ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี! - ตอนที่ 171 การค้นพบที่น่าตกใจบนรถอีกแล้ว
บทที่ 171 การค้นพบที่น่าตกใจบนรถอีกแล้ว
เฉินเกอบอกกับไป๋หลางให้ถือโอกาสนี้พาผู้หญิงสามคนนั้นมาด้วย!
ก็แค่จะขู่พวกเธอนิดหน่อย ทำให้พวกนั้นเลิกเสแสร้งก็พอ ถึงยังไงเฉินเกอะก็ไม่ได้คิดจะเอาพวกเธอมาโยนทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ
แถมเด็กหนุ่มผมขาวนั่น ก็คือไป๋หลางบอดี้การ์ดมือหนึ่งของจ้าวจื่อซิ่งเหมือนกับหลี่เฟยหงที่คอยตามรับใช้หลี่เจิ้นกั๋วไม่ห่าง เป็นคนที่จ้าวจื่อซิ่งพามาจากฮ่องกงด้วย
“คุณจ้าว พวกเธอออกมาแล้ว ผมไม่สะดวกพบผู้หญิงพวกนั้น ผมคงต้องขอตัวก่อน เตรียมรถไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
เฉินเกอหันไปถามจ้าวจื่อซิ่งที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ
“เตรียมไว้หมดเรียบร้อยแล้วครับคุณชายเฉิน! ทางนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไป๋หลาง! เขาจะพาพวกคุณหนูหม่าไปส่งที่โรงเรียนอย่างปลอดภัยครับ”
ทันใดนั้นรถบ้านคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ข้างๆ เฉินเกอถึงได้เช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผาก แล้วหมุนตัวเดินขึ้นรถบ้าน ออกจากสถานที่แห่งนี้ไปพร้อมกับจ้าวจื่อซิ่ง
เมื่อครู่ หลังจากที่ค้นหาสถานที่จนแน่ชัด เฉินเกอให้หลี่เจิ้นกั๋วไปคอยจับตาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไห่ชานกรุ๊ปพร้อมกับตำรวจ ส่วนเขารีบขึ้นรถมากับจ้าวจื่อซิ่ง
ใครจะไปมีกะจิตกะใจนั่งรถบ้านที่จ้าวจื่อซิ่งเตรียมมาให้กัน
ตอนนี้ได้เห็นหม่าเสี่ยวหนานปลอดภัยแต่ยังตกใจนิดหน่อย ภูเขาในใจของเฉินเกอ ก็เหมือนถูกยกออกในที่สุด…
“เสี่ยวหนาน เสี่ยวหนาน ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? คนพวกนี้เธอเป็นคนเรียกมาหรอ?”
ผู้หญิงทั้งสี่คนเดินออกมา
ตู้เยว่หันไปที่หม่าเสี่ยวหนานด้วยสายตานับถือ
เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็มาเพื่อช่วยเหลือหม่าเสี่ยวหนาน
อีกอย่างสถานการณ์แบบนั้น ก็ทำให้คนตะลึงงงงวย
รถไมบัคที่มาทีเดียวพร้อมกันหกคัน
ไหนจะรถMPVระดับไฮเอนด์
ที่ด้านล่าง ยังมีบอดี้การ์ดที่ต่างจากบอดี้การ์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดประมาณสิบยี่สิบคนยืนเฝ้าอยู่
ที่ปรึกษาเมิ่งไฉ่หรูนี่จะเทพไปหน่อยมั้ง ตอนนั้นที่มีก็แค่รถโรลส์รอยซ์ไม่กี่คัน
ยิ่งไปกว่านั้นคือทีมบอดี้การ์ดครั้งนี้ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยเฉพาะพ่อหนุ่มผมขาวนั่นที่เท่ระเบิดไปเลย
หานเฟยเอ๋อกับเมิ่งไฉ่หรูต่างมองไปที่หม่าเสี่ยวหนานด้วยความสงสัย
“ห้ะ? ฉันไม่รู้เรื่อง คนพวกนี้ฉันไม่รู้จักสักหน่อย! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
หม่าเสี่ยวหนานตั้งคำถามขึ้น
“เอ่อพี่ชายคะ ขอถามหน่อยได้ไหมว่าใครเป็นคนส่งพี่มาช่วยพวกเรา?” เมิ่งไฉ่หรูอดถามขึ้นไม่ได้
ไป๋หลางยังคงมีสีหน้านิ่งสงบ ราวกับไม่ได้ยินอะไรแบบนั้น
เมิ่งไฉ่หรูจึงหันไปส่งซิกกับหม่าเสี่ยวหนานให้เธอเป็นคนถาม
“พี่คะ ใครเป็นคนส่งพี่มาช่วยพวกเราคะ เผื่อวันหน้ามีโอกาสพวกเราจะได้ขอบคุณเขา!”
