ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2213 อย่าแพ้เขา
เมื่อได้รับจดหมายของมู่เฉียนซี จักรพรรดิเป่ยกงก็รู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก แต่ราชวงศ์เป่ยกงไม่สามารถขาดพระโอรสเป่ยกงจั๋วของเขาไปได้
ในตอนที่จักรพรรดิเป่ยกงยังทรงพระเยาว์ เขาก็เป็นคนที่ทรงอำนาจคนหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่เมื่ออายุมากขึ้นเขาก็เริ่มหมกมุ่นต่ออยู่กับความงดงาม และได้มอบราชกิจส่วนใหญ่ให้กับพระโอรสของตนเป็นคนคอยจัดการดูแลทั้งหมด
หากเป่ยกงจั๋วไม่อยู่ เขาคงต้องเผชิญกับวุ่นวายจากการแย่งชิงบัลลังก์ของพระโอรสทั้งสิบกว่าคนของเขาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังต้องจัดการกับราชกิจกองโตด้วยตนเองอีกด้วย เพียงแค่คิดเขาก็ปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนักแล้ว
ฉะนั้นพระโอรสของเขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด!
นอกจากนี้เขายังเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว และเรื่องนี้ก็เป็นเพราะในราชวงศ์ตงหวงมีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันคนหนึ่ง
ซึ่งพรสวรรค์ของนางนั้นน่าทึ่งมาก ซ้ำยังสามารถเอาชนะพระธิดาหัวแก้วหัวแหวนที่จักรพรรดิตงหวงยกยอเทิดทูนหนักหนาผู้นั้นได้อีกด้วย
เนื่องจากว่าพระธิดาของเขาถูกแย่งความสำคัญไป ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้อยากฆ่าคนอื่นสินะ!
แต่ทว่าเบื้องหลังของแม่นางผู้นั้นยังมีคนที่คอยสนับสนุนอยู่ด้วย และคนผู้นั้นก็คือหอหมอปีศาจที่กำลังผุดสาขาขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั่นเอง
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดโอรสของตนเองถึงได้มีความสนใจจนเข้าไปมีส่วนร่วม และผลลัพธ์ที่ได้หลังจากนั้น…ก็อยู่เหนือความคาดหมายเช่นนี้
พระธิดาหัวแก้วหัวแหวนของจักรพรรดิตงหวงได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังคงรักษาตัวอยู่ ส่วนองค์รัชทายาทที่แสนล้ำค่าของเขาในตอนนี้ก็กำลังกลายเป็นตัวประกันอยู่เช่นกัน
ราชวงศ์เป่ยกงของพวกเขาเป็นมิตรกับราชวงศ์ตงหวงเพียงผิวเผินเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ได้เป็นมิตรที่ดีต่อกันมากเท่าไรนัก และหากช่วยเป็นกำลังในการต่อต้านราชวงศ์ตงหวงได้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเช่นกัน
และนอกจากนี้เขายังไม่มีทางเลือกอื่นอีกด้วย!
ส่วนความโกรธเกรี้ยวของทางด้านราชวงศ์ตงหวง จักรพรรดิเป่ยกงก็ได้ให้คนตอบกลับจดหมายไปในทันทีเช่นกัน
และได้บอกไปว่าองค์รัชทายาทของเขาถูกจับไปเป็นตัวประกันแล้ว ซึ่งมันก็ร้ายแรงกว่าพระธิดาของจักรพรรดิตงหวงเสียอีก ฉะนั้นเขามีสิทธิ์อะไรที่จะมาซักถามกัน?
องค์รัชทายาทที่สง่างามของพวกเขาได้กลายเป็นตัวประกันอยู่ในอาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง ซึ่งเรื่องนี้ราชวงศ์ตงหวงควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ!
หลังจากที่จักรพรรดิตงหวงได้รับจดหมายตอบกลับฉบับนี้แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที หากองค์รัชทายาทของเจ้าไม่ลอบแทงพระธิดาของข้าแล้วละก็ พระธิดาของข้าจะไปมีสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
ช่างต่ำช้านัก!
