นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 156 การโจมตี ตอนที่ 2
นครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 156 การโจมตี ตอนที่ 2
ริชาร์ดกระโดดขึ้นบนอานม้าก่อนที่จะออกตัวไปยังวิหารที่อยู่ไกลออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงของกีบม้าที่กระทบกับพื้นดังก้องไปทั่วทุกที่ จนทําให้เสียงหัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
ชายคนหนึ่งมองผ่านผ้าม่านของบ้านที่อยู่ติดกับถนนโดยมีความรู้สึกปั่นปวนเกิดขึ้นรอบตัวเขา เขาอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงก่อนจะรีบยกมือขึ้นบิดปากตัวเองทันทีที่ตระหนักขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอทําเสียงเล็ดลอดออกไป เขารีบปิดหน้าต่างแน่นพร้อมทั้งนั่งคุกเข่าลงกับพื้นโดยความหวาดกลัว
พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นจากฝ่าเท้าของโอเกอร์ที่เดินตามหลังกองทัพมาเงาของพวกมันแผ่ปกคลุมไปทั่วอาคารต่างๆ ที่อยู่ข้างถนน ในขณะเดียวกันแร็พเตอร์ทั้ง 9 ตัวต่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งแสดงความคล่องแคล่วของมันด้วยการกระโจนผ่านหลังคาและตรอกซอกซอยที่มีดมิด
แร็พเตอร์แตกต่างจากสัตว์ตัวอื่นๆ ตรงที่พวกมันมีความความเฉลียวฉลาดอย่างมาก และความฉลาดของมันทําให้ ชาร์ดสามารถสั่งพวกมันตามที่เขาต้องการได้ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้พวกมันรวมกลุ่มกัน กระจายตัวออกอย่างอิสระ หยุดเดิน ออกสํารวจ หรือแม้แต่โจมตีศัตรูก็สามารถทําได้เช่นกัน
หลังจากที่เหลือเพียงครึ่งกิโลเมตรก่อนที่จะถึงวิหาร ริชาร์ดก็ขยับเท้าไปแตะที่ตัวของม้าอีกครั้ง เสียงของกีบม้ากระทบกับพื้นรุนแรงกว่าเดิมราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาก่อนที่พายุจะเข้ามาครอบคลุม คนหนุ่ม 2 คนเดินออกมาจากโรงเหล้าด้วยท่าทางที่มีนเมา พวกเขาใส่ชุดเครื่องแบบท
หารและดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นทหารตรวจลาดตระเวนในช่วงกลางคืน ชายทั้งสองต่างจ้องมองไปยังถนนตรงหน้าและกวาดตามองดูว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่และเมื่อมองเห็นม้าศึกที่กําลังพุ่งตัวเข้ามา ชายขี้เมาคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาพร้อมทําท่าทางตื่นตะลึง “พระเจ้า นั่นมันอะไรกันวะนั่น!?”
ชายอีกคนที่เงียบขรึมกว่าคนแรกมองไปด้านหน้าก่อนที่จะพบเห็นเงาที่น่ากลัวของโอเกอร์ในระยะไกล เขาตะโกนออกมาทันทีเช่นกัน “นั่นมันปีศาจที่มาจากเพลนอื่นนี่! เฮ้ยยย ! พวกมันเข้ามาได้ไง พวกมันต้องมุ่งหน้าเข้าเมืองแน่ๆ เร็วเข้า! พวกเราต้องรีบไปเตือนคนในเมือง! เร็ว–
ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบ ธนูคมกริบลูกหนึ่งที่ถูกยิงออกมาจากระยะไกลก็ปักเข้ากลางคอหอยของเขาจนทําให้เสียงของเขาขาดหายไป และในขณะที่ชายอีกคนกําลังรวบรวมสติเพื่อคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาก็ถูกไนท์ที่ไหนไม่รู้เข้ามาประชิดตัวราวกับลมที่กรรโชกเข้ามาเสียแล้ว ไนท์ใช้ขวานใหญ่ฟาดเข้าที่ศีรษะของชายผู้นั้นก่อนที่จะส่งให้ร่างของชายผู้นั้นกระเด็นลอยออกไปไกล
กองทัพยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะผ่านประตูโรงเหล้าไป การปรากฏตัวของโอเกอร์ทําให้คนที่อยู่ในโรงเหล้าต่างพากันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและไม่มีใคร คิดกล้าออกไปด้านนอกประตูแม้แต่คนเดียว พวกเขาปิดประตูโรงเหล้าด้วยความตื่นตระหนกพร้อมทั้งรีบไปปิดไฟที่ให้แสงสว่างจนทั้งโรงเหล้ามืดมิดอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้วิหารอยู่ในระดับที่พวกเขาสามารถมองเห็นได้แล้ว บนยอดบันไดที่นําไปสู่อาคารมีทหารที่สูงตระหง่าน ราวกับรูปปั้นยืนอยู่ 2 คน ทั้งคู่สวมใส่ชุดสีทองที่ประณีตทว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่สไคว์เท่านั้น หน้าที่ของพวกเขาคือการเป็นผู้คุ้มกันซึ่งทําให้พวกเขามีโอกาสได้ติดอาวุธอย่างสมบูรณ์เหมือนกับเป็นพาลาดินของวิหาร
ริชาร์ดเก็บดาบของเขาไว้ข้างกายก่อนที่จะก้าวขึ้นบันไดไปโดยไม่ลังเล ในเวลานี้ผู้คุ้มกันทั้งสองได้เห็นการปรากฏตัวของเขาแล้ว ชายคนหนึ่งยกดาบใหญ่ในมือของเขา ขึ้นขณะที่อีกคนเปล่งเสียงตะโกนออกมาเพื่อเป็นการเตือนว่าในเวลานี้มีผู้บุกรุก!
*ฟื้บ !* ลูกธนูอีก 2 ดอกพุ่งออกมาจากด้านหลังของ ชาร์ดก่อนที่จะปักร่างของผู้คุ้มกันอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นที่กําลังอ้าปากตะโกนเตือนล้มตัวลงในทันที ในขณะที่อีกคนสามารถปัดลูกธนูออกไปได้ด้วยดาบในมือของเขา โอล่าไม่ใช่อาเชอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธนูเท่าไหร่นัก ยามใดที่เขาปล่อยลูกธนูออกไปเร็วๆติดต่อกัน ความแม่นยําในการโจมตีของเขาก็จะลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม กองกําลังที่มาพร้อมกับริชาร์ดต่างพากันพุ่งตัวไปด้านหน้าเพื่อเข้าไปยังวิหารอย่างไม่เกรงกลัว พวกเขา อาศัยโมเมนตัมเพื่อใช้ดาบพุ่งเข้ากระแทกกับผู้คุ้มกันทําให้ อีกฝ่ายต้องกระเด็นถอยหลังไปอย่างทุกข์ทรมาน รอยแดงปรากฏขึ้นตรงอกทั้งสองด้านของเขาก่อนที่เลือดสีแดงสดจะพรั่งพรูออกมา เขาเซถอยไปชนเข้ากับประตูก่อนที่จะล้มลงสู่พื้นในที่สุด
ในเวลานี้ระฆังเตือนว่ามีผู้บุกรุกได้ดังขึ้นแล้ว ความดังของระฆังทําให้ผู้คนที่หลับไหลอยู่ในเมืองตื่นขึ้นจากการนอนหลับ แม้แต่ฟอร์ซ่าที่เพิ่งเอนตัวลงบนเตียง ก็ต้องลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนทันทีขณะที่หัวใจก็เต้นรัวแรง เขาวิ่งไปที่หน้าต่างก่อนกระชากม่านออกเพื่อดูสัญญาณเตือนที่ดังมาจากวิหาร
“นี่มัน… วิหารกําลังถูกผู้บุกรุกโจมตีงั้นรี 2” ฟอร์ซ่าแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
แม้ว่าทางเข้าวิหารจะมีความสูงและยิ่งใหญ่มาก แต่พวกมันกลับไม่สามารถต่อต้านการรุกรานของศัตรูได้อีกต่อไป โอเกอร์ทั้ง 2 ตนจัดการทะลายมันด้วยการใช้ลําตัวกระแทกเข้ากับกําแพงเพียงสองสามครั้ง ในขณะที่ริชาร์ดใช้โอกาสจากความโกลาหลนี้ร่ายคาถาออกมา ไฟร์บอล 2 ลูกลอยไปที่วิหารอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงความวุ่นวายและการแจ้งเตือนดังขึ้น ไม่มีผู้คุ้มกันคนใดที่สามารถป้องกันการโจมตีอันโกลาหลในเวลานี้ได้เลย
