[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก - ตอนที่ 15 ในฐานะคน 1 คน ไม่มีสาวดุ้นสองคนที่เหมือนกัน
- Home
- [นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก
- ตอนที่ 15 ในฐานะคน 1 คน ไม่มีสาวดุ้นสองคนที่เหมือนกัน
ตอนที่ 15 ในฐานะคน 1 คน ไม่มีสาวสวยสองคนที่เหมือนกัน
อะไรคือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับเทรุคามิ มิซุฮิ
เมื่อถูกถามด้วยคำถามนั้นเธอก็จะตอบโดยไม่ลังเล
ว่า『ซากุระนิวะ รักกะ』
ทักษะขั้นสูงสุดอันเป็นผลมาจากพรสวรรค์โดยกำเนิด และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
เธอเชื่อว่าเธอคนนั้นแข็งแกร่งที่สุด เพราะเธอคนนั้นก้าวเข้าสู่ขอบเขตอาณาเขตที่อาจเรียกได้ว่าเป็นขีดจำกัดของมนุษย์
แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น
ถ้าซากุระนิวะ รักกะแข็งแกร่งที่สุด
ผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอที่ดูเหนือชั้นกว่านั้นคือใครกัน
「――อะฮ่าๆๆๆ、เธอน่าสนใจจริง ๆ เน๊ะ!」
「เป็นเช่นนั้น หากคุณชอบ、ฉันก็ดีใจ」
เสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธดังก้องกังวาน
มันเป็นเสียงเคียวและหอกปะทะกันอย่างอิสระในทุกทิศทาง
ยังไงก็ตาม、มันเป็นโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
เด็กสาวที่ชื่อโซลเซียลากำลังไล่ต้อนซากุระนิวะ รักกะให้จนมุมอย่างเป็นธรรมชาติ
「ฉันอุตส่าห์คิดว่าเป็นซากุระนิวะ รักกะคนนั้น、แต่ก็ดูช่างน่าประหลาดใจที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยเน๊ะ」
「เจ็บจังน๊า」
ซากุระนิวะ รักกะพูดอย่างสนุกสนาน ขณะหลบเคียวและแทงหอกออกมา
ลมพัดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ยังไงก็ตาม、โซลเซียลาคนนั้นก็หลบได้ด้วยการเอียงตัวเพียงเล็กน้อยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อย
「……เธอไม่ได้ทำนายการโจมตี、แต่หลบหลีกหลังจากที่เห็นแล้วเน๊ะ เป็นการมองเห็นการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ไม่อาจเข้าใจได้ล่ะ」
「เหรอ? เพราะการโจมตีนั้นช้าเกินไปไง」
โครงร่างของเคียวดูพร่ามัวเล็กน้อย
ในพริบตาต่อมา เคียวก็ถูกเหวี่ยงลงมา
ตั้งแต่ไหล่ขวาของซากุระนิวะ รักกะลงมา、ถูกตัดแยกออกจากกันโดยไม่ทันได้ตะลึง
「อาร๊าๆๆๆ」
ซากุระนิวะ รักกะกระโดดถอยห่างจากโซลเซียลา และวางมือซ้ายลงบนผนัง
จากนั้นซีกขวาซึ่งควรจะขาดหายไปแล้วก็ถูกฟื้นขึ้นมาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「นี่ก็ครั้งที่สิบ หรือว่าบางที、จะอยู่ยงคงกระพันกัน」
「ไม่เลย、มันได้ผลไม่ใช่น้อยเน๊ อืม……บางทีเธออาจจะแค่เหน็บแนมสินะ?」
