ตอนที่ 28
เจ้าหญิงผู้สังหารมังกร
[“เป็นแค่มนุษย์ชั้นต่ำบังอาจมาหยามข้า… ไม่อภัยให้แน่! ชีวิตของพวกเจ้าต้องมาเป็นเลือดเนื้อของข้า จงมาสำนึกผิดในท้องของข้าซะ!”]
มังกรแดงที่เกรี้ยวกราดอ้าปากแยกเขี้ยวใส่เซเลนราวกับจะกลืนกิน เขี้ยวเหลมคมขนาดใหญ่เหมือนก้อนหินที่เรียงรายอยู่ในปากสามารถกัดเซเลนให้ขาดได้ง่ายๆราวกับเคี้ยวมาร์ชเมลโล่ว์
“เหวอ!”
เซเลนถูกมังกรจับแน่นขึ้นจนส่งเสียงร้องออกมา พลังอันยิ่งใหญ่ของมังกรที่อยู่เบื้องหน้านั้นคุกคามรุนแรงจนไม่สามารเถียงออกไปได้ว่า ‘เรื่องนั้นแกเข้าใจผิดไปเองไม่ใช่เรอะ?’ ยิ่งไปกว่านั้นเซเลนไม่มีเวลาพอที่จะคิดหาวิธีทำให้คนขี้โมโหนี้สงบลงได้เลย
[“โปรดรอก่อน!”]
ก่อนที่กรามของมังกรจะปิดลงโดนมีเซเลนคั่นกลาง ก็มีเสียงตะโกนดังอยู่ในท้องฟ้า มังกรหยุดเคลื่อนไหวและมองมาที่เธอ ก่อนที่มันจะนึกขึ้นได้ก็เห็นสัตว์ตัวหนึ่งยืนอยู่บนหัวของเด็กสาวสีขาว มันคือหนูที่เคยแนะนำตัวว่าชื่อบัตเลอร์
[“เจ้าหนูตัวนี้ คิดว่าสิ่งมีชีวิตที่เล็กกระจ้อยร่อยอย่างเจ้าจะต่อต้านข้าได้อย่างงั้นรึ”]
[“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วครับ กระผมรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำที่ผู้ต่ำต้อยอย่างพวกเราจะได้เป็นเลือดเนื้อของท่านมังกรแดง”]
“เอ๋!?”
[“ชู่ว! ปล่อยให้กระผมจัดการเถอะครับ”]
บัตเลอร์กระซิบบอกเซเลนที่ยังพยายามต่อต้านการถูกกิน บัตเลอร์ขยับริบบินสีแดงรอบคอให้เข้าที่เรียบร้อยและยืนขึ้นสองขาก่อนจะโค้งคำนับมังกรอย่างสุภาพและสง่างาม
[“เจ้ามีมารยาทดีจริงๆเลยนะ ถ้าอย่างงั้นก็มาเป็นเครื่องเคียงในมื้อนี้ด้วยเลยก็แล้วกัน จะว่าไปสาวน้อยคนนี้ก็ดูน่าอร่อยดีนี่นา”]
[“ใช่แล้วครับ ประเด็นอยู่ตรงนั้น ท่านมังกรแดง ก่อนที่ท่านจะกินพวกเราเข้าไป กระผมมีข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่งอยากจะเรียนให้ท่านทราบ ขอให้กระผมได้พูดด้วยเถอะครับ”]
บัตเลอร์ถูขาหน้าเข้าด้วยกันพร้อมกับถามมังกรแดงอย่างนอบน้อม ดูเหมือนว่าการแสดงออกอย่างสุภาพชนของบัตเลอร์จะเริ่มทำให้มังกรแดงสนใจคำพูดของเขาขึ้นมาได้แล้ว เขาสูดหายใจเข้าลึกและพยายามเจรจาต่อ
[“อย่างเจ้าจะมีข้อมูลสำคัญอะไรได้ล่ะ? คงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ต่างกับขนาดตัวของเจ้า ถ้าอย่างงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”]
[“ท่านมังกรแดงกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เพื่อให้ผู้อ่อนแอมีชีวิตรอดในโลกกว้างจึงต้องมีความสามารถเป็นการชดเชย กระผมเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่ไร้พลังจึงถูกทดแทนด้วยปัญญา”]
[“หืม… แล้วข้อมูลที่ว่านั่นมันจะมีประโยชน์สำหรับข้ารึ?”]
