นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 71 คาถาเลเจนดารี่ ตอนที่ 2
“มันคือซัมมอนเรดดราก้อน ถ้าจะให้ถูกต้องคือเมื่อชารอนร่ายคาถานี้ออกมามันจะถูกยกระดับให้กลายเป็นคาถาเกรทเทอร์ดราก้อนซัมมอน” กาตอนตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เมื่อย้อนกลับไปในวันนั้น ตอนที่อาจารย์ของเจ้าเข้าสู่ระดับเลเจนดารี่ มันมีบางอย่างเกิดขึ้น… อืม… ข้าจะพูดถึงความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างนางกับอาเครอนให้เจ้าฟังก็แล้วกัน ในตอนนั้นข้ายังหนุ่ม ข้าเลือดร้อนแล้วก็บ้าการแข่งขันอย่างมาก ข้าพาเพื่อนของข้า 6 คนที่มีพลังพอ ๆ กับข้าและอยู่ในตระกูลเดียวกันไปต่อสู้กับนาง ตอนนั้นพวกเรายังไม่ได้มีชื่อเสียงหรือมีตำนานอะไรทั้งนั้น แต่พละกำลังของพวกเราที่รวมเข้าด้วยกันก็ถือว่าไม่เลวเลย ดู ๆ แล้วมันเหมือนกับมีความเป็นไปได้ว่าพลังของพวกเราเพียงพอที่จะต่อสู้กับเลเจนดารี่เมจได้
ในตอนนั้นชารอนเองก็เพิ่งจะเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นเลเจนดารี่ใหม่ ๆ นางจึงสามารถใช้คาถาเลเจนดารี่ได้เพียงแค่คาถาเดียวเท่านั้น ซึ่งนางก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งไปกว่าแกรนด์เมจขั้นสูงสุดมากนัก พวกเรารู้ดีว่าอาจจะมีคนในกลุ่มของพวกเราที่ต้องตายเพราะคาถานั้นของนาง แต่เจ้าก็รู้ อาเครอนกลัวตายซะที่ไหนกัน ?”
กาตอนเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับกำลังนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา ความเย่อหยิ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ในความเป็นจริงแล้วการที่เด็กหนุ่มอาเครอน 7 คนกล้ามากพอที่จะไปท้าทายเลเจนดารี่เมจชารอนก็เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีความกล้าหาญเพียงใด แต่แน่นอนว่าความกล้าหาญและความประมาทเป็นเหมือนกับฝาแฝดที่แยกกันไม่ออกซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ที่ร่วมต่อสู้กับเขา
และมันก็เป็นไปอย่างที่คาดคิดไว้ กาตอนแสดงอาการขมขื่นขึ้นภายใต้ความภาคภูมิใจของเขาก่อนที่เขาจะพูดต่อไป “คาถาแรกที่อาจารย์ของเจ้าได้เรียนคือซัมมอนเรดดราก้อน (อัญเชิญมังกรแดง)… วันนั้น ตอนเริ่มต้นการต่อสู้ พวกเราเริ่มต่อสู้ในรูปแบบที่คลาสสิค แกรนด์เมจของพวกเราใช้คาถาไทม์สต๊อป (หยุดเวลา) ใส่ชารอนไว้ แต่นางก็ไวกกว่า นางใช้จุดเด่นของนางซึ่งก็คือการร่ายคาถาที่รวดเร็วและมันก็หยุดการเคลื่อนไหวของพวกเราทุกคนไว้ได้ นางผูกพวกเราทุกคนเอาไว้ด้วยกันแล้วนางก็ใช้ประตูมิติเพื่อพาตัวเองออกจากจุดเดิมไปไกลกว่า 100 เมตรก่อนที่นางจะร่ายคาถาเลเจนดารี่
ในตอนที่นางร่ายคาถาไปแล้วครึ่งหนึ่งพวกเราก็รู้ได้ทันทีว่าคาถานั้นคือซัมมอนเรดดราก้อน ซึ่งตอนนั้นพวกเราก็มีความหวังว่าจะได้รับชัยชนะ ! เพราะเราคิดกันว่ามังกรแดงไม่ได้มีความแข็งแกร่งขนาดนั้น มันยังมีโอกาสที่เราจะสามารถยับยั้งมังกรได้ด้วยคน 2 คน ส่วนคนที่เหลือก็รับหน้าที่พุ่งโจมตีไปยังเลเจนดารี่เมจได้ แต่ว่า…”
อารมณ์ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่าบาดแผลที่เขาได้รับในอดีตนั้นสร้างความเจ็บปวดไว้ไม่น้อย “หลังจากที่นางร่ายคาถาจบแล้ว พวกเรากลับต้องเผชิญหน้ากับ มังกรถึง 3 ตัว ไม่ใช่ 1 ตัวอย่างที่เราคิดกันไว้ ! และมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่เป็นสีแดง ส่วน 2 ตัวที่เหลือเป็นสีดำ หลังจากนั้น… หลังจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มังกร 3 ตัวนั้นพุ่งตัวเข้ามาจนทำให้พวกเรากระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางในขณะที่อาจารย์ที่น่ารักของเจ้ากลับเริ่มกินผลไม้และมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ด้านหลัง”
ริชาร์ดอ้าปากค้างก่อนที่จะถามออกมาด้วยความตกใจ “3 ตัว !?”
