิญญาณ พิธีกรรมสัญญาโลหิตซึ่งเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณคนๆหนึ่งโดยตรง ถือเป็นการกระทำอันอุกอาจและร้ายแรงที่สุดในเผ่าเอลฟ์ และมันเทียบกับมอบครึ่งหนึ่งของร่างกายให้แก่อีกฝ่าย
เนื่องจากดวงวิญญาณเชื่อมต่อกับอีกฝ่ายโดยตรง น้ำหนักมันอาจจะหนักหนากว่าการแต่งงานระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
โนโซมุและซีน่าซึ่งทำพันธสัญญาโลหิต กล่าวอีกนัยหนึ่งในมุมมองของเอลฟ์ นั่นหมายความว่าทั้งสองจะแต่งงานกัน
「เอ๊ะ? อะไรงั้นเหรอครับ?」
อย่างไรก็ตามแม้ไอริสจะกระวนกระวายใจ แต่โนโซมุได้แต่ยืนงง
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ความหมายของพันธสัญญาโลหิต
「เอาจริงงั้นเหรอเนี่ย……」
「ไอริส?」
หลังจากที่เข้าใจมากขนาดนั้นแล้วไอริสก็เข้าใจเจตนาแท้จริงของซีน่า
เธอพยายามสนับสนุนโนโซมุอย่างสุดความสามารถ โดยไม่สนใจสถานการณ์ของตัวเองหรือเรียกสิ่งตอบแทนให้มาเป็นคู่แต่งงาน
หลังจากเข้าใจความหมายของสัญญานั่นครบถ้วนแล้ว ก็เลือกที่จะปิดเงียบเอาไว้
สถานการณ์ปัจจุบันของโนโซมุ ทำให้เธอไม่สามารถลดการระมัดระวังตัวได้ พลังที่ควบคุมไม่ได้ และภัยพิบัติที่ต้องแบกรับ
โนโซมุเองก็ยังคงฝึกทรหดโดยไม่รู้เรื่องราวต่อไปโดยฝั่งซีน่านั้นต้องรับภาระทางวิญญาณไปพร้อมกับโนโซมุ ซึ่งการที่เขาไม่รู้อะไรเลยยังเป็นเหตุผลให้เขาฝึกกับซอนเน่ต่อไป
“ตอนนี้ฉันควรจะพูดอะไรกับเขาดี……”
ฉันที่พยายามจะสารภาพรักกับเขา แต่เมื่อไอริสคิดเกี่ยวกับพันธสัญญาโลหิตที่ซีน่าได้ทำ เธอก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้แพ้ไปแล้วกับซีน่าที่ทุ่มเทชีวิตของเธอเพื่อเขา
เป็นเพราะซีน่าพยายามสนับสนุนโนโซมุแม้จะต้องตายไปพร้อมกับเขาก็ตาม เธอทำได้แต่กลืนความรู้สึกที่อยากจะสารภาพรักกับเขาทั้งหมดไว้ตรงนี้และรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง
「เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รีบๆกลับกันเถอะค่ะ พรุ่งนี้คงมีเรื่องลำบากมากมายเลย」
ไอริสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและหันส้นเท้าของเธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกปิดความรักที่มันเอ่อล้น
ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหากเธอยังคงเคียงข้างโนโซมุต่อไป
「อะ แฮ่ม ! โนโซมุการฝึกเต้นในครั้งนี้ทำให้ ฉันให้เพิ่มสองคะแนนค่ะ ถ้ารวบรวมคะแนนได้ไม่มากพอ คงต้องขอมีบทลงโทษหน่อยนะคะ」
「……ถ้าเป็นเครื่องประดับหรือของราคาแพงผมตายแน่ๆนะครับ」
「เอาล่ะไว้มาตัดสินก่อนที่จะเข้างานจริงกันดีกว่า ขณะที่กำลังอยู่ในการพิจารณา……」
โนโซมุเห็นรอยยิ้มอันลึกซึ้งบนริมฝีปากของเธอ จึงเปล่งเสียงกังวลออกมา
「หวังว่าไม่ใช่พวกเพชรพลอยนะ……?」
「……ถ้างั้น จะเอาอะไรดีน้า?」
ไอริสพยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอย่างสิ้นหวังและพยายามทำตัวร่าเริงสุดขีด
ชั่วขณะหนึ่งโนโซมุเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอราวกับกำลังร้องไห้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่โนโซมุจะเอ่ยถามไอริสก็แอบเข้าประตูไปเสียก่อน
「ฮึก!」