“ส่วนคำตอบเรื่องเงื่อนไขของหอหมอปีศาจ ข้าจะเก็บไปคิดสักคืน! และได้ลองยาลูกกลอนที่หมอปีศาจให้มาพอดี ที่นี้ก็จะได้ดูว่าเขานั้นมีน้ำใจมากสักแค่ไหนกันเชียว?” จักรพรรดิเป่ยกงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
“เด็ก ๆ! ไปเรียกซวนจีเหม่ยเหริน นางสนมหยู แล้วก็…”
จักรพรรดิเป่ยกงได้เลือกสาวงามมาจำนวนนับไม่ถ้วน และหลังจากที่ใช้ยาของหมอปีศาจและก็ค้นพบว่า มันช่างน่ามหัศจรรย์มากจริง ๆ!
จักรพรรดิเป่ยกงมีความลับอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถบอกผู้ใดได้ ซึ่งก็คือเรื่องที่นกเขาของเขาไม่ขันแล้วนั่นเอง
และเป็นเพราะกู้ไป๋อีบีบบังคับเป่ยกงจั๋วถึงได้รู้เรื่องนี้มาเช่นกัน อย่างไรเสียสำหรับเขาแล้วเสด็จพ่อผู้นี้เป็นคนที่เขาเคยพบหน้าเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
ซึ่งหลังจากที่เขาบอกกับมู่เฉียนซี นางก็ได้ไปเตรียมยาลูกกลอนให้กับเขา และมันก็น่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่ายาที่เป่ยกงจั๋วกลั่นเองอีกด้วย
เดิมทีนั้นจักรพรรดิตงหวงยากที่จะต้องทนต่อความโกรธเช่นนี้ได้ แม้ว่าการสูญเสียผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณระดับสูงไปถึงสองคน จะทำให้เขาหดหู่ใจมากก็ตาม
เขาจึงได้เรียกตัวยอดฝีมือระดับแนวหน้าของราชวงศ์ตงหวงมาอีกครั้ง ถึงขนาดที่ต้องการจะเคลื่อนไหวผู้อาวุโสมาด้วย แต่กลับได้รับคำเตือนจากกองกำลังใหญ่เสียก่อน
และกองกำลังใหญ่นั้นก็คือสมาคมการค้าเฉินซี ซึ่งในแดนซวนเทียนนี้ สมาคมการค้าเฉินซีขึ้นชื่อเรื่องความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก แม้ว่าเบื้องหน้าของพวกเขาจะมียอดฝีมือเพียงไม่กี่คนก็ตาม แต่ก็ควรค่าที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้เช่นกัน
นายน้อยของสมาคมการค้าเฉินซีกับมู่เฉินซีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเขาก็รู้สึกโกรธเคืองกับเรื่องที่พวกเขาทำไปทั้งหมดเหล่านี้
ในเมื่อตอนนี้ราชวงศ์ตงหวงได้พ่ายแพ้ไปแล้วครั้งหนึ่ง หากพวกเขายังลงมืออีกเป็นครั้งที่สอง สมาคมการค้าเฉินซีของพวกเขาจะไม่มีทางนั่งงอมืองอเท้าอีกต่อไปแน่นอน
แม้ว่ายอดฝีมือระดับแนวหน้าจะไม่อาจซื้อได้ด้วยเงิน แต่หากสมาคมการค้าเฉินซีมีใจที่จะช่วยเหลือหอหมอปีศาจแล้วละก็ พวกเขาก็คงมีหนทางที่จะใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง และนั่นก็จะต้องทำให้มียอดฝีมือยอมมาช่วยเหลือหลายคนอย่างแน่นอน
“บัดซบเอ้ย! มีกองกำลังที่ไม่กลัวตายยื่นมือเข้ามายุ่งอีกแล้ว คิดอยากจะก่อกบฏหรือย่างไรกัน?”
