ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 54 ทุกซอกทุกมุมมีแต่ความพิศวง ทุกที่ล้วนมีแต่ของล้ำค่า
- Home
- ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน
- ตอนที่ 54 ทุกซอกทุกมุมมีแต่ความพิศวง ทุกที่ล้วนมีแต่ของล้ำค่า
ตอนที่ 54 ทุกซอกทุกมุมมีแต่ความพิศวง ทุกที่ล้วนมีแต่ของล้ำค่า
ลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋นล้วนรู้ดีว่าการเล็ดลอดเข้าไปในมรรคาแห่งฟ้าดินด้วยระดับพลังของพวกนาง ย่อมเท่ากับการรนหาที่ตายโดยสมบูรณ์
มรรคาแห่งฟ้าดินมีปฏิกิริยาตอบโต้เพียงเศษเสี้ยวเดียว ก็มากพอที่จะทำให้พวกนางตกนรกไปตลอดกาล
และมีเพียงผู้ยิ่งใหญ่ระดับคุณชายหลี่เท่านั้น จึงจะทำให้ตนหลบหลีกมรรคาแห่งฟ้าดินได้ โอกาสนี้มากเพียงพอให้ทั่วทั้งโลกเซียนต้องอิจฉากระมัง
เพียงแต่น่าเสียดายที่พลังไม่มากพอ โอกาสยิ่งมากทว่ากลับยิ่งไม่อาจเพลินเพลินกับมันได้
ภายใต้มรรคาแห่งฟ้าดิน นางก็เปรียบเสมือนเม็ดฝุ่น กระจ้อยร่อยเหลือแสน จะสลายไปเมื่อใดก็ได้
ครั้นนางทนต่อไปไม่ไหว สมองก็หมุนวน ถอยกรูดออกจากการประลอง
นางเพ่งพินิจจึงพบว่าในการประลองหมากครั้งนี้ นางเดินหมากไปได้ทั้งหมดหกตา พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
พูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
หลี่เนี่ยนฝานก็ยังไม่เชื่อ ทว่าความจริงก็ปรากฏแก่สายตา บนโลกยังมีคนอ่อนหัดเช่นนี้อยู่จริง
ถึงแม้ฉินม่านอวิ๋นจะอ่อนหัด แต่นางก็ยังอุตส่าห์เดินหมากอย่างมีแบบมีแผน ลั่วซืออวี่กลับลงหมากมั่วซั่ว ราวกับหลับตาอย่างไรอย่างนั้น ตำแหน่งที่วางหมากถึงกับทำให้ต้องคลางแคลงในระดับสติปัญญาของนาง
เขามองลั่วซืออวี่อย่างเหลือเชื่อ
นี่มันความมั่นใจในตัวเองแบบหน้ามืดตามัวหรืออะไรกัน ถึงได้ยกยอว่าฝีมือการเดินหมากของตนเองยอดเยี่ยมขนาดนั้น
เฮ้อ เขาไม่ควรตั้งความหวังกับนางเลย นางเป็นถึงองค์หญิงของราชวงศ์เซียนเฉียนหลง ที่เอาชนะผู้อื่นได้ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเพราะคนอื่นอ่อนข้อให้นาง ให้เกียรตินาง นานวันเข้าก็ยิ่งสั่งสมจนคิดว่าตนเองเป็นยอดฝีมือ
“ขออภัยด้วย ขะ ข้า…” ลั่วซืออวี่ร้อนรนจนแทบหลั่งน้ำตา ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
ความปั่นป่วนอัดแน่นอยู่ในใจของนาง คุณชายหลี่ต้องคิดว่านางไม่ประเมินตนเป็นแน่ คงจะผิดหวังกับนางจับใจ เขาจะคิดรังเกียจตนหรือเปล่า
หลี่เนี่ยนฝานชักจะทนไม่ไหว จึงรีบเอ่ยปลอบ “ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจ”
เด็กสาวคนนี้คงจะกลัวแย่แล้ว คิดดูก็จริง นางทึกทักว่าฝีมือการเดินหมากของตนล้ำเลิศมาตลอด อยู่ๆ ก็พบว่าที่แท้ตนเองกระจอกงอกง่อย ผู้คนรอบตัวล้วนแต่หลอกลวง เป็นใครก็รับความกระทบกระเทือนพรรค์นี้ไม่ไหวหรอก
