[นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก - ตอนที่ 11 เพียงเพราะเป็นสาวดุ้นไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับแก่นหลักของเรื่อง
- Home
- [นิยายแปล(WN)] สาวดุ้นตัวร้าย ผมที่กลับชาติมากเกิดใหม่เป็นตัวร้าย ♂ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้กับการTSหรอก
- ตอนที่ 11 เพียงเพราะเป็นสาวดุ้นไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับแก่นหลักของเรื่อง
ตอนที่ 11 เพียงเพราะเป็นสาวสวยไม่ได้หมายความว่าจำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับแก่นหลักของเรื่อง
ยังไงดี ทุกคนดูใจดีจังเลย
อาจเป็นเพราะฉันพยายามอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับโรคุฮาระซังสินะ
แต่หากลองสืบหาต้นตอดูให้ดี ก็ฉันนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ ช่างเป็นรสชาติเหมือนก่อเรื่องเดือดร้อนเพื่อให้ได้เครดิตจากการแก้ปัญหาเลย ……ไม่สิ、สาเหตุหลักคือไลฟ์สดนั้นต่างหากสิเน๊ー! ถ้าแม่นั่นไม่ไลฟ์สดปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นง๊าย!
ถ้าเกิดเรื่องคราวหน้า ฉันจะทุบแม่นั่นเอง
「ซ้า、ทุกคนปลอดภัยดี วันนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในโรงเรียนที่แสนสนุกสนานกันเถอะจ๊ะ」
ในห้องสภานักเรียน รุ่นพี่มิโรคุพูดแบบนั้น แล้วหัวเราะพร้อมกับปรบมือหนึ่งครั้ง
เมื่อฉันดูโทรศัพท์เพื่อดูว่าหมายเลขโทรศัพท์ถูกต้องหรือไม่ สายก็ถูกตัดเป็น ……ขออภัยในความไม่สะดวก
「วันนี้รู้สึกยังกับทำงานไปหนักมากเลยน๊า แต่ว่า……พอนึกย้อนกลับไปดูแล้วก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย ท้ายที่สุด ฉันก็ไม่เจอดีมอนเกียร์นั่นที่เป็นเป้าหมายด้วย」
รุ่นพี่มิซุฮิพึมพำด้วยความไม่พอใจขณะขัดไดฟ์เกียร์ของตัวเอง
ถ้าไปเจอเข้าจะตรงไปที่รูท BAD ณ จุดนั้นเลยนี่สิ、ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะไม่ไปเจอมันเข้าจริง ๆ พูดไปแล้วในแง่นั้น、ปล่อยให้โรคุฮาระซังไปยังดีกว่า
「ว่าไปแล้ว、ดูเหมือนเคย์คุงก็อยากลงทะเบียนเพื่อทำงานกู้ภัยดันเจี้ยนล่ะ」
「อะไร? เรื่องนั้นจริงเหรอ」
รุ่นพี่มิโรคุบอกเรื่องนั้นกับรุ่นพี่มิซุฮิ เป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่าเธอจะสัมผัสได้ว่าหากสิ่งต่าง ๆ ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ รุ่นพี่มิซุฮิอาจจะไปจบลงที่สถานที่ทดลองนั้นอีกครั้ง
