ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] - บทที่ 26 พาพวกเราไปด้วยได้หรือไม่?
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]
- บทที่ 26 พาพวกเราไปด้วยได้หรือไม่?
บทที่ 26 พาพวกเราไปด้วยได้หรือไม่?
“มันไม่ได้ง่ายเช่นนั้นหรอกเจ้าค่ะ” เหยาซู จิบชาร้อน ๆ อีกครั้งก่อนจะวางถ้วยลงและกล่าวเบา ๆ “หากหลุดพ้นจากความลำบากใจย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด หากต้องอยู่ร่วมกับปัญหาพวกนี้ อย่าเก็บทั้งหมดไว้ในใจเพียงคนเดียว คนเรามีชีวิตอยู่ก็เพื่อทำให้ตัวเองมีความสุขไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
ฮูหยินของนายอำเภอตกตะลึง คำพูดเช่นนี้นางไม่เคยได้ยินมาก่อน
ในอดีตล้วนมีแต่คนเสนอความคิดให้นางว่าควรข่มเหงอนุภรรยาในบ้านอย่างไร และจะฝืนชิงหัวใจของสามีกลับมาอย่างไรดี
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับนางว่า คนเราควรมีชีวิตอยู่เพื่อความสุขของตนเอง
คนของตระกูลเหยาช่างแตกต่างจากผู้อื่นจริง ๆ
“ข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”
เหยาซู “เช่นนี้คงต้องถามตัวฮูหยินเองแล้ว”
โดยไม่รู้ตัว หัวข้อสนทนาก็ถูกเหยาซูครอบงำอย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นสีหน้างุนงงของอีกฝ่าย เหยาซูก็กล่าวต่อ “อย่างที่ฮูหยินเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ใบหน้านั้น… แม้จะไม่มีหญิงใดในโลกที่จะหยุดการแก่ชราลงได้ ทว่าเราสามารถเติมบุปผาบนผ้าทอลาย*ได้ หากท่านสนใจ ข้าสามารถเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฮูหยินได้ ทุกวันเราสามารถแต่งตัวสวย ๆ และดื่มชาพร้อมกับชื่นชมดอกไม้ให้อารมณ์สดใสขึ้นได้ตามธรรมชาตินะเจ้าคะ”
*สำนวน แปลว่าทำให้สิ่งที่ดูงดงามอยู่แล้วยิ่งดูงดงามขึ้นไปอีก แต่ในอีกความหมายหนึ่งคือการทำในสิ่งที่ไม่จำเป็น
ฮูหยินของนายอำเภอส่ายหน้า ชี้ไปยังเรือนร่างอวบอ้วนของตนและเอ่ยว่า “ตอนนี้ไม่ว่าข้าจะแต่งตัวอย่างไรก็ดูไม่งดงาม”
เหยาซูจึงกล่าวเกลี้ยกล่อม “เหตุใดท่านต้องกังวลเรื่องนี้ด้วยเล่า หลังสตรีคลอดบุตรนั้นยากที่จะกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม ทว่าข้าเองก็อ่านหนังสือมาไม่น้อยจึงรู้ว่ามีวิธีหนึ่งที่จะทำให้ค่อย ๆ ผอมลงได้”
“หื้ม? วิธีใด?”
ร่างเดิมของนางนั้นสุขภาพไม่ค่อยดีนัก หลังจากที่เหยาซูให้กำเนิดลูกคนที่สามแล้ว แม่เฒ่าเหยาก็บังคับให้ดื่มน้ำซุปทุกวัน ด้วยความเกรงกลัวว่าตัวเองจะถูกขุนให้เป็นหมูตัวอ้วน ๆ จึงแอบทำโยคะหลังคลอดอยู่ภายในบ้าน
สตรีในยุคนี้หากคิดอยากจะผอมลง เกรงว่าจะต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง
“ข้ามีท่าการเคลื่อนไหวบางอย่าง อดทนทำวันละหนึ่งชั่วยาม ภายในหนึ่งเดือนจะเห็นผล…”
ทั้งสองคุยกันจนเที่ยงอยู่ที่จวนของนายอำเภอ เหยาซูไม่เพียงแต่สอนท่าโยคะให้ฮูหยินทั้งชุดเท่านั้น ทว่ายังกำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินให้อย่างเข้มงวด พูดจนปากแห้งผากก็ได้กำไรมาไม่น้อย
อย่างน้อยท่าทางของฮูหยินที่มีต่อนางในตอนนี้ก็แทบจะตีกลับ 360 องศา แม้แต่คำเรียกขานก็เปลี่ยนไป
“อาซู เจ้าบอกว่าให้กินแป้งน้อยลงและกินปลาเยอะ ๆ จะได้ผลจริงหรือ?”
