ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 336 รีบไปสนามบิน
บทที่ 336 รีบไปสนามบิน
เฉินเกอรออยู่ที่ข้างนอกด้วยความกระวนกระวาย
ผ่านไปสักพัก ก็เห็นท่านฉินและหมอเทวดาหูออกมาแล้ว
แต่ว่าครั้งนี้สิ่งที่ทำให้เฉินเกอรู้สึกแปลกคือ หมอเทวดาหูเหมือนจะเคารพท่านฉินมาก อีกแค่นิดเดียวก็เกือบจะควงแขนท่านฉินแกมาแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง?”
เฉินเกอถาม
“เฮอะเฮอะ พอจะโอเคแล้ว เข้าไปดูเถอะ!”
ท่านฉินพูด
เฉินเกอเดินเข้าไปดู สีหน้าขอซูเฉียงเวยดีขึ้นไม่น้อยเลย เริ่มมีสีแดงอมชมพูแล้ว
“เฉินเกอ นายไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว คุณปู่ฉินมีทักษะการแพทย์สูงมาก!”
ซูเฉียงเวยก็กลัวว่าเฉินเกอจะเป็นห่วงตัวเอง
“งั้นก็ดีแล้ว!”
เฉินเกอโล่งอกสักที
ถึงจะวางใจลงได้
“ท่านลุงฉิน รบกวนนายแล้ว!”
เฉินเกอหยักหน้าขอบคุณฉินอีฝาน
ช่วยตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้ว่าตอนแรกจะรู้สึกรำคาญท่านลุงนี้มาก แต่ว่าตอนนี้ เฉินเกอรู้สึกขอบคุณมากๆ
“ไม่รบกวน ไอ่หลานโต ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว พวกเราไปกันเถอะ?”
สิ่งที่ฉินอีฝานพูดคือพาเขากลับไปที่บ้านเกิดเมืองฉู่ชวน
พูดว่าไปเมืองฉู่ชวน
สีหน้าของเฉินเกอมีความแย่ลง
ตัวเองยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้จัดการ ตอนนี้ซูมู่หานกำลังเข้าใจตัวเองผิดอยู่ แล้วยังโกรธไม่ยอมฟังตัวเองอธิบาย นี่จะทำยังไงดีล่ะ
“รออีกแป๊บหนึ่ง รอฉันจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ พวกเราก็ไปกัน!”
หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็ให้ซูเฉียงเวยพักผ่อนก่อน
จากนั้นก็ออกไปคุยโทรศัพท์แล้ว
แต่ว่าโทรติดต่อกันไปหลายรอบมาก ซูมู่หานตัดสายทิ้งตลอดเลย
เฮ้อ!
“มู่หาน รับสิ ทำไมไม่รับเนี่ย? ไม่แน่เขาอาจจะเปลี่ยนแล้วก็ได้!”
ณ บ้านซู
พวกซูเหมิงเหมิงนั่งอยู่ด้วยกัน คนที่ดูทีวีก็ดูทีวี คนที่กินขนมก็กินขนม พอเห็นซูมู่หานวางสายด้วยความโกรธ ซูเหมิงเหมิงที่กินขนมอยู่ ก็ช่วยพูดปลอบ
“ไม่รับ!”
ซูมู่หานนำโทรศัพท์ไปไว้ข้างๆ
กำลังประชดประชันอยู่
ติ้งตอง…..
จู่ๆ กริ่งประตูก็ดังขึ้น
ซูมู่หานนั่งลง
ใช่สิ พ่อแม่ของตัวเองไม่อยู่บ้าน ตอนนี้คนที่จะมาได้ จะเป็นใครไปได้อีก?
เป็นเฉินเกอแน่นอน
เรื่องบางอย่างที่โกรธก็เอาไปไว้ส่วนโกรธ แต่ว่าซูมู่หานจะไม่อยากเจอเฉินเกอได้อย่างไรล่ะ
แต่ว่าคนที่ไปเปิดประตูคือซูเหมิงเหมิง
“เฮอะ นายยังรู้จัก….อืม? ทำไมถึงเป็นเธอ?”
หลังจากที่ซูเหมิงเหมิงเปิดประตูแล้ว
ก็พูดด้วยสีหน้าที่แย่มาก
“คุณผู้หญิงซูมู่หานอยู่ไหมคะ? ฉันอยากคุยกับเธอหน่อยค่ะ!”
