ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 823 หาถึงที่
บทที่ 823 หาถึงที่
บ่ายอีกวัน ตระกูลโจว ณ โลกยู่
มีรถยนต์หรูหราหลายคันจอดอยู่ที่หน้าประตูของคฤหาสน์ตระกูลโจว และตรงป้ายทะเบียนของรถยนต์ก็มีคำว่า“หลิน”กำกับอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รู้แล้วว่ารถยนต์ทั้งหมดนี้เป็นของตระกูลหลิน
ตั้งแต่เมื่อวันที่หลินจื่อเจ๋ถูกเฉินเกอสั่งสอนแล้วกลับไปถึงบ้าน พี่ชายของเขาหลินจื่ออ๋างก็ได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้พ่อของเขา ซึ่งก็คือเจ้าบ้านของตระกูลหลินหลินอ้าวนั้นเอง
และเมื่อหลินอ้าวรู้ว่าลูกชายของตัวเองโดนทุบตี ก็รู้สึกโกรธหนักมาก
โดยเดิมทีเขาก็เป็นคนประเภทที่หวงลูกตัวเองอยู่แล้ว แน่นอนว่าเขารับไม่ได้ที่ลูกชายของตัวเองได้รับบาดเจ็บ
ดังนั้นในวันที่สองเขาก็พาคนมาถามเรื่องราวความเป็นมาที่ตระกูลโจวอย่างรวดเร็ว
“เจ้าบ้านโจว ลูกชายของฉันจื่อเจ๋ถูกแฟนหนุ่มของลูกสาวเธอทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้คุณจะจัดการอย่างไร?วันนี้คุณต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉัน!”
หลินอ้าวนั่งไขว่ห้าง อยู่ในคฤหาสน์ และมองไปที่เจ้าบ้านของตระกูลโจวโจวหยุนซานพร้อมพูดด้วยความโกรธ
“ลูกชายคุณต่างหากที่ระรานฉันไม่ปล่อย ดังนั้นแฟนของฉันเลยออกมือสั่งสอนเขา และทั้งหมดนี้ลูกชายของคุณมันสมควรโดนสั่งสอนเอง!”
ไม่รอให้โจวหยุนซานเอ่ยปากพูด โจวโน่ที่ยืนอยู่ด้านช้างก็ตะโกนตอบโต้หลินอ้าวอย่างเสียงดัง
“โน่เอ๋อ หยุดพูด!”
หลังจากที่โจวหยุนซานได้ยินดังนั้น ก็รีบตะโกนตำหนิโจวโน่ทันที
และทันใดนั้นเองโจวโน่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก และยืนอยู่ด้านข้างอย่างเชื่อฟัง
ใบหน้าของหลินอ้าวเต็มไปด้วยความมืดมน รวมไปถึงลูกชายคนโตที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าที่เยือกเย็น และเผยอำนาจความแข็งแกร่งที่ทรงพลังออกมา
โจวหยุนซานมองไปที่หลินจื่ออ๋าง และเขาก็รู้ว่าลูกชายคนโตคนนี้ของตระกูลมีอำนาจที่แข็งแกร่ง และไม่ใช่บุคคลที่จะยั่วยุหาเรื่องได้ง่ายๆ
“เจ้าบ้านหลิน เรื่องนี้ทางสองฝ่ายเราต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้อง และฉันก็ขอโทษลูกชายคุณแทนลูกสาวฉันด้วย แต่ว่าเรื่องนี้ลูกชายของคุณเป็นคนก่อเรื่องก่อน ดังนั้นฉันหวังว่าลูกชายของคุณอย่ามาระรานลูกสาวฉันอีก!”
หลังจากที่เงียบไปสักครู่ โจวหยุนซานก็ได้เสนอแนะ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
ในฐานะเจ้าบ้านของตระกูลโจว แน่นอนว่าโจวหยุนซานเองก็จะไม่ยอมไปประนีประนอมหลินอ้าวมากนัก
“โจวหยุนซาน คุณไม่ต้องพูดอะไรพวกนี้กับฉัน ฉันจะบอกคุณ วันนี้คุณจะให้ลูกสาวของคุณไปขอโทษลูกชายของฉันดีๆ หรือจะให้ตระกูลหลินของฉันกำจัดตระกูลโจวของคุณ!”