เหยาซูพยักหน้าอย่างมั่นใจ “แป้งทำให้อ้วนง่ายที่สุด ปลาและกุ้งไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเท่านั้น แต่ยังสามารถแทนแป้งได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องระวังของหวาน ไม่ให้กินมากเกินไป น้ำตาลจะทำให้คนอ้วน รวมถึงการกินแป้งบะหมี่ด้วย เช่นนี้จะไม่ให้อ้วนได้อย่างไร?”
สิ่งที่นางพูดชัดเจนราวกับว่านางดูจากหนังสือจึงน่าเชื่อถือมาก
ฮูหยินนายอำเภอฟังแล้วเข้าใจลึกซึ้ง จนกระทั่งกล่าวอำลา ฮูหยินนายอำเภอยังคงรั้งนาง “เที่ยงแล้วอยู่กินอะไรด้วยกันก่อนเถอะ”
เหยาซูส่ายหัวและยิ้ม “พี่รองของข้ายังรออยู่ วันนี้เดิมทีข้ามาเพื่อลาฮูหยิน ตอนบ่ายจึงจะกลับบ้าน หากล่าช้านานไปเกรงว่าคนในบ้านจะร้อนใจ”
ฟังจบฮูหยินนายอำเภอได้แต่พยักหน้าและกล่าวว่า “เช่นนั้นยามว่างเจ้าต้องมาคุยกับข้าให้มาก…”
เหยาซูขยิบตาและกล่าวด้วยความขี้เล่นว่า “เช่นนั้นข้าจะเลือกมาตอนที่ท่านนายอำเภอไม่อยู่”
ฮูหยินของนายอำเภอยังเซ้าซี้ให้เหยาซูรับปากว่านางจะแวะมาที่นี่บ่อย ๆ และยังรับปากว่าจะช่วยแพร่กระจายเรื่องชาดทาแก้มของนางด้วยตนเอง จากนั้นจึงปล่อยให้เหยาซูกลับไป
หลังจากทั้งสองคนกล่าวคำอำลาแล้วเหยาซูก็ไปที่เมืองเพื่อตามหาเหยาเฉาและกลับไปยังหมู่บ้าน
……
เมื่อไปถึงบ้านก็ใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน แม่เฒ่าเหยาเตรียมอาหารเย็นไว้นานแล้ว และกำลังรอให้เหยาเฉาและเหยาซูกลับมา
เมื่อเห็นสองพี่น้องเดินเข้ามา หญิงชรารีบออกไปต้อนรับเอ่ยกับเหยาซูว่า “สาวน้อย! ในเมืองมันดีขนาดนั้นเลยหรือ? ไปอยู่ตั้งหลายวันแล้วยังไม่รู้จักกลับบ้านอีก”
เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว อาจื้อและอาซือก็วิ่งออกมา พวกเขาล้อมรอบเหยาซูพลางตะโกนว่า “ท่านแม่”
เหยาซูมอบของให้เหยาเฉาเป็นคนจัดการ จากนั้นจึงจูงมือเด็กทั้งสองคนแล้วพูดกับมารดาว่า “ ท่านแม่ข้าไม่ดีเองที่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วง”
หญิงชราพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ข้าไม่ได้เป็นห่วงเจ้าหรอก เหตุใดเจ้าไม่ถามต้าเป่ากับเอ้อเป่าล่ะว่าคิดถึงแม่ของพวกเขาหรือเปล่า”
เด็กทั้งสองคนไม่เคยแยกจากเหยาซูเป็นเวลานานมาก่อน ตอนที่เห็นนางกลับบ้านก็ตื่นเต้นมากจึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่ ตอนนี้น้องชายฟันขึ้นแล้ว สามารถกินข้าวได้แล้ว… ในเมืองสนุกหรือไม่? มีคนมากมายไหม? คราวหน้าพาพวกเราไปด้วยได้หรือไม่?”
………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จากที่คุยหาลูกค้าก็กลายเป็นอบรมหลักสูตรลดน้ำหนักให้ฮูหยินไปแล้วค่ะ ขายคอร์สลดน้ำหนักและเสริมความงามไปด้วยสิคะ รับรองว่ายิ่งรวย
ไหหม่า(海馬)