นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 32 บาดแผลที่งดงาม
ริชาร์ดเข้าสู่ห้วงแห่งความคิดของชารอน แต่ละขั้นตอนทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน แสงเหล่านั้นคล้ายกับว่ามันกำลังจะกระทบกับใบหน้าของเขา เขายกมือขึ้นเพื่อสัมผัสแสงสีฟ้าที่กำลังเต้นรำอยู่ตรงหน้า ทว่านิ้วมือของเขากลับผ่านทะลุสีที่สวยงามนั้นไปจนทำให้นิ้วของเขาสัมผัสเข้าที่ร่างของนาง การสัมผัสที่เกิดขึ้นมอบความรู้สึกราวกับถูกระเบิดด้วยพลังแห่งคาถาของเลเจนดารี่ซึ่งพร้อมกันนั้นร่างกายของเขากับนางก็เกิดการสั่นขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ
ความงามที่น่าทึ่งและความลึกลับของ[ดีพบลูอาเรีย]ที่ริชาร์ดได้สัมผัสอยู่ในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกด้วยคำพูดหรือการสัมผัสได้ เขาค้นพบว่าเลือดภายในร่างกายของเขากลับมาพลุ่งพล่านไปทั่วร่างอีกครั้ง ทว่าเขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ทรงพลังที่สุดเท่าที่เขาเคยพานพบมา มันเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ และมันยังกลืนจิตสำนึกที่ถูกแช่แข็งของเขาไปด้วย มือของเขาในตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างหยุดลงเลย ทว่ามันกลับสำรวจสิ่งตรงหน้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แม้เสียงในหัวจะเตือนเขาให้หยุดแต่มือของเขากลับสัมผัสไปตามต้นขาที่เปล่งปลั่งของเลเจนดารี่เมจอย่างรวดเร็ว
ในเวลานั้นเอง เขารู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งตื่นขึ้นราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ เสียงกึกก้องดังขึ้นขณะที่ชารอนก็เป็นเสมือนคบเพลิงที่เพิ่งถูกจุดไฟ เปลวเพลิงสีฟ้าพุ่งออกมารอบ ๆ ตัวนางขณะที่นางกัดฟันแน่น นางยกร่างของเขาขึ้นด้วยมือเดียวก่อนที่มานาที่ไร้ขอบเขตจะพลุ่งพล่านเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายของเขาเริ่มปล่อยธาตุแห่งพายุออกมาจนเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ฉีกออกกลายเป็นผุยผง !
ปัง !
จู่ ๆ เขาก็ถูกโยนลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นอย่างฉับพลัน แรงกระแทกที่เกิดขึ้นรุนแรงมาก ทันทีที่ร่างของเขากระเด็นลงกับพื้น พลังมานาทั้งหมดของชารอนก็แผ่ซ่านเข้ามาปกคลุมเซลล์ในร่างกายของเขาทว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างไรแรงกระทบที่เกิดขึ้นก็ทำให้แขนและขาของเขาเกิดอาการชาซึ่งนั่นทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวได้ชั่วขณะ
ทว่าดูเหมือนว่าพลังมานาของเลเจนดารี่เมจไม่สามารถที่จะหยุดสายเลือดที่บ้าคลั่งของเขาเอาไว้ได้ ขณะที่เขานอนแผ่อยู่ที่พื้น สัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของเขาก็ชันสูงขึ้นพร้อมทั้งชี้ไปยังชารอนอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ให้ตายสิ !” ชารอนเปล่งเสียงออกมา นางขยับร่างของตนเองขึ้นคร่อมร่างของริชาร์ดไว้พร้อมกดตัวของนางลง นางดึงแถบสีฟ้าที่อยู่รอบตัวของนางมาสร้างปีกขนาดมหึมาเพื่อครอบคลุมพื้นที่ภายในห้อง ปีกเปล่งแสงออกมาอย่างเปล่งปลั่งจนยากที่จะทำให้มันกระจายออกจากกันได้ในชั่วขณะ
ร่างกายของริชาร์ดยกขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อต้อนรับสิ่งที่เย้ายวนใจและน่าหลงไหลตรงหน้า ซึ่งในเวลาเดียวกันเสียงร้องราวกับสัตว์ร้ายก็ถูกเปล่งออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างในร่างกายของเขากำลังทะยานเข้าสู่พื้นที่ลึกลับที่เต็มไปด้วยความมืดที่เปียกชื้นและทรงพลัง แรงผลักดันอันทรงพลังแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นถล่มและสร้างความปั่นป่วนภายในสมองของเขาจนทำให้เขาต้องเปล่งเสียงคำรามออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาตอบโต้ชารอนโดยการโอบรัดต้นขาของนางไว้แน่นตามสัญชาตญาณ ดูเหมือนว่าสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของเขาจะเข้าไปลึกขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด คิ้วของชารอนก็ขมวดเข้าหากันก่อนที่นางจะคลายตัวออกและแสดงท่าทีให้เห็นถึงความรู้สึกผ่อนคลาย