นิสัยของหลินอ้าวก็เย่อหยิ่งมากเช่นกัน เขาตบไปที่โต๊ะโดยตรง และข่มขู่ด้วยความโกรธ
ทันใดนั้นเอง โจวหยุนซานก็ขมวดคิ้ว และสีหน้าของเขาก็มืดมนลง เขาคาดไม่ถึงว่าหลินอ้าวจะเย่อหยิ่งขนาดนี้ ถึงกับเอ่ยปากบอกว่าจะกำจัดตระกูลโจวของตัวเอง ซึ่งไม่เอาตระกูลโจวของตัวเองไว้ในสายตาเขาเลย
“เจ้าบ้านหลิน คำพูดนี้ของคุณก็บ้าระห่ำเกินไปหรือเปล่า ตระกูลโจวของเราสามารถตั้งหลักอยู่ในโลกยู่ได้ ก็ไม่ใช่จะถูกรังแกได้ง่ายๆ!”
น้ำเสียงของโจวหยุนซานมืดลงทันที พร้อมตอบกลับเขาไปอย่างเย็นชา
“ฮึ!”
“ใช่เหรอ?ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากจะลองดู!”
หลินอ้าวส่งเสียงออกมาด้วยความรังเกียจ
พูดจบ หลินอ้าวก็ยกมือขึ้นมาแล้วโบกมือ ทันใดนั้นเองก็มีชายที่แข็งแกร่งในชุดดำหลายสิบคนพุ่งเข้ามาจากทางประตู
เมื่อเห็นเช่นนี้ สมาชิกของตระกูลโจวต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
“บังอาจ ที่นี่มันตระกูลโจว พวกคุณคิดว่าเป็นสถานที่ที่พวกคุณสามารถทำอะไรก็ได้เหรอ!”
โจวโน่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงเดินออกมา พร้อมกับจ้องมองและตะคอกใส่หลินอ้าวพวกเขา
หลินจื่ออ๋างก้าวเท้าออกมา และยืนอยู่ตรงหน้าของโจวโน่ พร้อมกับจ้องมองโจวโน่ด้วยสายตาที่รุนแรง
“โจวโน่ ฉันรู้ว่าน้องชายของฉันชอบคุณมาโดยตลอด และถ้าตอนนี้คุณยอมไปอยู่กับน้องชายฉันวันหนึ่งละก็ ฉันจะพิจารณาปล่อยตระกูลโจวของพวกคุณ มิฉะนั้น ฉันจะทำให้คุณและตระกูลโจวของคุณต้องชดใช้”
หลินจื่ออ๋างข่มขู่และให้เงื่อนไขกับโจวโน่หนึ่งอย่าง
“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”
โจวโน่เองก็ไม่ใช่คนประเภทที่อ่อนแอ จึงรีบตอบโต้หลินจื่ออ๋างกลับพร้อมกับสายตาที่เย็นชา
“ไม่ตกลง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจละกัน!”
หลินจื่ออ๋างปลดปล่อยอำนาจของตัวเองออกมา พร้อมกล่าวด้วยความโกรธ
“ถ้าคุณกล้าแตะต้องเส้นผมของเธอสักเส้นละก็ ฉันรับประกันว่าคุณไม่มีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้แน่!”
ทันทีที่หลินจื่ออ๋างพูดจบ ก็ได้ยินเสียงของเฉินเกอดังขึ้นมาจากด้านประตูของตระกูลโจว
“เฉินเกอ!”
และเมื่อโจวโน่ได้ยิน ก็อุทานขึ้นมาทันที
ทันทีที่พูดจบ เฉินเกอก็ปรากฏตัวขึ้น และเดินเข้ามาอย่างช้า ๆจากประตู พร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
และเมื่อเห็นเฉินเกอมา ในใจของโจวโน่เต็มไปด้วยความสุข
แต่ว่าสีหน้าของหลินจื่ออ๋างและหลินอ้าวได้เปลี่ยนเป็นสีแดงราวตับหมู
“แกเองเหรอที่ทำร้ายลูกชายของฉันจนบาดเจ็บสาหัส?”
หลินอ้าวจ้องไปที่เฉินเกอแล้วถามด้วยความโกรธ
เฉินเกอเหลือบมองไปที่หลินอ้าว และส่งเสียงฮึและพูดขึ้น:“ฉันเอง ลูกชายของคุณมันไม่เอาไหน ต้องท้าประลองตัวต่อตัวกับฉันให้ได้ ทำไมเหรอ?ตอนนี้แพ้แล้ว ก็เลยต้องหาคนมาออกหน้าให้เหรอ?ได้แค่นี้เหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินเกอ หลินอ้าวถูกกระทบโดยแทบจะกระอักเลือดออกมา
เขาคิดว่าไอ้หนุ่มคนนี้ทำไมถึงพูดจาได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ และทุกคำพูดของเขาก็จี้ใจและตรงจุดทุกคำ
ซึ่งนี่ก็คือความจริง ความจริงที่ว่าลูกชายของตัวเองแพ้การประลองกับคนอื่น แล้วเรียกคนที่บ้านมาออกหน้าให้ และถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปละก็โดนคนอื่นหัวเราะเยาะแน่
“ฮึ แกทำให้น้องชายฉันบาดเจ็บ เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะขอท้าประลองกับแก!”
