[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 41 - 018:การรบครั้งแรก④ โอเวอร์คิล
- Home
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 41 - 018:การรบครั้งแรก④ โอเวอร์คิล
018:การรบครั้งแรก④ โอเวอร์คิล
หน่วยรบทางอากาศได้บินขึ้นสูงขึ้นไปประมาณร้อยเมตรบินอยู่เหนือกลุ่มฮอบก็อบลินสี่พันตัว
ฮอบก็อบลินที่มองขึ้นมาร้องคำรามราวกับเข้าใจผิดว่าพวกเราเห็นเหมือนนกแตกรัง
「ดูเหมือนว่าจะไม่มีหน่วยต่อต้านอากาศยาน」
โอไกที่อยู่ด้านหน้าประกาศ ลูน่าเองก็พยักหน้า
จากนั้นก็หยิบกระสุนขนาดใหญ่ออกมาจากกระเป๋า
「ทหารทุกนาย หยิบกระสุนลูกปรายขึ้นมา เตรียมพร้อม……!」
จากนั้นทหารทุกนายก็หยิบกระสุนลูกปรายออกมา และถือมันไว้ในตำแหน่งที่พร้อมยิง
ลูน่าอัดพลังปราณใส่กระสุนที่ถืออยู่ด้วยมือข้างหนึ่งและเธอก็ชกเข้าไปที่มัน
「ยิงงงงงงงงงงงงงงง!!!」
จากนั้นกระสุนที่โดนแรงกระแทกก็จุดประกายไฟและพุ่งลงสู่พื้นดิน
ทันทีที่กระสุนตกลงไปก็มีเสียงคำรามดังก้องและเปลวไฟได้ถูกจุดขึ้น ลูกตะกั่วนับไม่ถ้วนถูกยิงออกมาพุ่งเข้าใจปีศาจที่อยู่รอบๆจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนเลือดซาดกระเซ็นไปทั่วสนามรบ
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!!!
แรงระเบิดรุนแรงมากแม้แต่เหล่าทหารที่ยิงออกมายังตาถลน
ปีศาจนับร้อยตายด้วยการโจมตีครั้งเดียว
「ด้วยพลังขนาดนี้ พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงถูกเรียกว่าไพ่ตาย」
โอไกตกใจเล็กน้อยขณะพูด
ลูน่าไอออกมาพร้อมกับสะบัดผมสีเงินของเธอที่เปื้อนเขม่าดินปืน
「ในอนาคตอันใกล้การต่อสู้จะเปลี่ยนไปอย่างมาก หากไม่สามารถปรับตัวได้ พวกมนุษย์พวกนั้นก็จะกลายเป็น “คนยุคเก่า” ไม่ว่าจะแต่งตัวดีหรือมีมารยาทมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีชะตากรรมของการต่อสู้ได้หรอก อย่างน้อยที่สุดความเมตตาที่จะมอบให้พวกเขาเหล่านั้นคือความตายที่ได้จากไปตามกาลเวลา」
เธอพูดพร้อมกับหยิบกระสุนลูกปรายนัดที่สองออกมา
โอไกที่ซึ่งเรียกได้ว่าตอนนี้ไม่มีหน้าที่ให้ทำอะไร
「พี่สาว ดูนั่นสิคะ!!」
ก่อนที่จะรู้ตัวอลิซ่าซึ่งอยู่ตำแหน่งตรงกันข้ามก็พูด
ไอ้งูเก้าหัวมันหันหน้ามาทางฉันพร้อมกับมองมาทางนี้พร้อมเสียงคำราม
「เห็นได้ชัดเลยนะว่าเจ้านั่นกำลังมองทางนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรง」
ลูน่าพูดเช่นนั้น
「ก็ดี คราวนี้มาทดสอบกระสุนเจาะเกราะกันดีกว่า」
ช่วงเวลานี้เธอกำลังมีความสุขอย่างแท้จริง
「ฉันจะไปทดสอบกระสุนเจาะเกราะกับเจ้านั่นสักหน่อย ฝากกระสุนลูกปรายให้พวกนายจัดการก็แล้วกัน」
เธอยิ้มในขณะที่หยิบกระสุนลูกปรายให้โอไก จากนั้นเธอหยิบกระสุนเจาะเกราะออกมา แล้วถือไว้บนมือ
「เข้าใจแล้วครับ」
เขาตอบสั้นๆจากนั้นก็ลากอลิซ่าที่ถาม「เอ๊ะ พี่สาว?!」ออกไป
「ไม่ต้องห่วงหรอก เอ่อกระผมหมายถึงพวกเราจะหยุดผู้บัญชาการที่มีสีหน้าแบบนั้นได้งั้นเหรอครับ ท่านอลิซ่า?」
เมื่อได้รับแจ้งจากชายคนนั้นอลิซ่าจ้องมองใบหน้าพี่สาวที่รักของเธอ
ใบหน้าของเธอกำลังมีรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายอยู่
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและจิตสังหารที่ทำให้คนรอบๆสั่นสะท้าน
「พี่สาว……」
อลิซ่ายักไหล่เล็กน้อย
ทันทีที่ได้พบกับเธอตอนอายุเจ็ดขวบฉันก็รู้สึกว่าอยากเป็นน้องสาวของเธอ
เพราะเจอกันตอนที่ถูกลักพาตัวอลิซ่าจึงมองเธอเหมือนกับเจ้าชายขี่ม้าขาว
แต่เธอรู้ดีว่านั่นไม่ใช่ตัวตนที่เธอจะเอื้อมมือไปถึง ราวกับมองกำแพงที่ไร้จุดหมาย
ฉันจะเอื้อมมือไปหาเธอคนนั้นได้ยังไง?