“ใช่ ! ข้าเองก็เพิ่งรู้ในตอนหลัง อบิลิตี้ทางสายเลือดของชารอนเป็นสิ่งที่หายากมากเพราะมันสามารถเพิ่มพลังในการเรียกใช้คาถาอัญเชิญได้ มันสามารถเปลี่ยนจากซัมมอนเรดดราก้อนดั้งเดิมให้กลายเป็นเกรทเทอร์ดราก้อนซัมมอนได้ คาถาที่นางร่ายออกมานั้นจึงมีความแข็งแกร่งและจำนวนมังกรก็มีเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ มังกร 2 ตัวหรือ 3 ตัวอาจไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ 3 ตัวกับ 1 ตัวนั้นต่างกันแน่นอน” กาตอนถอนหายใจออกมาก่อนที่เขาจะส่ายหน้าและยิ้มให้กับริชาร์ด “ถ้าชารอนร่ายคาถาเกรทเทอร์ดราก้อนซัมมอนในตอนนี้มันจะต้องออกมามากกว่า 3 ตัวอย่างแน่นอน เจ้าเองก็รู้ใช่หรือไม่ ? หากใครที่ต้องการจะต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับชารอนในตอนนี้ คนเหล่านั้นก็คงจะจบไม่สวย”
มังกรแดงที่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ไม่ได้ต่างอะไรกับพาลาดินระดับ 18–20 ในแง่ของพลังการต่อสู้ที่กล้าหาญ แม้ว่ามังกรแดงจะมีพลังที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนพวกมันในด้านการต่อสู้ แต่มังกรแดงตัวเดียวก็ไม่ได้เป็นปัจจัยในการตัดสินการต่อสู้ระดับเลเจนดารี่
ทว่าหากมีมังกรถึง 3 ตัวก็ย่อมสามารถเป็นปัจจัยในการตัดสินของเลเจนดารี่เมจได้ ความแข็งแกร่งของมังกรดำที่โตเต็มวัยจะอยู่ในระดับ 20 ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเลเจนดารี่และพวกมันก็มีความแข็งแกร่งกว่ามังกรแดงอย่างมาก จากพละกำลังของมัน เพียงแค่มีมังกรดำตัวเดียวก็อาจจะสามารถพลิกผลลัพธ์ในการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
สิ่งที่กาตอนต้องการจะสื่อในตอนนี้ก็คืออาจารย์ของริชาร์ดค่อนข้างแย่ในเรื่องของการต่อสู้ตัวต่อตัว แต่นางก็สามารถพึ่งพาพรสวรรค์ของตัวเองให้ช่วยในการต่อสู้ได้
ทว่าก็เห็นได้ชัดว่าริชาร์ดในตอนนี้ยังคงยืนอยู่ข้างชารอนอยู่ดี เขาขับไล่ความคิดเหล่านั้นออกไปก่อนที่จะเอ่ยถามถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น “แล้วยังไงต่อ ? มีคนของท่านกี่คนที่ต้องตายเพราะการต่อสู้ในครั้งนั้น ? ”
กาตอนหัวเราะ “ไม่มี ความขัดแย้งของพวกเราเป็นเรื่องเล็ก อีกอย่าง อาจารย์ของเจ้าก็ไม่ได้ชื่นชอบที่จะฆ่าคนเท่าไหร่นัก นางชอบทำธุรกิจเสียมากกว่า นางเลือกที่จะปล่อยพวกข้าไปโดยมอบเงินให้กับพวกข้าแต่ละคนจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นเงินทุนในการซื้อเพลนเป็นของตัวเอง แต่ข้อแม้ก็คือพวกเราจะต้องมอบรายได้ครึ่งหนึ่งที่ได้จากเพลนเหล่านั้นให้กับนาง ในบรรดาของพวกข้าข้าเป็นคนที่ได้รับเงินมากที่สุด แต่ถึงยังไงการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเพลนมันก็เต็มไปด้วยอันตราย ซึ่งนั่นทำให้อาเครอนทั้ง 7 ในตอนนั้นเหลือผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น”
