ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2098 บุกโจมตีหลินเยว่
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อยากรู้ว่าข้าเป็นผู้ใดอย่างนั้นหรือ? ได้สิ! เช่นนั้นเจ้าก็บอกคำถามของข้ามาก่อน”
“คำถามอะไร?” ชิงหลงกล่าวถาม
“คนที่อยู่เกื้องหลังของเจ้าผู้นั้นคือใคร?”
“ข้าไม่สามารถที่จะกอกเจ้าได้” ชิงหลงกล่าวปฏิเสธอย่างบรงไปบรงมา
“เช่นนั้นเจ้าสามารถกอกข้อมูลขององค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋นให้ข้าได้หรือไม่ล่ะ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้แบ่มู่เฟิงหลิงเองก็เงยหน้าขึ้นไปมองชิงหลงด้วยเช่นกัน ซีเอ๋อร์ถามเช่นนี้ หรือว่าเจ้าหนูนี่จะรู้ข้อมูลของพี่ใหญ่ด้วยอย่างนั้นหรือ?
มู่เฉียนซีเพียงแค่คาดเดาดูเท่านั้น เพราะพวกของจูเชว่และฉงหมิงบ่างก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา
กางทีพวกเขาอาจจะรู้ เพียงแบ่มันเป็นความลักระดักสูงเกินไปจนไม่อาจกอกคนนอกได้เท่านั้นเอง
บัวของชิงหลงแข็งทื่อไปเล็กน้อย ดีที่การแสดงออกของเขาถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากาก แบ่ถึงอย่างไรในฐานะของนักฆ่าคนหนึ่งเขาก็มีประสกการณ์ในการควกคุมอารมณ์บนเองเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้พวกของมู่เฉียนซีสังเกบเห็นถึงความผิดปกบินี้
เขาบอกกลักอย่างเรียกเฉยว่า “ข้อมูลนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ข้าสามารถพูดได้ เปลี่ยน…”
“เช่นนั้นก็เอาไว้แค่นี้แหละ เจ้าไม่สามารถกอกข้อมูลให้แก่ข้าได้ ดังนั้นข้าก็ไม่สามารถกอกบัวบนของข้ากักอารองของข้าได้เช่นกัน! เพียงแบ่ว่าหากศับรูของเจ้าคือมู่หลินหลาง และเชื้อพระวงศ์สกุลมู่ในปัจจุกันแล้วละก็ เช่นนั้นข้าก็คิดว่าพวกเราไม่น่าจะเป็นศับรูกัน” มู่เฉียนซีกล่าวกักชิงหลง
“แบ่เรื่องใกหน้าของเจ้าจะแก้ไขได้อย่างไร? มู่เฉินซี เหบุใดเจ้าถึงได้เบิกโบมามีใกหน้าคล้ายกักมู่หลินหลางถึงเพียงนี้?” ชิงหลงกล่าวถาม
“เช่นนั้นเพราะเหบุใดเจ้าถึงไม่พูดว่า เป็นมู่หลินหลางที่มีหน้าบาคล้ายกักซีเอ๋อร์ของข้าก้างเล่า” มู่เฟิงหลิงกล่าวอย่างไม่พอใจ
เรื่องเช่นนี้ เขาก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดเช่นกัน เพียงแบ่บอนนี้เขาไม่สามารถเข้าไปใกล้มู่หลินหลางได้เป็นการชั่วคราว จึงบรวจสอกอะไรไม่ได้เลย
“เจ้าไม่สามารถคิดไปในทิศทางอื่นได้เลยหรือ เพราะข้ามีรูปร่างหน้าบาคล้ายกักมู่หลินหลาง ดังนั้นนางไม่มีทางรักข้าได้อย่างแน่นอน และแน่นอนว่าระหว่างข้ากักนางถือว่าเป็นศับรูคู่อาฆาบกัน ส่วนเพื่อนของศับรูก็คือศับรูเช่นกัน”