ในขณะที่ซากุระนิวะ รักกะยักไหล่ ดวงตาของเธอไม่ได้ยิ้มเลย
「ฉันพยายามดึงเอาตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เธอจะจินตนาการได้มาสักระยะแล้ว แต่ไม่ได้ผลเลยเน๊ะ ราวกับว่ามีบางสิ่งที่คอยป้องกันไว้ บางสิ่งที่แข็งแกร่งจนสามารถขัดขวางไม่ให้ฉันแทรกเข้าไปได้」
「เหรอ」
โซลเซียลาพ่นเสียงออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
และจากนั้น เธอก็พูดออกมาพร้อมกับใช้เคียวปัดการโจมตีของซากุระนิวะ รักกะที่กระโดดเข้ามา
「ไม่มีดวงดาวใดที่จะส่องประกายเทียบเท่ากัน สิ่งที่คุณพูดเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ความล้มเหลวของตัวปลอมที่ต่ำต้อย」
「คึก、พูดไปเถอะเน๊」
「ใช่ ซากุระนิวะ รักกะ……ถ้าเป็นเธอ เธอจะไม่มีทางเปิดเผยความอัปลักษณ์เช่นนั้น」
「งั้นเร๊องั้นเร๊อ、เธอเองก็เคยเจอกับฉันมาก่อนสิน๊า! จ๊า、ไม่ได้เจอกันนานเลยเน๊!」
「สำหรับตอนนี้ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณของปลอม」
โซลเซียลาประกาศอย่างชัดเจนว่าเธอคนนั้นเป็นของปลอม
ดูเหมือนจะมีความโกรธเล็กน้อยในสายตานั่น
และ ในเวลานั้นเอง
「――คุณจะทำยังไง?」
นอกจากคำถามนั้นแล้ว โซลเซียลายังโยนบางสิ่งมาให้มิซุฮิอีกด้วย
จากนั้น、เมื่อเห็นว่าเป็นปืนที่ถูกพรากไปโดยซากุระนิวะ รักกะ ฉันก็รีบคว้าไว้ทันที
โซลเซียลาพูดอย่างเบื่อหน่าย、เมื่อเห็นสภาพของมิซุฮิ
「ฉันคิดว่าคุณควรเลิกเป็นคนดูได้แล้ว」
「……อ้า」
ฉันขึ้นไปยืนเคียงข้างโซลเซียลา
ตัวตนที่แท้จริงของเด็กสาวยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
ถึงกระนั้นฉันก็ตัดสินใจที่จะเชื่อใจเธอในช่วงเวลานี้
(ไม่มีดวงดาวใดที่จะส่องประกายเทียบเท่ากัน、สินะ ใช่แล้วล่ะ นั่น、ไม่ใช่ทั้งคุณครู หรือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันปรารถนาจะเป็น)
ความปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะหลังจากที่ยอมแพ้ไปแล้ว กลับมาคำรามอยู่ในตัวมิซุฮิอีกครั้ง
มิซุฮิในตอนนี้ไม่คิดที่จะสละชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ
ทว่า โลกทัศน์เดียวที่ฉันเห็นในสายตาก็คือ การเอาชนะจอมปลอมที่อยู่ตรงหน้า
「อะฮ่าๆๆๆ、ถ้าเป็นมิซุฮิจะสู้ได้เหรอนะ? ถึงการไม่ยอมแพ้จะดี สิ่งที่คุณต้องทำคือดูการต่อสู้อย่างเงียบ ๆ ไปเถอะ เธอ、ตามไม่ทันหรอกนะ」
「เป็นเช่นนั้น ในสายตาของฉัน、เป็นคุณต่างหากที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง」
「เอ๊ะ?」
ก่อนที่ใครจะทันรู้ตัว、เคียวที่โซลเซียลาถืออยู่ก็ปรากฎต่อหน้ามัน
ร่างกายซึ่งเป็นผลผลิตของดันเจี้ยนไม่จำเป็นต้องกระพริบตา
ดังนั้นข้อมูลภาพจึงแทบไม่มีความล่าช้าเลย