คืนแห่งโชคชะตานั้นเป็นดั่งความฝันภายในดีพบลู เวลานี้เด็กชายได้กลายเป็นหนุ่มอย่างเต็มตัวแล้ว พระจันทร์ 7 ดวงเปล่งประกายด้วยสีที่หลากหลายถึง 7 สีอยู่บนฟากฟ้า ซึ่งสีที่แตกต่างนี้มีความหมายใกล้เคียงกับโชคชะตาของผู้คนมากมายที่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป
แน่นอนว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เช่นเดียวกันกับวันแห่งโชคชะตาที่ต้องผ่านพ้นไป
……
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดที่สาดส่องเข้ามายังร่างของริชาร์ดปลุกให้เขาตื่นจากการนอนหลับอย่างช้า ๆ เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาพบว่าตนเองยังคงนอนอยู่ข้างชารอนที่กำลังหลับใหลอยู่ แสงอาทิตย์ในยามเช้าทำให้ร่างกายอันไร้ที่ติของนางเปล่งประกายแวววาวสวยงามจนตรึงตาตรึงใจ ยอดปทุมถันสีแดงสวยบนหน้าอกของนางที่กำลังเคลื่อนไหวตามจังหวะการหายใจนั้นเรียกความสนใจให้กับเขาอยู่ไม่น้อย แสงสีฟ้าที่ครอบคลุมร่างของนางเมื่อคืนนี้ได้มลายหายไปแล้ว ทุกอย่างมันดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงภายในความฝันของเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามนี่คือเรื่องจริงและทุกอย่างก็ถือว่าเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าบัดนี้ร่างกายของเขาทั้งสองกลับอยู่ในตำแหน่งที่ผิดปกติ เพราะในเวลานี้กลับกลายเป็นร่างของเขาเองที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของชารอน แขนและขาของเขาในตอนนี้กำลังโอบรัดร่างของนางไว้ราวกับกลัวว่านางจะหนีไป หรือให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังต้องการความปลอดภัยและที่พึ่งพา อย่างไรก็ตาม การนอนหลับโดยการใช้แขนขวาโอบรอบตัวเขาไว้ดูเหมือนจะเป็นที่พอใจของชารอนอยู่ไม่น้อย
ในทุก ๆ เช้า เป็นเรื่องปกติที่ชายหนุ่มจะมีพละกำลังมากที่สุด เมื่อเขาย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่เพิ่งผ่านมาก็ทำให้เขาเริ่มควบคุมตนเองไม่ได้อีกครั้ง มือของเขาเริ่มขยับไปตามร่างของนางอย่างเบามือ แต่เมื่อเขาเริ่มสัมผัสร่างกาย เลเจนดารี่เมจก็รู้สึกตัว ชารอนยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจก่อนตบเข้าที่มือที่กำลังซุกซนอยู่บนร่างของนาง ถึงแม้ว่ามือของนางจะสามารถหยุดต้นตอที่ทำให้นางตื่นได้แล้ว ทว่าเปลือกตาของนางก็ยังคงปิดอยู่อย่างนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็รู้สึกถึงของแข็งบางอย่างที่กำลังกดเข้ามายังสะโพกของนาง ชารอนใช้มือจับ ‘สิ่งนั้น’ พร้อมทั้งบิดโดยสัญชาตญาณอย่างรวดเร็วจนทำให้ริชาร์ดเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
เลเจนดารี่เมจลืมตาขึ้นเพื่อให้ริชาร์ดรู้ว่าในเวลานี้นางได้ตื่นขึ้นมาแล้ว สายตาที่นางมองริชาร์ด เหมือนว่านางไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นเขานอนอยู่ข้างกายเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ลืมตาตื่นนางก็ยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะหาวหวอดใหญ่และเริ่มยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง
เมื่อเห็นชารอนหาว ริชาร์ดก็เผลออ้าปากหาวตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าในตอนนี้ชารอนจะเคลื่อนไหวตัวแล้ว ทว่ามือขวาของเขายังคงกุมเจ้าสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของเขาเอาไว้อยู่ ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดจนเลือดกำเดาแทบจะไหลออกมา รวมถึงความยั่วยวนของภาพตรงหน้าทำให้เขาเกิดอารมณ์จนแทบจะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
เลเจนดารี่เมจลุกขึ้นนั่ง นางมองไปยังริชาร์ดและถามด้วยน้ำเสียงปกติว่า “อยากต่ออีกเหรอ ?”