[“แน่นอนอยู่แล้วครับ! ด้วยพลังของท่านมังกรแดงกับปัญญาของกระผม หากร่วมมือกันก็จะกลายเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกที่มีทั้งพลังอันยิ่งใหญ่และปัญญาอันเฉียบแหลม”]
[“แข็งแกร่งที่สุดในโลก…”]
มังกรแดงพึมพำและเงียบไป มังกรเป็นเผ่าพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลก เพราะทั้งพลังเวทย์และพละกำลังของพวกมันอยู่ไนระดับที่สูงอย่างเหลือเชื่อ ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้สมองมากนักจึงไม่ถนัดการเจรจา ข้อมูลที่รู้เกี่ยวกับมังกรมีน้อยมากแต่บัตเลอร์ก็คิดจะเสี่ยงเดิมพัน
หากเขาแก้ไขสถานการณ์ที่อันตรายนี้ไม่ได้ ก็จะช่วยเจ้าหญิงเซเลนผู้ที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตนี้เอาไว้ไม่ได้ บัตเลอร์เก็บอาการประหม่าไว้ ไม่สั่นให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นและรอการตอบรับจากมังกรแดงด้วยท่าทีที่ดูผ่อนคลาย
[“เอางั้นก็ได้ ไหนลองว่ามาสิ”]
[“อืม! ขอบพระคุณครับ”]
งับเหยื่อแล้ว บัตเลอร์กำหมัดขณะที่ยังก้มหมอบอยู่บนหัวของเซเลน จริงๆแล้ว การที่เหยียบย่ำศีรษะของเซเลนคือการเหยียดหยามร้ายแรงจนไม่สามารถอภัยให้ได้ แต่ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจทำอย่างจำยอมแม้ในใจจะเจ็บปวดแต่ความปลอดภัยของเจ้านายต้องมาก่อน
ในขณะที่เซเลนยอมรออย่างสงบเพราะเชื่อใจในตัวเขา และยอมรับการกระทำอันหยาบคายนี้ การเจรจาในครั้งนี้จะต้องทำให้สำเร็จให้ได้ บัตเลอร์ตัดสินใจใจแน่วแน่และรวบรวมความกล้าออกมา แต่จริงๆแล้วเซเลนก็แค่กลัวจนทำอะไรไม่ถูกเท่านั้น
[“ถ้าอย่างงั้น ข้อมูลที่กระผมจะพูดถึงคือความสามารถที่แท้จริงของหญิงสาวผู้นี้ องค์หญิงเซเลน”]
[“สามารถของเด็กน้อยคนนี้? มันก็น่าจะเหมือนกับพวกเอลฟ์ไม่ใช่รึ?”]
[“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นหรอกครับ! ไม่ได้เป็นแค่เด็กน้อย แต่องค์หญิงเป็นถึงเจ้าหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัตศาสตร์มวลมนุษยชาติเชียวนะครับ เป็นผู้เดียวในโลกที่มีความสามารถในการสังหารมังกร!”]
“……เอ๋?”
เซเลนเอียงคอรู้สึกสับสนเพราะคาดเดาทิศทางของการสนทนานี้ไม่ได้ แต่เมื่อเห็นบัตเลอร์กระตือรือร้นและดูท่าจะมั่นใจ ก็ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาจะดีกว่า แม้ว่าเซเลนจะเป็นคนที่อ่านบรรยากาศไม่ออกสักแค่ไหน แต่ถ้าชีวิตตกอยู่ในอันตรายก็จะจริงจังขึ้นมาได้
[“สังหารมังกร? ลูกมนุษย์อ่อนแอเนี่ยนะจะฆ่ามังกรได้? พูดอะไรบ้าๆ”]
[“แน่นอนว่าองค์หญิงเซเลนเป็นเพียงเด็กสาวผู้งดงามและบริสุทธิ์ แต่ความสามารถนั้นคือเลือดเนื้อของเธอเอง เพราะอย่างนั้นรูปลักษณ์ของหญิงสาวผู้นี้จึงแตกต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ”]
[“…หมายความว่ายังไง?”]
