[นิยายแปล] Game of the World Tree - ตอนที่ 29 หอม ๆ แบบนี้พี่คงต้องยอม
หลังจากที่ตั้งรับการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเหล่าก็อบลินในช่วงต้น ทุกคนพากันคุ้นชินกับจังหวะและลักษณะในการจู่โจมของพวกมัน
พวกเขาหันมาตั้งรับพร้อมกับรักษากำลังกายของตนเองไว้ ในขณะที่การประสานงานระหว่างผู้เล่นค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าสมาชิกปาร์ตี้ทั้งห้าจะพลาดพลั้งจนได้รับบาดเจ็บบ้างในบางจังหวะ ทว่าพวกเขาสลับกันรับหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวหน้าถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามความเหมาะสม
กลุ่มก็อบลินค่อย ๆ อ่อนแรงลง อีกทั้งพวกมันยังมีเลเวลแค่ 8 ซึ่งเรียกได้ว่าเสียเปรียบอย่างเต็มเปา พวกมันยิ่งสู้ยิ่งเหนื่อยแม้จะมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่าผู้เล่นก็ตาม
“มันเริ่มช้าลงแล้ว!”
“มันกำลังเหนื่อย โอกาสทองมาแล้ว! เดมาเซียลุย!”
“ยืนหยัด! พายุดาบ!”
เดมาเซียคำรามลั่น ทักษะแรกคือบัฟยืนหยัดที่มอบพลังโจมตีและค่าป้องกันให้เขา ต่อด้วยการโถมกำลังใส่ทักษะอันทรงพลังอย่างพายุดาบ นับเป็นโชคร้ายของเหล่าผู้เล่นที่พายุดาบสร้างกระแสลมหมุนพัดเอาชายกระโปรงของเดมาเซียขึ้น … ยังพอมีความโชคดีที่ลำแสงศีลธรรมศักดิ์สิทธิ์ช่วยปิดบังเฉพาะจุดได้ทันอย่างน่าอัศจรรย์
เกิดเสียงโลหะกระทบกันสามครั้งหนัก ๆ จากอาวุธของก็อบลินที่ถูกเดมาเซียฟาดจนกระเด็นหลุดมือ
“ไป!”
นกกาเหว่าและข้าวกล่องพุ่งตัวออกไปในวินาทีที่บังเกิดเสียงสัญญาณ พวกเขาใช้ทักษะของตนออกมาพร้อมกัน อาวุธของทั้งคู่พุ่งทะลุหัวใจก็อบลินสองตนอย่างแม่นยำ
ก็อบลินตัวสุดท้ายเห็นสถานการณ์พลิกผัน มันหันหลังเตรียมโกยแน่บ ทว่าเถาวัลย์ของหลี่มู่พลันพุ่งเข้ามาช่วงชิงโอกาสสุดท้ายสู่อิสรภาพของมันไว้ ก่อนจะถูกตอกตะปูฝาโลงด้วยไฟร์บอลของลูกเมี้ยวเค็มที่เผาร่างของมันจนเหลือแต่เถ้าถ่าน
ร่างของก็อบลินทั้งสามค่อย ๆ ปลิดปลิวเป็นผงธุลีภายใต้ทักษะพลียุทธ เหลือไว้เพียงอุปกรณ์สวมใส่ของพวกมันในสภาพเปรอะเปื้อน
ผู้เล่นทั้งห้าได้รับข้อความจากระบบ แจ้งถึงค่าประสบการณ์จำนวนมากที่ได้รับจากการสังหารก็อบลิน นอกจากนี้ยังปรากฏจำนวนก็อบลินที่สังหารไปในแถบแจ้งเตือนพิเศษ
[จำนวนก็อบลินที่ท่านสังหาร: 3]
เมื่อก็อบลินตายลง อีฟสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างลอยข้ามห้วงมิติมืดมาสู่ตน พลังขุมแรกที่ค่อนข้างอ่อนแอคือพลังชีวิตของก็อบลินทั้งสามตน ในขณะที่พลังอันเข้มข้นอีกกลุ่มคือความอาฆาตของวิญญาณเอลฟ์ พลังงานทั้งสองกลุ่มถูกแปลงเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ 0.03 หน่วย
ผู้เล่นสายกายภาพทั้งสามทิ้งตัวลงนั่งพลางหอบหายใจถี่ ๆ ในระหว่างที่หลี่มู่เร่งรักษาพวกเขา
“ในที่สุดก็เอามันลงซะที”
“ไม่เคยคิดเลยว่าก็อบลินสามตัวจะยากขนาดนี้”
“พี่ข้าวกล่องอย่างเก่ง! ถ้าไม่ได้พี่ช่วยไว้ก็คงได้ดับไปทีนึงล่ะ”
เดมาเซียทรุดลงบนพื้นในขณะที่พ่นลมหายใจเสียงดังสนั่น
ข้าวกล่องยังคงนิ่งเงียบ เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับและเริ่มการรวบรวมอาวุธที่ถูกทิ้งไว้โดยเหล่าก็อบลิน
นกกาเหว่าพลันตาลุกวาวเมื่อเห็นอาวุธเหล่านั้น
“ดาบโค้งพวกนั้นอย่างคมอ่ะค่ะ คมกว่ามีดของพวกเราเยอะเลย”
“ฮ่าฮ่า ของดรอปชุดแรกล่ะ!”
