[นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! - ตอนที่ 25 ไอเทม 2 ชิ้น
ภายในห้องพักคนไข้ หลังจากที่กวนชานแน่ใจว่าเสินติงฮัวได้หลับไปแล้ว เขาก็นอนหันข้างเล็กน้อยและเปิดหน้าต่างกระเป๋าระบบขึ้นมาอีกครั้ง
ไอเทมสองชิ้นที่เขาได้รับในการจำลองครั้งนี้ อันหนึ่งคือ [จี้สร้อยคอผึ้งงาน] และอีกอันคือ [แผ่นโลหะชำรุด]
【จี้สร้อยคอผึ้งงาน】เป็นเครื่องประดับที่ตำแหน่ง “ศีรษะ” และมีคุณสมบัติดังนี้
【จี้สร้อยคอผึ้งงาน】
【ผลลัพธ์: หลังจากสวมใส่แล้ว จะได้รับความสามารถ [สื่อสารกับสัตว์ (ฝูงผึ้ง)] 】
【คำอธิบาย: เครื่องประดับซึ่งทำจากแก้วที่บรรจุแมลงแปลกๆเอาไว้ภายใน มีพลังจำเพาะพิเศษตามความปรารถนาของใครบางคน และดูเหมือนว่าจะสามารถสื่อสารกับ “พรรคพวก” ได้ 】
“บุคคลปริศนาและพรรคพวกที่ว่านี่หมายถึงใครหว่า?”
มุมปากของกวนซานได้กระตุก เขาสงสัยว่าระบบจำลองนี้ไม่ใช่พวกคลั่งการระเบิดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สันทัดการใบ้คำปริศนาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะอธิบายไอเทมในทำนองไหน ตราบใดที่ไอเทมมีความสามารถที่เข้าใจง่ายและมีประโยชน์ ไอเทมเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นไอเทมที่ดีแล้วสำหรับเขา
พอกวนซานคิดขึ้น รายละเอียดของความสามารถที่มีในจี้สร้อยคอนี้ก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น
【สื่อสารกับสัตว์ (ฝูงผึ้ง)】
【ผลลัพธ์: สามารถสื่อสารกับฝูงผึ้งในระยะ 300 เมตร และในขณะเดียวกันก็สามารถรับรู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ 】
【คำอธิบาย: การสื่อสารระหว่างสัตว์มักจะแปลกประหลาด รวดเร็ว และอันตรายกว่าเสมอ 】
กวนซานได้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะผลลัพธ์ของไอเทมนี้…
“ถึงจะไม่ได้อยู่ในฉากเกมจำลอง ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้เหมือนกันนี่นา?”
“ถ้าหากสื่อสารกับฝูงผึ้งได้ ก็จะรู้เห็นสิ่งต่างๆมากมายที่ไม่อาจเห็นได้จากมุมมองของมนุษย์”
“และถ้าใช้ไอเทมนี้ควบคุมฝูงผึ้ง ชั้นก็จะสามารถรู้ล่วงหน้าเร็วกว่าศัตรูได้อยู่ก้าวหนึ่งเสมอ”
กวนซานในฐานะที่เป็นนักข่าวย่อมเข้าใจถึงความสำคัญของข้อมูลข่าวสาร
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทดสอบความสามารถนี้ทันที
หลังจากที่กวนซานสวมใส่ [จี้สร้อยคอผึ้งงาน] เขาก็รู้สึกตะครั่นตะครอที่คอเขา เมื่อเขามองลงมา ก็เห็นจี้แก้วที่ร้อยอยู่กับเชือกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าตรงหน้าอกของเขา
เขาหยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัยและหมุนดูรอบๆก็ค้นพบว่ามันมีแมลงประหลาดถูกผนึกอยู่ข้างในนั้น อีกทั้งมันยังมีชีวิตอยู่ด้วย
ปีกอันโปร่งใสของมันยังสั่นอยู่เล็กน้อย บริเวณหนวด เท้า และส่วนหัวของมันก็มีขยับเป็นระยะซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันยังไม่ตาย
มีสิ่งนึงที่น่าแปลกใจก็คือ หางของแมลงคล้ายแตนตัวนี้กลับไม่มีเข็มหางที่จับต้องได้ แต่กลับมีแสงสีขาวสว่างเป็นรูปร่างเข็มแทน
และในเวลาเดียวกัน กวนซานก็บังเกิดความรู้สึกแปลกพิเศษขึ้น
มันเหมือนกับมีวิธีสัมผัสรับรู้ใหม่ที่แผ่ออกมาจากประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขา
เขาหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็รู้สึกว่าประสาทสัมผัสของเขาได้แผ่ออกไปยังด้านนอก และบังเกิดดวงแสงซึ่งได้ค่อยๆปรากฏขึ้นอย่างกระจัดกระจายในความมืด
อาจเป็นเพราะมันคือตอนกลางคืนฝูงผึ้งจึงไม่ค่อยได้ออกจากรังมากนัก
มีเพียงผึ้งโง่งมไม่กี่ตัวที่น่าจะกลับรังไม่ทันในช่วงฟ้ายังสว่าง
กวนซานตั้งสมาธิเพื่อรับรู้ความคิดของพวกมันแต่ละตัว
“นอน นอน นอน…zzZZZZ”
เจ้าตัวนี้นอนซะตรงนั้นเลย
“เก็บน้ำผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง เก็บน้ำผึ้ง…..”