เป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกันนะ
หลี่เนี่ยนฝานพูดโน้มน้าว “ยอมรับความจริงในตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ หลังจากนี้เจ้าฝึกฝนให้มากก็พอแล้ว”
คุณชายหลี่ให้ข้าฝึกฝนให้มากขึ้น เพื่อให้ตนตื่นรู้ในมรรคามากขึ้น อย่าได้ยอมแพ้ ภายภาคหน้ายังมีโอกาส
ขอเพียงคุณชายหลี่ไม่เกลียดนางก็พอแล้ว
ลั่วซืออวี่ถอนหายใจยาว รีบพูดว่า “ขอบคุณคุณชายหลี่ หลังจากนี้ข้าจะพยายามอย่างหนัก!”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในเมื่อลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋นเป็นมือใหม่ในการเดินหมาก งั้นก็ส่งแขกได้แล้วสินะ
เพียงแต่ว่าตนเองจะต้องใคร่ครวญสักหน่อยว่าจะตอบแทนน้ำใจด้วยสิ่งใดดี
ในเมื่อฉินม่านอวิ๋นมารยาทดีถึงขนาดนี้ ทั้งยังตั้งใจมอบเยลลี่ให้เขาอีก เขาย่อมต้องไม่น้อยหน้า
ฉินม่านอวิ๋นและลั่วซืออวี่ลุกขึ้นเตรียมลากลับแล้ว
ทันใดนั้น สายตาของฉินม่านอวิ๋นก็บังเอิญกวาดไปยังมุมกำแพงหนึ่งของเรือนสี่ประสาน
ทั้งร่างพลันหยุดชะงัก ประหนึ่งถูกอัสนีบาตผ่าฟาดใส่
นางถลึงตาจ้องมองมุมนั้นเขม็ง แม้แต่ลมหายใจก็ถี่กระชั้นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
นั่น…นั่นมัน…
ไม่ผิดแน่ นั่นคือไผ่ประจักษ์มรรคา!
หากเป็นคนธรรมดาอาจมองไม่ออก ทว่านางเป็นเทพธิดาของอารามเต๋าหลินเซียน คุ้นเคยกับไผ่ประจักษ์มรรคามาก มองเพียงแวบเดียวก็จำได้แล้ว!
ก่อนหน้านี้ ในใจของนางตกประหม่า กอปรกับถูกโอสถวิเศษหญ้าเซียนชั้นสูงรอบกายดึงดูดไว้ มิได้สังเกตมุมอื่น
ของเรือน
ยามนี้จึงได้ค้นพบว่าทุกซอกทุกมุมของที่นี่ล้วนแต่ไม่ธรรมดา!
บนกองฟืนในเรือน กระบี่จุ้ยหมัวเสียบไว้ในไม้ท่อนหนึ่ง บนโต๊ะหินไม่ไกลออกไป สิ่งของรูปร่างกลมสีแดงเพลิงวางอยู่ นั่นคือไข่มุกเพลิงมังกร และกระดานหมากที่เดินเมื่อครู่ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่เหนือกว่าอาวุธเซียนเสียด้วยซ้ำ!
ยามนี้ นางก็ค้นพบไผ่ประจักษ์มรรคาอยู่ที่กำแพงอีก!
เดี๋ยวนะ!
นางหันกลับไปเพื่อมองกองฟืนนั้นอีกครา
เฮือก
ไม้วิญญาณ เป็นไม้วิญญาณทั้งหมด!
มีเพียงผู้ที่บำเพ็ญตบะจนเป็นภูติไม้ถึงจะให้กำเนิดไม้วิญญาณได้กระมัง
นี่ นี่…
คุณชายหลี่นำไม้วิญญาณมากมายถึงเพียงนี้มาจากไหนกัน ทั้งยังนำมาเผาเป็นฟืนอีก?!
ฟุ่มเฟือยจนทำให้สมองชาได้จริงๆ
นี่ถ้าหากให้ผู้บำเพ็ญเซียนจากโลกภายนอกรู้เข้า ไม่รู้ว่าผู้คนมากมายเพียงใดจะรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว
สมแล้วที่เป็นที่พำนักของเซียน ทุกซอกทุกมุมมีแต่ความพิศวง ทุกที่ล้วนมีแต่ของล้ำค่า!
