[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ - ตอนที่ 59.53
ตอนพิเศษ 03
แผนพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายของเซเลน
ห้องครัวหลักภายของปราสาทเฮลิฟาลเต้ สถานที่สำหรับปรุงแต่งอาหารอาหารให้ผู้อยู่อาศัยภายในปราสาท รวมถึงเจ้าชายมิลานและราชวงศ์ทุกคน เพราะฉะนั้น ตลอดช่วงวันจะมีความวุ่นวายไม่ต่างกับสนามรบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมื้ออาหารค่ำสิ้นสุดลง ก็จะถึงเวลาทำความสะอาด เก็บกวาด และเตรียมพร้อมสำหรับมื้อเช้าของวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้น ความวุ่นวายที่เห็นได้ในช่วงกลางวันก็จะหายไปราวกับเรื่องโกหก
และกลางดึกในห้องที่มืดมิด มีก้อนสีขาวคืบคลานอยู่ภายใน
“หุหุหุ…”
บุคคลน่าสงสัยที่มาพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย หากได้เคยเห็นสักครั้งก็จะรู้ได้ทันที ว่าคนคนนั้นคือเซเลนนั่นเอง
คราวนี้เซเลนมาบุกรุกที่ห้องครัว เธอเดินเข้ามาโดยไม่พกแสงไฟ ตรงไปยังด้านในสุดของห้องนี้
“เอาล่ะ”
เซเลนเปิดประตูไม้บานใหญ่ในห้องครัวทันที
มันเป็นทางเดินลงไปสู่ชั้นใต้ดินของปราสาท
ห้องที่อยู่ชั้นใต้ดินห้องนี้มีอุณหภูมิต่ำ ปรดติจะใช้สำหรับเก็บเนื้อสัตว์และวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย
เซเลนเดินลงบันไดไปตามทางและมองหาสิ่งที่ต้องการ
“นี่ไง!”
ปรกติเซเลนจะออกเคลื่อนไหวตอนกลางคืนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ต่อให้มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยก็สามารถมองเห็นได้
เซเลนยิ้มร่าเมื่อเห็นของที่ต้องการอยู่ต่อหน้า
“หมู เป็นก้อน”
นั่นคือชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ที่ถูกเตรียมไว้สำหรับมื้อเช้าของวันพรุ่งนี้ ดูแล้วเดาว่าน่าจะเป็นเนื้อหมู
ก่อนหน้านี้เซเลนได้ซ่อนมีดที่ได้มาพร้อมกับอาหารมือเย็นไว้ ตอนนี้เธอนำมันออกมา และเริ่มแล่ชิ้นเนื้อให้ดูเรียบที่สุด
ไหนๆมันก็เป็นอาหารของพรุ่งนี้อยู่แล้ว ขอยืมล่วงหน้าก็แล้วกัน
เซเลนออกจากห้องที่หนาวเย็นพร้อมกับเนื้อส่วนหนึ่ง
แม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้างที่ทำตัวเป็นขโมย แต่ก็เพื่ออนาคต
“มาโช! มาโช!”