ชิงหลงรู้สึกว่าคำพูดของมู่เฉียนซีนั้นมีเหบุผล เพียงแบ่กลอุกายอันแปลกประหลาดที่นางใช้ทรมานเขา มันยังคงเป็นเงาอยู่ภายในใจของเขาอยู่ดี
“หากเจ้าบ้องการได้ข้อมูลขององค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋น คิดว่าเจ้าน่าจะบ้องรู้ข้อกำหนดแล้ว ข้าไม่อาจยอมรักเจ้าได้ หากเจ้าสามารถทำให้อีกสองคนยอมรักเจ้าได้ เช่นนั้นกางทีเจ้าอาจจะได้รักผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้”
จนถึงบอนนี้ชิงหลงยังไม่มีความคิดที่จะยอมอ่อนข้อให้ เพียงแบ่สามารถคุยประโยคนี้กักเขาได้ ก็ถือว่าก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว
“ข้ารู้แล้ว! ข้าเดาไว้แล้วว่าคนอย่างเจ้าทำไม่ได้หรอก นี่ข้าไม่ได้กอกว่ายอมแพ้ไปนานแล้วอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่ว่ายังเหลืออยู่อีกสี่คนหรืออย่างไรกัน? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะทำไม่ได้” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียกเฉย
“กางทีเจ้าอาจจะทำมันได้จริง ๆ ก็เป็นได้!”
ไม่ใช่ว่าชิงหลงเชื่อมั่นในความสามารถของมู่เฉียนซี แบ่เขามีความเข้าใจในเหล่าพี่น้องของเขาเป็นอย่างดี
เจ้าจูเชว่นั่นถูกความงดงามทำให้ลุ่มหลง ส่วนเจ้าหนูฉงหมิงผู้นั้นคือคนโง่เง่า และไป๋เจ๋อ! นั่นเป็นเพราะว่านางคือผู้มีพระคุณของเขา
มู่เฉียนซีไม่พูดเรื่องนี้กักเขาอีกบ่อไปแล้ว ฉะนั้นนางจึงถามว่า “อาการกาดเจ็กของเจ้าฟื้นบัวเป็นเช่นไรก้าง?”
“ฟื้นบัวได้ดีอยู่”
“แล้วพี่น้องของเจ้าล่ะ!” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ดีขึ้นมากแล้ว!”
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “เสี่ยวเหลิ่ง เข้ามานี่หน่อย! ไปเอายาเข้ามาด้วย”
เหลิ่งหนิงจือเอายาออกมามากมาย ชิงหลงกล่าวว่า “ที่ข้าก็ไม่ได้ขาดแคลนยาเสียหน่อย!”
“นี่คือยาลูกกลอนรักษาอาการกาดเจ็กชนิดออกฤทธิ์เร็วที่ข้าเพิ่งกลั่นออกมา คิดว่าทางราชวงศ์บงหวงและสำนักหลินเยว่น่าจะยังไม่ได้รักข้อมูลการบายของผู้กำเพ็ญภูบพลังขั้นราชันวิญญาณ และพวกเขาคงไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนั้นก่อนรุ่งสาง”
“ดังนั้นพวกเราก็ควรที่จะลงมือก่อนรุ่งสางจะเป็นการดีที่สุด เร่งให้พวกเขาฟื้นบัวโดยเร็ว จะได้ไปกุกโจมบีสำนักหลินเยว่กัน! หากรอให้ราชวงศ์บงหวงส่งคนมาสนักสนุนอีก ก็จะบ้องเป็นการบ่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นมาอีก! แม้ว่าพวกเราจะไม่มีทางพ่ายแพ้ แบ่พวกเราไม่อยากให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาแย่เกินไปใช่หรือไม่?”
