[นิยายแปล] Game of the World Tree - ตอนที่ 86 กำลังรบระดับเงิน
ใจกลางป่าเอลฟ์
เอลฟ์ในชุดเกราะที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและชุดคลุมเวทมนตร์กลุ่มหนึ่ง กำลังซุ่มมองบางสิ่งอยู่ในผืนป่า
พวกเขากำลังเฝ้าสังเกตสัตว์อสูรร่างยักษ์ตัวหนึ่งจากระยะไกลผ่านกิ่งไม้และใบไม้หนาทึบ
มันเป็นสัตว์อสูรสายพันธุ์ย่อยของเหล่ามังกร ร่างของมันสูงประมาณ 4-5 เมตร ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาทั่วทั้งตัว
มันกำลังกัดแทะซากหมู่ป่าพลางคำรามเสียงต่ำออกมาเป็นระยะ
สัตว์อสูรชนิดนี้มีชื่อว่า กิ้งก่าไพรยักษ์ ว่ากันว่ามันมีเชื้อสายของมังกรเขียว สามารถพ่นหมอกพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มันเป็นสัตว์อสูรระดับเงินขั้นต้น
เดมาเซียจ้องมองกิ้งก่าไพรยักษ์ด้วยใบหน้าเคร่งขรึมและกระซิบกับเอลฟ์ตัวน้อยที่ยืนอยู่ข้างเขา
“อัล เห็นตะกวดตัวเบิ้ม ๆ นั่นมะ?”
อัลพยักหน้ารับ สีหน้าของเขาดูมุ่งมั่นราวกับเด็กที่กำลังตั้งใจเรียน
“เห็นครับพี่เดมาเซีย”
อัลในเวลานี้ดูแตกต่างจากเด็กชายที่ถูกกักขังไว้ในคุกใต้ดินเป็นอย่างมาก
เขาสวมชุดเกราะที่งดงามไม่แพ้เหล่าผู้เล่น ในมือของเขามีดาบสั้นที่เปล่งประกายสีเงินระยิบระยับ
ของเหล่านี้คือสิ่งที่เทพธิดามอบให้กับอัล เป็นสัญลักษณ์และเครื่องแสดงสถานะบุตรแห่งเทพ
จากคำบอกเล่าของเดมาเซีย อุปกรณ์เหล่านี้เป็นอาวุธและชุดเกราะกรอบทองระดับเลเจนด์ ซึ่งสร้างความอิจฉาแก่เหล่าผู้ถูกเลือกจำนวนมาก
แม้ว่าอัลไม่ทราบความหมายของ กรอบทองระดับเลเจนด์ แต่เขาก็ทราบว่าอุปกรณ์สวมใส่เหล่านี้ต้องเป็นของล้ำค่าอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกเคารพและซาบซึ้งในความกรุณา ของพระมารดาผู้แสนโอบอ้อมอารี
เดมาเซียชำเลืองเด็กชายที่ตั้งใจฟังด้วยความพึงพอใจ เขากระแอมเบา ๆ สองครั้งก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเข้มงวด
“อัล แม้นายจะแกร่งขึ้นมาขนาดไหน แต่นายตอนนี้ยังเป็นแค่ลูกเจี้ยบ!”
“ตามที่เทพธิดาท่านกล่าวไว้ หากปวงเอลฟ์ต้องการกลับมามีอำนาจอีกครั้ง พวกเราต้องมีอะไรที่มากกว่าหัวใจแห่งความสัตย์ พวกเราต้องมีความกระหายเลือด! พร้อมจะกระโจนเข้าห้ำหั่นกับพวกศัตรู!!”
“ความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์เต็มไปด้วยเรื่องโหดร้าย และความปราณีอย่างไร้ขอบเขตรังแต่จะทำให้พวกเราตกอยู่ในอันตราย…”
“ถึงพลังของนายจะเพิ่มมามากมายมหาศาลแค่ไหน แต่ประสบการณ์ในการต่อสู้ยังถือว่าอ่อนด้อย! สัตว์อสูรตัวนี้มีพลังระดับเงินขั้นต้น หน้าตาอัปลักษณ์ แถมยังเป็นไอ้ตัวกินเนื้อแสนโหดร้าย พูดง่าย ๆ คือมันเป็นไอ้ตัวบาปหนา! มามะ เชือดมั… แค่ก ใช้มันเป็นเป้าฝึกโลด!”
“พี่รู้ว่านายยังทำใจฆ่ามันได้ยาก แต่ไม่ต้องรีบไปถึงขั้นนั้น พวกเรามาฝึกกันแบบค่อยเป็นค่อยไปนะ นายซัดให้มันปางตายก็พอ แล้วเดี๋ยวพวกพี่จะปิดงานให้เอง”
เดมาเซียที่กำลังกล่าวโน้มน้าวเอลฟ์ตัวน้อย ดูอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
อัลพยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง
“ครับพี่เดมาเซีย!”