ระยะการมองเห็นของริชาร์ดถูกบดบังด้วยฝุ่นทว่านั่นก็ไม่เป็นปัญหาสําหรับเขา คาถาถูกร่ายออกมาอีกครั้งก่อนที่จะยิงออกไปในที่มืด จากความคิดของเขา หากมันไม่ถูกปิดกั้นหรือขัดขวาง ไฟร์บอลของเขาก็จะทิ้งลงตรงหน้า แท่นบูชาได้อย่างพอดิบพอดีและก็จะสามารถระงับอํานาจอันศักดิ์สิทธิ์ของวิหารแห่งนี้ได้ ถึงแม้ว่าในพื้นที่บางส่วน จะถูกปิดผนึก ทว่าไฟร์บอลก็สามารถที่จะแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน
“ทีรามิสุ ! มีเดียมแรร์ ! จงไปจัดการส่วนที่เหลือฝังนั้น” ริชาร์ดชี้ไปที่ด้านขวามือของวิหาร เมื่อได้รับคําสั่ง โอเกอร์ไนท์ทั้งสอง และโอล่าก็เคลื่อนตัวไปยังที่อยู่อาศัยของเหล่า
พาลาดินที่ไกลออกไป เหล่าแร็พเตอร์เองต่างก็พู่ งตัวไปข้างหน้าเช่นกันโดยทิ้งคราบสีดําไว้ตรงพื้น ที่พวกมันก้าวผ่านวอเตอร์ฟลาวเวอร์ใช้ช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้ ค่อยๆเคลื่อนตัวมาใกล้กําแพงก่อนจะย่องเข้าไปในวิหารอย่างลับๆ ในเวลาเดียวกันแกงดอร์ก็สะบัดขวานใหญ่ในมือของเขา
“อ่อนแอ ! อ่อนแอ !” เขาตะโกนใส่ผู้คุ้มกันที่มาพร้อมกับ โล่ขนาดใหญ่เพื่อป้องกันการโจมตีจากเขา ซึ่งดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่เขาคุ้นชินหลังจากที่ผ่านการต่อสู้มาก่อนหน้านี้ เสียงที่ดังก้องกังวานของแกงดอร์ทําให้เขาเป็นจุดสนใจในสนามรบได้เป็นอย่างดี
ริชาร์ดและโฟลว์แซนด์เข้ามาในโบสถ์ พวกเขาเห็นพาลาดินที่มีอาวุธครบทั้ง 6 คนพุ่งตัวออกมาจากเสาทั้ง 2 ด้านอย่างรวดเร็วจนดวงตาของริชาร์ดหรี่ลง “ทําไมถึงมีจํานวนมากเช่นนี้?”
นี่เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วและพาลาดินส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก็ควรจะกลับไปพักผ่อนกันหมดแล้ว ในความเป็นจริงวิหารแห่งนี้ควรจะหลงเหลือผู้คุ้มกันอยู่เพียง 3-4 คนด้ว ยซ้ําทว่าเขากลับเห็นการปรากฏตัวของพาลาดินถึง 6 คนซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ทันทีที่สายตาของเขาจับจ้องไปยังแท่นบูชาเขาก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะอะไร
แม้ว่าความเสียหายต่อตัวอาคารจะไม่ปรากฏให้ เห็นทั้งหมดจากภายนอก แต่ภาพตรงหน้าเขาก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทําลายล้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ การทําลายล้างนั้นมันมากกว่าที่เขาคาดคิดไว้ เพราะมันได้ทิ้งทะเลแห่งการทําลายไว้ด้านหน้าแท่นบูชา บริเวณแท่นบูชามีศพประมาณ 7-8 ศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่บริเวณนั้นและรูปปั้นของเนเอียนก็เอนไปด้านข้างในขณะที่ทั้งหมดนี้ถูกรายล้อมไปด้วยเพลิงเวทมนตร์
ดูเหมือนว่าการโจมตีของเขาในครั้งนี้จะขัดขวางพิธีลับบางอย่างของพวกเขา เพราะภายในนี้มีประตูอยู่ 2-3 บานที่ถูกไฟร์บอลของเขาทําให้พังลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี คงเป็นเพราะเหตุนี้จึงทําให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในวิหารไม่สามารถที่จะหนีออกไปด้านนอกได้เพราะพวกเขาถูกรายล้อมไปด้วยเพลิงไฟอย่างสมบูรณ์