ในส่วนของเรื่องนี้ ถึงจักรพรรดิตงหวงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่การลงมือโจมตีหอหมอปีศาจในระลอกต่อไปก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาดูอีกที
ผลปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นองค์จักรพรรดิเป่ยกงที่อารมณ์ดีมากก็ได้ประกาศออกไปว่า ให้จักรพรรดิตงหวงเลิกรังแกแม่สาวน้อยผู้นั้นได้แล้ว เพราะพระโอรสของเขาก็ยังอยู่ในมือของนาง!
และนอกจากนี้เขายังชื่นชมพรสวรรค์ของแม่สาวน้อยผู้นั้นมากอีกด้วย
หากมีเรื่องเกิดขึ้นกับพระโอรสของเขา เกรงว่าเขาอาจจะลากราชวงศ์ตงหวงไปฝังพร้อมกันกับเขาด้วยความโกรธก็เป็นได้
“ตาแก่นี่ทำบ้าอะไรกัน เขาต้องการที่จะทำอะไรกันแน่? หากต้องการที่จะช่วยลูกชายตนเองแล้ว เหตุใดไม่ส่งคนไปช่วยที่หอหมอปีศาจเลยล่ะ? รีบร้อนตอบรับข้อตกลงเช่นนี้ของหอหมอปีศาจได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าตั้งใจที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับราชวงศ์ตงหวงของข้า! ข้าว่าเป่ยกงจั๋วก็อาจจะไม่ได้กลายเป็นตัวประกันจริง ๆ หรอก” จักรพรรดิตงหวงคำรามร้องด้วยความเกรี้ยวกราด
“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าถึงจะต่อสู้กับมู่เฉินซีไปจนตายก็ใช่ที่ เพราะอย่างไรเสียพวกเราก็ไม่อาจตรวจสอบเบื้องหลังที่ชัดเจนของนางได้อยู่แล้ว นอกจากนี้คนที่อยู่ข้างกายนางนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่แปลกประหลาดทั้งนั้น! ทั้งยังล้ำลึกเกินจะหยั่งถึงอีกด้วย ข้าคิดว่าการที่จะต่อสู้กับคนเช่นนี้ได้ จำเป็นที่จะต้องมีคนที่แปลกประหลาดเหมือนกัน เพียวเท่านั้นกก็จะมีผลที่น่าทึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ฝ่าบาท แทนที่จะเสียแรงไปต่อสู้กับมู่เฉินซีผู้นั้น ไม่สู้พวกเราทำให้ฝ่าบาทหลินหลางพัฒนาพรสวรรค์ให้ได้โดยเร็วที่สุดไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ ต้องบอกว่าพรสวรรค์ของมู่เฉินซีผู้นั้นสูงมาก แต่คิดดูแล้วนางก็ไม่ได้มีความสามารถในการพัฒนาพรสวรรค์มากเท่าไรนัก แต่พวกเรามีความสามารถนั้น พวกเราคือกองกำลังระดับห้า และหากพวกเราทุ่มสุดตัวจะต้องทำให้พรสวรรค์ของฝ่าบาทหลินหลางเปลี่ยนไปได้มากอย่างแน่นอน ”
“……”
ในขณะที่จักรพรรดิตงหวงกำลังทุกข์ใจอยู่นั้น ก็ได้มีคนมากมายก้าวออกมาให้คำแนะนำกับจักรพรรดิตงหวง
จักรพรรดิตงหวงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ใต้เท้าทุกท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ข้าเองก็โกรธมากจนขาดสติ ตอนนี้พวกเราไม่สามารถสู้กับราชวงศ์เป่ยกงและสมาคมการค้าเฉินซีได้ ปล่อยให้พวกเขาได้ใจล่วงหน้าไปก่อนสักสองสามวัน เพราะสุดท้ายแล้ว นกก็ไม่อาจกลายเป็นหงส์ได้อยู่ดี และนางจะต้องตายอย่างน่าอนาถแน่นอน”
หลังจากที่หอหมอปีศาจได้ประสบภัยพิบัติมาแล้วรอบหนึ่ง พวกเขาก็ยังคงเปิดกิจการได้ตามปกติ
และดูเหมือนว่าทางราชวงศ์ตงหวงจะสงบลงแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้ยอมแพ้ที่จะไม่จัดการหอหมอปีศาจแน่นอน เพียงแต่ต้องการจะเตรียมการให้รอบคอบก่อนค่อยลงมือต่างหาก!
