ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 376 การค้นพบอันยิ่งใหญ่
บทที่ 376 การค้นพบอันยิ่งใหญ่
“เรื่องมันยาว! แค่ประโยคสองประโยคคงอธิบายให้คุณฟังได้ไม่กระจ่างหรอก!”
เฉินเกอยิ้ม
ณ ตอนนี้ คนรับใช้สองสามคนเดินเข้ามาด้วยกิริยานอบน้อม เสิร์ฟต์ชาให้สวี่หยางหยางและหูฮุ่ยหมิน
“เฉินเกอ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าเธอกับประธานจูเจียงเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่ว่าเธอก็รู้ว่า ตอนนี้พวกเรากำลังเจอเรื่องเดือดร้อนอย่างมาก ถ้าเธอช่วยได้ ฉันก็หวังว่าเธอจะช่วยพวกเรา!”
หูฮุ่ยหมินกล่าว
สวี่หยางหยางพยักหน้าอย่างหนักแน่น : “เฉินเกอ ฉันขอโทษเธอด้วย หลังจากเรื่องนี้ เธอจะทำอย่างไรกับฉันก็ได้ ช่วยพวกเราด้วยนะ!”
“ก็ได้ เรื่องนี้ผมจะพูดกับประธานจูเจียงเอง แต่หลังจากจบเรื่องแล้ว ผมต้องได้ในสิ่งที่ผมต้องการด้วยนะ!”
เฉินเกอมองพวกเขาแล้วยิ้มให้
แน่นอน ถ้าเกิดตอนแรกสุด หูฮุ่ยหมินมีท่าทีเย็นชากับตัวเอง ถ้าเกิดเห็นว่าพวกเขามีเรื่องเดือดร้อนจริงๆ แล้วเฉินเกอช่วยได้ เขาก็ต้องช่วยอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ล่ะ เฉินเกอมีท่าทีสบายๆกับพวกเขา
โดยเฉพาะสวี่หยางหยาง
เพียงแต่ พวกเขามาเข้าพบหัวหน้าของจูหมิง ก็เท่ากับมาเข้าพบหัวหน้าของตัวเอง
เฉินเกอไม่มีทางปฏิเสธเด็ดขาด
เพียงแต่ถ้าคิดจะให้เฉินเกอช่วย ย่อมมีเงื่อนไข!
“คุณบอกมาสิ คุณต้องการอะไร?”
เฉินเกองับนิ้วเล่น
ผ่านไปครู่หนึ่งสวี่หยางหยาง และ หูฮุ่ยหมินก็ออกไป
หลังจากที่ออกไปแล้ว ก็ไม่พูดอะไรกับเฉินจุนเหวินและหลี่เหวินเทาสักคำ มองหน้าพวกเขาแล้วก็เดินจากไป
ทำเอาเฉินจุนเหวินและหลี่เหวินเทาได้แต่ทำหน้างงๆ แต่ก็เดินตามออกไป
รอให้เรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้นลง
จูหมิงก็เข้ามาหาเฉินเกอ
เรื่องของสวี่หยางหยาง ละสิ จะว่าเป็นเรื่องสำคัญก็ใช่ จะว่าไม่สำคัญก็ได้
ไม่เคยกลัวว่ามีตระกูลซือถูให้การสนับสนุนตระกูลเมิ่ง อยู่เบื้องหลัง แต่ไม่จำเป็นต้องออกหน้า จึงมอบให้จูหมิงรับหน้าที่แทน
ที่เฉินเกอมาในวันนี้ มีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งสำคัญมากกว่า
“คุณชายเฉิน การค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ พวกเราพบเบาะแสจากแม่บ้านคนสนิทของฟางเมิ่งซินในตอนนั้นแล้ว! ตามที่พวกเราใช้เงินจำนวนมากสืบสวนเบื้องหลังพบว่า เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ฟางเมิ่งซิน ออกไปจาก ตระกูลฟาง เพราะเกิดเรื่องขัดแย้งกันใหญ่โต!”
“ตอนแรก แม้แต่แม่บ้านคนสนิทของเธอ ก็ต้องออกไปด้วยกัน อีกอย่าง หอบทารกน้อยที่เพิ่งอายุครบหนึ่งเดือนออกไปด้วยนะ!”