“อ่า … ไม่มีคริสตัลพระโลหิตเลย เศร้าแปป”
เหล่าผู้เล่นพากันสนทนาอย่างออกรส
เบอร์เซิร์กเกอร์รู้สึกหม่นหมองเมื่อเห็นเหล่าผู้ถูกเลือกพูดคุยกันอย่างมีความสุข
“พวกเขาทุ่มเทขนาดนั้นเพียงเพื่อสังหารก็อบลินสามตัว มันน่าภูมิใจตรงไหน?”
“อย่าห่วงไป จงดูต่อเถิด”
อีฟยิ้มพลางตอบคำถามของเบอร์เซิร์กเกอร์ ผู้ซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากเฝ้ามองต่อไป
เหล่าสมาชิกจับกลุ่มกันประชุมกันหลังจากหลี่มู่รักษาบาดแผลของทุกคนจนกลับสู่สภาพสมบูรณ์
หลี่มู่ถอนหายใจด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด
“ไม่คิดเลยว่าก็อบลินสามตัวจะทำให้พวกเราลำบากได้ขนาดนี้ คงต้องฝึกฝนกันอีกนาน ประสานงานก็ต้องดีกว่านี้”
นกกาเหว่าพยักหน้าครั้งหนึ่ง
“เห็นด้วยค่ะ”
การต่อสู้ในเกมนี้สมจริงยิ่งนัก ประสบการณ์ในการสู้สัตว์อสูรที่ไร้สติปัญญานับเป็นคนละเรื่องกับการเผชิญหน้าก็อบลินที่มีความคิดในระดับต่ำ
“แต่ว่าการทดลองของเราพิสูจน์แนวคิดของเดมาเซียได้เป็นอย่างดี มันใช้ได้จริง ถึงมันจะเสี่ยงไปหน่อย แต่พวกก็อบลินก็ช้าเกินกว่าจะตามเอลฟ์ให้ทัน …”
“การไม่เข้าไปในฟลอเรนซ์คงจะเป็นทางเลือกที่ดี นี่แค่ก็อบลินกาก ๆ สามตัวนะ คิดไม่ออกเลยว่าก็อบลินเก่ง ๆ ในนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหน”
“พวกมันไม่อึดเท่าไร ถ้าทนการอัดโจมตีแบบบ้า ๆ ของพวกมันในช่วงต้นได้ ก็คงจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ไม่ยาก”
“สายตาของพวกมันแย่เอาเรื่องเลยค่ะ ถ้าใช้ทักษะที่มีความเร็วสูงเข้าสู้ เชื่อได้ว่าผลลัทธ์จะออกมาดีเยี่ยม”
“เห็นด้วย เราคิดว่าผู้เล่นคนอื่นก็รับมือพวกมันได้เช่นกัน แต่ควรจะเตือนทุกคนว่างานนี้ควรเลเวล 10 ทั้งปาร์ตี้ ไม่งั้นก็ให้จัดสองตี้มาช่วยกันยำแทน”
“ผู้เล่นสายเวทจะยิงสกิลสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ด้วย เดี๋ยวจะเป็นการระเบิดเพื่อนร่วมทีมเปล่า ๆ”
“นอกจากนี้ ทุกคนต้องดำเนินการอย่างเงียบกริบ ห้ามเอะอะ ไม่งั้นจะลากพวกมันมาทั้งฝูง แล้วก็จะโดนยำ ดับอนาถยกกลุ่ม”
“ลุยด้วยทางนี้ต่อน่าจะดีที่สุด ส่งคนนึงไปล่อก็อบลินซักตัวมาจากเมือง ทีนี้ถ้าเราใส่เดี่ยวก็คงแพ้ งั้นพวกเราก็จัดลำดับทีมที่จะสู้ แล้วเวียนกันเข้าไปยำก็อบลินตัวนั้น”
“ถ้าสู้เป็นหมู่ ยังไงก็ชนะก็อบลินที่มาเดี่ยว ๆ และเมื่อไรที่แข็งแกร่งขึ้นก็ค่อยเปลี่ยนแผนไปเน้นเกมบุก”
“แหล่ม”
“เห็นด้วยค่ะ”
“…”
เบอร์เซิร์กเกอร์รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจกับการวิเคราะห์นี้ หลังจากที่ได้ยินผู้ถูกเลือกทั้งห้าสนทนากันมาตลอด