เมื่อมังกรเริ่มสนใจและถามถึงรายระเอียด บัตเลอร์ยืดอกภูมิใจก่อนจะกระแอมและพูดต่อ
[“ที่องค์หญิงเซเลนแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปเพราะสืบเชื้อสายมาจากผู้ที่เปลี่ยนแปลงรูปโฉมโดยใช้เวทย์มนต์ต้องห้ามกับร่างกายตนเอง เป็นเวทย์มนต์ที่คิดค้นมาเพื่อสังหารมังกรโดยเฉพาะ เพื่อการนั้น ตระกูลของเธอจึงถูกกินไปจนหมดสิ้น องค์หญิงเซเลนเป็นคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่”]
[“มนุษย์ที่เป็นพิษกับมังกรรึ? ทั้งที่ข้าเป็นมังกรก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเนี่ยนะ”]
[“นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ก็ท่านยังพูดเลยว่าองค์หญิงเซเลนดูน่าอร่อยใช่ไหมล่ะครับ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์พวกนั้นต้องการ ตกแต่งอาหารให้สวยงามจนดูน่ากิน และทั้งเครือญาติขององค์หญิงเซเลนที่ถูกกิน กับเหล่ามังกรที่กินเข้าไปก็ตายกันหมด ไม่มีใครรอดชีวิตกลับไปถ่ายทอดเรื่องราวนี้ให้มังกรตัวอื่นรับได้รู้ เพราะเป็นความลับจึงต้องไม่เหลือทั้งพยานและหลักฐาน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการที่ท่านไม่รู้เรื่องนี้นี่แหละคือหลักฐาน”]
[“อืม…”]
แน่นอนว่าสิ่งที่บัตเลอร์เล่ามาทั้งหมดเป็นการโกหกคำโต เป็นเรื่องราวที่เขาเพิ่งจะแต่งขึ้นมาเองที่นี่และตอนนี้ ถึงเซเลนจะเรียกได้ไม่เต็มปากว่าเป็นเด็กสาวที่ไม่มีอันตราย แต่ทางกายภาพนั้นเรียกได้ว่าธรรมดาอย่างมาก จะมีก็แต่เรื่องที่เธอเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์และเรื่องของจิตใจที่อยู่ข้างใน แต่ถึงยังไง การเจรจาของบัตลอร์ก็ยังคงดำเนินต่อไป
[“ตอนนี้ท่านยังอยากจะกินองค์หญิงเซเลนที่เป็นสายเลือดของผู้สังหารมังกรอยู่หรือเปล่าล่ะครับ? ถ้าใช่ ก็โปรดจำไว้ด้วยว่าบัตเลอร์ผู้นี้ได้บอกข้อมูลสำคัญให้ท่านทราบแล้ว”]
[“อ-เอ่อ……”]
มังกรแดงจ้องมาที่เซเลน มีความเป็นไปได้สูงที่หนูตัวนี้กำลังหลอกมันอยู่ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาล่ะ และทันที่ที่บัตเลอร์สังเกตเห็นความลังเลนั้น เขาก็ไม่พลาดโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากมัน
[“ถ้าอย่างงั้น ท่านมังกรแดง กระผมมีข้อเสนอ ทำไมท่านไม่ใช้หญิงสาวคนนี้เป็นอาวุธล่ะ?”]
[“ใช้เป็นอาวุธ? มันหมายความว่ายังไง?”]