พูดไปแล้วก็ใช่ล่ะนะ
เดิมทีฉันเองก็กำลังจะไปช่วยในฐานะผู้ช่วยหาเงินรายใหม่ล่ะนะ
「ใช่แล้วล่ะครับ ผม、เข้าใจวิธีที่จะทำให้ร่างกายไม่สั่นเป็นอย่างดีจากดันเจี้ยนสำหรับผู้เริ่มต้นแล้วครับ、และหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันในครั้งต่อไป」
「งั้นเหรอ ถ้างั้น、ไปกันเลยเถอะ」
「เอ๊ะっ」
ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย
แต่ดูเหมือนเธอจะเข้าใจการจ้องมองของฉัน、รุ่นพี่มิซุฮิก็ยืนขึ้นและพยักหน้าอย่างมั่นใจ
「ไม่มีปัญหา อาหารเช้าใส่อยู่ในทัปเปอร์แวร์นี่แล้ว ไปกินกันที่นั้นกันเถอะ」
「……เป็นถั่วงอกอีกแล้ว、เหรอครับ?」
「ใช่แล้ว ทำไมล่ะ?」
แค่นี้คุณก็ทำให้สู้ได้ทุกวันแล้วเร๊ออออออ
ณ ใจกลางเมืองของเมืองแห่งโรงเรียน ฮิโนะซึจิ
ที่ศูนย์กลางของมันคือ หอคอยที่ดูเหมือนโครงสร้างเกลียวDNAขนาดยักษ์
ที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ『อาเรียนรอด』
สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการ Apis ซึ่งดูแลโรงเรียนทั้งหมดที่ตั้งอยู่ที่นี่
ระบบกู้ภัยของดันเจี้ยนได้รับการคิดขึ้นโดยคณะกรรมการบริหารของ Apis และดำเนินงานมาจนถึงทุกวันนี้
「ที่นี่อาเรียนรอด……」
「ถ้าพูดตรง ๆ แล้ว ยังไม่ใช่น่ะ ตั้งแต่ชั้นที่สิบของอาคารนี้ขึ้นไปถึงจะเป็นอาเรียนรอดล่ะ」
รุ่นพี่มิซุฮิพูดแบบนั้น ขณะพาฉันเดินไปรอบภายในอาคาร
「การที่ก้าวเข้ามาในอาเรียนรอดได้ก็เป็นเหมือนการพิสูจน์ว่า、ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการ Apis ล่ะ」
「เห้」
ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
เรื่องพวกนี้ไม่มีการบรรยายไว้ในเนื้อเรื่อง
ถ้าจะมีอะไรก็、ฉันรู้สึกเหมือนจำได้ว่า โทรัคคุงจะมาอยู่ในอาเรียนรอดตั้งแต่ช่วงแรก ๆ แล้ว คน ๆ นั้น นี่มันน่าอิจฉาซะด้วยซ้ำ
「รีบไปลงทะเบียนให้เสร็จเร็ว ๆ กันเถอะ มีการร้องขอความช่วยเหลือเกิดขึ้นแทบจะทุกที่ตลอดเวลา」
「อะ、ครับ」
ฉันโดนพาไปยืนหน้าเครื่องอะไรบางอย่างโดยรุ่นพี่มิซุฮิ
ยังไงดี หน้าตาเหมือนกับเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในโรงภาพยนตร์เลยล๊า
การดำเนินการนั้นค่อนข้างง่าย หรือต้องบอกว่า อันดับแรก หากคุณทำไดฟ์เกียร์หายก็จะติดขัดทันที เพราะภายในมันได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในระดับอัดแน่นเอาไว้ ดังนั้นเมื่อใช้สื่อสารกับสิ่งนี้ งานส่วนใหญ่ก็เสร็จสมบูรณ์ทันที สมเป็นอนาคตอันใกล้~!