เมื่อกาตอนพูดด้วยเสียงที่เบาลงก็ทำให้ริชาร์ดรับรู้ถึงความเศร้าที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ความแข่งแกร่งของชายหนุ่มทั้ง 7 คนที่กล้าหาญต่อสู้กับเลเจนดารี่เมจ แต่กลับต้องแลกด้วยชีวิตถึง 4 ชีวิตกับการต่อสู้เพื่อครอบครองเพลนในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
กาตอนมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนที่เขาจะทำท่าทีเคร่งขรึมอีกครั้ง “เอาล่ะ สายแล้ว หยุดสนใจเรื่องที่ผ่านไปแล้วเถอะ ริชาร์ด ถึงเวลาที่เจ้าจะกลายเป็นสมาชิกภายในตระกูลอาเครอนอย่างเต็มตัวแล้ว ข้าในฐานะผู้นำตระกูลไม่ใช่ในฐานะบิดาของเจ้าจะยังคงให้ทรัพยากรและสนับสนุนเจ้าต่อไปเรื่อย ๆ ยังไงก็ตาม เมื่อเจ้าเข้ามาสู่ตระกูลของข้าแล้ว เจ้าจะต้องปฏิบัติตามประเพณีโบราณทั้ง 3 ของอาเครอนด้วย อีกทั้งก่อนที่จะเจ้าจะตอบแทนบุญคุณแก่ตระกูล เจ้าจำเป็นที่จะต้องจงรักภักดีต่อมันก่อน”
“ก่อนที่ข้าจะตอบแทนบุญคุณแก่ตระกูล ?” ริชาร์ดทวนคำถามออกมา
“ในภายภาคหน้า เมื่อเจ้าได้ตอบแทนตระกูลจนเกินจำนวนเงินที่ข้าเคยลงทุนให้กับเจ้าแล้ว ถึงเวลานั้นเจ้าจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่เจ้าต้องการโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ทุกคนในอาเครอนต่างจำเป็นต้องเจอกับเส้นทางเช่นนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก่อนที่เจ้าจะวางมือจากหน้าที่ทุกอย่าง เจ้าจำเป็นต้องทำตามกฎประเพณีอันเก่าแก่ของตระกูลก่อน นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติ” กาตอนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ประเพณีอันเก่าแก่รึ ?” ริชาร์ดยังคงทวนคำออกมาเบา ๆ
ท่าทางของกาตอนเคร่งขรึมมากขึ้น เขายืดตัวตรงก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้อแรก อาเครอนทุกคนจะต้องรักษาความบริสุทธิ์และสืบสายเลือดต่อไปอย่างรุ่นสู่รุ่น ข้อที่ 2 เราจะไม่ต่อสู้กับสมาชิกในตระกูลของตัวเอง ข้อที่ 3 อาเครอนที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้รับหน้าที่ให้ดูแลสุสานของตระกูล”
คำพูด 2 ข้อสุดท้ายของกาตอนเป็นเรื่องง่ายจะเข้าใจ ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ริชาร์ดนิ่งเงียบไป อย่างไรก็ตาม กาตอนรู้ดีว่าริชาร์ดรู้เกี่ยวกับประเพณีและความลับของอาเครอนเพียงน้อยนิดเท่านั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่ลูกชายของเขานิ่งเงียบ
สายเลือดอาเครอนเป็นสายเลือดที่เก่าแก่ ลึกลับ และทรงพลัง แต่มันก็ไม่เสถียร ในตระกูลนี้มีอบิลิตี้ที่ปรากฏขึ้นมาซึ่งมีความแตกต่างกันถึง 22 อบิลิตี้ และสายเลือดที่บริสุทธิ์จะยิ่งทำให้อบิลิตี้ทรงพลังมากขึ้นซึ่งก่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้