มังกรแดงติดกับเป็นที่เรียบร้อย สถานการณ์ถูกชักนำให้เป็นไปตามที่เขาคาดหวังไว้ได้แล้ว บัตเลอร์เก็บความรู้สึกยินดีเอาไว้ ไม่ให้ได้ใจมากเกินไป และทำการหว่านล้อมโดยพูดเหมือนกับเป็นการให้คำแนะนำที่ดีกับอีกฝ่าย
[“ท่านมังกรแดงเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไม่ผิดแน่ แต่ถึงอย่างงั้นในหมู่มังกรด้วยกันก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างเหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ?”]
[“พวกข้าอยู่กันเป็นฝูง ย่อมมีตัวตนที่เทียบเคียงกับข้าได้อยู่แล้ว”]
[“นั่นไงล่ะ นั่นยังไงล่ะครับ ท่านสามารถใช้เด็กสาวคนนี้เป็นไพ่ตายเวลาที่มีเรื่องบาดหมางกันภายในฝูงได้ หรือเรียกง่ายๆว่าวางยาพิษลอบสังหารไงล่ะครับ”]
[“ก็จริงแฮะ…”]
มังกรเชื่อในคำหลอกลวงของบัตเลอร์อย่างหมดใจไม่ต่างกับคนหัวอ่อนที่ถูกหลอกง่าย มนุษย์นั้นสำหรับมดจะถูกมองว่าตัวใหญ่ยักษ์ทั้งหมด แต่ในหมู่มนุษย์ด้วยกันก็มีตั้งแต่ทารกที่เพิ่งจะตั้งไข่ไปจนถึงนักรบเจนศึก ความแตกต่างนั้นก็ย่อมมีในเผ่าพันธุ์มังกรด้วยเช่นกัน
อันที่จริง แม้ว่าเซเลนและคนอื่นๆจะไม่มีทางรู้ถึงเรื่องนั้น แต่มังกรตัวนี้มีลำดับที่ต่ำมากในฝูงของมัน และนั่นคือเหตุผลที่มันฝึกฝนร่างการโดยการออกบินไปรอบๆทวีปอยู่ทุกวันเหมือนเป็นการจ๊อกกิ้งยามเช้า ด้วยสาเหตุนั้น มันจึงได้พบกับเซเลน
จากคำบอกเล่าของหนูตัวนั้น เด็กน้อยคนนี้มีพิษร้ายแรงที่จะออกฤทธิ์กับมังกร ถ้าอย่างนั้นก็สามารถใช้เด็กน้อยคนนี้เป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ในการต่อสู้แย่งชิงลำดับชั้นในฝูงได้
ความเข้าใจผิดของมังกรยิ่งแผ่ขยาย ถ้าหากมันเข้าร่วมต่อสู้ในการจัดอันดับอย่างตรงไปตรงมา ก็จะบาดเจ็บและเหนื่อยล้าซ้ำยังพ่ายแพ้ แต่ถ้ามันนำเด็กน้อยคนนี้ไปมอบให้ผู้ที่มีลำดับสูงโดยอ้างว่าล่าเหยื่อชั้นดีมาได้จึงจะใช้เป็นเครื่องบรรณาการ เชื่อได้เลยว่าพวกนั้นจะกินเธอเข้าไปทันที และพวกโง่เขลาที่เคยสบประมาทตัวมันไว้ก็จะตายอย่างทรมาน
[“อืม หึหึ…”]
มังกรคิดถึงความเป็นไปได้ในตอนจบของแผนร้ายนี้ หากสิ่งที่หนูตัวนี้พูดเป็นเรื่องหลอกลวง ก็จะเป็นแค่การส่งเครื่องบรรณาการให้กับฝูงเท่านั้น ไม่มีอะไรเสียหาย และถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ก็จะฆ่าพวกนั้นได้สำเร็จ ยังไงก็คุ้มค่าที่จะลอง
[“ตกลง จนกว่าจะถึงยอดเขามังกร ข้าจะให้พวกเจ้ามีชีวิตไปก่อน”]
[“ก่อนหน้านั้น… เกรงว่าจะมีปัญหาอีกอย่างหนึ่งครับ”]
[“ปัญหาอะไรรึ?”]
