ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1920 เก็บตัวไปนอนต่อ
ในตอนที่พวกเขากำลังจะไล่ตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ได้มีข้อมูลถูกส่งมาถึงกองกำลังหลักทั้งสองแห่ง
คนที่สังหารตู๋กูล่างจนตายก็คือมู่เฉินซี!
คนที่สังหารเซี่ยโหวจือก็เป็นมู่เฉินซีเช่นกัน!
มู่เฉินซี อัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศใต้แห่งราชวงศ์ตงหวง และเป็นคนที่ได้รับอันดับหนึ่งในงานชุมนุมอัจฉริยะครั้งนี้ คิดไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าสังหารศิษย์พี่แห่งสำนักหลางซิงของพวกเขา รวมถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยโหวด้วย
ความเกรี้ยวกราดของกองกำลังระดับสี่ทั้งสอง ช่างน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด
แต่ทว่าในเวลาเดียวกันจูเชว่ก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน “สำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหวต้องการที่จะจัดการกับซีซี เพราะมีคนกล่าวว่าเจ้าเป็นผู้สังหารตู๋กูล่างและยังมีเซี่ยโหวจือด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ตู๋กูล่างข้าเป็นคนฆ่าเองไม่ผิด เพราะเขารนหาที่ตายด้วยตนเอง! ส่วนเซี่ยโหวจือ ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่านาง! เพียงแต่หากข้าบอกว่าเมิ่งเสี่ยวชิงเป็นคนฆ่า เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดเชื่อ”
ถึงอย่างไรภาพลักษณ์ภายนอกของเมิ่งเสี่ยวชิงนั้นก็ดีมาก อีกทั้งยังเป็นพี่น้องที่รักใคร่กับเซี่ยโหวจือมานานอีกด้วย
“เรื่องของเมิ่งเสี่ยวชิง เจ้าตรวจสอบแล้วหรือยัง?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลเป็นกองกำลังระดับสี่ แต่กลับมีความต่ำต้อยมาก เมิ่งเสี่ยวชิงก็เช่นกัน หากซีซีไม่ได้เป็นคนบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องที่นางทำ ข้าก็ไม่เชื่อว่านางจะเป็นคนที่โหดร้ายอย่างคาดไม่ถึงขนาดนี้ได้” จูเชว่กล่าว
“หากสำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหวร่วมมือกันขึ้นมา จะมีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“นอกเสียจากว่าพวกเขาจะยกโขยงกันออกมา มิเช่นนั้นข้าก็ไม่กลัวพวกเขาหรอก! ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาแตะต้องซีซีได้แม้แต่ปลายขน! แต่ทว่าข้ามีสถานที่ที่ดีกว่าอยู่แห่งหนึ่ง อยากจะแนะนำให้ซีซีไปดู”
แม้ว่าจูเชว่จะมีความมั่นใจในตนเองมาก แต่ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงหากมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เมืองหนานหวางไม่มีความมั่นคง ซีซีออกไปก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “คือที่ไหนกัน?”
“ที่สาขาดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นสมาคมหลอมอาวุธ ที่นั่นเป็นสถานที่ในการศึกษาวิจัยการหลอมอาวุธที่ดีแห่งหนึ่ง และบางทีเจ้าอาจจะได้รับอะไรที่ไม่คาดคิดกลับมาก็เป็นได้” จูเชว่คลี่ยิ้มอย่างสดใสมองไปที่มู่เฉียนซีจนตาหยีไปหมด ซึ่งเป็นการบอกคำใบ้ที่ชัดเจนมาก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตกลง ข้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของเจ้า!”