ยังไงก็ตาม ก็ยังมีสมาร์ทโฟนอยู่ แต่ดูเหมือนว่านักสำรวจทั่วไปจะไม่พกสิ่งของใด ๆ ที่อาจถูกทำลายได้ระหว่างการต่อสู้ติดตัวไปด้วย จ๊า งั้นจะทำยังไงหากสตามิน่าในเกมโซเชียลหมดกันล่ะ
「เท่านี้、คำขอกู้ภัยก็จะถูกส่งไปในไดฟ์เกียร์ของเคย์แล้ว โดยพิกัดโดยละเอียดและนักเรียนที่กำลังพยายามท้าทายดันเจี้ยนจะแสดงขึ้นมาให้」
พอได้ยินแบบนั้นแล้ว ฉันก็ลองใช้งานไดฟ์เกียร์ดู
จากนั้นไอคอนใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาก็ปรากฎขึ้น
เมื่อเรียกใช้งาน ก็มีแผนที่ของเมืองแห่งโรงเรียนพร้อมกับวงกลมสีแดงที่แสดงถึงการร้องขอความช่วยเหลือปรากฎขึ้นมา มีชื่อนักเรียนและตราสัญลักษณ์โรงเรียนเขียนอยู่ข้าง ๆ
สุดยอดー
อย่างแรกเลย จุดที่น่าประหลาดใจสำหรับฉันคือ บอร์ดกึ่งโปร่งใสที่ปรากฎจากไดฟเกียร์ที่สามารถทำงานเหมือนแท็บเล็ตได้ แต่ดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไปในโลกนี้
「ถ้าอย่างงั้น、ไปกันเลยไหม ส่วนที่เหลือ、มันจะเร็วกว่าถ้าไปอธิบายที่จุดหมายการกู้ภัยเลย」
「ครับ」
รุ่นพี่มิซุฮิเปรียบเทียบคำขอกู้ภัย、ก็เลือกอันที่เหมาะสมที่จะไปด้วยกันกับฉัน แล้วเริ่มเดิน
นั่นคือช่วงเวลาแห่งก้าวแรกเพื่อปฏิบัติตาม
「――เคย์คุง?」
ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยค่อนข้างมากจากด้านหลัง
สะ、เสียงนี้ฟังดูเหมือนของตัวละครหลักเลยเน๊!
ฉันอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไป
ที่นั่นมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ ผู้มีดวงตาสีเข้มและผมสีดำซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ดีของตัวละครหลัก
「กาโต้ โทรัค……!」
แย่แล้ว จริงเรอะ! ตัวจริงเร๊อァ! ฉันจะขอจับมือได้ไหมน๊าー!?
สงสัยว่าเขาจะเซ็นหรือเขียนอะไรสักอย่างลงในไดฟ์เกียร์นี้ได้ไหมน๊า!?
เฮ้、สูงจังเลยน๊า
180ได้ไหม? ยังเป็นแค่นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 แท้ ๆ แต่สูงมากเน๊!
แต่ถึงอย่างงั้นอะไรที่ทำให้กล้าไปรังแกคนที่สูงกว่าตัวเองขนาดนี้กัน เจ้าตัวร้าย♂ ฉันไม่มีความกล้าหรืออะไรทำนองนั้นเด็กขาดน๊า น่ากลัว
เหมือนกับการรังแกสิงโตในสะวันนาเลย
「――ไหม、ได้ยินไหม? เคย์คุง」
「หืม? อ้า」
แย่แล้ว ยังไงดีเหมือนโทรัคคุงพยายามพูดอะไรด้วยอยู่、แต่ฉันไม่ได้ฟังเลย
ขอโทษ แต่ว่า โฮร่า、ฉันเป็นตัวร้าย♂ใช่ไหมล่ะ ดังนั้นก็คงไม่แปลกที่จะทำตัวหยาบคายแบบนั้นใช่ไหมล่ะ
ฉันรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นมากไปแล้วล๊า!
เด็กน้อยที่ได้มาเจอกับฮีโร่โชว์ของจริงก็คงแสดงอาการประมาณนี้จริงไหม
ฉันเป็นแฟนตัวยงของโทรัคคุงมากขนาดนั้นไงล่ะ
ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าจะจับมือได้ไหมน๊า!
「เคย์คุง、ผมได้ยินมาว่าจู่ ๆ คุณก็ย้ายไปโรงเรียนอื่นน่ะ นั่น……ผมคิดว่าตัวเองอาจจะทำอะไรเกินเลยไปในการดวลครั้งนั้น」
เด็กดีล๊า~!