หม่าเสี่ยวหนานจึงถามออกไป
“คุณหนูหม่า เบื้องบนของผมสั่งมาว่าไม่ให้เผยสถานะของบุคคลนั้น เพราะอย่างนี้ต่อให้เป็นกับคุณหนู ผมก็ไม่สามารถบอกได้!”
ไป๋หลางมีท่าทีเคารพหม่าเสี่ยวหนานอย่างมาก
“อ้ะ! ฉันนึกขึ้นได้แล้ว หรือว่าเป็นเฉินเกอคนนั้น?”
จู่ตู้เยว่ก็นึกขึ้นมาได้จึงร้องออกมา
“เฉินเกอ?”
หานเฟยเอ๋อและเมิ่งไฉ่หรูต่างก็ผงะไปพร้อมๆกัน
“จริงสิ พวกเธอลองคิดดูนะ ถึงแม้ว่าเมื่อกี้พวกเราจะอยากโทรศัพท์ แต่ว่ามีแค่เสี่ยวหนานคนเดียวที่ได้ออกไป แล้วเสี่ยวหนานก็โทรไปหาแค่เฉินเกอไม่ใช่หรอไง? นั่นก็หมายความว่ามีแค่เฉินเกอที่รู้ว่าพวกเราเกิดเรื่อง!”
ตู้เยว่ค่อยๆวิเคราะห์ สีหน้าของเธอไม่อยากจะเชื่อและไม่ค่อยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่
ส่วนหานเฟยเอ๋อกับเมิ่งไฉ่หรูยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“จะเป็นไปได้ไง ต่อให้เธอจะโทรไปหาเฉินเกอ แต่หมอนั่นจะมีปัญญาเอาบอดี้การ์ดชั้นหนึ่งเยอะขนาดนี้มาหรอ? นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด!”
หานเฟยเอ๋อว่า
เมิ่งไฉ่หรูหันไปมองหม่าเสี่ยวหนานอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวหนาน เธอลองคิดให้ดีๆสิ แน่ใจนะว่าคนที่โทรไปหาเป็นเฉินเกอจริง? หรือว่าเธอกดเบอร์ผิดแล้วโทรไปหาคนอื่น คนในครอบครัวของเธอมีใครรู้จักกับคนมีเส้นสายใหญ่โตหรือเปล่า?”
แน่นอนว่าพวกเธอตื่นเต้นกันใหญ่
เพราะปกติเมิ่งไฉ่หรูกับหานเฟยเอ๋อดูถูกเฉินเกออย่างกับอะไรดี
ถ้าตอนจบเฉลยออกมาว่าจริงๆแล้วเฉินเกอเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง งั้นพวกเธอก็จะชิงฆ่าตัวตายก่อนเลย
และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นเมื่อเมิ่งไฉ่หรูได้หยิบพาวเวอร์แบงค์ของตัวเองออกมาจากรถของหลี่เฟยหงได้ ก็ทรมานตัวเองด้วยการไม่นอนตลอดทั้งคืน
“ตอนนั้นมันวุ่นวายไปหมด ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าได้โทรหาเฉินเกอหรือเปล่า แต่ในบันทึกการโทร เบอร์แรกก็เป็นเบอร์ของเฉินเกอ ส่วนเบอร์ที่สองเป็นเบอร์พี่สาวที่โทรมาหาฉันเมื่อเช้า ถ้าจะบอกว่ามีคนที่รู้จักที่มีเส้นสายก็อาจจะเป็นพี่นั่นแหละ เพราะเธอเป็นรองผู้จัดการบริษัทการค้าระหว่างประเทศ! แถมรู้จักคนเยอะมากด้วย!”
หม่าเสี่ยวหนานขบคิดเรื่องราว
“อืม ถ้างั้นก็พอจะเข้าเค้าหน่อย เธอต้องกดผิดไปกดโทรหาพี่สาวแน่ๆ จากนั้นพี่สาวเธอก็รู้เรื่องนี้ถึงได้รีบส่งคนมา คนพวกนี้อาจจะเป็นกองกำลังเสริมของตำรวจ หรืออาจจะเป็นคนของผู้มีอำนาจบางคนก็ได้!”
เมิ่งไฉ่หรูก้มหน้าวิเคราะห์เสียงต่ำ
“พวกเราทายถูกไหมคะ? พี่ชายเย็นชา?”
ทุกคนต่างเห็นด้วยกับความคิดนี้ หานเฟยเอ๋อจึงถามไป๋หลาง
ไป๋หลางยังคงมีสีหน้านิ่งเรียบ ตอนนี้เขาได้เปิดประตูรถไมบัคออก หรือก็คือเป็นคันที่เฉินเกอและจ้าวจื่อซิ่งนั่ง แล้วพูดขึ้น “ผมจะไปส่งพวกคุณที่โรงเรียน ขึ้นรถ!”