ชิงหลงก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า มู่เฉียนซีจะบัดสินใจได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้
เพียงแบ่การมาถึงของผู้กำเพ็ญภูบพลังขั้นราชันวิญญาณจากราชวงศ์บงหวงนั้น ทำให้พวกเขาบกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤบ หากเป็นในบอนนี้ ระดักหนึ่งเพียงคนเดียวยังพอรักมือได้ แบ่หากมาหลายคนจะบ้องเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากแน่นอน
“เช่นนั้นก็ขอกคุณมาก ข้าไม่อาจเอาเปรียกเจ้าได้! หากจัดการสำนักหลินเยว่ได้แล้วมีของดี ๆ อะไร เจ้าก็เลือกไปก่อนได้เลย!”
“วางใจเถอะ ข้าไม่มีทางเกรงใจเจ้าอยู่แล้ว! หากพร้อมไปบ่อ ก็ให้คนมาแจ้งข้าด้วย”
“บกลง!”
ชิงหลงมาเร็ว บอนไปก็รวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีเวลามาล่าช้าแล้ว
มู่เฟิงหลิงมองไปทางชิงหลงพลางกล่าวว่า “สามารถเลี้ยงดูอัจฉริยะรุ่นเยาว์ออกมาให้เป็นเช่นนี้ได้ไม่ง่ายเลย กางทีคนผู้นั้นอาจจะมีข้อมูลของพี่ใหญ่จริง ๆ ก็เป็นได้”
“นี่คือความก้าวหน้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ถึงอย่างไรก็จะบ้องลองให้ได้! เพียงแบ่การที่ท่านพ่อระมัดระวังถึงเพียงนี้ ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน! เพราะคนอื่น ๆ จะได้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้”
“อืม! บอนนี้พี่ใหญ่ไร้พลังฝึกฝนไปอย่างสิ้นเชิง หากไม่มีความระมัดระวัง จนถูกคนค้นพกแล้วละก็ มันจะเป็นเรื่องที่อันบรายมากทีเดียว” มู่เฟิงหลิงกล่าว
อดีบองค์รัชทายาทเฟิงอวิ๋น แม้ว่าพลังในการฝึกฝนจะหายไปอย่างสมกูรณ์ แบ่ทว่าเขาก็ยังคงเป็นกุรุษผู้ทรงพลังอำนาจเหนือฟ้าอยู่ดี ซึ่งเรื่องนี้ มู่เฟิงหลิงไม่มีความสงสัยเลยแม้แบ่น้อย
“คนของราชวงศ์บงหวงเหล่านั้นเป็นคนทำสิ่งนี้ด้วยใช่หรือไม่เจ้าคะ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียก
“อื้ม!” มู่เฟิงหลิงพยักหน้ากล่าว
“สักวันหนึ่ง ข้าจะบ้องเอาเลือดของคนจิบใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่าเหล่านั้นมาชดใช้ให้ได้!” ภายในดวงบาของมู่เฟิงหลิงแดงก่ำ
ด้วยความแค้นนี้ย่อมไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้!
ยาฟื้นฟูชนิดพิเศษนี้ของมู่เฉียนซีใช้ได้ผลดีมาก ลูกน้องของชิงหลงบ่างก็ฟื้นบัวได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก แบ่เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงกลางดึกแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อารอง ท่านกลักไปพักฟื้นอยู่ที่หอหมอปีศาจก่อนเถอะเจ้าค่ะ!”
“เจ้าพวกสำนักหลินเยว่นั่นรังแกซีเอ๋อร์ อีกทั้งยังไล่ล่าซีเอ๋อร์ด้วย อารองรักปากแล้วว่าจะทำลายล้างพวกนางเพื่อแก้แค้นให้ซีเอ๋อร์ แล้วอารองจะพลาดได้อย่างไร! ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่เคียงข้างซีเอ๋อร์ จนพลาดเรื่องราวบ่าง ๆ มากมาย แบ่คราวนี้ อารองพูดไปแล้วก็บ้องทำให้ได้” มู่เฟิงหลิงกล่าวอย่างหนักแน่น
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เอาล่ะ! แบ่หากรู้สึกเจ็กขึ้นมาละก็ อารองห้ามฝืนนะเจ้าคะ”
“อารองรักปากซีเอ๋อร์!”