จักรพรรดิเป่ยกงนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมันก็เป็นไปตามที่มู่เฉียนซีได้คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว
เพียงแต่การช่วยเหลือของสมาคมการค้าเฉินซี เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของนางมาก
“นี่มันไม่ปกติอย่างนั้นหรือ? ซวนอู่ช่วยเรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่ตอนนี้ยังไม่ยอมมาคิดบัญชีเลย!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
จูเชว่กล่าวตอบว่า “มันเป็นเพียงแค่การใช้ชื่อของซวนอู่เท่านั้นแหละ เพราะนี่คือความคิดของพ่อบุญธรรมที่อยากจะช่วยเหลือซีซีต่างหาก ฉะนั้นซวนอู่ย่อมไม่กล้าที่จะแอบอ้างแล้วมารับความดีความชอบหรอก เว้นแต่ว่าเขาเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วน่ะนะ”
“ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง!”
“อื้ม! พ่อบุญธรรมชื่นชมในพรสวรรค์ของเจ้ามาก นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าชื่อของเจ้านั้นไพเราะมากด้วย และหลังจากที่ร่างกายของเขาดีขึ้นมานิดหน่อย เมื่อได้รู้ข่าวของเจ้าก็เตรียมตัวช่วยเหลือเจ้าในทันทีเลยล่ะ!” จูเชว่กล่าวตอบ
“เช่นนั้น ไม่ใช่ว่าข้ามีโอกาสที่จะได้เจอแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ซีซี กฏนั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้! เพียงแต่ทางด้านของซวนอู่นั้นง่ายขึ้นมากทีเดียว ก็แค่ทุ่มเงินให้เขาจนทำให้เขาเวียนหัวและต้องยอมจำนน หากเขายอมพยักหน้า อย่างไรเสียเขาจะไม่มีวันส่ายหน้าอย่างแน่นอน เช่นนั้นคนที่ช่วยไม่ดีพอหรือ? เช่นนั้นไม่ใช่ว่าช่วยคนครบแล้วหรือ?” จูเชว่กล่าวเสนอ
“อื้ม! ข้าก็เคยเห็นซวนอู่ลงมือแล้วเช่นกัน และอีกสองท่านนั้นยังไม่เคยเห็นเลย ส่วนชิงหลง ข้ารู้สึกว่าอย่าได้กอดความหวังเอาไว้จะเป็นการดีที่สุดน่ะ”
กู้ไป๋อีที่ถูกจับเป็นตัวประกันแล้วยังไม่ถูกปล่อยตัว ดังนั้นจึงได้ตรวจสอบร่างกายของตนเองอย่างเต็มรูปแบบ
จะบอกว่าในตอนที่เป่ยกงจั๋วใช้ร่างกายของตนเองนั้น ก็รู้สึกโชคยังดีที่ไม่ใช่ในทางที่ผิดอะไร
“ซีเอ๋อร์ ข้าจะต้องไปแล้วจริง ๆ! หากข้าไม่ไปตอนนี้ แม้ว่าเป่ยกงจั๋วจะยังไม่ตื่นขึ้นมา แต่ข้าน่าจะสร้างปัญหาให้กับซีเอ๋อร์อย่างแน่นอน” กู้ไป๋อีกล่าวพลางมองไปที่มู่เฉียนซี
“ข้ารู้ดีว่าข้าไม่สามารถคุมขังเจ้าเอาไว้ได้ และในตอนนี้ตัวเจ้าก็เป็นอิสระเช่นกัน เจ้าอยากจะอยู่หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่เจ้าต้องตัดสินใจเอง” มู่เฉียนซีเข้าใจในความคิดไป๋อีเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่อาจบีบบังคับให้เขาต้องอยู่ต่อไปได้
.