แรงจูงใจที่ทำให้เซเลนก่อคดีนี้คือ เพื่อมาโช*
หลังจากได้พบกับมิลานในรอบสองปี และได้เข้าปะทะกันที่สุสานนักบุญเซเลน ในตอนนั้นได้ถูกจับล็อคจนไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย หมัดเซเลน ได้
แน่นอนว่ามิลานแข็งแกร่งขึ้นในช่วงสองปี แต่ตัวเธอเองก็ฝึกฝนมาตลอดเช่นเดียวกัน
แต่ช่องว่างเหล่านั้นก็ไม่เคยลดลงเลย เซเลนคิดถึงความเป็นไปได้
เป็นความจริงที่ว่า เซเลนในชีวิตก่อนเป็นประชากรญี่ปุ่นสมัยใหม่
ซึ่งก็หมายความว่า เธอได้รับการศึกษาจนมีความรู้ในระดับมาตรฐานของคนญี่ปุ่นทั่วไปเป็นอย่างน้อย เพียงแค่มีสามัญสำนึกไม่พอที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาใช้งาน
“พันธุกรรม…”
เซเลนพูดออกมาเบาๆ ในโลกนี้เซเลนเซเลนได้รู้มาว่า การศึกษาทางด้านโครงสร้างทางพันธุกรรม ยังไม่แพร่หลาย
หรือก็คือ ความรู้นี้จะเป็นตัวแปรที่สร้างความได้เปรียบขึ้นมา
จากนั้น สมองของเซเลนก็ได้แสดงความอัจฉริยะ ใช้แล้ว ต้องคำนวณเรื่องพันธุกรรมเข้าไปด้วย
หากพัฒนาความสามารถที่หลับใหลอยู่ในยีนให้ถูกทาง ก็จะใช้พลังได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แต่มันก็มีรายระเอียดเยอะเกินไป ดังนั้น จึงต้องเรียบเรียงให้มันง่ายๆตาบแบบฉบับของเซเลน
ในครอบครัวของเซเลน มีหญิงสาวผู้มากความสามารถ คือ อาลัว และเซเลนก็เป็นน้องสาวแท้ๆของคนๆนั้น
เซเลนเกิดมาพร้อมกับความผิดปรกติทางร่างกาย แต่โดยพื้นฐานแล้ว เซเลนกับอาลัวมาจากพันธุกรรมเดียวกัน
“ไอ้นั่นไง! หน้าอก คือพลัง!”
ใช่แล้ว! เซเลนค้นพบพันธุกรรมที่โดดเด่นแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำการวิเคราะห์
หน้าอกของอาลัวมีขนาดใหญ่เกินวัย หมายความว่า มีปริมาณเนื้อเยอะ กับร่างกายที่สามารถรองรับน้ำหนักก้อนเนื้อนั้นได้
เพราะฉะนั้น ถ้าแลกเปลี่ยนก้อนเนื้อหนักๆกับแรงที่ใช้แบกสิ่งนั้นที่อาลัวมี ก็จะได้มวลกล้ามเนื้อกลับมา
ถึงจะชอบหน้าอกของคนอื่น แต่ถ้ามันติดอยู่กับตัวเซเลนเอง มันก็มีค่าแค่ก้อนเนื้อธรรมดาไม่น่าสนใจ
ดังนั้น ต่อให้เซเลนกลายเป็นสาวน้อยหน้าหวานแต่ร่างกายมีแต่มัดกล้ามอย่างกับนักมวยปล้ำ เธอก็ไม่ใส่ใจ
“เสริม โปรตีน เนื้อ”
นี่คืออีกหนึ่งความรู้จากการศึกษาที่เซเลนได้รับมาจากญี่ปุ่นสมัยใหม่
คุณค่าทางโภชนาการในอาหาร ถึงจะมีความรู้ประเภทเดียวกันอยู่บ้างในโลกนี้ แต่ก็ไม่ได้มีการวิเคราะห์ในเชิงลึกเหมือนกับสมัยใหม่
ร่างกายต้องการโปรตีนในการสร้างกล้ามเนื้อ และโปรตีนจะหาได้จากเนื้อสัตว์ นั่นคือส่วนหนึ่งในความรู้ที่เซเลนมี
หรือก็คือ ลูกผู้ชาย มันต้องกินเนื้อเยอะๆสิ
เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนที่อาศัยอยู่ในป่าสีขาว อาหารการกินแทบจะเป็นมังสวิรัติ
บัตเลอร์ไม่ชื่นชอบการฆ่า และเซเลนก็ไม่เคยสั่งให้เขาออกส่าสัตว์ ทางเลือกจึงเหลือแค่ผักและผลไม้
เพราะกินแต่ของพวกนั้น จึงไม่มีกล้ามเนื้อ
“ใช้ชีวิต ผิดประเภท”
เซเลนเชื่อว่า สาเหตุที่ตามความแข็งแกร่งของมิลานไม่ทัน ก็เพราะรูปการใช้ชีวิตในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้น ไม่ถูกต้อง
ความจริงเรื่องความต่างระหว่างผู้ชายอายุยี่สิบที่ฝึกร่างกายทุกวันไม่มีขาด กับเด็กหญิงอายุสิบขวบที่เอาแต่นอนทั้งวัน ไม่ได้ถูกนึกถึงเลย
อันที่จริง ตั้งแต่แรก สาเหตุที่ทำให้พ่ายแพ้เรื่อยมา คือสมองของเซเลน ไม่ใช่สภาพร่างกายหรือการใช้ชีวิต
“กล้ามเนื้อ♪ กล้ามเนื้อ♪”
ในตอนนี้ อาหารมื้อพิเศษของเซเลนก็กำลังถูกทำขึ้นในห้องครัวที่เงียบเหงา
เพื่อเสริมกล้ามเนื้อให้ร่างกาย
เซเลนตั้งใจทำอาหารอย่างมีความสุข คิดถึงกล้ามเนื้อที่กำลังจะก่อตัว
โต๊ะในห้องครัวมีความสูงมากเกินสำหรับเด็กอย่างเซเลน จึงต้องลากเก้าอี้มาใช้รองเหยียบ
ก่อนหน้านี้ก็เคยทำข้าวกล่องอันตรายไปวางยามิลานมาแล้วหลายครั้ง การใช้ครัวแห่งนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก
หลังจากจุดไฟจนเตาร้อนได้ที่ เซเลนก็วางชิ้นหมูที่หั่นไว้ลงบนแผ่นเหล็กที่อยู่บนเตา
“ลาーลา ลาーลาลา ลาー”
ระหว่างที่ทำ เซเลนร้องทำนองเพลงเปิดอนิเมจากเรื่อง ‘โดOเบ็น**’
จริงๆก็อยากจะร้องเนื้อเพลงออกมาด้วย แต่เธอก็กลัวว่าจะมีตำรวจกับทนายจากโลกเดิมมาเคาะประตูถึงบ้าน ก็เลยเลือกเป็นฮัมเพลงดีกว่า
เสียงของเนื้อที่ถูกนาบลงบนเตาร้อนๆ กับกลิ่นเนื้อที่เริ่มสุก ทำให้เซเลนน้ำลายไหล
ความอยากอาหารสูงจนลืมเป้าหมายเดิม ในตอนที่คีบเนื้อใส่จาน เธอแทบจะลืมไปแล้วว่าที่ทำอยู่นี้ก็เพื่อเป็นมาโช
ถัดมาก็ถึงเวลาปรุงแต่งตามใจชอบ เซเลนหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาแล้วออกแรงเสียบมันทั้งหมดเข้ากับเหล็กยาวที่อยู่ในครัว
และนำมันไปย่างไฟต่อ
“เรียบร้อย!”
เนื้อล้วนเสียบไม้ย่างที่มีความยาวมากกว่าส่วนหัวของเซเลน สุดยอดอาหารโปรตีนเสร็จสมบูรณ์
แต่ก็ยังไม่พอ
เซเลนโรยเครื่องเทศเล็กน้อยลงบนชิ้นเนื้อ มันเป็นของที่ถูกเตรียมไว้สำหรับมื้อเช้าเช่นกัน
วัตถุดิบคุณภาพสูงกับเครื่องปรุงชั้นยอดสำหรับอาหารในวัง ให้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม
“เดี๋ยวก่อน อีกนิด”
เซเลนเปิดฝาขวดโหลและเอาเนื้อทั้งไม้จุ่มลงไปในขวดซอสปรุงรส
บางครั้ง มาตรฐานคำว่า ‘นิดหน่อย’ ของเซเลนมันคือ ‘เยอะเกิน’ ของคนอื่น
“นี่แหละ! สมบูรณ์แบบ!”