ถึงกระนั้น มันก็ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของการก้าวเข้ามาครั้งนี้ได้
「คุโซ!」
ซากุระนิวะ รักกะสร้างเกราะสายลมขึ้นมา
มันเล็งไปที่ช่วงเวลาที่เคียวจะหยุดเพียงเสี้ยววินาทีเมื่อพยายามตัดผ่าน และมันจะแทงหอกออกไปตอบโต้
ยังไงก็ตาม ปลายหอกระเบิดเบี่ยงออกจากกระสุน
「ฉันเห็นการเคาน์เตอร์นั้นมามากเกินพอจนเกลียดเข้าไส้แล้ว」
จากด้านหลัง、มิซุฮิพูดพร้อมกับเล็งปืน
เปลวไฟพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนนั้น
「ไอ้ท่าทางล้มเหลวที่ไม่สามารถเอาชนะฉันได้หายไปกันล่ะ!」
「อาร๊า、โรลเพลย์เป็นซากุระนิวะ รักกะจบแล้วเหรอ? ไม่เอาสิ、จะทำก็ทำให้จนจบสิ」
เคียวแทงเข้าไปในลำตัวของมัน
จากนั้นจึงถูกหั่นเป็นชิ้นใหญ่
「っ!」
โชคดีที่มันไม่รู้สึกเจ็บปวด 、ซากุระนิวะ รักกะกระโดดไปข้างหลังด้วยบาดแผลที่ใครเห็นแวบแรกก็ต้องบอกว่าไม่มีทางขยับตัวได้
จากนั้นมันก็วางมือลงบนพื้นดันเจี้ยน
ทันใดนั้น ลำตัวที่ควรจะถูกฉีกกระชากออกจากกันก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
「ไม่ว่าจะพยายามอีกสักกี่ครั้งก็เปล่าประโยชน์ ฉันจะไม่มีวันแพ้ เพราะฉันแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้」
「ไม่เลย แกไม่ใชคุณครู ท้ายที่สุดแล้ว แกก็มีอยู่แค่ในขอบเขตจินตนาการของฉันเท่านั้น หากเป็นคุณครูจริงล่ะก็、หากเป็นซากุระนิวะ รักกะ、เธอจะต้องแข็งแกร่งกว่าที่ฉันจะจินตนาการไว้อย่างแน่นอน」
「……ถ้างั้นฉันจะเหนือกว่านั้น!」
ซากุระนิวะ รักกะวิ่งออกมาพร้อมกับหอก
เป็นการโจมตีที่เร็วที่สุดในความทรงจำของเทรุคามิ มิซุฮิ
เป็นการโจมตีที่ไม่เหนือจินตนาการ
「ฉันเดาว่านั่นคือขอบเขตของมันสินะ」
กระสุนถูกยิงออกไป
เมื่อกระสุนน้ำและเปลวไฟสองนัดเข้าไปใกล้ดวงตาของซากุระนิวะ รักกะพวกมันก็ปะทะกัน และกลายเป็นไอน้ำจำนวนมากที่ระเบิดไปทั่ว
ในขอบเขตการมองเห็นที่กลายเป็นสีขาวสะอาดโดยสมบูรณ์ ซากุระนิวะ รักกะเริ่มจัดการกับสถานการณ์ด้วยกลไก
「เป็นรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครน๊า」
มีลมพัดเข้ามา และกระจายม่านไอน้ำในเวลาไม่ถึงวินาที
ยังไงก็ตาม หนึ่งวินาทีนั้นเป็นขีดจำกัดที่ไม่สามารถข้ามผ่านได้
「ไม่ซ้ำใครแน่นอนเน๊ะ」
โซลเซียลาอยู่ตรงหน้ามัน
การหลบหลีก การสกัดกั้น รูปแบบพฤติกรรมทุกประเภทถูกคำนวณไว้แล้ว แต่ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีทางหนีจากโซลเซียลาได้
「เข้ากันได้ดีเลยนะ、เทรุคามิ มิซุฮิ」
「อ้า」
เคียวเหวี่ยงลงมาฟันซากุระนิวะ รักกะในแนวตั้ง
ซากุระนิวะ รักกะแทงหอกออกมาราวกับจะไม่ยอมแพ้ ตอบโต้โซลเซียลาที่กำลังเหวี่ยงลงไปหา แต่มือของมันก็ถูกกระสุนน้ำตัดขาด