แม้ริชาร์ดจะรู้สึกขัดเขินแต่เขาก็พยักหน้ารับอย่างตรงไปตรงมา ในตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลในร่างกายของเขา และแม้ว่าอบิลิตี้วิสดอมจะบอกเขาว่าการพัฒนาใน 1 ปีของเขาเทียบเท่ากับ 3 เท่าสำหรับผู้อื่น แต่ทว่าเต็มที่เขายังคงถือว่าเทียบเท่ากับผู้ที่มีอายุ 17–18 ปีเท่านั้น การได้กลายมาเป็นชายหนุ่มเต็มตัวโดยหลับนอนกับชารอนผู้ที่ไม่เคยเป็นสองรองใครทำให้เขารู้สึกอยากจะปฏิบัติกิจเหล่านั้นให้มากกว่า 1 ครั้ง
“เจ้าอยากทำกี่ครั้งล่ะ ?” เลเจนดารี่เมจถาม นางหัวเราะออกมาด้วยลักษณะท่าทางที่แปลกตา หญิงสาวที่อ่อนโยนเมื่อคืนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นภาพลวงตาสำหรับเขาไปเสียแล้ว
ริชาร์ดเริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างจริงจัง เขาไม่เคยรู้เลยว่าร่างกายของเขาสามารถรองรับการกระทำเช่นนี้ได้มากน้อยเพียงใดทว่าเขากลับรู้สึกมั่นใจว่าไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ดูเหมือนว่ามันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขาอยู่ดี เขารู้สึกถึงพลังที่เต็มเปี่ยมราวกับว่ามันสามารถใช้งานติดต่อกันถึง 2 ครั้งได้โดยไม่ต้องหยุดพัก และดูเหมือนว่าจินตนาการภายในสมองของเขาจะทำให้เลือดของเขาสูบฉีดอย่างต่อเนื่องมากขึ้นอีกเช่นเคย
“3 ครั้ง” เขาตอบกลับไปอย่างลังเล “ไม่สิ…5 ครั้ง”
ทันทีที่ได้ยินริชาร์ดพูดมาเช่นนั้น ชารอนก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา มือขวาของนางเลื่อนลงไปจับ ‘ส่วนนั้น’ ของริชาร์ดก่อนที่นางจะลุกขึ้นยืน ทว่านางใช้มือซ้ายสะบัดเรียกชุดชั้นในและเสื้อคลุมมาเพื่อสวมใส่ “เช้าวันใหม่แล้ว เกรงว่าจะไม่ได้อีกแล้วล่ะ !”
ริชาร์ดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเมื่อได้ยินคำปฏิเสธจากชารอน เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบ ๆ พร้อมทั้งจ้องมองไปยังเสื้อผ้าที่ถูกแขวนอยู่ตรงมุมห้องนอน ทันทีที่จ้องมองเสื้อผ้าเหล่านั้น พรีซิชั่นของเขาก็บอกกับเขาว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นได้ถูกจัดไว้สำหรับเขา เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็รีบเดินไปหยิบและสวมใส่มันทันที
เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เขารู้สึกได้ว่าความอึดอัดและความหวาดหวั่นค่อย ๆ หายไป ชารอนไม่ได้เป็นหญิงสาวที่ทำให้เขาปั่นป่วนเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว ในทางกลับกันเลเจนดารี่เมจที่เขารู้จักได้กลับมาอีกครั้ง นางดูปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนทำให้เขาแทบจะปรับตัวไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พฤติกรรมตรงหน้าจากชารอนที่เขาได้เห็นทำให้เขารู้ว่าชารอนมีร่างที่แตกต่างกันถึง 2 ร่าง แต่มีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่จนทำให้เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งใดที่เขามองเป็นคือเรื่องจริงกันแน่
ชารอนมองไปที่ริชาร์ดก่อนจะเดินตรงไปยังหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสบานเดิมกับเมื่อคืน นางมองออกไปยังทิวทัศน์ข้างนอกซึ่งปรากฏภาพของพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นมาจากทางด้านหลังของภูเขาเอฟเวอร์วินเทอร์ที่ไกลออกไปแล้วกล่าวว่า “เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่ ?”
ริชาร์ดจัดการความคิดของตัวเองก่อนพูดออกมาอย่างใจเย็น “ท่านทำแบบนี้ทำไม ? แล้วอะไรคือสิ่งที่ท่านจะให้ข้าทำในอนาคต ?”