ไป๋เจ๋อ โม่ซวนรับผิดชอบดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จูเชว่ เหยียนรับผิดชอบดินแดนทางใต้ เช่นนั้นดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้คงจะมีอีกคนหนึ่งเป็นแน่
จูเชว่ไม่ได้อธิบาย เนื่องจากว่าโดยหลักแล้วไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ อีกทั้งสัญญาลับของพวกเขายังคงมีอยู่ และมู่เฉียนซีก็คงจะคาดเดาได้แล้ว
นางต้องการหาสถานที่แห่งหนึ่งที่จะใช้แยกย่อยมรดกของผู้อาวุโสนักหลอมอาวุธผู้นั้น หากสามารถติดต่อกับใครสักคนที่ร่วมมือกับนางเหมือนอย่างไป๋เจ๋อและจูเชว่ได้ แน่นอนว่ามันคงจะดีเป็นอย่างมาก
กองกำลังระดับสี่ทั้งสองต้องการชีวิตของนาง แม้ว่าจะมีกองกำลังของจูเชว่ ไป๋เจ๋อรวมทั้งหอหมอปีศาจที่แม้จะไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด แต่หากต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่บ้าคลั่งของพวกเขาแล้ว ก็คงต้องมีการสูญเสียไม่น้อยเป็นแน่
ในขณะที่นางจากไปเพียงชั่วคราว ทำให้พวกเขาเสียแรงและเวลาอย่างมากในการค้นหาไปเถอะ!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จูเชว่ ปล่อยข่าวออกไป! ว่าข้าเป็นผู้ที่ฆ่าตู๋กูล่างเอง หากสำนักหลางซิงต้องการที่จะแก้แค้น ก็ให้มาได้เลย! ส่วนเซี่ยโหวจือ ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่า ไม่สนว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่! แต่หากยอมที่จะเป็นมือสังหารให้ฆาตกรตัวจริง แล้วพวกเขามีความสุขก็ตามใจ”
มู่เฉียนซีขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบายอะไร จึงทำแค่เพียงบอกความจริงแก่พวกเขาไป
เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทันทีที่สำนักหลางซิงและผู้นำตระกูลเซี่ยโหวได้รับข้อมูลนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“มู่เฉินซีช่างกล้าหาญเสียจริง ดีมาก! ไม่คิดว่านางจะกล้ายอมรับ ช่างดีเสียจริง ๆ! คิดจริง ๆ หรือว่าการที่มีหอหมอปีศาจและคุณชายจูเชว่คุ้มครองอยู่ แล้วข้าจะเกรงกลัวนางน่ะ? คุณชายจูเชว่ยังไม่ถึงขั้นปกครองทั่วทั้งดินแดนทางทิศใต้ด้วยมือเดียวเสียหน่อย!”
การตอบสนองของตระกูลเซี่ยโหวนั้นก็รุนแรงมากเช่นกัน “คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะเล่นลิ้นเช่นนี้ คนที่เข้าไปในหอหนานหลิงทุกคน ก็มีเพียงแค่นาง เหยียนเหลียนเจียและฉู่หลีที่มีความสามารถนี้เท่านั้น! อีกทั้งเมิ่งเสี่ยวชิงยังเห็นมากับตา แล้วมันจะผิดได้อย่างไร! คำพูดนั้นของนางหมายความว่าอย่างไรกัน? คิดจะแยกผู้นำตระกูลเซี่ยโหวของพวกเราออกจากตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลอย่างนั้นหรือ?”
กองกำลังหลักทั้งสองเต็มไปด้วยจิตสังหาร ขณะเดียวกันฉู่หลีก็มาหามู่เฉียนซีเพื่อที่จะบอกนางว่า เขาต้องการที่จะแยกตัวกลับไปยังสำนักลั่วเยว่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในตอนนี้ข้ากำลังถูกสองกองกำลังหลักไล่ล่า ศิษย์พี่แยกตัวกลับไปก็ดีเช่นกัน! ว่าแต่ศิษย์พี่เจอปัญหาคอขวดในการฝึกฝนหรือว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลีตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไร ข้าเพียงแค่ง่วงเท่านั้น! หากหลับไปสักตื่นน่าจะดีขึ้น บางทีเมื่อถึงตอนนั้นความทรงจำทั้งหมดอาจจะกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้วก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะตามหาศิษย์น้องทันที! โดยไม่สนว่าศิษย์น้องจะอยู่ที่ใดก็ตาม”
นิรันดร์ก็ไสหัวกลับไปหลับใหลแล้ว ฉู่หลีก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจกับไอ้คนเจ้าชู้ตัวพ่อนั่นว่าจะมาหลอกศิษย์น้องอีกแล้ว เช่นนั้นก็ควรกลับไปนอนต่อสักหน่อย
ในส่วนของอันตรายเพียงน้อยนิดจากสำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหว ฉู่หลีไม่ได้เอามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าพวกเขาคิดที่จะทำอะไรต่อศิษย์น้อง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
มู่เฉียนซีชะงักไปครู่หนึ่ง “ในตอนที่อยู่สำนัก เหล่าท่านผู้อาวุโสต่างกล่าวว่าศิษย์พี่ฝึกฝนอย่างหนัก และมักจะเก็บตัวบ่อย ๆ หรือว่าศิษย์พี่แยกตัวออกไปนอนอย่างนั้นหรือ?”
“เก็บตัวและนอนหลับ ไม่มีความแตกต่างกัน!” ฉู่หลีกล่าวอย่างเรียบเฉย
มุมปากของมู่เฉียนซีและจูเชว่กระตุกขึ้นเล็กน้อย นี่มันต่างกันมากเลยต่างหากล่ะ!