ฉันเกือบจะถูกบดขยี้ด้วยความหงุดหงิดและความคลั่ง แต่ฉันก็ยังคงไล่ตามเธอต่อไป
เพราะเธอนั้นเปล่งประกายมากเกินไป
เหมือนกับแมลงเม่าที่รุมเร้าแสงจากตะเกียงที่สว่างไสวท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด
แม้ว่าจะรักมากแค่ไหน
อยากได้มากแค่ไหน
ความรู้สึกอันแสนเจ็บปวดก็เข้ามาทิ่มแทง อลิซ่าจึงทำได้แค่เชื่อ
「สงบจิตใจเอาไว้ ตั้งมั่นกับพลังปราณซะ」
ฉันพยายามดึงสติกลับมา
หากหันไปมองก็จะเห็นหน้าของเหล่าทหารที่เป็นห่วงสาวน้อยผมสีแดง
「รู้อยู่แล้วล่ะ」
ชายคนนั้นยิ้มออกมาเล็กน้อย「ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะครับ มาจัดการงานของเรากันดีกว่า」
――ลูน่าถอยออกจากกองกำลังพิทักษ์นางฟ้าและพุ่งเข้าใส่ซิลล่าพร้อมกระสุนเจาะเกราะในมือเธอ
ฉันคิดว่าสาเหตุที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเพราะมันเป็นตัวตนที่ชอบความชุ่มชื้น
และปีศาจส่วนใหญ่ที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกนั่นก็เพราะพลังอีเทอร์
(ก่อนอื่นจะยิงกระสุนเจาะเกราะออกไปเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ!)
เธอเข้าไปหาศัตรูตรงหน้าโดยพยายามคิดจากมุมมองของศัตรู และหัวงูทั้งหมดก็พุ่งเข้ามาโจมตีลูน่า
「น่าเสียดายแต่ทางนี้ดีกว่า!」
จากนั้นก็อัดพลังปราณไว้ในมือข้างหนึ่ง
กระสุนเจาะเกราะเริ่มเปล่งประกายแสงจางๆ
หากกระแทกส่วนล่างด้วยมืออีกข้างหนึ่งจะเป็นการจุดระเบิดและมันจะติดไฟและระเบิดในเวลาต่อมา
ในเวลาเดียวกันที่ทัศนวิสัยถูกย้อมเป็นสีแดงกระสุนก็พุ่งทะลุลำตัวของงูยักษ์
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!
เสียงคำรามนั่นไม่ใช่เสียงที่กระสุนกระทบร่างของซิลล่าแต่เป็นเสียงที่เจาะร่างขนาดใหญ่และตัดผ่านส่วนหนึ่งของป่าที่ทอดยาวในแนวทะแยงมุมทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
ลำตัวของงูยักษ์นั่นถล่มลงมา และร่างกายของมันก็กลายเป็นฝุ่นโดยไม่ทันได้หลบหนี
เพียงแค่นัดเดียว
ด้วยกระสุนเพียงหนึ่งนัด ร่างขนาดใหญ่หลายสิบเมตรก็กลายเป็นชิ้นเนื้อ และเลือดของมันก็ย้อมไปทั่วทั้งป่า
「ไม่ว่าจะมีกี่หัวแต่หัวใจของแกมีแค่ดวงเเดียวใช่ไหมล่ะ?」
ลูน่ายิ้มเมื่อเธอเห็นหมอกที่พัดหายไปและยกมือขึ้นเหนือศีรษะ
「และก็รู้ดีกว่าการโจมตีแค่นี้มันฆ่าแกไม่ได้」
ไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือปีศาจ หากมันได้รับ “พลังอีเทอร์”ด้วยเงื่อนไขบางประการ จะทำให้มันมีชีวิตเหนือกาลเวลา
สิ่งมีชีวิตที่เข้าไปในขอบเขตของพระเจ้าไม่ได้ถูกฆ่าตายง่ายๆ
เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับตัวตนที่เข้าไปในดินแดนของพระเจ้า
แต่ว่าวิชาของฉันก็สร้างขึ้นมาเพื่อโค่นล้มเทพเจ้าเช่นกัน
เรียกได้ว่าการสังหารปีศาจที่เข้าดินแดนของพระเจ้าไปแล้วก็คืองานอย่างหนึ่งของฉัน
「มาดูกันว่าแกจะสามารถทนต่อระเบิดความร้อนสูงเป็นพิเศษได้กี่วินาที」
แน่นอนว่าร่างกายของซิลล่าที่ควรจะระเบิดเป็นฝุ่นเริ่มงอกขึ้นมาใหม่
มันจะกลับมาเป็นปกติในอีกหนึ่งชั่วโมง
ตำนานเล่าว่าต่อให้จะตัดหัวมันสักกี่ครั้งก็จะฟื้นขึ้นใหม่ได้ในทันที ดังนั้นแม้ว่าจะถูกทำลายไปแล้วมันก็สามารถคืนชีพได้
แต่ว่า สิ่งดังกล่าวก็ถูกคำนวณเอาไว้แล้ว และเธอที่ยิงกระสุนเจาะเกราะ