นี่ก็กำลังทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ขยันเกินไปแล้วเฟ้ย!
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย…อ๊า!”
ตัวนี้แย่หน่อยที่ดันโดยแมลงอื่นจับกิน
“กลับบ้าน กลับบ้าน กลับบ้าน…”
ส่วนเจ้านี่กำลังหลงทางกลับบ้าน
กวนซานลืมตาและมุมปากของเขาได้กระตุกขึ้น
จริงอยู่ที่ฝูงผึ้งสามารถให้ข้อมูลได้ แต่ปัญหาก็คือสติปัญญาของแมลงไม่อาจทำให้สมองของพวกมันสามารถรับข้อมูลที่เขาต้องการ
ห้วงความคิดเหล่านี้เป็นความคิดรูปแบบสัญชาตญาณระดับต่ำของการออกหากิน และไม่มีข้อมูลใดที่มีประโยชน์เลย
น่าเสียดายที่ผลการทดสอบนั้นได้ออกมาอย่างไม่น่าพึงพอใจ
“ยังไงฝูงผึ้งก็ยังคงเป็นกลุ่มความคิดธรรมดา บางทีหากชั้นลองบงการฝูงผึ้งทั้งหมดแทน..…”
กวนซานรำพึงอยู่พักนึงและรู้สึกว่าเขาควรคิดแบบมุมมองของสัตว์จะเหมาะสมกว่า
เนื่องจากความคิดของเขาอาจส่งผลต่อฝูงผึ้งได้เช่นกัน ดังนั้นลองทดสอมไอเทมนี้อีกสักสองสามครั้งแล้วก็น่าจะหาวิธีควบคุมฝูงผึ้งได้
ไอเทมนี้จึงต้องเก็บไว้เป็นการชั่วคราวก่อน
และไอเทมอีกชิ้นหนึ่ง ก็คือไอเทมรูปแบบใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
【แผ่นโลหะชำรุด (ไอเทมสร้างฉากพิเศษ) 】
【ผลลัพธ์: หลังจากใช้ ระบบจำลองจะถูกบังคับให้เริ่มสร้างเกมในพื้นที่ปัจจุบันนั้นเพื่อจำลองฉากพิเศษ 】
【คำอธิบาย: แผ่นโลหะเก่าลวดลายงดงามซึ่งดูเหมือนได้ผ่านพ้นระยะเวลามายาวนานแล้ว ถึงมุมหนึ่งของมันได้ขาดหายไปแต่ก็ยังคงรักษาส่วนที่เหลือไว้ได้เป็นอย่างดี มีเพียงอักษร “B” และ “K” สองตัวได้สลักทิ้งไว้ให้เห็น ราวกับเพื่อสื่อถึงการกลับมาของใครคนนึง 】
กวนซานได้ขบคิดถึงผลลัพธ์ของไอเทมนี้และเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว “มันคือไอเทมที่ใช้เปิดฉากจำลองได้…. “
เขาถึงกับพูดไม่ออก
สามารถเปิดการจำลองขึ้น มันย่อมหมายความว่าสามารถเก็บไอเทมและของรางวัลได้มากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความน่าสะพรึงกลัวและภัยอันตรายซึ่งไม่อาจคาดคิดได้อีกมากมาย
หากระบบจำลองสามารถปิดการใช้งานอัตโนมัติได้ กวนซานก็ไม่อยากเข้าสู่ฉากจำลองอีกเลย
เพราะทุกครั้งที่เขาเข้าสู่เกม มันหมายความว่าชีวิตของเขาขาดความปลอดภัยไป อีกทั้งเขายังต้องต่อสู้กับบรรดามอนสเตอร์แปลกๆด้วย
“ใครมันจะอยากเริ่มการจำลองด้วยความต้องการของตนเองบ้างเล่า?”