เมื่อไม่เหลือหนทางที่จะโจมตีกลับ ซากุระนิวะ รักกะก็ถูกโซลเซียลาใช้ด้ามเคียวตีหัว
การมองเห็นถูกบังคับให้ต้องเงยหน้ามองขึ้นข้างบนจากกระสุนเพลิงที่ระเบิดกระจายไปทั่วขอบเขตการมองเห็น
「っ!? ……ทำให้การมองเห็นหายไปสินะ、เข้าใจแล้วเน๊ะ」
ดวงตาถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ
ในเวลาเดียวกัน มันก็รู้สึกว่าเท้าขวาของมันหล่นหายไปในขณะที่การมองเห็นถูกทำให้มืดบอด
「แย่แล้วล่ะน๊า」
ซากุระนิวะ รักกะใช้ขาซ้ายที่เหลือและลมกระโดดถอยหลังครั้งใหญ่
เมื่อไม่สามารถรับรู้ถึงระยะห่างใด ๆ ได้ มันจึงกระแทกร่างกายเข้ากับกำแพง แต่ก็ไม่มีปัญหากับเรื่องนั้น
「ฉันสามารถแก้ไขได้อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้แหละ」
ซากุระนิวะ รักกะพูดราวกับกำลังบอกตัวเองอยู่
ไม่มีวี่แววว่าทั้งสองจะเข้ามาหา
มันคิดว่าพวกเธอกำลังมั่นใจว่าเอาชนะมันได้แล้ว และกำลังลดความระมัดระวังลง
「――วิกฤติ、ในช่วงเวลาเช่นนี้ยังคิดว่าตนเองเป็นซากุระนิวะ รักกะอยู่อีกหรือไม่?」
มันได้ยินเสียงในความมืด
เสียงใส ๆ、เสียงของโซลเซียลา
「……ฉันคิดซากุระนิวะ รักกะ」
「คุณกำลังพยายามโน้มน้าวฉันรึ นั่นน่าสมเพชเน๊ะ」
「ไม่คิดว่าตัวเองประมาทเกินไปรึไง? ฉันกับเธอต่างก็รู้ดีว่าใครที่ได้เปรียบในการต่อสู้ที่ต้องใช้ความอดทนแบบนี้กันจริงไหม?」
「ฉันเข้าใจแล้วว่าการฟื้นคืนชีพทำงานอย่างไร」
เสียงทรงพลังประกาศชัดเจน
ในขณะเดียวกัน、ซากุระนิวะ รักกะก็รู้สึกไม่สบายตัว
ทำไมการมองเห็นของมันยังมืดบอดอยู่
ระบบที่ควรจะซ่อมแซมทั้งแขนได้ทันทีกลับไม่ทำงาน ไม่ต้องพูดถึงความเสียหายที่ลำตัวเลย
มันายังคงเหลือเพียงขาซ้าย และรอยแผลเป็นยังคงอยู่บนหลายส่วนของร่างกาย
「……มันเกิดอะไรขึ้นกัน」
ซากุระนิวะ รักกะเปลี่ยนจากการฟื้นตัวโดยรวมเป็นการฟื้นฟูดวงตา ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูการมองเห็นเพียงเท่านั้น
แม้ว่าภาพจะเบลอ แต่การมองเห็นของมันก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง และในที่สุดมันก็มองเห็นภาพตรงหน้าได้ชัดเจน
「อะ」
ซากุระนิวะ รักกะไม่รู้ตัวเลยว่านั้นเป็นเสียงกรีดร้องที่หลุดออกมาจากตัวเอง
นี่เป็นเพราะมันไม่มีกำลังเหลือพอในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว
「――ฉันจะปล่อยให้เวลาการยิงขึ้นอยู่กับคุณ คุณทำได้ใช่ไหม?」
「ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของฉันเอง」
ด้ามเคียวยักษ์ของโซลเซียลา、และปืนพกคู่ของเทรุคามิ มิซุฮิ
ปากกระบอกปืนทั้งสามกระบอกชี้มาทางมัน
และทั้งหมดนั้นกำลังมีพลังเวทมนตร์อันหนาแน่นมาบรรจบกัน
「การโจมตีแบบบรรจบของพลังเวทมนตร์……!? เข้าใจล่ะ พวกเธอกำลังขโมยพลังเวทมนตร์ที่สร้างดันเจี้ยน!?」