ข้างนอก มีเสียงอันงดงามของผู้หญิงดังขึ้น
และผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน คือฉินหยา
“เธอมาทำไม?”
สำหรับฉินหยาแล้ว แน่นอนว่าซูมู่หานไม่มีความรู้สึกดีกับเธอแม้แต่ครึ่งเลย
สิ่งที่มี คือความเกลียดทั้งหมด
ถึงแม้ว่าเฉินเกอจะไม่มีความสัมพันธ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับเธอจริงๆ แต่ว่า ทำไมเธอถึงควงแขนเฉินเกอล่ะ ทำไมเฉินเกอถึงต้องหมั้นกับเธอล่ะ
“คุณผู้หญิงซูมู่หาน ฉันอยากคุยกับคุณสองต่อสอง ได้ไหมคะ?”
ฉินหยาพูด
วันนี้ตอนที่เธอกลับไป ไม่ว่ายังไงก็รู้สึกไม่สบายใจ
ฉะนั้น เธอก็เลยอยากจะคุยกับซูมู่หาน
“คุยอะไร คุณสามารถพูดได้เลย!”
ทั้งสองมาถึงข้างสวน
“ฉันพูดตรงๆ เลยละกัน ถึงแม้ว่าตามหลักความคิดของฉันแล้ว หากคุณกับเฉินเกอเลิกกันจริงๆ สำหรับฉันแล้วเป็นเรื่องที่ดี ฉันก็ไม่ปิดบังคุณ ฉันชอบเฉินเกอ เป็นเรื่องจริง และเคยจีบเขามาก่อน!”
ฉินหยาพูด
ซูมู่หานหันศีรษะไปอีกข้างหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“แต่ว่า เพราะว่าฉันชอบเขา ฉันถึงได้ดูออก เขารักคุณมากขนาดไหน เป็นเรื่องจริง ตั้งแต่ต้นจนจบ หัวใจที่เขามีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนเลย ไม่ว่าฉันจะดีกับเขายังไง เขาก็ไม่แหงนมองเลย ฉันคิดว่า หากคุณเข้าใจผิดเพราะพวกเราสองคน แล้วทำให้พวกคุณต้องเลิกกัน เขาจะต้องเสียใจมาก และเจ็บปวดมาก เพราะว่าเขาที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ครั้งนี้ เขากำลังช่วยฉันอยู่จริง! ไม่ได้ทำเรื่องที่รู้สึกผิดกับ86I!”
ฉินหยาเงยหน้ามองซูมู่หานแล้วพูด
จากนั้นก็นำเรื่องที่ผ่านมาในช่วงนี้เล่าให้ซูมู่หานฟัง เป็นประสบการณ์ของตัวเองและเฉินเกอ
ส่วนซูมู่หานเองก็คิดไม่ถึงว่าช่วงเวลาเหล่านี้จะมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับเฉินเกอ
แต่พูดตามความจริงแล้ว เฉินเกอช่วยเหลือฉินหยามาหลายครั้ง ทำให้ในใจของซูมู่หานเองก็รู้สึกมีความหึงหวงเล็กน้อย
แต่พอคิดไปคิดมา เฉินเกอก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนิ
“ความหมายของคุณฉันฟังเข้าใจแล้ว ก็คือคุณผ่านอะไรมากับเฉินเกอมากมาย ประประสบการณ์ที่ฉันผ่านมากับเฉินเกอน้อยใช่ไหม?”
ซูมู่หานถามอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้ แต่ว่าในเมื่อคุณพูดแบบนี้แล้ว งั้นเธอก็สามารถลองคิดดูได้ ตั้งแต่ที่คุณคบกับเฉินเกอมาก เคยทำอะไรเพื่อเฉินเกอมาบ้าง? ในตอนที่เขาเจอความยากลำบาก คุณอยู่ที่ไหนล่ะ?”
ฉินหยาไม่ได้มีความหมายอื่น แค่อยากจะนำคำพูดทั้งหมดพูดออกมา
คุณเคยทำอะไรเพื่อนเฉินเกอบ้าง?
ในตอนที่เขาลำบาก คุณอยู่ที่ไหน?