แม้เขาจะเคยสังหารเหล่าออร์คด้วยมือทั้งสองของตน ทว่าความอ่อนโยนตามธรรมชาติของเอลฟ์ ทำให้เขาทนไม่ได้ที่จะต้องลงไม้ลงมือกับเหล่าสัตว์อสูร
อัลมองเดมาเซียด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ความอบอุ่นเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นมาในหัวใจของเขา
เพื่อจะให้ผมเติบโต พี่เดมาเซียเอาตัวเองมาเสี่ยงตามหาสัตว์อสูรแกร่ง ๆ พวกนี้ แถมเพื่อทำให้ผมรับเรื่องการลงมือทำร้ายพวกมันได้ พี่เลยให้ผมจัดการมันแค่ปางตาย แล้วพวกพี่ ๆ จะจัดการส่วนที่เหลือให้…
พวกพี่ใจดีจังเลย!
ผม… ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง!!
สภาพอารมณ์ของอัลมั่นคงขึ้น
เขาสูดหายใจเข้าช้า ๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา
“พี่เดมาเซีย ผมลุยแล้วนะครับ”
เดมาเซียพยักหน้ารับ
“ปลอดภัยนะเจ้าหนู ขอพรแห่งเทพธิดาจงสถิตอยู่กับเจ้า”
เขาวาดสัญลักษณ์ของพระมารดาแห่งธรรมชาติในระดับอก ด้วยท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา
และกล่าวย้ำ
“เอาแค่ปางตายพอนะ!”
อัลพุ่งเข้าไปประจันหน้ากิ้งก่ายักษ์ และเปิดฉากปะทะกับมันอย่างรวดเร็ว
แรงปะทะจากการต่อสู้ระหว่างระดับเงินมีความรุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ เสียงเปรี้ยงปร้างจากการกระหน่ำโจมตีของอัลทำให้บรรดาผู้เล่นที่ซุ่มดูอยู่ข้างสนามต่างรู้สึกตื่นตาตื่นใจครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังจากที่การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น สีหน้าของเดมาเซียยิ่งดูเคร่งขรึมขึ้นไปอีกขั้น
มุมปากของเดมาเซียค่อย ๆ โค้งขึ้น เขามองกิ้งก่ายักษ์จากระยะไกลด้วยสายตาเปล่งประกาย
“ระดับเงินขั้นต้น… ฮี่ฮี่ฮี่ เปอร์หลายพันแต้ม ฮี่ฮี่ฮี่ ”
หลี่มู่เดินเข้ามาข้างเดมาเซีย พลางชำเลืองมองเอลฟ์หนุ่มด้วยความหน่ายใจ
“นาย… คิดจะใช้แรงงานเด็กจนคุ้มทุกหยดเลยเรอะ”
เดมาเซียยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่มู่
“พี่มู่ อัลไม่เด็กแล้วนะ มันแก่กว่าปู่ทวดชั้นอีก!”
เขาทำตาล่อกแล่กพลางหัวเราะชอบใจ
“แถมชั้นไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย อัลได้ฝึก ชั้นได้เปอร์ มองยังไงก็วินวินเนอะสู!”
หลี่มู่กรอกตา
“คิดแต่จะใช้ประโยชน์จากพลังระดับเงินขั้นต้นของอัลล่ะสิ”
“หุหุ กำลังรบระดับเงินเชียวนะ มีแต่พวกงั่งที่จะไม่คว้าไว้!”
เดมาเซียหัวเราะร่วน
“ถ้าอัลรู้ว่าจริง ๆ นายคิดอะไร แต้มสนิทที่มีอยู่น้อยนิดของนาย ได้กลายเป็นติดลบหมดแน่…
หลี่มู่ส่ายศีรษะ
“สบายใจได้พี่มู่ พวกเราใช้เวลาในห้องขังด้วยกันมาตั้งเยอะ แถมชั้นเล่านิทานให้อัลฟังตั้งแยะ!”
เดมาเซียกล่าวพลางทุบอกของตนด้วยความภาคภูมิใจ
สีหน้าของเขาพลันดูลึกลับขึ้นมาเล็กน้อย เขากระเถิบเข้ามาใกล้หลี่มู่และกระซิบบางสิ่ง
“อยากรู้ไรปะ? นิทานเรื่องโปรดของอัลคือสโนไวท์และคนแคระทั้งเจ็ด อืม… ถึงมันจะเป็นฉบับโศกาน้ำตาร่วงที่ชั้นดัดแปลงเองก็เหอะ”
หลี่มู่ “ …”
เมื่อเห็นว่าหลี่มู่ไม่ออกความเห็นในเรื่องที่ตนเล่า เดมาเซียได้แต่กระแอมถี่ ๆ ติดกันพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“จะว่าไป ช่วงนี้เหมือนมอนในป่ามันจะชุกชุมขึ้นมาซะงั้น …พวกมันเผ่นไปหมดแล้วไม่ใช่เรอะ?”