จูหมิงเล่า
ได้ฟังถึงตรงนี้ เฉินเกอนั่งหลังตรงทันที
นี่สิถึงจะเป็นเงื่อนงำที่สำคัญ
ทารกที่อายุเพิ่งจะครบเดือน? ใช่ซูเฉียงเวยหรือเปล่า?
จากนั้นเฉินเกอให้จูหมิงเล่าในรายละเอียด
ที่แท้
เฉินเกออยู่ที่จินหลิง ให้หลี่เจิ้นกั๋วตรวจสอบเรื่องนี้ หลี่เจิ้นกั๋วได้แจ้งกับจูหมิงไว้ ให้เขาช่วยตรวจสอบอีก
แน่นอน จูหมิง ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ
เกือบจะโยกย้ายทรัพย์สินมูลค่าร้อยล้าน เข้าไปทั้งหมด เพื่อกว้านหาคนที่ชื่อเมิ่งซินคนนี้
สุดท้าย ได้ข้อมูลของตระกูลฟางมาแค่นิดหน่อย
ส่วนเบาะแสของแม่บ้านคนสนิทของ ฟางเมิ่งซิน ก็คือที่เมื่อวาน ชายคนหนึ่งติดต่อเขาเข้ามาแจ้งไว้แล้ว
ชายคนนี้ เคยเปิดกิจการโรงแรมแห่งหนึ่ง
เขาจำได้แม่น
คืนนั้นเมื่อยี่สิบสองปีก่อน ฝนตกหนัก ฟ้าแลบฟ้าร้อง
ภาพเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนอุ้มเด็กทารกคนหนึ่งมา
ตอนนั้นท่าทีของพวกเขาสองคนดูรีบร้อน ผู้หญิงคนที่อุ้มเด็กทารก เปียกโชกไปทั้งตัว แต่เสื้อผ้าของเด็กทารกกลับแห้งสนิท อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นสวยมาก
ผ่านไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ชายชราหวนนึกกลับไปชมไม่ขาดปาก ว่าเกิดมาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่คนที่มากับเธอ เป็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุราวๆสามสิบปี
เรียกเธอว่าคุณผู้หญิงตลอด
พวกเธอมาแบบรีบร้อน บอกว่าต้องการที่พัก เปิดห้องให้เธอสักห้องหนึ่งก็พอ แต่สิ่งที่ทำให้ชายชราประหลาดใจก็คือ เธอบอกว่าพวกเธอไม่มีเงินเลย
แต่ว่าช้าที่สุดรอจนพรุ่งนี้ตอนบ่าย จะมีคนส่งเงินมาให้ บอกให้ชายชราไม่ต้องเป็นห่วง
แต่ชายชราเพิ่งเปิดกิจการ ตอนนั้นอายุประมาณสี่สิบปี นับว่าเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง
ยอมได้ที่ไหนกัน
เมื่อเห็นท่าทางไม่อ่อนข้อ ผู้หญิงสวยที่อุ้มเด็กทารกไว้หยิบจี้หยกชิ้นหนึ่งออกมาให้ชายชรา
โชคดีที่ตอนนั้นชายคนนี้สะสมของเก่าเป็นงานอดิเรก พอเห็นหยกชิ้นนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่ามีค่ามาก
อีกทั้งบนนั้นสลักคำว่าเมิ่งซินสองตัวเอาไว้อย่างชัดเจน
ทำให้เขารู้สึกได้ว่า ผู้หญิงสองคนนี้คงจะมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา
คงไม่กล้าทำเรื่องเลวร้ายแน่
ดังนั้นจึงรับปาก
จูหมิงบอกว่าเมื่อวานชายชราเล่าให้ฟังอย่างชัดเจน เพราะคืนวันนั้น หลังจากที่ได้จี้หยกมาแล้ว เขาติดต่อเพื่อนสองสามคนให้เข้ามาดู แล้วคิดที่ครอบครองมันเอาไว้เอง
แต่เพื่อนของเขาเตือนว่า เจ้าของหยกล้ำค่าชิ้นนี้ ถ้าปล่อยไปได้ก็ปล่อยให้เขาไปเถอะ