“ทำไม ? ” เลเจนดารี่เปล่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับยักไหล่ “มีอะไรต้องถามอีกล่ะ ? มันง่ายมากเลย ข้าก็แค่รู้สึกอารมณ์ไม่ค่อยดีจึงใช้ประโยชน์จากเจ้า ก็แค่นั้น ! เอิ่ม… ถ้าเจ้าอยากจะได้เหตุผลจริง ๆ ล่ะก็นะ งั้นก็เพราะข้าคิดว่าเจ้าดูเหมือนจะมีรสชาติที่นุ่มนวลและน่าเอร็ดอร่อยล่ะมั้ง !”
เมื่อเห็นสีหน้าของริชาร์ดที่ซีดลง ชารอนก็อดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้งด้วยความสบายใจ นางหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อไป “พูดตามตรงนะ กิจกรรมส่วนตัวที่ข้าชื่นชอบคือการทิ้งบาดแผลไว้ในสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของนัวแลนด์ในอนาคตได้ แต่ทุกคนมีความแตกต่างกันไป ข้าจึงต้องทำด้วยวิธีที่แตกต่างกัน สำหรับเจ้าน่ะหรือ ข้าคิดว่าสิ่งที่ข้าทำเมื่อคืนนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะข้าได้พรากความบริสุทธิ์ของเจ้า ! หลังจากนี้ไม่ว่าเจ้าจะหลับนอนกับหญิงคนใดเจ้าก็จะไม่สามารถลืมข้าได้ ! ฮ่า ๆ ๆ”
ท่าทางและน้ำเสียงของเลเจนดารี่เมจแสดงให้เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของนาง เขาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะทว่าเขาคิดถึงคำถามที่ 2 ขึ้นมาจึงถามกลับไปอีกครั้ง “ในอนาคตท่านต้องการให้ข้าทำอะไรให้ท่าน ?”
“อนาคต…” ชารอนเงียบไปครู่หนึ่ง นางถอนหายใจออกมาแล้วเหยียดแขนซ้ายมาดึงแขนเสื้อขึ้นเพื่อเผยให้เห็นแขนที่อ่อนโยน เส้นมานาสีฟ้าปรากฏขึ้นราวกับหิมะที่กำลังปกคลุมผิวหนังของนาง
“ดีพบลูอาเรียเป็นรูนระดับ 6 แต่ความรู้ของนัวแลนด์ในตอนนี้เป็นที่รู้กันดีว่าสามารถเพิ่มพลังของรูนได้ถึงระดับ 5 เท่านั้น หากเจ้าต้องการจะจัดการรูนระดับ 6 นี้ให้สำเร็จ เจ้าจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปยังเพลนที่ไร้ขอบเขตเพื่อตามหาความลับของมัน”
“ข้าจะออกสำรวจเพลนเหล่านั้นเอง” ริชาร์ดตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ข้าจะรอดู !” รูนสีฟ้าครามค่อย ๆ หายไปขณะที่ความสดใสค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้าของชารอน ในขณะเดียวกันริชาร์ดก็รู้ดีว่าเลเจนดารี่เมจที่ดุเดือดและไร้ความกลัวที่ทุกคนเห็นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของนาง แต่คนที่อยู่ในเพลิงสีฟ้าเมื่อคืนนี้ต่างหากที่เป็นตัวตนจริง ๆ ของนาง เมื่อเขาคิดเช่นนั้น เขาก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าชารอนอาจจะเป็นเหมือนกับเขาที่ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไว้ในส่วนลึกโดยไม่เปิดเผยออกมาให้ใครได้เห็น
ท้องฟ้าที่สดใสราวกับวันแห่งโชคชะตากำลังเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา ริชาร์ดเดินออกมาจากที่พักของชารอน และทันทีที่เสียงประตูปิดลง เขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดเดินและหันหลังกลับไปมอง คำถามเกิดขึ้นอีกครั้งในจิตใจของเขา… ‘เขาจะสามารถเปิดประตูเวทมนตร์บานนี้อีกครั้งได้เมื่อไหร่กัน ?’
คำพูดสุดท้ายของชารอนยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา ‘เจ้าห้ามบอกให้ใครรู้เรื่องเมื่อคืนเป็นอันขาด !’
แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำเรื่องเช่นนั้นแน่ ประสบการณ์ครั้งนี้… จะถูกซ่อนไว้ภายในส่วนลึกของหัวใจเขา และจะถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีราวกับสมบัติล้ำค่า รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นชา ชารอนได้ทิ้งเครื่องหมายไว้ภายในใจของเขาหลังจากที่พรากครั้งแรกของเขาไป ความเจ็บปวดที่นางทิ้งไว้ถูกจารึกลงไปในใจของเขาจนยากที่จะกำจัดมัน
— ดูเหมือนว่าบาดแผลในครั้งนี้จะเป็นบาดแผลอันงดงามที่ชารอนทิ้งไว้ให้ ! —