มังกรแดงในตอนนี้ถูกบัตเลอร์ชักจูงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว มันถามบัตเลอร์เหมือนเด็กที่อยากรู้ตอนต่อของเรื่องเล่า บัตเลอร์ตีหน้าเศร้าและตอบออกมาเหมือนรู้สึกผิด
[“อย่างที่ท่านเห็น องค์หญิงเซเลนยังเป็นแค่เด็ก เช่นเดียวกับผลไม้ที่ไม่สามารถกินได้โดยที่ยังเป็นเพียงแค่ดอก ความสามารถในการสังหารมังกรก็ยังแสดงผลได้ไม่เต็มที่หากยังไม่โตเต็มวัย อย่างมากก็จะทำให้ปวดท้องเท่านั้น”]
[“แล้วต้องทำยังไง?”]
[“ง่ายมาก ท่านก็แค่เฝ้ารอจนกว่าองค์หญิงเซเลนจะเติบใหญ่อย่างสมบูรณ์พร้อมและสุขภาพดี ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ต้องรอให้แห้งเหี่ยวเหมือนผลไม้ที่สุกงอม”]
[“นานแค่ไหนล่ะ? ข้าไม่ค่อยสันทัดเรื่องอายุขัยของมนุษย์เสียด้วย”]
[“สักห้าสิบ แปดสิบ… ไม่สิ ถ้าท่านต้องการผลลัพธ์ที่แน่นอนก็หนึ่งร้อยปี”]
[“ร้อยปี… นานไป”]
มังกรพูดอย่างผิดหวัง เช่นเดียวกับมนุษย์ที่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามดออกจากไข่ เป็นตัวอ่อน โตเต็มวัย และสิ้นอายุขัยที่อายุเท่าใด ความเข้าใจของมังกรเกี่ยวกับช่วงเวลาของมนุษย์ก็ไม่ต่างกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว หลังจากนี้อีกร้อยปี ทั้งเซเลนและบัตเลอร์ก็เข้าโลงลงหลุมกันไปเรียบร้อยแล้ว
[“กระผมขอทราบอายุของท่านได้หรือไม่ครับ ท่านมังกรแดง?”]
[“เคยนับไว้ถึงสี่พันปี หลังจากนั้นก็ไม่ได้นับแล้ว”]
[“ถ้าอย่างนั้น อีกเพียงแค่หนึ่งร้อยปีก็ไม่มีปัญหาสำหรับท่านสินะครับ”]
[“แต่ข้าว่า หนึ่งร้อยปีมันก็นานอยู่ดี…”]
[“ไม่เลยครับ เวลาแค่นี้เหมาะสมดีแล้ว ทําการใหญ่ใจต้องนิ่งสิครับ ต้องมองที่ภาพรวมและหาโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด อย่าเอาแต่สนใจผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆที่อยู่ตรงหน้าจนลืมเป้าหมายที่แท้จริง มันคือทัศนคติของผู้ยิ่งใหญ่ หรือว่าท่านมังกรแดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจะไม่ได้มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน”]
เมื่อเห็นบัตเลอร์พูดอย่างมั่นใจ มังกรแดงได้ยินแล้วก็คิดได้ว่า ‘ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อาจจะเข้าท่ากว่าก็ได้’ โดยเฉพาะประโยคที่ว่า ‘ทัศนคติของผู้ยิ่งใหญ่’ ช่างถูกใจเหลือเกิน
บัตเลอร์มองเห็นถึงความเย่อหยิ่งในตัวของมังกรแดง และเจตนาใช้ประโยคดังกล่าวจี้ไปที่จุดนั้น สำหรับมังกรแดงที่ไม่เคยได้เป็นที่ยกย่องในฝูงเลย คำสรรเสริญเยินยอของบัตเลอร์เป็นอะไรที่น่าฟังมาก
[“…เอาเป็นว่า ในอีกร้อยปีข้างหน้า ข้าจะให้เด็กน้อย เซเลน ที่อยู่ตรงนี้ มาเป็นหมากตัวสำคัญในประกาศศักดาของข้า”]
[“กระผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยครับ อีกหนึ่งร้อยปี ท่านมังกรแดงผู้ยิ่งใหญ่ก็จะได้เห็นผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์อย่างแน่นอน”]
[“หึหึหึ พูดจาระรื่นหูยิ่งนัก ถูกใจข้าจริงๆ”]
[“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับคำชมจากท่านครับ”]
อย่างน้อยบัตเลอร์ก็ไม่ได้โกหกในส่วนที่พูดว่าผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ เพราะเขาไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่มันก็ทำให้มังกรแดงอารมณ์ดีและถอนหายใจออกมาแรงๆ
[“ตอนนี้ก็พาองค์หญิงเซเลนกลับคืนสู่มือมนุษย์กันเลยดีกว่าครับ”]
[“ข้าเอาไปเลี้ยงไว้เองไม่ดีกว่ารึ?”]