ความเห็นอกเห็นใจนี้ยังแผ่ขยายมอบไปถึงผู้มารังแกคุณจนถึงปัจจุบันด้วย
เป็นชายร่างใหญ่ที่มีจิตใจใหญ่ตาม
ฉันรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว เพราะฉันรู้เรื่องราวต้นฉบับ แต่โทรัคคุงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณนาตากิ เคย์มากที่ชวนเขาไปด้วยในตอนที่เขาจัดปาร์ตี้กับใครไม่ได้เลย
แม้ว่าเขาจะต้องติดอยู่ภายในดันเจี้ยน、แต่เขาก็ไม่เคยพูดจาทำร้ายนาตากิ เคย์เลยสักครั้ง
ม๊า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ความนับถือตนเองและความมั่นใจในตนเองของเขาขาดรุ่งริ่งเนื่องจากสถานการณ์ในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงคิดแต่เรื่องโทษตัวเองเท่านั้น
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นเด็กดีล่ะ
และ ฉันถูกบังคับให้โต้ตอบกับเขาในฐานะนาตากิ เคย์
หากเปลี่ยนทัศนคติกะทันหัน มันอาจจะรู้สึกน่าสงสัยเน๊ะ
ฉันจะพยายามเป็นผู้แพ้ให้ดีที่สุด、แคนแคน! คูぅ~น!
「หึ、ไม่มีทางที่นายจะเป็นต้นเหตุหรอกเจ้าชั้นสาม!ข้าน่ะออกจากโรงเรียนมิคาเงะด้วยเจตจำนงเสรีของตัวเอง!」
「ตะ、แต่ว่า」
「น่ารำคาญ แล้วสายตานั่น、มันอะไรล่ะ สายตาที่ดูส่งความรู้สึกสงสารข้าแบบนั้น คิดว่าเก่งกว่ข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?」
「อึก、ขะ、ขอโทษ」
ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอโทษ……。
「ข้าไม่มีเวลามาคุยนายในสถานที่แบบนี้หรอกนะ」
ก่อนอื่นเลย ในงานต้นฉบับไม่มีฉากแบบนี้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรพูดคุยกันมากเกินไป
เนื่องจากความเคลื่อนไหวของโรคุฮาระซังได้เปลี่ยนไปแล้ว การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานต้นฉบับต่อไปจึงเป็นอันตราย
และทันใดนั้นก็มีคนกระโดดเข้ามาขวางระหว่างฉันกับโทรัคคุง
ผมฮาร์ฟอัพทวินสีฟ้าอ่อนที่คุ้นเคยแกล่งไปมา
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนางเอกหลักของโทรัคคุง
「นี่นาย、ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วทำไมถึงทำท่าทางแบบนั้นกับโทรัคกันห๊า!」
「มิฮายะ ฟุตาบะ……」
ฉันน้ำตาแห่งความปิติไหล
ฉันไม่เพียงได้พบกับตัวละครหลักเท่านั้น แต่ยังได้พบกับนางเอกหลักด้วย
ฉันผ่านกระบวนการจากการเข้าครอบครองร่างไปจนถึงการย้ายไปเรียนที่อื่นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นฉันจึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวละครดั้งเดิมเลย
นี่จึงถือว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันเช่นนี้
ยินดีด้วยที่สามารถออกเดทกับโทรัคคุงได้สำเร็จ! นั่นคือเนื้อเรื่องจากงานต้นฉบับล่าสุดเท่าที่ฉันรู้
『ฟุตาบะ มิฮาระฟุตาบะ มิฮาระ』。
เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวละครหลัก และเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่จะกลายมาเป็นนางเอกหลัก แม้ว่าเธอจะเป็นซึนเดเระที่มีพิกเทล(หางหมู เหมือนทวินเทลแต่ความสูงการมัดผมต่างกัน) และมีลักษณะอันโดดเด่นของนางเอกที่จะพ่ายแพ้ก็ตาม