หากว่าเหล่าท่านผู้อาวุโสและศิษย์พี่กับศิษย์น้องคนอื่น ๆ รู้ว่าความขยันหมั่นเพียรในการเก็บตัวของศิษย์พี่คือการไปนอน คาดว่าจะต้องสงสัยในการมีชีวิตเป็นแน่
มู่เฉียนซีมาส่งฉู่หลีออกจากเมืองหนานหวางเพื่อกลับไปนอนที่สำนักลั่วเยว่
แค่ก แค่ก แค่ก! กลับไปเก็บตัว
หลังจากที่ฉู่หลีจากไปแล้ว มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่ามีคนซุ่มโจมตีอยู่นอกเมืองหนานหวาง ดังนั้นนางจึงกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าซุ่มอยู่นานถึงเพียงนี้ หากไม่ยอมโจมตีแล้วละก็ ข้าจะกลับเข้าเมืองแล้วนะ”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ร่างหลายร่างพุ่งทะยานออกมา พวกเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความโกรธ “มู่เฉินซี เจ้านี่ช่างกล้าหาญเสียจริง! คิดไม่ถึงว่าจะออกมาจากหอหมอปีศาจ ชดใช้ด้วยชีวิตมาซะ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้ารนหาที่ตายกันเองนะ!”
เป็นอย่างที่คาดไว้ โดยรอบยังมียอดฝีมืออยู่อีกไม่น้อย และยังมีหุ่นเชิดผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเหล่านี้ด้วย
ตูมมม โครมมม!
“บัดซบเอ้ย! มู่เฉินซีคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเตรียมการเอาไว้แล้ว!”
“นี่เป็นกับดัก! กองกำลังที่ส่งออกมาในครั้งนี้ไม่เพียงพอ”
พวกเขาต้องการเอาชีวิตของนาง และมู่เฉียนซีก็ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ตลอดแต่อย่างใด หากนางซ่อนตัวไปตลอด คงคิดว่านางหวาดกลัวกองกำลังของพวกเขาทั้งสองเป็นแน่
“ถอยก่อน!”
พวกเขารู้สึกไม่ดี เลยคิดที่จะจากไป แต่ผลกลับถูกเปลวเพลิงขวางทางเองไว้
คมดาบที่ราวกับปีศาจถูกกวาดออกไป “พวกเจ้าต้องการลงมือรังแกซีซี แต่กลับไม่ดูว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ใด เมืองหนานหวางทนในความกำเริบเสิบสานของพวกเจ้าไม่ไหวแล้ว”
“ในเมื่อมาแล้ว ก็ทิ้งชีวิตทั้งหมดของพวกเจ้าเอาไว้ที่นี่เสียเถอะ!”
ความสามารถของจูเชว่เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว พวกเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณชายจูเชว่ ท่านคิดจะเป็นปฏิปักษ์กับพวกเราสำนักหลางซิงจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“ช่างเป็นเรื่องตลกเสียจริง ในตอนสงครามของหมอหมอปีศาจกับตระกูลตาน ข้าก็มีความบาดหมางกับพวกเจ้าแล้ว หรือว่าพวกเจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”
“เช่นนั้นตระกูลเซี่ยโหวของพวกเราล่ะ! คุณชายจูเชว่ต้องการที่จะแบกรับความโกรธของพวกเราตระกูลเซี่ยโหวอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นความแค้นระหว่างมู่เฉินซีกับพวกเรา หรือว่าเพื่อหญิงสาวเพียงคนเดียวท่านถึงกับจะเป็นศัตรูกับพวกเราตระกูลเซี่ยโหวเลยหรือ?”
สุดท้ายแล้วจูเชว่ก็กล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “คิดว่าตระกูลเซี่ยโหวของพวกเจ้าเป็นอะไร? แม้แต่สำนักหลางซิงยังดีไม่เท่า ยังคิดที่จะมาชี้นิ้วฉอด ๆ กับคุณชายอย่างข้าอีกหรือ”
คำพูดนี้ทำให้คนที่ตระกูลเซี่ยโหวพามาต่างรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก “ดี! ดีมาก ฆ่าผู้หญิงคนนั้นโดยไม่ต้องสนอะไรทั้งนั้น แก้แค้นให้คุณหนูใหญ่! เอาหัวของนางมาสังเวยให้กับวิญญาณของคุณหนู”
“ฆ่ามัน!”
ด้านหน้ามีจูเชว่คอยขวางเอาไว้ ทำให้หนีไม่ได้ พวกเขาจึงวางแผนที่จะสังหารมู่เฉินซีให้สิ้นไปเสีย
แม้ว่าจะมีคุณชายจูเชว่จะปกป้องอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าด้วยจำนนคนที่มากมายเพียงนี้ จะไม่สามารถจัดการผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งไม่ได้
.
.