「ความสามารถในการฟื้นฟูที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคุณเกิดขึ้นได้โดยการใช้ทรัพยากรของดันเจี้ยน ในกรณีนั้น ทำไมเราไม่เอามันออกไปทั้งหมดล่ะ」
「……เป็นปีศาจรึไง」
「ถ้าเป็นซากุระนิวะ รักกะก็หัวเราะสิ」
โซลเซียลาพูดอย่างเงียบ ๆ
「การป้องกัน、เป็นไปไม่ได้เน๊ะ」
เคียวยักษ์ได้รวมพลังเวทมนตร์เสร็จสิ้นแล้ว
และ、เทรุคามิ มิซุฮิเองก็รวมพลังเวทมนตร์เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
「พลังนี้……!นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันรู้สึกได้ถึงพลังเวทมนตร์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัว」
「คุณคิดว่าจะจัดการมันได้หรือไม่?」
「อ้า ต่อให้ต้องบังคับ、ก็ต้องทำให้เป็นของฉันให้ได้」
「เช่นนั้นก็ดี」
มิซุฮิเอามือเหนี่ยวไกปืน
น้ำและเปลวไฟพุ่งทะยานออกมาจากปากกระบอกปืนราวกับรอคำสั่งจากผู้เป็นนายมานานแล้ว
โซลเซียลาวางมือบนด้ามจับ
เคียวยักษ์ที่เคลื่อนไหวกำลังรอช่วงเวลานั้นอย่างเงียบ ๆ
「ลุยกันเลย」
「ได้――ไม้เท้าเสียงกระซิบแห่งดวงดาว(โซลเซียลา)」
เมื่อเรียกชื่อแล้ว、เธอก็เหนี่ยวไก
ทันใดนั้น แสงสีเงินและรัศมีแสงเวทมนตร์เกลียวสีแดงและน้ำเงินก็ถูกปล่อยออกมา
การโจมตีแบบบรรจบพลังเวทมนตร์สองครั้งที่หนาแน่นมากจนสัตว์ประหลาดทั่วไปไม่สามารถคงร่างของมันไว้ได้แม้แต่วินาทีเดียวกำลังเข้าใกล้ซากุระนิวะ รักกะ
「คิดว่าฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้เรอะ!」
ด้วยเสียงกรีดร้อง มันดึงพลังแห่งลมออกมาอย่างเต็มที่
แปลงพลังเวทมนตร์จากสภาพแวดล้อมที่ประกอบขึ้นเป็นดันเจี้ยนให้กลายเป็นทรัพยากรของความสามารถแห่งลม สร้างกำแพงแห่งลมที่เกินกว่าพลังดั้งเดิมของมัน
「ฉันคือ、ซากุระนิวะ รักกะ!ฉันแข็งแกร่งที่สุด!」
ในไม่ช้า กำแพงและการระดมยิงก็ปะทะกัน
กำแพงและการระดมยิงที่ยิ่งใหญ่เกินค่าทางทฤษฎีสูงสุด
ยังไงก็ตาม การระดมยิงสามารถทำลายกำแพงได้โดยปราศจากการต่อต้านแม้แต่วินาทีเดียว
「อ้าーอา」
เสียงสบาย ๆ
เหล่านี้คือคำพูดและการกระทำที่ตามรอยซากุระนิวะ รักกะได้อย่างสมบูรณ์แบบ
「ทำได้แล้วเน๊ะ、ทั้งสองคน」
และด้วยเหตุนี้、ร่างของซากุระนิวะ รักกะก็หายไปในแสงแห่งพลังเวทมนตร์
สิ่งที่เหลืออยู่ในที่เกิดเหตุคือ ผนังห้องผ่าตัดที่ถูกไฟไหม้และละลาย คอร์ และหินเวทมนตร์
สิ่งที่เลียนแบบซากุระนิวะ รักกะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
「จบแล้วสินะ」
「น่าจะใช่」
โซลเซียลาพยักหน้า、ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเริ่มเดิน
นั่นคือทางออกของห้องผ่าตัดในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งที่คอร์อยู่