ในภายหลัง พวกเขาจะกลายเป็นสหายที่เชื่อถือได้ซึ่งจะกลายเป็นนักสำรวจระดับ A แร๊งค์ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถพิเศษของเธอในการ『สร้างบาดแผลร้ายแรงอย่างแน่นอนในการโจมตีครั้งแรก』เป็นสิ่งที่อันตรายมาก หากเปลี่ยนให้เป็นศัตรูก็อาจตายได้ง่าย ๆ
「อะไร、มีอะไรจะบ่นเรื่องคำพูดของฉันอีกรึไงย๊ะ?」
「ไม่เชิง มันน่ารำคาญ ดังนั้นกำจัดมันออกไปซะ」
「ห๊า!? โทรัค ท้าดวลอีกรอบ!แล้วกระทืบให้ยับไปเลย!ถ้าไม่อยากเดี๋ยวฉันจะดวลกับเจ้าหมอนี่เอง!」
「เอ๋っมิฮาระไม่ได้นะ!」
「ห๊าぁเธอนี่ยังคงเป็นผู้หญิงจอมโวยวายไม่เปลี่ยน」
และนั่นคือข้อดี
เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัวละครหลักรู้สึกว่าเขากำลังจะยอมแพ้ เธอก็จะยืนเคียงข้างเขาและจับมือเขาไว้
เธอเป็นผู้หญิงที่วิเศษมาก
ที่แนะนำเป็นพิเศษคือชุดแต่งงานที่ปรากฏอยู่ในภาพประกอบพิเศษในหนังสือเล่มที่ 6――
「ขอโทษนะ、มีอะไรกับนักเรียนของทางฉันหรือเปล่า」
「อะ、รุ่นพี่มิซุฮิ」
ลองคิดดูแล้วก็เผลอลืมไปเลย
ขอโทษครับ รุ่นพี่ ใจของฉันกลับไปเป็นผู้อ่านอีกครั้ง
……รุ่นพี่?ทำไมคุณถึงจ้องมองทั้งสองคนแบบนั้นล่ะครับ?? รุ่นพี่!?
「คุณ、ยุ่งอะไรด้วย」
「ฉันชื่อมิซุฮิ รองประธานสภานักเรียนของโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอม หากคุณต้องการท้าดวลกับนักเรียนของทางฉัน、ต้องคุยกับพวกฉันก่อน ที่สำคัญที่สุด ไม่มีทางที่พวกคุณจะเทียบกับเคย์ได้หรอก」
「ห๊ะ? อะไรเล่า」
「ทำไม?คุณอยากดวลกับฉันแทนไหมล่ะ?」
「ดะ、เดี๋ยวเถอะ มิฮาระ!」
「รุ่นพี่มิซุฮิ、ใจเย็นๆ นะครับ ผมสบายดี」
ฉันกับโทรัคคุงแยกกันห้ามแต่ล่ะฝ่าย
ขอโทษเน๊、เธอเป็นรุ่นพี่ของฉันเอง แต่ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้หรอกนะ? เธอแค่เป็นคนที่ชอบหาข้ออ้างในการต่อสู้เท่านั้นเอง ……จ๊า เป็นแรงขับเคลี่อนตามปกติสินะ
ม๊ายสิ、มันยากสำหรับเราทั้งคู่ ฮ่าๆๆ……หืม? จะว่าไปแล้ว、หายไปคนหนึ่งรึเปล่าน๊า
「โทรัค」
「อะ、อะไร」
「เกิดอะไรกับลูทรา」
ลูทราจังเป็นดีมอนเกียร์ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งได้ทำสัญญากับโทรัคคุงไม่อยู่ที่นี่
เธอเป็นเด็กสาวที่มีผมสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีฟ้า
โดยปกติแล้วเธอจะตัวติดอยู่กับโทรัคคุง แต่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไมไม่เห็นเธอเลย
เวลามีเรื่องทะเลาะกับใคร เธอก็มักจะถามเป็นประจำว่า「โทรัค、ขอตัดคนนี้ออกได้ไหม?」และเป็นโทรัคคุงที่ต้องคอยห้ามเธอไว้เสมอ
「อ้า、ถ้าลูทราล่ะก็อยู่ที่โรงเรียนมิคาเงะน่ะ ประธานสภานักเรียนบอกว่า เนื่องจากมีข่าวเกี่ยวกับดีมอนเกียร์แพร่กระจายไปยังเมืองแห่งโรงเรียน เพื่อความปลอดภัยแล้วอย่าปล่อยให้เธอออกไปข้างนอกมากเกินไปจะดีกว่า」
「งั้นเหรอ」
จ๊า、ไม่ใช่ความผิดของฉันใช่ไหม?