เป้าหมายคือลูน่าจะสร้างสถานการณ์ที่เธอไม่โดนโจมตีเป็นเวลาหลายนาที
――วิชาสำนักมังกรซากุระ ตะวันลับฟ้า(落陽)
อนุภาคของแสงเริ่มรวมตัวกันบนฝ่ามือของลูน่าที่ยกขึ้นสู่สวรรค์
อนุภาคนั้นเริ่มขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นก้อนขนาดใหญ่
อนุภาคนั้นยังคงขยายต่อไปเรื่อยๆ
ในที่สุดมันก็กลายเป็นลูกบอลแสงขนาดใหญ่ซึ่งเหมือนดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน
ลูกบอลนั้นยังไม่หยุดขยายตัว
อย่างไรก็ตามหลังจากมันเปล่งประกายมาถึงจุดหนึ่งก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว
แสงทั้งหมดหายไปและเกิดลูกบอลทรงกลมสีดำสนิทที่ใหญ่พอจะถือด้วยมือทั้งสองข้าง
เธอยิ้มออกมาและโยนลูกบอลสีดำที่ลอยอยู่บนฝ่ามือออกไป
「ขอแจ้งข่าวร้ายให้แกได้ทราบ นอกจากตัวตนที่เทียบเคียงเทพ ฉันยังเกลียดงูสุดๆไปเลย」
เธอยิ้มออกมาจากนั้นก็รีบบินหนีไปทันที
ก็เจอเข้ากับทหารระหว่างทาง
「สมาชิกหน่วยทุกนาย รีบบินด้วยความเร็วเต็มพิกัด!!!」
เสียงนั้นไปถึงหูพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบบินตามลูน่าไปอย่างร้อนรน
หัวของงูที่ฟื้นคืนชีพครึ่งหนึ่งหันเขี้ยวพยายามจะทำลายลูกบอลสีดำที่ตกลงมา
แต่เพราะว่าสัมผัสได้ถึงพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวมันจึงพยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่ว่ามันไม่สามารถขยับตัวได้
มันสายเกินไปแล้ว
ทันใดนั้นลูกบอลสีดำก็เปล่งประกาย
ในช่วงนั้นเองลำตัวของซิลล่าที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม มวลแสงที่ถูกบีบอัดมากเกินไปทำปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่นภายในและระเบิดออกมาทันที
――บะคู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!
โลกถูกปกครองด้วยแสงสว่าง
คลื่นความร้อนหลายพันองศาพัดผ่านอากาศทำให้ร่างของซิลล่าหายไปในทันที
ต้นไม่รอบๆหักและพัดออกไปกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์จากนั้นก็กลายเป็นฝุ่น
แรงดันระเบิดเผาผลาญพื้นที่รัศมีห้ากิโลเมตรและทำให้พื้นดินโล่งเตียน และคลื่นของระเบิดก็ถูกพัดไปทุกทิศทางจากจุดศูนย์กลาง
ณ ด้านบนของเมฆที่กลายเป็นรูปเห็ดจากปรากฏการณ์ระเบิดนิวเคลียร์มีแสงไฟฟ้าสีม่วง
กองทัพของเวลซัคที่เผชิญหน้ากับฉากตรงหน้า ขณะที่กำลังมองปรากฏการณ์ตรงหน้าวินาทีถัดมาพวกเขาก็ล้มกลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับแสงจ้าที่แผดเผาดวงตา
นรกบนดินได้ปรากฏให้เห็น
หลังจากการระเบิดผ่านไป ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าฮอบก็อบลินเหลืออยู่เลย และไม่มีมนุษย์คนไหนเคลื่อนไหวได้
มันไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าการต่อสู้เลย
ไม่มีทั้งความภาคภูมิใจ หรือ เกียรติยศ
มีเพียงนรกที่เกิดจากความภาคภูมิใจและได้พรากชีวิตจำนวนมากจากการเผาไหม้เท่านั้นที่แพร่กระจายไปทั่วพื้นที่โดยรอบ
「ยอดเลย……..! ยอดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!」
เหนือศพทั้งหลายมีเด็กสาวผมสีเงินกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน
「อ่า เข้าใจแล้วล่ะ ชูร่ามันเป็นแบบนี้เองเหรอ?」
เขาพึมพำแต่ไม่มีใครสามารถตอบเขาได้