เนื้อย่างเสียบไม้ที่เซเลนเห็นแล้วตาเป็นประกาย มันคือผลตอบแทนจากความพยายามของเธอ
ตามปรกติแล้ว อาหารหนักๆเช่นนี้จะไม่ถูกเสิร์ฟให้กับเจ้าหญิงแสงจันทร์ เซเลน
แม้อาหารชั้นสูงจะมีรสชาติเยี่ยมยอดในแบบของมันเอง แต่ก็ไม่ใช่รสชาติที่เซเลนชื่นชอบ
“ทานมาสโทดอนล่ะนะ***”
มุข ทานแมมมอธล่ะนะ*** มันเชยไป เซเลนจึงปรับปรุงเป็นมุขใหม่ที่ไร้สาระพอๆกัน จากนั้น เธอก็กัดชิ้นเนื้อ
“อะ อุย้าก!”
แน่นอนว่าชิ้นเนื้อย่างไฟมันต้องเหนียวเป็นธรรมดา และการปรุงสุกของเซเลนทำก็แค่ย่างไฟแรงจนสุกทั้งข้างนอกข้างใน
“นี่แหน่ะ!”
ในเมื่อเนื้อย่างเสียบไม้อยู่ตรงหน้าแล้ว มีหรือที่เซเลนจะยอมถอย
ต่อให้ฟันหักก็ไม่กลัว ต้องกินเข้าไปให้ได้
เซเลนพยายามกัดและเคี้ยวอย่างเต็มที่ เป็นอีกครั้งที่ใช้ความพยายามไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือด เซเลนทำให้เนื้อย่างกว่าครึ่งไม้ลงไปอยู่ในกระเพาะได้สำเร็จ
“แฮ่ก แฮ่ก…”
เซเลนเริ่มหายใจแรง มนุษย์ที่เหนื่อยจากการพยายามกินได้แบบนี้ หายากมาก
แม้จะโตขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังเป็นเพียงเด็กสิบขวบ และเซเลนก็เป็นคนร่างเล็ก ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้ออยู่แล้ว
จากที่เคยกัดและกลืนได้ภายในคำเดียวในสมัยที่เป็นผู้ชาย ปากเล็กๆที่ต้องกัดและเคี้ยวทีละน้อยเหมือนกระรอกแทะ ทำให้รู้สึกไม่ทันใจ
“ไม่ไหว…”
นอกจากนั้น กระเพราะเล็กๆของเธอก็ถูกเติมเต็มเรียบร้อย ทั้งที่เพิ่งกินไปได้แค่ครึ่งเดียว เซเลนผิดหวังในความจุของกระเพาะ จะเป็นมาโชก็ยังมีอุปสรรค
“เสียของ ไม่ได้!”
แต่เซเลนก็ยังฝืนกินต่อไป เหลืออีกแค่ครึ่งเดียว จะเสียมารยาทต่อสัตว์ที่กลายมาเป็นเนื้อชิ้นนี้ไม่ได้ และจะยอมทิ้งอนาคตแห่งมาโชไม่ได้
เป้าหมายกลายเป็นเรื่องไร้แก่นสารโดยสมบูรณ์ แต่เซเลนก็ยังมุ่งมั้นต่อไป
“อึก!”
กระเพราะพยายามดันส่วนเกินกลับคืนมา แต่เซเลนก็ฝืนกลืนลงไป
เซเลนต้องให้เกียรติเนื้อย่างให้ถึงที่สุด
ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น
“…หมด จนได้”
การต่อสู้นานนับชั่วโมง จบลงด้วยชัยชนะของเซเลนที่มีต่อเนื้อย่างเสียบไม้สุดเหนียว
เป็นความรู้สึกของผู้มีชัย ที่คนทั่วไปยากจะเข้าใจ
แต่สภาพของเซเลนในตอนนี้ก็ดูย่ำแย่
เพราะต้องทำอาหารและแทะกินเนื้อทั้งไม้อย่างยากลำบากในชุดเดรส ทั่วทั้งตัวของเธอจึงเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบมันกับซอสเครื่องปรุง ทั้งเสื้อผ้าและหน้าตา
เซเลนร่างใหม่ สาวน้อยคราบมันหมู!