ดังนั้น อาเครอนจึงมีกฎที่ตั้งขึ้นมานานกว่าศตวรรษ กฎเหล่านั้นเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวต้องทำ มันคือการรักษาความบริสุทธิ์ของตระกูลและถ่ายทอดมันต่อไป และการที่จะสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือดไว้ได้คือการที่คนภายในตระกูลแต่งงานด้วยกันเอง สมาชิกภายในตระกูลอาเครอนที่ได้รับการสนับสนุนเกี่ยวกับด้านทรัพยากรจำเป็นที่จะต้องแต่งงานกับคนในตระกูลอาเครอนด้วยกันเองและจะต้องมีบุตรด้วย ในหลายกรณีที่คนเหล่านั้นถูกจับคู่ให้โดยผู้นำครอบครัวหรือสมาชิกที่ทรงพลังคนอื่น ๆ ซึ่งก็เรียกได้ว่าคนเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ครองได้ด้วยตัวเองเลย มีหลายกรณีของการแต่งงานที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นประวัติศาสตร์ของอาเครอน รวมถึงการแต่งงานกันระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดด้วย
หลังจากที่ริชาร์ดได้ยินเรื่องนี้ เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมในวันที่เขาไปเจอกับพี่สาวน้องสาวร่วมสายเลือด พวกนางจึงแสดงท่าทีที่แปลกประหลาดออกมาเมื่อเห็นเขา
“ฮ่า ๆ อย่างเพิ่งทำเป็นเครียดไป มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เจ้าคิดหรอก” กาตอนหัวเราะออกมา “ข้าอยากบอกเจ้าว่า ในฐานะที่เจ้าเป็นรูนมาสเตอร์เพียงคนเดียวในรุ่นของเจ้า เจ้าจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ! อีกอย่าง คนที่ได้รับการลงทุนมากที่สุดเช่นเจ้าสามารถเลือกหญิงสาวตามความพอใจของเจ้าเองได้ 2-3 คนโดยที่คนเหล่านั้นยังไม่มีคู่ครองได้อย่างสบาย และแน่นอนว่าทุกอย่างจะสามารถดำเนินไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าเจ้าจะมีบุตรเป็นของตัวเอง อีกไม่นานเจ้าจะรู้เองว่าเจ้าจะได้รับอะไรจากตระกูลของเจ้าบ้าง”
ริชาร์ดถอนหายใจยาว “ข้า… ข้าคิดว่าข้าจะพึ่งพาตัวข้าเอง”
กาตอนมองไปยังบุตรชาย สายตาของเขาในตอนนี้เหมือนกับกำลังต้องการจ้องมองเข้าไปให้ลึกภายในจิตใจของบุตรชายของเขาจนทำให้ริชาร์ดตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ
“เจ้าหนู อย่าตัดสินใจอะไรให้มันรวดเร็วเกินไป เพราะในอนาคตเจ้าจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของเจ้าในครั้งนี้ ข้าคิดว่าแม่ของเจ้าคงจะเป็นคนที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเจ้า” เสียงของกาตอนในตอนนี้นั้นมีอานุภาพราวกับเวทมนตร์ เพราะมันสามารถทำให้ริชาร์ดนิ่งไปได้ชั่วครู่หนึ่ง ในเวลานั้นเองริชาร์ดรู้สึกเหมือนกับกาตอนล่วงรู้ความลับของเขาและมารดาที่เคยฝากฝังเรื่องบางอย่างกับเขาเอาไว้ แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้จะยังคงเป็นความลับอยู่ภายในซอกลึกของหัวใจเขา และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่บอกเรื่องนี้กับชายผู้นี้เป็นอันขาด
ขณะที่เขากำลังสับสน น้ำเสียงของกาตอนก็ดังเข้ามาในหูของเขาอีกครั้งหนึ่ง “เอาล่ะ เด็กน้อย ข้าจะพาเจ้าไปยังหลุมฝังศพของตระกูล นั่นเป็นพิธีที่อาเครอนทุกคนต้องพบเจอเมื่อพวกเขามีอายุมากขึ้น”
— หลุมฝังศพของตระกูล !? —
ริชาร์ดอึ้งไปครู่หนึ่งในขณะที่เสียงของมารดาเริ่มดังขึ้นในหูของเขาอีกครั้ง ‘เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่เจ้าเติบโตเป็นชายที่แท้จริง ฝังข้าไว้บนชั้นสูงสุดของสุสานของตระกูลพ่อของเจ้า !’