[“ไม่มีทางครับ! องค์หญิงเซเลนคืออาวุธลับของท่านมังกรแดง เพื่อไม่ให้ถูกรับรู้ไปเสียก่อน ควรให้อยู่ห่างจากมังกรตัวอื่นให้มากที่สุด ซ่อนใบไม้ต้องซ่อนในป่ายังไงล่ะครับ ถ้าอยากซ่อนมนุษย์ก็ต้องซ่อนที่เมืองมนุษย์”]
[“เข้าใจแล้ว… เจ้ามันฉลาดจริงๆ”]
มังกรแดงผงกหัวพยักหน้า ตอนนี้ไม่ว่าบัตเลอร์จะพูดอะไรก็เชื่อไปหมดทุกคำ
[“ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก แม้ว่าข้าจะเป็นมังกรที่เก่งกาจขนาดไหน แต่วันนี้ข้าก็ได้บินลงใต้ไปยังสุดขอบทวีปมาแล้ว และผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าก็ไม่ควรลดตัวลงไปข้องแวะกับมนุษย์บ่อยครั้ง”]
สรุปให้เข้าใจง่ายๆได้ว่า ‘วันนี้เดินทางเยอะจนเหนื่อยแล้ว และถ้านำเซเลนไปส่งคืนทันทีมันก็จะเหมือนกับ [เมื่อกี้พลาดไปหน่อย ฯโทษทีละกัน☆] จะทำให้ดูไม่ดี’ บัตเลอร์ก็พอจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่พูดออกมาให้เรื่องมันแย่ลง
[“ถ้าอย่างงั้น ถึงจะน่าเสียดายแต่ก็ช่วยไม่ได้ สำหรับตัวกระผมเอง อยากรีบกลับไปบอกเล่าความยิ่งใหญ่ของท่านมังกรแดงให้คนอื่นๆได้รับรู้โดยเร็ว”]
บัตเลอร์อยากกลับไปในพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์โดยเร็วที่สุดจึงได้เลือกใช้คำพูดอ้างว่าเพื่อมังกรแดง แต่ตอนนี้การเจรจาก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือคือการกอบโกยผลประโยชน์เพิ่มเติม ขณะที่บัตเลอร์คิดอย่างนั้น มังกรแดงก็หาพื้นที่โล่งและบินลงไปตรงจุดที่มีต้นไม้เบาบางในพื้นที่ของป่าสีขาว จากนั้นก็วางเซเลนกับบัตเลอร์ลงบนพื้นดินอย่าทะนุถนอมราวกับเป็นของสำคัญสำหรับมัน
[“รอตรงนี้จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า ข้าจะกลับไปฟื้นพลังที่รังก่อน เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ข้าจะกลับมาที่นี่อีกครั้งและจะพาเจ้ากลับไปยังสถานที่ของเจ้า”]
[“ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ”]
“ขอบคุณ”
โดนไอ้นี่ลักพาตัวมาแท้ๆยังต้องมาขอบคุณมันอีกเนี่ยนะ เซเลนบ่นอยู่ในใจเพราะไม่อาจโต้เถียงกับมังกรตรงๆได้ จึงได้แต่พูดขอบคุณอย่างไม่เต็มใจอยู่อย่างนี้ จากนั้น มังกรแดงกระพือปีกขนาดใหญ่ยกตัวบินขึ้นสูงและมุ่งหน้าต่อไปทางทิศเหนือ
[“ฉิวเฉียดจริงๆ ยังไงก็รอดมาได้แล้ว… องค์หญิง กระผมต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ที่เรียกองค์หญิงว่าผู้ต่ำต้อย”]
“บัตเลอร์”
[“ครับ!”]