กล้ามเนื้อ +0.02 !
สติปัญญา -30 !
ความเป็นสาวน้อย -10,000 !
“อุก แย่…”
ที่เหลือก็เก็บกวาด ทำลายหลักฐาน เซเลนเอามือปิดปากขณะทำความสะอาดข้าวของที่ใช้งาน
ทั้งหน้าและมือก็ล้างด้วยน้ำเปล่าเท่าที่ล้างออก แต่ไม่สามารถทำอะไรกับเสื้อผ้าได้
เซเลนเดินกลับห้องในสภาพเหนื่อยล้าราวกับทหารผ่านศึก
[“องค์หญิง!? ทำไมถึงมีสารรูปแบบนั้นกันครับ!?”]
“อ๊ะ บัตเลอร์?”
เมื่อกลับมาถึงห้อง เซเลนก็พบกับบัตเลอร์ที่เหมือนกับมารอเธออยู่
ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ เธอดูจนแน่ใจแล้วว่าบัตเลอร์หลับสนิท แต่เมื่อเขาตื่นมากลางดึกและรู้ว่าเซเลนไม่อยู่ เขาจึงเตรียมตัวออกตามหาเธอ
[“เกิดอะไรขึ้นกับท่าน!? องค์หญิงผู้สูงส่งต้องเปรอะเปื้อน…”]
“ม-ไม่มีอะไร”
[“บอกกระผมมาเถิดครับ! ปัญหาที่ทำให้ท่านอยู่ในสภาพนี้”]
“……”
ยิ่งเซเลนไม่พูด บัตเลอร์ก็ยิ่งร้อนใจ นึกโทษตัวเองที่คลาดสายตาในเวลาที่เจ้านายเผชิญกับปัญหา
แต่ที่เธอบอกไม่ได้นั้น เป็นเพราะแอบไปขโมยของมา
“ช่างมันเถอะ ราตรีสวัสดิ์ บัตเลอร์”
[“องค์หญิง… หากมีอะไรที่ทำให้ท่านต้องลำบาก อย่างน้อยก็โปรดบอกกระผมไว้ ไม่ว่ามันคืออะไร เพื่อองค์หญิงแล้ว กระผมจะจัดการให้ทุกอย่าง”]
“ขอบคุณ”
เซเลนตอบกลับและยิ้มกลบเกลื่อน จากนั้นก็เปลี่ยนชุดและลงนอนบนเตียง
ก่อนที่บัตเลอร์จะเดาถูกว่าไปไหนมา ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บ่ายเบี่ยงให้ได้
นอกจากนั้น การทำอาหารกลางดึกและกินเนื้อย่างให้หมดก็เล่นเอาเหนื่อย หลังจากกินอิ่มก็ต้องนอนหลับนี่แหละ
และแล้ว เซเลนก็ปล่อยให้โปรตีนได้ทำงานขณะที่เธอหลับฝันถึงเนื้อย่างมากมายหลายประเภท
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
เช้าวันถัดมา ทันทีที่มิลานทราบเรื่อง เซเลนก็ถูกดุเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืน
“ก็เข้าใจในเจตนาอยู่หรอกครับ แต่ยังไงก็ไม่สมควร”
“…อือ”
เซเลนถูกมิลานเทศนา
ที่ความแตกเร็วขนาดนี้ก็เพราะการทำลายหลักฐานของเซเลนมีช่องโหว่เยอะเกินไป
เรียกได้ว่า โชคดีที่ยังไม่ถูกรู้ถึงความจริงทั้งหมด
สาเหตุมาจาก หนึ่งในสาวใช้ที่คอยดูแลเซเลนได้เก็บเสื้อผ้าไปซัก และได้เห็นว่าชุดของเซเลนเลอะไปด้วยน้ำมันและเครื่องปรุง ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินว่าเกิดปัญหาขึ้นในห้องครัว
พ่อครัวส่งเสียงเอะอะแต่เช้า
นั่นก็เพราะได้มาเห็นสภาพห้องครัวเหมือนถูกทำความสะอาดอย่างลวกๆ
ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือแผ่นเหล็กสำหรับย่าง ที่ควรจะถูกขัดจนเรียบร้อยเป็นเงาวาว แต่วันนี้มันดูเหมือนถูกเช็ดอย่างง่ายๆ
ทำให้ผู้ช่วยพ่อครัวที่รับผิดชอบเรื่องทำความสะอาด ถูกต่อว่าจากเรื่องนี้
แต่พวกเขาก็ยืนยันว่า ‘ทำความสะอาดทุกจุดเรียบร้อยแล้วแน่นอน’ กลายเป็นการโต้เถียงไม่จบสิ้น
สาวใช้ที่ทราบเรื่องก็ทำการประติดประต่อข้อมูล
―เธอจึงได้รู้ว่า เซเลนพยายามทำความสะอาดส่วนที่ถูกลืมทิ้งไว้ จนคราบสกปรกได้มาติดอยู่บนเสื้อผ้าของเธอ
แสดงว่า ผู้ช่วยพ่อครัวทำความสะอาดได้ไม่เรียบร้อยจริง จากนั้น เซเลนที่มักตื่นอยู่ในตอนกลางคืนก็ได้ผ่านไปเห็น และไม่คิดจะปล่อยเอาไว้แบบนั้น จึงลงมือทำความสะอาดด้วยตัวเอง
ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่งานที่เด็กสิบขวบจะทำให้เรียบร้อยได้ ยิ่งในความมืดตอนกลางคืน เธอน่าจะพยายามทำอย่างยากลำบากอยู่นานจนตัวเองต้องเปรอะเปื้อนเช่นนั้น
เซเลนเป็นเด็กที่ทำงานบ้านเป็น แม้ในปัจจุบันจะไม่มีโอกาสให้เธอได้ทำ แต่ดูเหมือนเจ้าหญิงแสงจันทร์คนนี้ก็ยังแอบทำอยู่ และเมื่อสาวใช้ถามเธอว่า ‘เมื่อคืน ท่านได้ไปที่ไหนมาบ้าง?’ เซเลนตอบอย่างมีพิรุธ ‘ลืมไปแล้ว’
เนื่องจากไม่อาจซักถามมากไปกว่านี้ได้ สาวใช้จึงสรุปว่า ที่ตอบเช่นนั้นเพราะไม่อยากให้ผู้ช่วยพ่อครัวต้องถูกลงโทษจากความสะเพร่า เพราะฉะนั้น เธอจึงนำเรื่องนี้ไปบอกแค่กับเจ้าชายมิลาน
เมื่อได้รู้ มิลานก็หยุดงานที่ทำอยู่ และมาหาเซเลนถึงห้องทันที
มิลานคาดคั้นอย่างหนัก จนเซเลนยอมสารภาพว่าไปที่ห้องครัวมา
“เซเลน ห้องครัวมีทั้งของมีคมและของติดไฟ อย่าเข้าใกล้แถวนั้นคนเดียวอีกนะครับ”
“…อือ”
เซเลนก้มหน้าเหมือนสำนึกผิด แต่จริงๆแล้วกำลังเจ็บใจ
เพราะทำลายหลักฐานได้ไม่แนบเนียนพอ จึงไดมาความแตกกับคนที่ไม่อยากให้รู้มากที่สุด
มันก็แน่อยู่แล้ว ใครจะอยากให้ศัตรูมีมีดมีไฟอยู่ใกล้มือ ถึงมิลานจะยังไม่รู้ถึงแผนมาโช แต่ก็คงไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน ไม่ว่าอย่างไร แผนนี้ก็ถูกปิดผนึกไปแล้ว
จะเถียงก็ไม่ได้ เพราะถ้าเผลอพูดอะไรออกมา อีกฝ่ายอาจจะรู้ได้ว่านอกจากทำห้องครัวสกปรกแล้ว ยังมีข้อหาขโมยเนื้ออีกเรื่อง
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลไปมากว่านี้ เซเลนได้แต่ยอมรับอย่างเงียบๆ
“ถ้าเธอไปเจอกับเรื่องแบบนี้อีก อย่าเพิ่มทำอะไรทั้งนั้น ให้มาบอกผม ท่านพ่อ ท่านแม่ หรือมารีก็ได้ เข้าใจนะครับ?”