การล่าของบรรดาผู้เล่น ทำให้สัตว์อสูรระดับต้นที่อาศัยอยู่ในบริเวณใจกลางป่าเอลฟ์ พากันอพยพย้ายถิ่นเพื่อรักษาชีวิตน้อย ๆ ของพวกมัน
ทว่าภายหลังจากการฟื้นฟูของต้นไม้โลก พวกผู้เล่นต้องแปลกใจเมื่อพบว่าสัตว์อสูรเหล่านั้นหวนกลับมาสู่ป่าอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่นั้น… แม้แต่สัตว์อสูรที่มีระดับสูงขึ้นมาเล็กน้อย ก็เริ่มย้ายถิ่นที่อยู่เข้ามาสู่ใจกลางป่าเช่นกัน
หลี่มู่กวาดสายตาไปยังป่ารอบตัวที่ดูอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาหลายระดับ ก่อนจะกล่าวอย่างไม่มั่นใจ
“คงเพราะการฟื้นฟูระดับพลังเวทมนตร์ล่ะมั้ง ในฐานะดรูอิด ชั้นสัมผัสได้ว่าพลังเวทในป่ามันอยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ ยิ่งหลังการฟื้นฟูของต้นไม้โลกก็ยิ่งรู้สึกว่าพลังเวทในป่ามันสูงขึ้นไปอีกระดับ โดยเฉพาะในบริเวณใจกลาง”
“พวกสัตว์อสูรน่าจะอพยพมาด้วยสาเหตุนี้ อย่าว่าแต่พวกมันเลย ขนาดชั้นเอง ช่วงนี้ยังรู้สึกว่าการโคจรพลังมันได้ผลดีกว่าปกติมาก”
ดินแดนซากัสคือโลกแห่งเวทมนตร์ บริเวณใดมีพลังเวทในระดับสูง ย่อมเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าเอลฟ์ในขณะนี้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีพลังเวทธรรมชาติในระดับสูงที่สุดในเขตแดนซากัส จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าสัตว์อสูรจะถูกดึงดูดให้อพยพเข้ามา
หลังจากที่ได้ฟังสมมติฐานของหลี่มู่ เดมาเซียก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากของตน
“ฮี่ฮี่ฮี่ ใกล้ถึงเวลาเปิบเมนูป่าอีกรอบแล้ว”
หลี่มู่: “…”
…
การต่อสู้ของอัลกับกิ้งก่าไพรยักษ์ จบลงในเวลาอันรวดเร็ว
อัลเดินกลับมาหากลุ่มผู้เล่น เขาเช็ดคราบเลือดบนดาบสั้น ก่อนจะผงกหัวให้กับเดมาเซียเล็กน้อย
“พี่เดมาเซียครับ เรียบร้อยแล้วครับ”
“ร… เร็ว!?”
เดมาเซียชะงักเล็กน้อย สายตาของเขาจ้องไปที่คู่ต่อสู้ของอัล
ร่างของกิ้งก่ายักษ์ในตอนนี้นอนพะงาบอยู่กับพื้นดิน ในสภาพปางตาย
ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ เกล็ดหนาหลุดร่วงกระจัดกระจาย สภาพดูน่าสังเวช มีเพียงขาของมันที่ยังคงกระตุกอย่างต่อเนื่อง…
เดมาเซีย: “…”
ช… โชตะแสนดีพันธุ์ดุ
“อะแฮ่ม… เยี่ยมมาก ทำได้ดีมาก!”
เดมาเซียหันไปขยิบตาให้สัญญาณกับกลุ่มผู้เล่น พวกเขาพร้อมใจกันชูอาวุธ วิ่งปรี่เข้าใส่กิ้งก่ายักษ์ที่นอนกองอยู่บนพื้นอย่างกระตือรือร้น…
เกาะ NPC ไว้ รับรองไม่อดตาย!
ภาพของเหล่าผู้ถูกเลือกที่พุ่งเข้าใส่สัตว์อสูรอย่างตื่นเต้น คือภาพที่อัลคุ้นชินเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่เหล่าผู้เล่นจัดการกับร่างของกิ้งก่าไพรยักษ์ และบวงสรวงเทพธิดาด้วยเกล็ด กระดูก และวัสดุอื่น ๆ ในบริเวณที่ได้สังหารกิ้งก่า พวกเขาก็พากันกลับไปสู่เมืองเริ่มต้น
ทันทีที่เข้ามาในเขตเมือง พวกเขาก็พบกับนกกาเหว่าที่รีบจ้ำเข้ามาพูดคุยกับหลี่มู่
“คุณอลิซกำลังตามหาอัลค่ะ!”
เธอดูตื่นเต้นจนแทบจะไม่สามารถรักษาภาพลักษณ์จริงจังและสันโดษของตนได้
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลี่มู่ถามอย่างฉงน
“เหมือนว่า… จะมีเอลฟ์กำลังเดินทางกลับมาค่ะ!”
…
…
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: ฮาวทูเทรนอัล
…
อ่านแปลไทยได้ที่ https://www.nekopost.net/novel/12413/ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project:
https://book.qidian.com/info/1016509432