กวนซานอดถอนหายใจเฮือกไม่ได้ “คนโง่ล่ะมั้ง? มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะใช้ไอเทมนี้ต่างหาก!”
แต่กวนซานก็ไม่อยากขายไอเทมที่สามารถสร้างฉากพิเศษนี้ให้กับร้านค้าระบบ
“ช่างมันเถอะเก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน เพราะยังไงซะ เงินในเกมก็มากพอใช้แล้ว และไม่มีไอเทมอื่นให้ซื้อหลังจากขายทิ้งไป”
ส่วน “ไฟฉายพลังนิวเคลียร์” ในร้านน่ะเหรอ?
ปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้นแหละ
กวนซานได้หลับตาลงจากนั้นดวงแสงก็สว่างขึ้นอีกครั้ง เขาพยายามลองแทรกแซงความนึกคิดของเหล่าผึ้งดู
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆลองสื่อสารกับผึ้งที่ได้หลงทางทีละเล็กทีละน้อย และนำทางมันไปยังทางกลับบ้านที่ถูกต้อง
——
วันต่อมา
กวนซานได้ผ่านการอนุญาตให้กลับ เขาไม่ได้ไปที่ทำงานแต่จะกลับไปยังบ้านก่อน
ต้องบอกไว้ก่อนว่า ในฐานะที่เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ ความจริงแล้วกวนซานไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักงานทุกวันก็ได้ เขาจะเข้าไปเฉพาะเมื่อเขาจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการร่างต้นฉบับเท่านั้น
ส่วนเวลาอื่นนอกเหนือจากนั้น เขาก็จะเดินเตร่ไปตามถนนเพื่อมองหาสิ่งที่เรียกว่า “ข้อมูลในพื้นที่” เพื่อใช้ทำข่าว
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องนำช่างภาพตามมาด้วย
กวนซานได้ขึ้นรถเมล์ เขายืนจับห่วงรถพลางคิดในใจแก้เขิน
เพราะเขามีผู้ช่วยตัวน้อยเดินตามหลังเขา
เสินติงฮัวได้เดินตามเขามาอย่างกระชั้นชิด เธอขึ้นรถเมล์และเรียนรู้วิธียืนจับห่วงรถเมล์
แม้เสี่ยวเสินจะเป็นเพื่อนบ้านของกวนซาน แต่ฐานะครอบครัวของเธอมีอันจะกินมากกว่ากวนซานลิบลับ โดยปกติแล้วเธอไม่เคยขึ้นรถเมล์เลย เพราะเธอจะนั่งรถยนต์ส่วนตัวเมื่อต้องออกไปข้างนอก
สำหรับเสินติงฮัว นี่ค่อนข้างเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหมือนกัน
“เอ..…”
เสินติงฮัวได้พยายามดิ้นรนยืนบนรถ ปลายนิ้วของเธอสามารถจับขอบห่วง แต่ถึงแม้เธอจะจับไว้ได้มันก็เป็นเรื่องลำบากมากอยู่ดี
กวนซานเหล่มองดูเธอ เสินติงฮัวนั้นมีส่วนสูงประมาณ 158 ซึ่งเอิ่ม….. คิดว่าเด็กมัธยมที่เขาเจอเมื่อคืนนี้น่าจะสูงกว่าเธออีกนะ
เสินติงฮัวพยายามอยู่หลายครั้ง และในที่สุดเธอก็เริ่มหงุดหงิดจากสาเหตุที่เธอยืนดีๆไม่ได้
เธอสังเกตเห็นรอยยิ้มของกวนชานและแค่นเสียงด้วยใบหน้าซึ่งแดงก่ำ
จากนั้นเธอก็ฮัมเพลง ยื่นมือออกมาจับชายเสื้อของกวนซานอย่างเงียบๆและยืนพิงตัวเขา
กวนซานไม่ได้กล่าวอะไร เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขามีเครื่องประดับตัวน้อยนี้ห้อยอยู่
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็ลงจากรถบริเวณไม่ไกลจากตัวบ้านของเสินติงฮัว
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเขา ก็คือคฤหาสน์เดี่ยวที่มีกำแพงลานบ้านล้อมรอบ