“องค์พระมารดา เหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ไร้วินัยและไร้ความสามัคคี แม้จะขาดความสูงศักดิ์เยี่ยงเอลฟ์ ทว่าพวกเขากลับฉลาดเฉลี่ยวและมีเล่ห์เหลี่ยมราวกับมนุษย์ … คงมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะคิดแผนล่อก็อบลินออกมารุมสังหารเช่นนี้”
อีฟได้แต่ลอบส่ายหน้าเมื่อได้ยินเบอร์เซิร์กเกอร์อุทานดังกล่าว
ก็พวกเค้าเป็นคนในร่างเอลฟ์อ่าค่ะ …
สมาชิกหน่วยจู่โจมพิเศษทั้งห้ารวบรวมไอเดีย สร้างกลยุทธ์ และส่งต่อองค์ความรู้ให้กับผู้เล่นที่เหลือผ่านระบบไลฟ์สตรีม
ผู้เล่นจำนวนหลายโหลที่เฝ้ารออยู่ที่ค่าย ค่อย ๆ พากันเทเลพอร์ทผ่านวงเวทเคลื่อนย้ายมาในบริเวณป่าใกล้โบราณสถานแห่งเมืองฟลอเรนซ์
“ถึงเวลารวมหมู่!”
“พร้อมมาแต่เกิดแล้วล่ะน้อง! ตอนดูผ่านไลฟ์สตรีมนี่สุดจะตื่นเต้นเลย!”
“เดมาเซียอย่างเน่าอ่ะ ถ้าไม่ได้พี่ข้าวกล่องช่วยไว้นะ ได้โดนก็อบลินอัดจนหมอบแล้ว!”
เห็นเหล่าผู้เล่นแสดงอาการลิงโลดดังว่า เหล่าทีมหัวหอกทั้งห้าจึงจำเป็นต้องย้ำเตือนอีกครั้ง
“ระวังหน่อย ก็อบลินพวกนี้ไม่อ่อนแอเลยนะ แถมถ้าพลาดทีเดียวก็อาจทำให้แผนของพวกเราทั้งหมดพังเอาดื้อ ๆ”
ทว่าผู้เล่นส่วนใหญ่กลับมองโลกแง่ดี
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สบายใจได้ พวกเราสู้เป็นหมู่ ห้ารุมหนึ่งไม่มีพลาด แถมมีเกิดใหม่ไม่ลดเวลตั้ง 3 ทีแหนะ”
“การต่อสู้เกมนี้สมจริงเวอร์! ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้มั้ยถ้าฝึกจนเก่ง …”
“แล้วใครจะล่อมอนน่ะ? เดมาเซีย สนไปวิ่งอีกรอบมะ?”
เดมาเซีย: “…”
สีหน้าของเขาพลันหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เดมาเซียรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“เอ็งไปเองเหอะ ครั้งเดียวก็เกินพอสำหรับตูล่ะ”
ชายอกสามศอกอย่างตู ใส่กระโปรงครั้งเดียวก็อัปยศเกินพอแล้วเว้ย!
“ถ้านายยอมล่อมอนให้ตี้เรานะ จะหารของดรอปให้เลยอ่ะ”
“เอาด้วย ๆ ตี้เราก็หารของให้”
เดมาเซียเงียบลงอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหันไปทางลูกเมี้ยวเค็มเพื่อถามเสียงอ่อย ๆ …
“ยังเหลือมานาป่ะซิส? สกิลแปลงกายช่ายมะ? จัดมาข้าพร้อมมมม …”
…
…
…
…
เชิงอรรถท้ายตอน 30:
ชื่อตอนที่ 30 คือ 真香 (กลิ่นดี/กลิ่นหอม) เป็นคําสแลงที่หมายถึงสถานการณ์ประเภทที่คนผู้หนึ่งไม่ยินดีทำบางสิ่ง แล้วจู่ ๆ ก็ตัดสินใจทำเสียอย่างนั้น เช่นในกรณีนี้คือยินยอมเพราะผลประโยชน์
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _
T/N: เดมาเซียเริ่มติดใจอ่ะจิ … ฟาร์มแบบ 1,000 เมตร วิ่งไปวิ่งกลับ /ตบบ่าปุ ๆ
…
ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ
Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432
_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _