นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 77 งานเลี้ยง ตอนที่ 2
การแต่งกายอย่างเป็นทางการนับเป็นสิ่งสำคัญในโอกาสเช่นนี้ การผสมผสานกันระหว่างสีแดงและสีดำดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้นัดหมายกันในหมู่อาเครอนทั้งหมด สองสีนี้เป็นตัวแทนของกำมะถันและลาวาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตระกูล แน่นอนว่าอาเครอนเกือบทุกคนชื่นชอบเปลวไฟที่ลุกโชนและกลิ่นเหม็นของกำมะถัน เพราะนั่นเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และความสมบูรณ์ของสายเลือดของพวกเขา รวมถึงการเริ่มต้นของอบิลิตี้ทางสายเลือดด้วย
มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ไม่ได้ดูกระตือรือร้นไปกับงานครั้งนี้ นั่นก็คือริชาร์ดและหญิงสาวร่างบางที่อยู่ตรงมุมห้อง
ในมุมมองของริชาร์ด สายตามากมายที่จับจ้องอยู่ที่เขานั้นทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะมองมาอย่างชัดเจนหรือไม่ มันก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอยู่ดี อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจก็คือห้องเต้นรำที่เป็นเหมือนภูเขาไฟที่แรงกล้า อย่างไรก็ตามสายเลือดเอลฟ์ของเขากลับถูกกระตุ้นขึ้นมาก่อน
‘แต่คนเหล่านี้หลงใหลในภูเขาไฟมากขนาดนั้นเลยจริง ๆ หรือ ?’ ดูเหมือนจะมีแค่เวนนิงตัน เวนิก้า และเดมี่เท่านั้นที่สายเลือดถูกปลุกขึ้นมา อุณหภูมิที่ร้อนแรงนั้นเริ่มรู้สึกได้ชัดเจนขึ้น หลาย ๆ ตอนนี้หลายคนในห้องเริ่มแสดงท่าทางไม่สบายตัวเท่าไหร่แล้ว เหงื่อผุดขึ้นทั่วใบหน้าและไหลลงมาตามลำคอ และสีหน้าที่ดูตึงเครียดก็เริ่มที่จะฉายขึ้นใบบนหน้าของพวกเขาเหล่านั้น
คนที่มีสายเลือดอาเครอนที่แท้จริงจะไม่รู้สึกอะไรเลยในห้องเต้นรำที่มีอุณหภูมิ 40 องศา ตัวอย่างเช่นริชาร์ดผู้ซึ่งปลุกสายเลือดด้วยเออรัพชั่นแล้ว ถึงแม้เขาและกาตอนจะยืนอยู่ใกล้กับปากปล่องภูเขาไฟในสุสานบรรพบุรุษ พวกเขาก็แทบจะไม่ได้รับผลกระทบกระเทือนอะไรจากความร้อนนั้นเลย
อย่างไรก็ตาม ตัวเขาไม่ได้หลงใหลกับความร้อนขนาดนั้น ตรงที่เขายืนอยู่นี่มันเกือบจะ 70 องศาเข้าไปแล้ว ! หากเป็นคนอื่น ๆ บางคนในห้องก็คงทนไม่ไหว พวกเขาแค่แสร้งทำเหมือนกับว่าพวกเขามีสายเลือดบริสุทธิ์อยู่ในตัวเท่านั้น นั่นเป็นเรื่องปกติของตระกูลที่มีประวัติมายาวนาน หลายคนจึงพยายามแกล้งทำเป็นว่าตนมีสายเลือดที่แท้จริงเพื่อเอาอกเอาใจผู้นำตระกูล
กาตอนรุ่งเรืองขึ้นราวกับดาวหางที่พบเห็นได้ยาก และในตอนนี้ก็ส่องแสงสว่างที่สุดอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน หากว่าตราสัญลักษณ์คือภูเขาไฟ คนพวกนี้จึงย่อมเลือกแสดงท่าทีเหมือนกับยอมตายได้เพื่อมัน แล้วอะไรจะเป็นตัวแทนของภูเขาไฟได้ดีเท่าอุณหภูมิที่สูงและกลิ่นของกำมะถันกันล่ะ ?
แท้จริงแล้วก็มีคำตอบของคำถามนี้อยู่ — ลาวา แต่ก็แน่นอนล่ะ คนอ่อนหัดพวกนี้ไม่มีทางโยนตัวเองลงไปในลาวาจริง ๆ หรอก ริชาร์ดรู้สึกเย้ยหยันขึ้นมาเล็ก ๆ เมื่อกวาดสายตาไปทั่วห้อง
สายตาของเขาหยุดลงตรงที่หญิงสาวคนนั้นนั่งอยู่อีกครั้ง เขามองนางอยู่นานกว่าจะละสายตาจากนางไปได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของเขาเลย เพราะนางอยู่ในชุดยาวสีขาวท่ามกลางสีดำและแดง แม้ว่านางจะไม่ได้ใส่เครื่องประดับตกแต่งอะไรมากนัก แต่นางก็ดูสะดุดตาจริง ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับนางฉายขึ้นมาในความคิดของเขา: โกโก้ แมรี่ อาเครอน อายุ 16 ปี ส่วนสูง 167 เซนติเมตร เป็นอิลลูชั่นนิสท์*ระดับ 2 และเป็นลูกสาวของปิแอร์ อาเครอน ผู้มียศเป็นทหารม้าและวอริเออร์ระดับ 10 ที่มี[รูนสเตร็งค์]และ[รูนดีเฟนส์ขั้นพื้นฐาน] 2 รูน เขาเป็นรองกัปตันคนปัจจุบันของผู้คุมปราสาทแบล็คโรส
*อิลลูชั่นนิสท์ = ผู้ใช้ภาพมายา
ริชาร์ดขมวดคิ้วให้กับข้อมูลพวกนี้ โกโก้มีสถานะต่ำที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด นางมาอยู่ที่นี่ได้เพียงเพราะพ่อของนางมียศเป็นทหารม้าเท่านั้น ซึ่้งนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ผิดธรรมชาติเพราะเขาอยู่แค่ระดับ 10 เท่านั้น เหตุผลเดียวที่เขาได้ยศนั้นมาก็น่าจะเป็นเพราะการรับใช้แบล็คโรสมาเป็นเวลายาวนานมากกว่า ยศตำแหน่งนี้ไม่สามารถสืบทอดกันได้ ความสำเร็จที่เล็กน้อยนี้ของเขาชี้ชัดว่าปิแอร์จะต้องกล้าหาญไม่มากพอที่จะต่อสู้ในสนามรบ เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงจะได้เป็นไนท์ติดยศที่มีศักยภาพในการเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 13 เป็นอย่างต่ำไปแล้ว
จุดประสงค์ที่แท้จริงที่ปิแอร์ส่งโกโก้มาที่เฟาสต์ก็ชัดเจน เขาคงต้องการให้ลูกสาวได้แต่งงานกับคนที่มีสถานะและพลังอำนาจ และหากโชคเข้าข้างก็คงได้ให้กำเนิดทายาทอาเครอนที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ริชาร์ดรู้ตั้งแต่แวบแรกเลยว่าอิลลูชั่นนิสท์ระดับ 2 ที่มีอายุ 16 ปีเช่นนี้ย่อมหมายถึงว่านางไม่มีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์เลย และจากรูปร่างของนางก็เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะที่จะต่อสู้ในระยะประชิดเช่นกัน สิ่งเดียวที่นางมีก็คือสายเลือดอาเครอน ทว่าเขาก็รู้สึกว่ามันไม่เข้มข้นเท่าไหร่นัก พ่อของนางไม่สามารถปลุกอบิลิตี้ทางสายเลือดของนางออกมาได้ และดูเหมือนว่านางน่าจะได้รับกายภาพที่อ่อนแอมาจากแม่ของนางด้วย
เป็นเวลา 1 ปีแล้วนับตั้งแต่โกโก้มาอยู่ที่เฟาสต์ และเนื่องด้วยสถานะที่ไม่ได้สูงส่งของนาง นางจึงทำได้เพียงแต่งงานตามที่ได้รับแต่งตั้งเท่านั้นโดยไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านใด ๆ หากนางปฏิเสธที่จะทำตามประเพณีโบราณข้อแรก นางก็จะถูกเนรเทศออกจากตระกูลอาเครอนทันที ดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตาม
ทว่าถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าอาเครอนทุกคนจะถูกกำหนดให้แต่งงาน เมื่อตัดสินใจเลือกคู่แล้ว ทางครอบครัวจำนวนหนึ่งจะต้องให้การสนับสนุนเสียก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาเองและให้กำเนิดทายาทที่ดีได้ โกโก้เป็นเด็กสาวสวย ด้วยรูปร่างนุ่มนวลและกลิ่นอายของความอ่อนโยนของนางสามารถดึงดูดใจหลาย ๆ คนได้ แต่เพราะความอ่อนแอที่มีนั้นจึงทำให้นางยังไม่มีคู่ครองแม้จะใช้เวลาอยู่ในเฟาสต์มานานนับปีแล้วก็ตาม
สายเลือดของอาเครอนเป็นที่รู้ทั่วกันในเรื่องของความดุร้ายและความรุนแรง หลายร้อยปีของประเพณีการแต่งงานทำให้เห็นได้ชัดว่าต้องใช้พ่อและแม่ที่มีพลังอำนาจมากจึงจะสามารถให้กำเนิดเด็กที่มีโอกาสที่จะปลุกสายเลือดออกมาได้ และยังเป็นที่ค้นพบอีกว่าวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะให้กำเนิดทายาทสายเลือดบริสุทธิ์ก็คือการที่ครอบครัวสายตรงจะต้องแต่งงานกันเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีชื่อจริง
แน่นอนว่าโกโก้ไม่ได้อยู่ในประเภทนั้น นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมนางถึงยังไม่ถูกเลือกจากอาเครอนผู้ทะเยอะทะยานคนไหนเลย เหล่าผู้นำน่าจะพิจารณาเรื่องนี้แล้วด้วยเช่นกันจึงไม่ได้ตัดสินใจมอบนางให้กับใครสักคนด้วยตัวเอง
ริชาร์ดมองผู้คนในห้องเต้นรำนี้อีกครั้งและเพ่งความสนใจไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทุกคนที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้มานานแล้ว
วอร์เรน: อายุ 14 ปี เป็นอาเชอร์ (นักธนู) ระดับ 5
เวนนิงตัน: อายุ 14 ปี เป็นเบลซการ์เดี้ยน (ผู้พิทักษ์เพลิง) ระดับ 8
เวนิก้า: อายุ 14 ปี เป็นเบลซวอริเออร์ (นักรบเพลิง) ระดับ 7
เดมี่: อายุ 15 ปี เป็นเคิร์สมาสเตอร์ (ผู้ใช้มนต์ดำ) ระดับ 10
นอกจากวอร์เรนที่ดูจะอ่อนแอที่สุดในกลุ่มแล้ว ริชาร์ดก็ลงความเห็นว่าคนอื่น ๆ ที่เหลือนั้นไม่มีใครด้อยไปกว่าเขาเลย เวนนิงตันและเวนิก้าเริ่มแสดงสัญญาณว่าสายเลือดของพวกเขากำลังจะตื่นขึ้นมา การโจมตีของพวกเขานั้นเพิ่มความเสียหายของธาตุไฟลงไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือพรสวรรค์ของเดมี่ในด้านเวทมนตร์ก็น่าอัศจรรย์ใจมาก เขาคงจะเทียบเท่าระดับของนางได้เลยหากเขาเน้นความสนใจไปที่เวทมนตร์แทนการสร้างรูน ทว่าบทบาทและพลังของเมจนั้นแตกต่างกับของเคิร์สมาสเตอร์
แต่แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นดาวเด่นในห้องนี้ เขาเป็นศิษย์ส่วนตัวของมาสเตอร์ชารอนแห่งดีพบลู เป็นเมจระดับ 8 และยังเป็นรูนมาสเตอร์ด้วย อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอกของเขายังดูสะดุดตาเพราะเขามีสายเลือดเอลฟ์ที่ทำให้เขาดูแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ
นอกเหนือจากนี้ กาตอนยังได้ประเมินสายเลือดของเขาด้วยตัวเองว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับสายเลือดของเขา นั่นฟังดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจนรู้สึกว่าไร้เหตุผล ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้วว่ากาตอนปลุกชื่อจริงของตัวเขาเองได้มานานแล้ว นั่นหมายความว่านอกจากริชาร์ดจะเป็นรูนมาสเตอร์ เขายังมีโอกาสปลุกชื่อจริงอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ช่วยอธิบายได้ถึงสายตาราวกับเหยี่ยวที่เวนิก้าและเดมี่จ้องมองมาที่เขา ทั้งสองมีรูปร่างสูงโปร่ง ลักษณะหน้าตาเอนเอียงไปทางยีนของพวกนาง รวมไปถึงความเร่าร้อนและความยั่วยวนนั่นด้วย พวกนางสวมชุดราตรีคอลึกที่แทบจะเปิดเผยเนื้อหนังเหมือน ๆ กัน ซึ่งชุดนั่นใช้การตัดเย็บที่เรียบง่ายที่สุดโดยไม่มีส่วนใดเกินความจำเป็นมาคอยปกปิดส่วนเว้าโค้งที่สวยงามให้น่ารำคาญใจ ไม่เพียงแต่ชุดจะเผยให้เห็นทรวงอกที่สวยงามเท่านั้น รอยผ่าสูงของชุดยังแสดงให้เห็นถึงเรียวขาที่น่าเย้ายวนใจอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเวนิก้า แม้ว่านางจะอายุน้อยกว่าเดมี่ 1 ปี แต่การเป็นไฟเตอร์นั้นมีส่วนช่วยให้หน้าอกมีเสน่ห์ของนางอวบอิ่มจนแทบจะหลุดออกจากชุดเดรสนั้นอยู่แล้ว