สองประโยคนี้ ทำให้ซูมู่หานพูดไม่ออก
ใช่แล้ว ตอนแรกแค่รู้สึกว่าคบกับเฉินเกอ ทั้งสองจะต้องเดินทางที่ยาวไกล แต่ว่าซูมู่หานไม่เคยคิดเลยว่าจะทำอะไรเพื่อเฉินเกอ
เฉินเกอช่วยเหลือตัวเอง ปกป้องตัวเองมาโดยตลอด
ตัวเองกลับไม่เคยให้อะไรเขาเลย ครั้งนี้กลับมา ยังไม่แยกถูกผิดไปเข้าใจเขาผิดอีก
เขาจะต้องยุ่งมากๆ แต่ว่าตัวเองยังต้องทำให้เขาสับสนวุ่นวายอีก
หลังจากพูดคุยกับฉินหยาเรียบร้อยแล้ว ซูมู่หานก็กลับไป
ทั้งเย็นนี้ ซูมู่หานไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนๆ เลย แต่ว่าอยู่ในห้องอย่างอึดอัดไม่มีความสุข
ทำให้พวกซูเหมิงเหมิงเป็นห่วงเธอมาก
“มู่หานเป็นอะไรกันแน่เนี่ย? พูดหญิงคนนั้นมาพูดอะไรกับมู่หานหรือเปล่า? ไม่ว่ายังไงแล้วพวกเขาก็คุยกันเกือบชั่วโมงเลย ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ!”
“ใช่แล้ว ตั้งแต่กลับมาก็เป็นแบบนี้เลย!”
ซูเหมิงเหมิงกินขนมอยู่
“เออ ไป เราไปถามด้วยกัน ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ พวกเราก็ไปคิดบัญชีกับยัยที่ชื่อฉินหยานั่น!”
เพื่อนๆ ต่างก็มาถึงหน้าประตูห้องของซูมู่หาน
“มู่หาน เธอเปิดประตูสิ เปิดประตูออก!”
ซูเหมิงเหมิงพูดด้วยความเป็นห่วง
ในไม่ช้า ประตูก็ถูกเปิดออก
แต่ว่าหลังจากที่ทุกคนเห็นแล้ว ก็มีความสงสัยเล็กน้อย
เพราะว่าซูมู่หานเก็บของเรียบร้อยแล้ว
“มู่หาน เธอทำอะไร พวกเรายังกลับมาไม่ถึงวันเลย นี่เธอ?”
หวูเหวินเหวินถาม
“อืมอืม พวกเรากลับก่างเต่าเถอะ!”
มู่หานพูด
“ห๊ะ? ตอนนี้หรอ?”
ทุกคนตกใจหันหมด “แต่ว่ามู่หาน เฉินเกอจะทำอย่างไร? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้กลับมา ก็เพราะว่าอยากจะมาเจอเขา พูดคุยกับเขา ตอนนี้ถึงแม้ว่าพวกเธอสองคนจะเข้าใจผิดต่อกัน แต่ฉันรู้สึกว่า เฉินเกอไม่ได้ทำเรื่องแบบผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นนะ!”
“ฉันรู้ ฉันรู้ว่าเฉินเกอไม่มีทางทำ แต่ว่าฉันอยากกลับก่างเต่าแล้ว!”
ซูมู่หานพูดพร้อมดวงตาที่แดง
เมื่อกี้เธอคิดทบทวนไปมาเยอะมาก
ใช่สิ ครั้งนี้ตัวเองไม่ได้จะไปเกลียดเฉินเกอจริงๆ แค่อยากให้เขามาปลอบใจตัวเอง ง่ายๆ แค่นี้แหละ
แต่ว่า คำพูดที่ฉินหยาพูด ก็ไม่ใช่เรื่องที่ซูมู่หานจะไม่เคยคิด
ตัวเองทำอะไรเพื่อเฉินเกอไม่ได้ อยู่ข้างๆ เขา ได้แต่เป็นตัวถ่วงของเขา ฉะนั้นซูมู่หานจะกลับไป พยายามเติมเต็มตัวเอง
มีแต่แบบนี้ ถึงจะทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้เท่าเทียมกัน
เพื่อนๆ ต่างก็ไม่พูดอะไรแล้ว รีบเก็บกระเป๋าเดินทาง แล้วกลับไปพร้อมมู่หาน
มีเพียงแต่ซูเหมิงเหมิงที่แอบเอากระเป๋าออกมา ส่งข้อความให้เฉินเกอ
“รีบไปสนามบิน มู่หานจะไปแล้ว!”