หลินจื่ออ๋างเดินมาที่ตรงหน้าของเฉินเกอ แล้วจ้องมองเฉินเกอและกล่าว
“น้องชายคุณยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันเลย แล้วคุณคิดว่าคุณจะเป็นคู่ต่อสู้ฉันเหรอ?”
เฉินเกอมองไปที่หลินจื่ออ๋างอย่างดูถูกเหยียบหยามและกล่าว
หลินจื่ออ๋างกำหมัดแน่น จนเส้นเลือดที่แขนของเขาโผล่ออกมา และเขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะฉีกเฉินเกอให้เป็นชิ้นๆในทันที
“ทำไม?แกไม่กล้าเหรอ?”
หลินจื่ออ๋างจงใจกล่าวกระตุ้นเฉินเกอ
แน่นอนว่าเฉินเกอเองก็รู้ว่าหลินจื่ออ๋างกำลังกระตุ้นเขา แต่เขาก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเลย ในเมื่อคนเขาต้องการตาย แน่นอนว่าเฉินเกอต้องทำให้อยู่แล้ว
“ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไข ถ้าคุณแพ้ ก็พาสมาชิกของตระกูลหลินคุณออกไปให้พ้น และอย่าให้น้องชายของคุณมาระรานและตอแยโจวโน่อีก เป็นไง?”
เฉินเกอตอบตกลง แล้วตั้งข้อเสนอกับหลินจื่ออ๋าง
“ได้ แล้วถ้าแกแพ้ล่ะ?”
หลินจื่ออ๋างถามกลับ
“ถ้าฉันแพ้ ก็แล้วแต่พวกคุณจะทำอะไรกับฉันก็ได้!”
เฉินเกอเอ่ยปากพูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่ไม่แยแส
เพราะในสายตาของเฉินเกอ หลินจื่ออ๋างไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเองด้วยซ้ำ
จากนั้น เฉินเกอและหลินจื่ออ๋างก็เดินมาถึงที่หน้าประตู และคนอื่น ๆต่างก็เดินตามมาเช่นกัน แล้วยืนดูเขาทั้งสองคนต่อสู้กันอยู่ที่ประตู
โจวโน่เดินไปที่ด้านข้างของเฉินเกอ แล้วกระซิบเบาๆกับเฉินเกอว่า:“เฉินเกอ พี่ชายของหลินจื่อเจ๋หลินจื่ออ๋างอำนาจไม่อ่อนแอนะ คุณแน่ใจเหรอ?”
เฉินเกอส่งยิ้มให้โจวโน่เล็กน้อย:“วางใจเถอะ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก!”
เมื่อเห็นท่าทีและรอยยิ้มที่มั่นใจของเฉินเกอ โจวโน่ก็รู้สึกวางใจ เพราะเธอรู้ว่าเฉินเกอมีความมั่นใจแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีวันพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา
“ไอ้หนุ่ม คอยดูฉันหักกระดูกของแกให้ดี ๆ!”
หลินจื่ออ๋างจ้องมองไปที่เฉินเกอและพูดอย่างเย็นชา
“เหอะ คำพูดคุยใหญ่แบบนี้ใครก็พูดได้!”
เฉินเกอยิ้มเยาะอย่างเย็นชา และตอบโต้กลับไปด้วยท่าทีที่ไม่แยแส
บอกตามตรง จริง ๆแล้วหลินจื่ออ๋างไม่ได้เอาเฉินเกอไว้ในสายตาของเขาเลย เพราะว่าอำนาจและฝีมือของน้องชายตัวเองกับตัวเองนั้นแตกต่างกันมาก ดังนั้นไม่ได้แปลว่าเฉินเกอจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
“มา!”
หลินจื่ออ๋างตะโกนขึ้น จากนั้นเขาก็ออกตัว แล้วพุ่งเข้าไปทางด้านของเฉินเกออย่างไว การเคลื่อนไหวของเขาว่องไว และทรงพลังมาก