「คุณไม่ต้องการคอร์เหรอ?」
「ไม่ต้องการ ……อ้า、อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้มาช่วยคุณหรอกนะ」
เคียวยักษ์ชี้มาทางมิซุฮิ
「ทว่า、เป้าหมายของเราเหมือนกัน เพราะดันเจี้ยนแห่งนี้ไม่ปกติ」
「……คุณรู้อะไรอย่างงั้นเหรอ」
「ทุกอย่าง เกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น และสิ่งที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้」
พูดจบโซลเซียลาก็ใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปในเคียวเล็กน้อย
มิซุฮิเผชิญหน้า จ้องมองตรงไปข้างหน้าโดยไม่ยกอาวุธขึ้น
เกิดความเงียบเล็กน้อยไหลผ่านระหว่างคนทั้งสอง
คนแรกที่เคลื่อนไหวคือ โซลเซียลา
เธอสูดจมูก รู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทีของมิซุฮิ จากนั้นจึงหันส้นเท้าแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
มิซุฮิจ้องมองเธอจนลับสายตาไป
「……ไปแล้วสินะ」
ฉันอดไม่ได้ที่จะทรุดลงนั่งบนพื้นโดยไม่ตั้งใจ
ฉันเหงื่อออกมาก อาจจะเพราะโล่งใจแล้วก็ได้
『……ไม่เป็นไรใช่ไหม、มิซุฮิซัง』
「ถ้าให้พูดแล้ว、ก็ยังอยู่เน๊ะ」
『ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ คณะกรรมการแจ้งให้ฉันเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโซลเซียลาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นจึงต้องใช้งานโหมดพรางตัวไว้』
「คณะกรรมการ? งั้นเหรอ、กะแล้วว่ามีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเน๊ะ」
『ใช่แล้ว ทันทีที่เธอปรากฏตัวขึ้น ความเข้มข้นของพลังเวทมนตร์ในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นทันที มันแสดงให้เห็นค่าตัวเลขที่เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก』
ฉันต่อสู้เคียงข้างเด็กสาวแบบนี้เหรอ มิซุฮิก็อดใจสั่นไม่ได้
『มิซุฮิซัง、การโจมตีบรรจบครั้งสุดท้ายนั่น นั่นน่ะ、เป็นการโจมตีขนาดใหญ่ที่โดยปกติจะดำเนินการโดยใช้การคำนวณพร็อกซีโดยใช้ไดฟ์เกียร์ ยังไงก็ตาม、ครั้งนี้โซลเซียลาเข้ามารับภาระและการคำนวณทั้งหมด ทำให้สามารถโจมตีแบบบรรจบกันได้』
「ฉันคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่ฉันจะยิงอะไรแบบนั้นได้」
โอเปอร์เรเตอร์ที่ควบคุมกล้องโดรนอยู่ที่อีกด้านยังคงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างยิ่ง
『ความสามารถในการแทรกแซงนักสำรวจคนอื่นเพียงฝ่ายเดียว และการจัดการเวทมนตร์ที่โดดเด่น เมื่อพิจารณาถึงทักษะของเขาแล้ว คณะกรรมการบริหารของ Apis ได้กำหนดให้โซลเซียลาเป็นนักสำรวจระดับS แร๊งค์อย่างไม่เป็นทางการ และคำสั่งพิเศษ ได้ตัดสินใจที่จะเปิดเผยการมีอยู่ของเขาต่อสาธารณะ』
