ท่านประธานที่รัก - ตอนที่ 226 ยั่วยวน
ซังอวินไม่ได้กลับสำนักรากษสนานแล้ว
เพราะเขาในตอนนี้ไม่ค่อยเหมาะที่จะมาที่นี่
ถึงแม้เกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งไม่ควรมาที่นี่ แต่เพื่อจะดึงตัวหนอนบ่อนไส้นั่นออกมา เขาไม่สนอะไรมากแล้ว
โม่ยวี่เคยมาที่สำนักรากษสหลายครั้งแล้ว เลยคุ้นชนกับที่นี่มาก
ผนังเหล็กล้อมรอบทั้งสี่ด้าน มีอาคารสีขาวสูงๆอยู่ในนั้น
ข้างประตูมีผู้ชายยืนเฝ้าอยู่สองคน พอรถเฟอร์รารีแล่นมาจอด ทั้งสองคนก็รีบเดินมาเปิดประตู
พอเห็นคนที่คุ้นเคย ทั้งสองจึงเอ่ยเรียกอย่างมีความสุข "ลูกพี่กลับมาสักที"
ถึงแม้ซังอวินจะอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมา
เพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้ เลยใช้ตัวตนอีกคนมาที่นี่
แต่ก่อนจะกลับประเทศครั้งนี้ เขาละอีกตัวตนนั้นไปแล้ว
ต่อจากนี้ มีแค่ซังอวินเท่านั้น
ตอนที่เขาได้สำนักรากษสมา ถือว่าเป็นอำนาจที่เขาปิดบังมาโดยตลอด ปกติเขาจะไม่ออกหน้า มีแค่ช่วงเวลาที่สำคัญเท่านั้นเขาถึงจะสั่งการพวกเขา
แต่ว่าครั้งนี้ พวกเขาทำให้เขาผิดหวังมาก
สีหน้าซังอวินไม่ดีมากนัก พยักหน้าแล้วเดินตรงเข้าไปเลย
โม่ยวี่ชินกับการที่เขาไม่สนใจตัวเองแล้ว เลยเดินตามเขาไปด้วย ไม่ได้เรียกเขาไว้
เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ปากมาก เธอเลยเงียบไว้
ทั้งสองคนที่เห็นสีหน้าลูกพี่อย่างนั้นยืนงงอยู่ที่หน้าประตู
ถึงแม้แต่ก่อนจะเกิดเรื่องใหญ่แค่ไหน ลูกพี่ก็จะทักทายลูกน้อง แต่สีหน้าแบบนี้เลยทำให้ทั้งสองสงสัย
"ลูกพี่ต้องเจอปัญหาใหญ่แน่นอน อารมณ์เลยไม่ดีขนาดนี้"
อีกคนพยักหน้า "ใช่ ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร ไอ่หวังอันตามติดลูกพี่ไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวลองโทรไปถามมันดู"
อีกคนพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังอัน แต่กลับได้เสียงตอบรับว่า ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
เขาอึ้งแล้วตบศีรษะ "แย่แล้ว ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน ไอ่หวังอันมันเคยปิดเครื่องที่ไหน"
ทั้งสองสบตากัน ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ตอนที่ซังอวินเดินเข้าไป โหลเฉิงที่เป็นคนดูแลสำนักแทนชั่วคราวกำลังนั่งกินข้าวอยู่ พอเห็นวังอวินกลับมา ก็รีบวางถ้วยในมือ แล้วเดินไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม "ลูกพี่จะกลับก้ไมพอก่อน เราจะได้จัดงานต้อนรับ"
ซังอวินเหลือบมองเขา ไม่ได้เอ่ยพูดอะไร
โหลเฉิงรู้จักเขามานานแล้ว พอเห็นสีหน้าเขาไม่ดี เลยรีบหยิบบุหรี่ออกมายื่นให้เขา
ซังอวินรับบุหรี่ไปแล้วคาบไว้ที่ปาก
อาจจะเพราะไม่ได้แตะมาหลายปีแล้ว แค่สูบเข้าไปครั้งเดียว ก็มีควันพ่นไปเต็มหน้าโหลเฉิง จากนั้นก็จับทั้งม้วนโยนไปบนโต๊ะอาหาร
มุมปากเขายิ้มอย่างเสียดสี "ฉันคิดว่า ถ้าฉันยังไม่กลับมาอีก สำนักนี้คงเปลี่ยนลูกพี่ไปแล้ว"
โหลเฉิงสะดุ้งตกใจ คิดว่าลูกพี่สงสัยว่าเขาหักหลัง เลยรีบแสดงความจงรักภักดี "ลูกพี่ ลูกพี่อย่าพูดแบบนี้เลยครับ พี่น้องในสำนักรอลูกพี่กลับมาตลอด ลูกพี่ไว้ใจเถอะครับ ผมจะรีบไปเรียกพวกเขา"
โหลเฉิงเดินไปที่ประตู จากนั้นก็เรียกลูกน้องที่ยืนเฝ้าประตูมา
ไม่ถึงสิบนาที ทุกคนก็มารวมตัวกัน
ซังอวินเลิกคิ้ว มองสำรวจคนตรงหน้าที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกหน้า แล้วเอ่ยถาม "พวกแกใครสนิทกับหวังอันที่สุด"
ตอนนี้เขาจะสืบหาคน ในมือยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ถึงจะสืบ ก็ไม่เจออะไรหรอก เพราะคนที่แอบแฝงมาตั้งนาน ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ก็คงไม่น้อย แต่เขาก็ถามพิรุธจากลูกน้องพวกนี้ได้
ทุกคนเหมือนรู้ว่าเรื่องผิดปกติ จึงเอ่ยอย่างพร้อมเพรียง "ซวี๋โจว ซวี๋โจวสนิทกับมันครับ"
เสียงเอ่ยอย่างพร้อมเพรียง คงแสดงว่าซวี๋โจวสนิทกับหวังอินจริงๆ
ซังอวินยิ้ม แล้วถามต่อ "ไอ่ซวี๋โจวจะเดินออกมาเองหรือเปล่า?"
สถานการณ์อึดอัดไปชั่วครู่ จากนั้นค่อยมีคนเอ่ย "ลูกพี่ "ไอ่ซวี๋โจวหายตัวไปหลายวันแล้วครับ ไม่รู้ว่ามันไปไหน"
พอเป็นแบบนี้ สถานการณ์ก็เคร่งเครียดอีกครั้ง
ซังอวินยิ้มอย่างเยือกเย็น สายตาที่แหลมคมก็มองกวาดไปที่ทุกคน "ที่ฉันมาวันนี้ ทุกคนคงสงสัยมากสินะ ฉันก็จะไม่ปิดบังพวกแก กี่วันนี้ ฉันโดนจับ ปัญหาเกิดตรงคนที่สนิทกับไอ่หวังอัน ในเมื่อมันหนีไปแล้ว ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าใครจะได้รับงาน ก็ห้ามหาคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาช่วยเด็ดขาด"
พอเขาพูดจบ ไม่มองสีหน้าของลูกน้องอีก จากนั้นก็เดินตรงออกมา
จนกระทั่งเขากลับไปที่ห้อง เขานั่งหลับตาคิดบนโต๊ะทำงานเก่า ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรทั้งนั้น
ส่วนโม่ยวี่ที่เดินตามเขาเข้ามา ก็เอาแต่สำรวจของตกแต่งในห้อง
แต่ก่อนเธอไม่เคยเข้ามาที่นี่ เพราะว่าเขาไม่อนุญาต
อาจจะเพราะวันนี้เธอไปประกันตัวเขา เลยทำให้เขาเข้าใจว่าใครเป็นคนที่แคร์เขา ในใจเขาเลยหวั่นไหว
ริมฝีปากที่ทางลิปของโม่ยวี่น่าดึงดูดมาก สายตาก็เอาแต่จ้องมองคนข้างๆ
ไม่รู้ว่าซังอวินนั่งไปนานแค่ไหน โม่ยวี่จ้องไปนานแค่ไหน
เขาลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน สายตาลึกลับมากไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ตอนที่โม่ยวี่เห็น ก็รู้สึกเสียวสันหลังกับสายตาของเขา
ร่างสูงของซังอวินก้าวเดินออกจากโต๊ะทำงาน แล้วเดินตรงไปทางโม่ยวี่ เงาที่แฝงไปด้วยความกดดันปกคลุมตัวเธอไว้
เขามองไปที่เธอ อยู่ดีๆก็ยิ้ม "โม่ยวี่ เธอเคยบอกว่ายอมทำเพื่อฉันทั้งหมด ใช่ไหม"
โม่ยวี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงถามแบบนี้ ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธเขา
เธอพยักหน้า "ใช่ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอนาย ฉันก็เคยพูดแบบนั้น คำพูดยังมีผลอยู่"
"ดีมาก" เห็นว่าเธอไม่ปฏิเสธ ซังหวินก็ขยี้ผมเธอเหมือนอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย
ไม่ทันให้โม่ยวี่ดีใจที่พวกเขาใกล้ชิดกันขนาดนี้ คำพูดของเขา ทำให้เธอตกเหวลึกทันที
"ช่วยฉันไปยั่วผู้ชายคนนึง ฉันเชื่อว่าเธอทำได้แน่นอน"
ในสายตาเขามีความมั่นใจ แต่กลับทำให้โม่ยวี่ถอยหลังไปอย่างไม่อยากเชื่อ
โม่ยวี่อยากถามเขาว่าเห็นเธอเป็นอะไร แต่สุดท้าย เธอแค่พูดว่า "ได้"