ชายชราจึงต้องยอมแพ้
สรุปแล้ว ก็รอจนกระทั่งเวลาบ่ายสองของวันรุ่งขึ้น
ในที่สุดชายหนุ่มคนหนึ่งก็มาถึง
เอาเงินมาให้ฟางเมิ่งซินจำนวนมาก
และตอนนั้นฟางเมิ่งซินก็นำจี้หยกของตัวเองกลับคืนไป ผู้หญิงสองคนก็ออกไป
หลังจากนั้นเจ็ดวัน ชายชราไม่คิดว่าผู้หญิงจะกลับมาอีก
เพียงแต่ครั้งนี้ ผู้หญิงสวยคนนั้นที่อุ้มเด็กทารกไม่ได้มาด้วย
เป็นผู้หญิงคนนั้นที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ
พบกันครั้งนี้ ทำให้ชายชรารู้สึกตกใจ
เมื่อเจ็ดวันก่อน ผู้หญิงคนนี้ใบหน้าแดงระเรื่อ แต่ดูตอนนี้ ผอมหนังหุ้มกระดูก ใบหน้าขาวซีด ราวกับผีไม่ปาน
เธอบอกว่าเธอขอพักอยู่ที่นี่หนึ่งคืน
แถมยังเอ่ยถามถึงอำเภอหงเซี่ยนด้วย
ชายชรารู้จักสถานที่นั้นเป็นอย่างดี ครอบครัวของลูกสะใภ้พวกเขาก็อยู่ที่ อำเภอหงเซี่ยน
ดังนั้นจึงพยักหน้า
ผู้หญิงคนนั้นเอาเงินจำนวนมากให้ชายชรา นั่นแปลว่าเช้าวันรุ่งขึ้น ชายชราต้องพาผู้หญิงคนนั้นไปที่อำเภอหงเซี่ยนด้วยตัวเอง
เท่าที่สอบถามเธอระหว่างทาง เธอบอกว่าจะไปอาศัยอยู่กับญาติคนหนึ่ง
ชายชราจึงพาเธอไปส่งที่บ้านญาติคนนั้น
และเพราะเหตุนี้ ผู้หญิงคนนั้นให้เงินเขาหนึ่งแสน เป็นการขอบคุณเขา
เงินหนึ่งแสน ในตอนนั้น ไม่ใช่เงินที่น้อยเลย
เรื่องนี้ ชายชราจดจำได้ฝังใจ
สามารถนึกย้อนกลับไปเล่าทุกรายละเอียดได้ตั้งแต่เริ่มต้น
ส่วนจี้หยกที่จูหมิงให้เขาดู เขายืนยันว่า เป็นจี้หยกที่ผู้หญิงสวยท่านนั้นให้เขาไว้
เขานอนกอดมันไว้ทั้งคืน ทำไมจะจำไม่ได้
“คุณชายครับ เขาบอกที่อยู่ของญาติแม่บ้านคนสนิทในตอนนั้นกับพวกเราแล้วครับ เมื่อคืนผมส่งคนไปค้นหา ปรากฏว่าครอบครัวนั้นย้ายบ้านไปแล้ว พื้นที่นั้นถูกรื้อถอนไปแล้วด้วย แต่ว่าท่านไม่ต้องเป็นห่วง ภายในหนึ่งวัน ผมจะตามหาเบาะแสของครอบครัวนั้นมาให้ได้!”
จูหมิงบอก
เฉินเกอพยักหน้า : “ประธานจูเจียง เรื่องนี้ต้องรบกวนคุณแล้วครับ!”
ว่ากันตามจริง ความสามารถในการจัดการของจูหมิง เฉินเกอเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
เฉินเกอรู้สึกว่า เขาใกล้จะพบ ฟางเมิ่งซินมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว และแม่แท้ๆของเฉียงเวย กำลังจะหาเจอแล้ว
รอให้ถึงตอนนั้น ตัวเองคงจะเข้าใจอะไรๆขึ้นมากว่า ฟางเมิ่งซินกับพ่อของตัวเองเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับคุณชายเฉิน ผมไม่รู้ว่าท่านตามหาฟางเมิ่งซินด้วยเรื่องอะไร และไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เพียงแต่มีบางอย่าง ที่ผมต้องรายงานให้ท่านทราบก่อน!”
จู่ๆจูหมิง ก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา
“เรื่องอะไรหรือ?”