「……ก็เธอทำอะไรที่ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลตั้งเยอะเลยนิเน๊ะ」
ความหมายของการตัดสินใจของคณะกรรมการ
นั่นคือ『ให้แสร้งทำเป็นว่า การกระทำทั้งหมดของโซลเซียลาเป็นไปตามการร้องขอจากคณะกรรมการบริหาร Apis ในรูปแบบของการตามเก็บกวาดงาน』อะไรประมาณนั้น
นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดปกติของคณะกรรมการบริหารของ Apis
「ดูท่าแล้วจะต้องการเธอมากทีเดียวเน๊ะ」
『เพราะไม่มีเหตุผลที่จะพลาดไปด้วยล่ะนะ พูดไปแล้ว、ก็ต้องขออภัยด้วย แต่หลังจากนี้ พวกเขาอยากให้คุณมาให้ปากคำที่อาเรียนรอดน่ะ』
「ไม่เป็นไรหรอก ดีซะอีก คำให้การของฉันที่ได้จากการต่อสู้ร่วมกันกับเธอจริง ๆ มันต้องมีคุณค่าต่อมุมมองของคณะกรรมการล่ะนะ」
พูดจบ、มิซุฮิก็หยิบคอร์กับหินเวทมนตร์ขึ้นมา
ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงกำแพงพังทลายลงเล็กน้อย
เมื่อมิซุฮิมองไปที่นั่น เธอก็เห็นเคย์ซึ่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งกำลังยืนพิงผนังอยู่
「รุ่นพี่มิซุฮิ、ขอโทษด้วยครับ ……ผมมาสายไป」
「ไม่ต้องห่วงหรอกน๊า แล้วก็พิชิตดันเจี้ยนได้แล้วด้วย ――โดยโซลเซียลาล่ะน๊า」
「โซลเซียลา!?」
เคย์อุทานด้วยความตกใจ
「โซลเซียลา 『นักสำรวจสาวสวยลึกลับที่กำลังถูกพูดถึงในสตรีมมิ่ง』คนนั้นนะเหรอครับ!?」
「อะ、อ้า。ใช่แล้ว」
เคย์ที่พูดแปลก ๆ เกี่ยวกับโซลเซียลาก็รีบวิ่งมาหามิซุฮิ
「รุ่นพี่มิซุฮิ、บาดเจ็บตรงไหนไหมครับ!? ไม่รู้โซลเซียลาเป็นศัตรูหรือมิตรกันแน่?」
เมื่อเห็นเคย์ดูกังวล มิซุฮิก็ยิ้มให้เขาสบายใจ
「อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ศัตรูล่ะนะ」
「เป็นอย่าง、งั้นเหรอครับ แล้วนั่นคอร์ของดันเจี้ยนเหรอครับ!? นอกจากนี้หินเวทมนตร์ที่กองเป็นภูเขาอีก」
「อ้า ทุกสิ่งถูกปล่อยทิ้งไว้โดยโซลเซียลา」
「แค่เข้ามาสู้ แล้วไม่ขอรางวัลใด ๆ เลยเหรอครับ?……ให้ความรู้สึกไม่ดีเลยนะครับ」
เคย์ขมวดคิ้ว
จากนั้น ด้วยก้าวที่ไม่มั่นคง เขาเริ่มช่วยเก็บหืนเวทมนตร์กลับมา
「ถ้าร่างกายยังเจ็บอยู่、ก็อย่าฝืนตัวให้มากเกินไปน๊า」
「ไม่เป็นไรหรอกครับ โซลเซียลาไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเทียบกับโซลเซียลาแค่นั้นแหละครับ」
「……ไม่หรอก、นายช่วยฉันไว้มากแล้ว」
พูดจบมิซุฮิก็ตบหัวเคย์
เคย์ดูประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหัน แต่แม้ว่าเธอจะดูเขินอาย แต่ก็ยังทำตามที่ต้องการ
เป็นการหันเหความสนใจจากความลำบากใจหรือเปล่า
ในที่สุด เคย์ก็พูดออกมา
「โซลเซียลา、คุณเป็นใครกันแน่……!」
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