เซเลนจับไปที่หัวของบัตเลอร์อย่างนุ่มนวล บัตเลอร์ในฝ่ามือของเซเลนรอการดุด่าด้วยท่าทางเคร่งเครียด เกียรติยศสูงสุดของบัตเลอร์คือการได้รับใช้เจ้าหญิงเซเลน การถูกลงโทษจากเจ้าหญิงผู้นี้น่ากลัวยิ่งกว่ามังกรเมื่อครู่มากมายนัก
“กู๊ดจ๊อบ(gujobu/Good Job)”
[“หือ?”]
เขาไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘กู๊ดจ๊อบ’ เซเลนยกมืออีกข้างไปทางบัตเลอร์และยกนิ้วโป้งให้พร้อมด้วยรอยยิ้ม และลูบไล้ขนที่นุ่มลื่นของบัตเลอร์ สำหรับบัตเลอร์แล้วมันคือหนึ่งในคำชมที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา
[“จะไม่ดุด่ากระผมหรือครับ? กระผมดูหมิ่นองค์หญิงและยังใช้ชีวิตของท่านเป็นเดิมพันอีก”]
“ไม่เป็นไร บัตเลอร์ ทำได้ดีมาก”
ตอนนี้เซเลนกำลังดีใจเป็นที่สุด เพราะเซเลนไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงและไม่มีความภูมิใจในฐานะราชวงศ์อยู่แล้ว และตอนที่เธอคิดว่าจะถูกกินก็เจรจาจนรอดมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสร้างเส้นสายกับมังกรได้อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอปรารถนามาตั้งแต่แรก เพราะมังกรจะมีประโยชน์อย่างมากในการเป็นอาวุธต่อต้านเจ้าชาย
[“ขอบคุณสำหรับความอ่อนโยนของท่าน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บัตเลอร์ผู้นี้ได้รับใช้ท่าน”]
“เดี๋ยว จะให้ ตั๊กแตน”
[“โอ้ว!? จริงหรือครับ!? อา ช่างเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน”]
บัตเลอร์กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่งบนฝ่ามือของเซเลน อาหารที่เซเลนมอบให้ทุกชิ้น สำหรับบัตเลอร์แล้วมันคือสัญลักษณ์แห่งชีวิต เป็นสมบัติล้ำค่า และในของเหล่านั้น ตั๊กแตนเป็นๆที่เซเลนจับมาให้คือเหรียญตราแห่งเกียรติยศระดับสูงสุด แต่สำหรับเซเลน การเก็บสะสมแมลงถือเป็นงานอดิเรกฆ่าเวลาเท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อเทียบกับความสามารถแล้ว ค่าตัวของบัตเลอร์ช่างถูกเหลือเกิน
[“ว่าแต่ องค์หญิงรู้สึกเจ็บป่วยหรือเปล่าครับ? ทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ? ว่ากันว่าพลังเวทย์ในป่าแห่งนี้หนาแน่นเป็นพิเศษ ท่านรู้สึกว่ามีอะไรผิดปรกติบ้างหรือเปล่า?”]
“สบายดี บัตเลอร์ล่ะ?”