นางสูดหายใจลึกไม่หยุด เพื่อข่มความตื่นตระหนกในใจของตน
‘นิ่งไว้ ข้าจะต้องนิ่งเข้าไว้ ห้ามทำให้คุณชายขุ่นเคืองเป็นอันขาด’
ฉินม่านอวิ๋นเหลือบมองลั่วซืออวี่ซึ่งอยู่ด้านข้าง ก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้
บางครั้งการไม่รู้ก็นับว่าเป็นสุข ไม่เหมือนกับตนเองที่ต้องแสร้งว่าสุขุมเยือกเย็นเช่นนี้
“คุณชายหลี่ ขอถามสักหน่อยได้ไหม นั่นคือ…”
ฉินม่านอวิ๋นชี้ไปยังไผ่ประจักษ์มรรคาที่มุมกำแพง เอ่ยถามอย่างทนไม่ไหว
หลี่เนี่ยนฝานปรายตามอง ตอบอย่างไม่คิดมาก “นั่นเป็นวัสดุที่เหลือจากธนูที่ข้าทำน่ะ เป็นเศษขยะก็เท่านั้น
กำลังจะเตรียมเผาเป็นฟืน”
ขยะ?
เผาเป็นฟืน?
ฉินม่านอวิ๋นแทบหยุดหายใจ ขณะเดียวกันก็ปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ยังดีที่ตนเอ่ยปากถามก่อน ไม่เช่นนั้นไผ่ประจักษ์มรรคาคงจะถูกนำไปเผาเสียแล้ว!
โชคดี โชคดีเหลือเกิน!
นางสูดหายใจเข้าลึก พยายามรักษาน้ำเสียงให้มั่นคง “เช่นนั้น…มอบไผ่ท่อนนั้นให้ข้าได้ไหม”
“เจ้าต้องการหรือ?” หลี่เนี่ยนฝานมองฉินม่านอวิ๋นอย่างแปลกใจ “ไม่ใช่ของมีค่าอะไร เจ้าเอาไปเถอะ”
“ขอบคุณคุณชายหลี่!”
ฉินม่านอวิ๋นเต็มตื้นขึ้นมาทันใด “กล่าวอย่างไม่ปิดบัง ไม้ไผ่ลำนี้สามารถนำมาใช้ได้ เข้ากับวัสดุเดิมที่ข้าใช้พอดิบพอดี มีความสำคัญกับข้ามาก”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง นำไปทำเป็นวัสดุ ไม้ไผ่นี่ใช้งานได้หลากหลายดีจริงๆ
เมื่อเห็นว่าฉินม่านอวิ๋นพออกพอใจถึงเพียงนั้น หลี่เนี่ยนฝานเองก็ผุดยิ้ม ตนยังคิดไม่ตกเลยว่าจะให้อะไรดี นางถึงกับเลือกเองแล้ว ทีนี้เรื่องก็ง่ายขึ้นเยอะเลย
ฉินม่านอวิ๋นเดินเข้าไปทันใด หยิบไม้ไผ่ท่อนนี้ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แม้แต่เศษไม้และขี้เลื่อยรอบๆ ก็ยังไม่เว้น ล้วนแต่ใช้ถุงผ้ากอบขึ้นเสร็จแล้วจึงหยัดกายลุกขึ้น
“คุณชายหลี่ วันนี้รบกวนมากแล้ว ข้าขอตัวก่อน” ฉินม่านอวิ๋นเอ่ยปากบอก
ลั่วซืออวี่ก็พูดว่า “คุณชายหลี่ ข้าก็ขอตัวก่อน”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า “อื้ม บ๊ายบาย”
ลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋นเดินออกจากเรือนสี่ประสาน ฝีเท้าเร่งร้อนโดยไม่รู้ตัว มุ่งหน้าลงเขาไป
พวกนางต้องไปจัดการเรื่องที่คุณชายหลี่กำชับมาอย่างเร็วที่สุด
ระหว่างทาง ก็มีลำแสงวาดผ่านบนท้องฟ้าเป็นครั้งคราว ทำให้พวกนางขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
พวกนางยิ่งรู้สึกกระวนกระวายอย่างห้ามไม่อยู่ ลอบขบกรามแน่น ห้ามให้ผู้ใดรบกวนการบำเพ็ญเพียรของคุณชายหลี่เป็นอันขาด!
ฉินม่านอวิ๋นตามลั่วซืออวี่กลับราชวงศ์เซียนเฉียนหลง เพียงทักทายจักรพรรดิลั่วอย่างรีบร้อน แล้วขึ้นเรือเหาะออกจากราชวงศ์เซียนเฉียนหลง มุ่งหน้าตรงไปยังอารามเต๋าหลินเซียน!
นางต้องนำข่าวใหญ่นี้ไปแจ้งแก่อาจารย์ ในขณะเดียวกันก็ขอให้อาจารย์ลงมือสะสางเรื่องที่ปรมาจารย์บอก
จะรอช้าไม่ได้!
…………………………………………………