ทันทีที่โนโซมุละสายตาจากไอริส เธอก็กัดริมฝีปากของตัวเองในขณะที่ความรักที่เอ่อล้นนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตา
อารมณ์ที่หลั่งไหลอกมาเหมือนกับกระแสน้ำ ทำให้ไอริสต้องกัดริมฝีปากแน่นขึ้นและหายตัวไปจากโถงทางเดินอันหนาวเย็น ด้วยน้ำตาหยดเดียวที่ไหลอาบดวงตาของเธอ
แม้ว่าจะรู้ว่าพวกเราชอบกัน แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะบอกความรู้สึกออกไปได้
เพราะชายหนุ่มคนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใคร
สาวเอลฟ์ที่รู้สึกผิดต่อการกระทำที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และสาวผมขาวที่รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าในการเดิมพัน
เนื่องจากทั้งสามคุ้นเคยกับการ “อดกลั้น” มากเกินไปเส้นทางของพวกเขาจึงมาบรรจบกัน แต่ต่างคนก็ต่างเดินไป
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของทั้งสามเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนกับระลอกคลื่นที่แผ่กระจายไปทั่วผิวน้ำของทะเลสาบ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
รถม้ากลุ่มหนึ่งเดินทางมาถึงอัลคาร์ซัมขณะที่หิมะเริ่มตก
อัศวินที่ดูเหมือนผู้คุมรถม้าที่ไร้ซึ่งการตกแต่ง มีเพียงแสงสลัวของชุดเกราะที่คล้ายดาบเท่านั้นที่แต่งแต้มสีสันให้กับพวกเขา
รถม้าอัศวินคุ้มกันก็ดูคล้ายกับทหารที่มีไว้ประดับฐานะ
มีผู้หญิงคนหนึ่งชวนน่าหลงใหลขึ้นไปบนรถม้า
เมื่อเธอยืนอยู่หน้ารถม้าก็ก้มลง ณ พื้นตรงนั้น
「กำลังรออยู่เลยค่ะ นายท่านอีกอร์ต」
「อืม……」
คนที่ลงจากรถม้าเป็นชายสูงเกือบสองเมตรและมีกล้ามล่ำสันไปทั่วร่างกาย วิธีที่เขาจ้องมองเม็กเลียซึ่งคุกเข่าอยู่นั้นเผยแพร่ความกลัวไปทั่ว
อีกอร์ต เฟบูรัน
เมื่อประกอบกับรูปร่างสูงใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและเมื่อเงยหน้ามองคฤหาสน์ที่เตรียมไว้สำหรับเขาด้วยดวงตาแข็งกระด้าง เขาก็เข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับอัศวินหญิงของเขา
ฤดูกาลแห่งงานปฐมนิเทศกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
จากผู้แต่ง C a d e t
ตอนที่ผมคิดเขียนคำนำเรื่องนี้ ผมกังวลมากเลยล่ะ พูดตามตรง ตอนแรกก็คิดว่าจะปล่อยให้ไอริสสารภาพรักไปเลยอยู่หรอก ตอนแรกก็เขียนเวอร์ชั่นนั้นนะ และก็ลองเขียนเวอร์ชั่นซีน่าไว้ด้วย เรียกได้ว่าเขียนไว้สองแบบเลยล่ะ อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่า ที่ผมให้ซีน่าเป็นคนเคลื่อนไหวคนแรก ความจริงที่โนโซมุยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริง และด้านของไอริสในฐานะสาวขี้อายและอ่อนแอ จนสุดท้ายก็มีใจสู้จนถึงขั้นสารภาพรัก ทั้งๆที่มันควรจะจบลงเช่นนี้….แต่ว่า ตัวผมน่ะให้มันจบแบบนั้นมันก็ดูง่ายเกินไป อย่างน้อยก็ต้องมีทิ้งทุ่นระเบิดก่อนจะได้คบกันและปิดฉากแบบแฮปปี้เอนดิ้ง นั่นแหละเพราะงั้นตอนแรกที่ว่าจะจบมันเลยไม่จบไงงงงง ผมไม่ได้แกล้งคนอ่านจริงๆนะจะบอกให้….(ปล่อยให้ฝันหวานกันไปก่อน)
ป.ล.วันนี้อาจจะได้ตอนนึงถึงสองตอน มันร้อนผมแปลสู้แดดไม่ไหว แอร์ก็เปิดบ่ได้ บ่มีเงินจ่ายค่าแอร์ เข้าทำงานประมาณเดือน 6 ตอนนี้เป็นคนว่างงานไปก่อนนนนนนน
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์//True Wallet