[“ตัวกระผมก็ไม่มีปัญหาใดๆเช่นกัน ต้องขอบคุณพลังเวทย์ที่องค์หญิงแบ่งปันให้ครับ”]
มนุษย์ทั่วไปจะถูกพลังเวทย์กัดกร่อนร่างกายจนเกิดอาการเจ็บป่วย แต่ไม่มีผลกับเซเลนและบัตเลอร์ที่มีพลังเวทย์ไหลเวียนในร่างกายอยู่แล้ว จึงสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปรกติภายในป่าสีขาวนี้
[“องค์หญิง พวกเราต้องพักแรมอยู่ที่นี่จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า แต่ที่นี่เป็นดินแดนที่ยังไม่เคยถูกสำรวจ โปรดระวังตัวด้วย”]
“ได้เลย”
บัตเลอร์คำนึงถึงความปลอดภัยจึงได้กล่าวเตือนออกไป เซเลนหลังจากที่ได้ลงมาดูป่าสีขาวใกล้ๆก็ตื่นตาตื่นใจไปกับสภาพของสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมด ราวกับป่าถูกฝังอยู่ใต้กองหิมะ แต่พอสังเกตดีๆแล้ว ใบไม้ทุกใบล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ เซเลนรู้สึกทึ่งไปกับทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์ที่หาดูจากดาวโลกไม่ได้ เซเลนเป็นคนประเภทที่พอผ่านวิกฤตไปแล้วก็จะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปสนใจสิ่งอื่นในทันที จึงชื่นชมบรรยากาศอยู่เงียบๆ
บัตเลอร์ที่ยังระแวงกับดินแดนที่ไม่รู้จัก ก็ไต่ขึ้นไปบนไหล่ของเซเลนที่นิ่งเงียบอยู่ และพูดด้วยเสียงอันหนักแน่นเพื่อขจัดความวิตกกังวลของเจ้าหญิง
[“องค์หญิงโปรดวางใจ ไม่ว่าจะเป็นอันตรายแบบไหนก็ตาม บัตเลอร์ผู้นี้จะปกป้องท่านไว้ด้วยชีวิต”]
“ฝากด้วยนะ”
เซเลนตอบไปอย่างเรียบง่าย และนั่งลงบนขอนไม้ที่หักโค่นอยู่แถวนั้นแทนเก้าอี้ พรุ่งนี้เช้ามังกรแดงจะมาหาและพากลับไปส่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเรียกว่าเป็นการเดินทางที่ดีไม่ได้ แต่การเดินทางบนท้องฟ้าในช่วงขากลับนี้อาจจะเพลิดเพลินกว่าที่คิดก็ได้ เซเลนมองโลกในแง่ดี
ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าจะทำตัวเหม่อลอยเรื่อยเปื่อยจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า เซเลนมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติในเรื่องการใช้เวลาให้เปล่าประโยชน์โดยการทำตัวขี้เกียจไปวันๆอยู่แล้ว
บัตเลอร์ลงมานั่งข้างๆกับเซเลน มองไปรอบๆเพื่อเฝ้าระวังภัยและชื่นชมทิวทัศน์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งสองนั่งอยู่บนขอนไม้ดัวยกันสักพักและทันใดนั้น หูของบัตเลอร์ก็ขยับ
[“องค์หญิง มีคนกำลังเข้าใกล้พวกเรา ระวังตัวเอาไว้ด้วยครับ!”]
“ใคร?”
ขณะที่เซเลนยังคงเหม่อลอยอยู่ก็ได้ยินเสียงเยียบต้นหญ้าและแหวกพุ่มไม้ดังมาตามสายลม เซเลนจึงตื่นตัว หันไปทางต้นตอของเสียงและเตรียมตัวให้พร้อม
“แปลกจังนะ มังกรลงมาข้างล่างนี้ด้วย”
“มังกรต้องการอะไรกับที่ตรงนี้กันแน่… มีคนอื่นอยู่?”
“อ๊ะ จริงด้วย หลงทางมาจากหมู่บ้านไหนน่ะ?”
เบื้องหน้าของเซเลนและบัตเลอร์ มีเอลฟ์อยู่สองคน ผมสีเงินมัดรวบไว้ด้านหลัง ผิวสีขาว ดวงตาสีแดง และใบหูยาว
MANGA DISCUSSION