ทว่าหากพูดอย่างเคร่งครัดแล้ว มันก็เป็นความผิดของฉันและสตรีมเมอร์นั่นไม่ใช่เหรอ?
ฉันขอโทษจริง ๆ เน๊ ลูทราจัง เธอ、เป็นเด็กที่ชอบออกไปข้างนอก ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ทำลายโอกาสที่จะออกไปข้างนอก
「……แต่ว่าทำไม、เคย์คุงถึงรู้เรื่องของลูทราได้ล่ะ?」
「ห๊ะ?ก็ต้องรู้อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ……ぁ」
แย่แล้ว!
ฉัน、ไม่ควรจะรู้เซ้!?
ในตอนที่ดวลกับนาตากิ เคย์、ลูทรายังอยู่ในระดับสัญญาเบื้องต้น
เพราะอย่างงั้น ไม่มีทางที่จะรู้ชื่อได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งไม่มีทางที่นาตากิ เคย์คนนี้จะรู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิง
ควรจะทำยังไงดี ฉันคิดว่าฉันตื่นเต้นเกินไปนิดหน่อยและพูดอะไรที่ไม่จำเป็นออกไปน๊า
「มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกนายหรอก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตอบ」
「……!? หรือว่าบางที、นายจะขังผมไว้ในดันเจี้ยนนั่นโดยเจตนา」
「ข้าจินตนาการได้เลยว่านายกำลังคิดอะไรอยู่……แต่ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก」
มันเป็นไปไม่ได้อย่างจริงจังเลย
นาตากิ เคย์เป็นแค่ขยะและคนงี่เง่า
รับบทบาทตัวร้าย♂ที่ชอบเลียมีดโชว์อะไรพวกนั้น
「……เคย์、ได้เวลาไปกันได้แล้ว มีคำขอความช่วยเหลือเข้ามา」
「ครับ」
เรือกู้ภัยสุดสวย รุ่นพี่มิซุฮิ!
หลังจากนี้ ฉันจะขายโซลเซียลาที่เก็บมาได้ และเลี้ยงเนื้อให้คุณ โปรดตั้งตารอได้เลยครับ
「ระ、รอก่อนสิ」
ไม่รอ!
ยังไง ก็จะไม่รอ
โทรัคคุง、ฉันจะแอบสนับสนุนความสำเร็จของคุณจากเบื้องหลังเอง!