“เหอะๆ ไม่ยอมพูดอะไรสักอย่าง งั้นก็แสดงว่าพวกเราทายถูกสินะ!”
ตู้เยว่ว่า
“พี่ชาย ฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม? ฉันอยากโทรหาพี่หน่อย!”
และหม่าเสี่ยวหนานเองก็เชื่อด้วยเช่นกัน
“ครับ คุณหนูหม่า!”
ไป๋หลางยื่นโทรศัพท์ให้หม่าเสี่ยวหนานอย่างนอบน้อม จากนั้นสาวๆทั้งหมดก็ขึ้นรถ
“ฮัลโหล พี่คะ เป็นพี่ใช่ไหม? อือ นี่เสี่ยวหนานเอง!”
“อ้ะ? เป็นพี่ที่ส่งคนมาช่วยเราจริงๆด้วย?”
“พี่โทรไปหาตำรวจสอบสวนแล้วนะ คนของพวกตำรวจไปถึงที่นั่นเร็วขนาดนั้นเลยหรอ? แหะๆ เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ เธอไม่รู้หรอกเมื่อกี้ตอนที่พี่โทรศัพท์ ไม่ว่าจะหายังไงก็หาเธอไม่เจอ ก็เลยโทรไปหาที่ปรึกษาของพวกเธอ แต่ก็โทรไม่ติดอีก พี่ห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ พี่ก็เลยส่งวีแชทไปหาเพื่อนร่วมห้องของคนที่ชื่อเฉินเกออะไรนั่นให้ช่วยถามเขาให้หน่อย เฉินเกอบอกว่าเธอถูกลักพาตัว!”
เสียงร้อนรนของพี่ดังออกมาจากปลายสาย
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมพี่ถึงได้รู้จักเฉินเกอ? คงเป็นเพราะพี่รู้จักคนเยอะแยะไปทั่ว ไม่งั้นเมื่อก่อนนี้ที่เฉินเกอมีงานพาร์ทไทม์ทำ มีเงินมาซื้อเสื้อผ้าซื้อโทรศัพท์ให้หยางเสว่ได้จะมาจากไหนล่ะ
ถ้าไม่ใช่เพราะหม่าเสี่ยวหนานขอให้พี่ช่วยหางานให้เฉินเกอกับหยางฮุยทำ
หรือพี่อาจจะให้เฉินเกอมาช่วยงานตัวเองบ้างในบางครั้ง เพราะได้เจอครั้งสองครั้งก็กลายเป็นว่ามีวีแชทของพวกเขาไปแล้ว
“อ้ะ? แบบนี้เองหรอคะ พวกเราไม่เป็นไรแล้วค่ะ พวกเขากำลังจะพาเราไปส่งที่โรงเรียนค่ะ!”
“โอเค งั้นเธอไปพักเถอะ รอพรุ่งนี้พี่จะไปหา ใกล้ถึงเวลาที่เธอจะต้องฝึกงานแล้วนี่ เรื่องทำงานน่ะ พี่ต้องคุยกับเธอสักหน่อย!”
“อือ เข้าใจแล้วค่ะ พี่เองก็รีบนอนนะคะ!”
เพราะตอนนี้เธอนั่งอยู่ในรถ ดังนั้นทุกคนจึงได้ยินทั้งหมด
รวมถึงเข้าใจเรื่องราวต่างๆในทันที
ที่แท้เป็นเพราะเฉินเกอไปบอกพี่สาวนี่เอง
ไอหมาเฉินเกอนั่นรู้ว่าพวกเธอถูกลักพาตัว? ไอเวร รู้ทั้งรู้แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไรเนี่ยนะ?
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพี่สาวกำลังตามหาเสี่ยวหนาน วันนี้พวกเธอคงได้ตายโหงกันไปแล้ว!
ไอสารเลวนั่น กลับไปจะเล่นมันให้ตายเลยคอยดู!
เมิ่งไฉ่หรูพูดอย่างโกรธแค้นในใจ
“โอ้ยแม่ ก้นฉัน!”
จู่ๆหานเฟยเอ๋อก็ร้องเสียงหลงขึ้นมาเบาๆ
เหมือนจะมีอะไรบางอย่างทิ่มโดนเธอ
เจ็บจนเผลอร้องออกมา
จากนั้นหานเฟยเอ๋อก็ลูบๆบริเวณใต้ก้น ก่อนจะหยิบเสื้อสูทตัวหนึ่งขึ้นมา แถมด้านในยังมีโทรศัพท์สอดอยู่
“อ้ะ? ขอโทษค่ะพี่ชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะนั่งทับเสื้อพี่นะ!”
หานเฟยเอ๋อขอโทษแก้เขิน
“อืม? สูทตัวนี้ทำไมมันคุ้นๆจังแฮะ”
จ้องอยู่สักพัก หานเฟยเอ๋อจึงอึ้งไป