“…เข้าใจ”
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ เซเลนพยักหน้าเบาๆ
หลังจากมิลานเทศนาจนจบก็ออกจากห้องของเซเลนไป
“เด็กคนนั้น ปล่อยให้อยู่ตามลำพังไม่ได้จริงๆ…”
มิลานพึมพำอยู่หน้าประตูห้องที่ปิดลงแล้ว
ห้องครัวไม่ใช่สถานที่ของชนชั้นสูง ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของเซเลนอยู่เหนือชนชั้นสูงขึ้นไปมาก แต่ก็ยังเข้าไปทำงานของคนรับใช้และปกปิดความผิดให้คนอื่น
เจ้าหญิงแสงจันทร์ ผู้ก้าวข้ามความตายและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ ประวัติศาสตร์จะจดจำชื่อของเธอไปอีกนาน
แต่ตัวเธอเองกลับไม่ใส่ใจชื่อเสียงของตนเองแม้แต่น้อย มิลานคิดว่าเป็นทั้งข้อดีละข้อเสียของเธอ
“คงต้องสอนเรื่องการวางตัวให้สมฐานะกับเธอด้วยสินะ”
เซเลนไม่ใช่เด็กแปลกแยกที่ถูกกีดกันอีกต่อไป แต่เป็นที่จับตามองของคนทั้งทวีป
ในฐานะผู้ปกครองของเธอ มิลานต้องสอนให้เธอตระหนักถึงเรื่องนี้
ในเวลาต่อมา มิลานจะเป็นผู้รับหน้าที่อบรบเซเลนด้วยตัวเอง แต่ในมุมมองของเซเลน มันคือการถูกบอกว่า ‘รู้ฐานะของตัวเองเอาไว้ด้วย’ ในอีกความหมายหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อต้านมากขึ้น แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
____________________
* マッチョ=Macho=มาโช
หมายถึง ชายชาตรี, สมชาย, ลูกผู้ชาย ในแง่รูปร่าง เช่น มีร่างกายบึกบึน มีกล้ามเนื้อแข็งแรง (ดูอย่าง มาโชแมน/Macho Man นักมวยปล้ำในอดีต)
**ド○ベン
น่าจะหมายถึงเรื่อง ドカベン(โดคาเบ็น) มังงะแนวกีฬา โดย มิซุชิมะ ชินจิ
*** いただきマストドン / อิทาดากิมาสโทดอน
แผลงมาจากมุข いただきマンモス / อิทาดากิแมมมอธ เป็นการเล่นคำ โดย ผสมคำว่า いただきます / อิทาดากิมัส (ทานล่ะนะ) กับ マンモス / แมมมอธ มุขผสมคำที่ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ และไม่มีใครใช้กันแล้ว
อนึ่ง มาสโทดอน(Mastodon/マストドン) เป็นสัตว์สายพันธุ์ใกล้เคียงกับแมมมอธ และสูญพันธุ์ไปแล้วเช่นเดียวกัน