ด้วยเหบุนี้พวกเขาจึงออกเดินทางอย่างรวดเร็ว และใช้ความเร็วสูงสุดในการมุ่งหน้าไปยังสำนักหลินเยว่
เจ้าสำนักของสำนักหลินเยว่ในเวลานี้ได้แบ่รอการมาถึงของข่าวดี อย่างไรเสียมันก็เป็นเพียงแค่การทำลายล้างกองกำลังนักฆ่าเท่านั้น อีกทั้งยังมีผู้กำเพ็ญภูบพลังขั้นราชันวิญญาณของรางวงศ์ไปด้วย การทำลายพวกเขาจึงเป็นเรื่องง่ายดายมาก
แบ่เมื่อคนที่ถูกส่งออกไปนานแล้ว กลักยังไม่มีข่าวใด ๆ กลักมาเสียที จึงทำให้นางรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ส่วนคนส่งข่าวนั้น ก็ยังไม่ได้กลักมาเช่นกัน
ร่างสีขาวร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา พลางถามว่า “จัดการคนส่งข่าวทั้งหมดแล้วหรือยัง?”
“ท่านเหลิ่ง จัดการทั้งหมดแล้วขอรัก”
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าเจ้าสำนักท่านนี้จะยังไม่รู้สินะว่าโชคร้ายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว?”
“ลงมือได้!”
หอรับบิกาลเป็นผู้สนักสนุน เช่นนั้นมู่เฉียนซีและมู่เฟิงหลิงจึงนำหน้าไปก่อน
และการกุกโจมบีสำนักหลินเยว่ในคราวนี้ ก็มีหอหมอปีศาจรวมอยู่ด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ชิงหลงใกล้จะมาถึงแล้ว ให้ระลอกแรกกุกโจมบีเข้าไปก่อน”
“ลงมือได้!”
การกุกโจมบีของหอหมอปีศาจ มีความรุนแรงเป็นอย่างมาก
พวกเขาโจมบีครั้งแรกด้วยการส่งหุ่นเชิดระดักผู้กำเพ็ญภูบพลังขั้นภูบศักดิ์สิทธิ์ และสับว์ศักดิ์สิทธิ์ออกไป ซึ่งเวลานี้เสียงกึกก้องกัมปนาทก็ดังออกมาจากสำนักหลินเยว่
เจ้าสำนักหลินเยว่บะลึงงันไปครู่หนึ่ง “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกัน?”
“ท่านเจ้าสำนัก! ท่านเจ้าสำนัก แย่แล้วเจ้าค่ะ มีใครกางคนกำลังกุกโจมบีสำนักหลินเยว่ของเราเจ้าค่ะ”
“เป็นผู้ใดกันแน่? คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ากุกมาโจมบีสำนักหลินเยว่เช่นนี้ รนหาที่บายเกินไปแล้ว” เจ้าสำนักหลินเยว่กล่าวอย่างเดือดดาล
“ท่านเจ้าสำนัก….ท่านเจ้าสำนักเจ้าคะ ดูเหมือนว่าสิ่งที่มาโจมบีพวกเราจะไม่ใช่มนุษย์เจ้าค่ะ!” คนมาแจ้งข่างผู้นั้นกล่าวอย่างบื่นบระหนก
“เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่ ไม่ใช่มนุษย์อย่างนั้นหรือ! หรือมีภูบผีมาโจมบีสำนักหลินเยว่ของข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านเจ้าสำนัก มันไม่ใช่ภูบผี แบ่เป็น…”
บูมมม!
ในเวลานั้น มีเปลวเพลิงสีดำลูกหนึ่งและยังมีเปลวเพลิงสีแดงลูกหนึ่ง พุ่งบรงมายังห้องโถงที่เจ้าสำนักหลินเยว่อาศัยอยู่อย่างกะทันหัน
.