ฉันเพิกเฉยต่อเสียงของตัวเอกที่เรียกฉันไว้ และออกจากสถานที่นั้นไป
■
「ปะ、ไปซะแล้ว……」
「ฟู๊ว、ปล่อยหมอนั่นไว้คนเดียวเถอะน๊า! แม่มิซุฮินั่นก็ด้วย、แม่นั่นคงไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนไอ้สารเลวนั่นหลอกลวงอยู่、สักวันหลอนจะได้เห็นความเจ็บปวดแน่นอน」
มิฮาระพูดแบบนั้นและพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
ยังไงก็ตาม、โทรัคนั้นคิดแตกต่างไป
「เคย์คุง、ผมเดาว่าเขาแข็งแกร่งจริง ๆ」
「ห๊า!?รู้ตัวไหมว่าหมอนั่นทำอะไรไว้กับนายบ้าง!? นายถูกทิ้งไว้ในดันเจี้ยนเลยนะ!? ทั้งที่ไม่มีไดฟ์เกียร์ด้วย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูทราไม่อยู่ที่นั่น」
「――ใช่แล้ว、ลูทราอยู่ที่นั่น และ、ผมคิดว่าเขารู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว」
「ห๊ะ?」
โทรัค วันนี้、นึกถึงสายตาของเคย์เมื่อแรกพบได้ เขาเพิกเฉยต่อผมเมื่อพยายามคุยด้วย กับเอาแต่มองร่างกายของผมราวกับพยายามยืนยันบางสิ่ง
「เขารู้ชื่อของลูทราด้วยล่ะ」
「ก็คงได้ยินเรื่องนั้นมาโดยบังเอิญแหละน๊า」
「ถ้างั้นเขาก็ไม่มีทางที่จะตอบแค่ว่า『งั้นเหรอ』ได้หรอกนะ ผม、ได้ยินมาจากลูทราว่าเธอถูกทิ้งไว้ที่นั่นเพราะเป็นดีมอนเกียร์ หรือไม่ก็、ถ้าเคย์คุงรู้แค่ว่าลูทราเป็นเด็กผู้หญิง จุดนี้ก็ต้องทำให้เขาแปลกใจบ้างสิ」
จะยังไงก็ตาม、เคย์ก็แค่ตอบกลับอย่างสงบ
เขาดูไม่แปลกใจเลย แล้วก็ยอมรับเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยซ้ำ และยอมรับราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
นั่นคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดว่าเขารู้จักดีมอนเกียร์
「ถ้าถามผมล่ะก็……อืม、นักเรียนคนเมื่อกี้ที่เรียกตัวเองว่ามิซุฮิ! ถ้าฟังไม่ผิดเธอบอกว่าโรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมเน๊ะ!?」
「เอ๊ะ、อืม น่าจะอย่างงั้นแหละ」
「ชื่อของโรงเรียนที่มีการค้นพบดีมอนเกียร์ในไลฟ์สดที่กำลังถูกพูดถึงคือ โรงเรียนสหศึกษา เฟกตอมไงล่ะ ……ไม่มีทาง、หรือว่าเขาจะรู้อยู่แล้ว?」
โทรัคพยักหน้า
「เคย์คุง、มีท่าทางที่ดูสุภาพต่อเธอคนนั้นมากเลย ไม่สิ、ทัศนคติของเขาที่มีต่อพวกเราเด่นเกินไปต่างหาก เหมือนกับ กำลังพยายามทำให้ถูกเกลียด…… ตอนอยู่โรงเรียนมิคาเงะ เขาจำเป็นต้องเข้ามาหาพวกเราด้วยเหรอ?มันแปลก ๆ ตั้งแต่แรกแล้วที่เขาเข้ามาติดต่อกับผมในตอนนั้น เป็นเรื่องปกติไหมที่เขาจะพยายามรังแกผมที่เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยมาก่อนเลย? ไม่สิ、จากสมมติฐานที่ตั้งใหม่、เราต้องพิจารณากันใหม่แล้ว――」
เป็นตอนนี้เองที่เขาพยายามคิดให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
โทรัคได้รับแรงกระแทกเบา ๆ ที่หน้าผากของเขา
เมื่อมองดู、เขาก็เห็นมิฮาระจ้องมาพร้อมกับทำท่าดีดหน้าผาก
「ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร มาทำสิ่งที่เราทำได้กันดีกว่าก่อนอื่นเลย、วันนี้เราจะไปที่อาเรียนรอดกันจริงไหม?」
「อ้า、อืม จริงด้วยเน๊ะ ขอบคุณ」
โทรัคขอบคุณเธอ ก่อนมุ่งหน้าไปยังลิฟต์ที่เป็นเส้นทางเพียงแห่งเดียวที่พาขึ้นไปสู่อาเรียนรอด
(เคย์คุง、จุดประสงค์ของคุณคืออะไรกันแน่)
คำตอบสำหรับคำถามนั้นดูเหมือนจะยังมาไม่ถึง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