ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 95 ด้านได้อายอด!
บทที่ 95 ด้านได้อายอด!
ดวงตาของผูเว่ยชางแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ส่งผลให้อากาศบริเวณรอบบ้านของชายหนุ่มเย็นยะเยือกจนน่ากลัว
เขามองตรงไปที่เหยียนเกอและยังคงพูดแทงใจดำอีกฝ่าย “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ แต่ก็ไม่สามารถรักษาพิษเจ็ดสีให้หายขาดได้ แถมยังไม่สามารถหลอกถามทักษะทางการแพทย์จากอวิ๋นซิ่วชิงได้อีก จนเสียเวลาไปตั้งครึ่งวัน ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากลายเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ได้อย่างไร?”
เหยียนเกอกัดฟันกรอด ทั้งโกรธทั้งอับอายกับคำถากถางของผูเว่ยชาง
ต้าเหนียนชุ่ยยี่มองไปที่นายท่านของเขาสลับกับเหยียนเกออย่างช่วยไม่ได้ และคิดในใจว่า
’มันเหมาะสมแล้วหรือที่ทั้งสองจะทำร้ายกันเช่นนี้?’
…
หลังจากส่งแขกออกไปแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็รีบไปที่ครัวและทำอาหารให้พ่อเฒ่าอวิ๋น
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงกำลังจะล้างผัก พ่อของนางก็เดินเข้ามาพร้อมตะเกียงเล็ก ๆ ในมือ
เมื่อหญิงสาวได้ยินเสียง นางก็หันกลับมาและรีบร้องห้ามว่า “ท่านพ่อ ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าออกมา เดี๋ยวท่านก็เป็นไข้หวัดอีกหรอก”
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็หยิบตะเกียงมาจากผู้เป็นพ่อ และช่วยพยุงเขานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็ก
พ่อเฒ่าอวิ๋นมีความสุขกับการดูแลจากอวิ๋นซิ่วชิงเป็นอย่างมาก เขายิ้มและปรายตามองลูกสาว “ตอนนี้ข้าสบายดีแล้ว ข้ามีสุขภาพที่ดี หากข้าไม่ออกไปเดินเล่นเสียบ้าง ตัวข้าคงสนิมขึ้นจริง ๆ แล้วก็จะป่วยอีกรอบ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงจึงยิ้มออกมา ดูเหมือนว่านางจะต้องหากิจกรรมอะไรให้พ่อของนางทำเพื่อให้เพลิดเพลินเสียแล้ว มิฉะนั้นเขาจะว่างเกินไปจนเดินไปทั่วบ้านเช่นนี้
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่โกรธ พ่อเฒ่าอวิ๋นจึงถามว่า “ชิงเหนียง เจ้าขายงูของเจ้าแล้วหรือยัง?”
จากนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ตระหนักได้ว่าแม้นางจะขายงูและเหยียนเกอจะให้เงินแก่นางแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้นำมันกลับไปด้วย
หญิงสาวตบศีรษะตัวเองด้วยความโศกเศร้า แม้จะไล่ตามไปตอนนี้ แต่ก็คงไม่สามารถตามอีกฝ่ายได้ทัน
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้พูดอะไร พ่อของนางจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “มีอะไรหรือ? เจ้ายังไม่ได้ขายมันใช่ไหม? ไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าจะขายมันหรือไม่? อีกอย่าง เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะต้มมันให้ข้าในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหรอกหรือ? ไม่เป็นไรหรอก…”
”ไม่ ข้าขายมันแล้ว ได้ราคาหนึ่งร้อยตำลึง” อวิ๋นซิ่วชิงตอบพลางขมวดคิ้ว
พ่อเฒ่าอวิ๋นถึงกับแปลกใจที่ได้ยินเช่นนั้น “อะไรนะ? เจ้าขายมันได้หรือ? ในเมื่อเจ้าขายมันได้แล้ว ทำไมเจ้ายังมีสีหน้าไม่ดีนักล่ะ?”
“ข้าขายมันได้แล้ว แต่ข้าไม่ได้ยื่นงูให้เขา” หญิงสาวไม่กลัวว่างูจะตายแต่อย่างใด อันที่จริง อวิ๋นซิ่วชิงยังรู้สึกว่าตัวเองต้องคอยเฝ้าระวังให้รอบคอบกว่านี้เสียหน่อย
การเจรจาซื้อขายงูเป็นไปอย่างเรียบร้อยดี และนางก็ได้รับเงินแล้ว แต่งูยังคงอยู่ในห้องของนาง
นางรู้สึกไม่สบายใจเสียเลย!
“แค่นั้นหรือ? เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า? ท่านเหยียนยังไม่จากไป และตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเดินทางกลับเข้าเมืองโดยไม่กินอะไรเลย เขาคงจะอยู่ที่บ้านของผูเว่ยชาง”
พ่อเฒ่าอวิ๋นปลอบลูกสาว
อวิ๋นซิ่วชิงที่กำลังสับสนมองไปที่พ่อเฒ่าอวิ๋นและถามว่า “ทำไมหรือ?”
“การเดินทางจากที่นี่เพื่อเข้าเมืองจะใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วยาม*[1] นอกจากนี้ ถนนยังถูกทิ้งร้างและมีหมอกในเวลากลางคืน แถมยังมีสัตว์ร้ายอีกด้วย การเดินทางกลับในเวลานี้อาจอันตรายเกินไป ไม่ต้องห่วงหรอก เขายังอยู่ในหมู่บ้านนี้”
สมัยก่อนพ่อเฒ่าอวิ๋นมีโอกาสได้ออกไปดูโลกกว้าง ดังนั้นเขาจึงรู้อะไรหลายอย่าง
เมื่อได้ยินคำพูดของบิดา อวิ๋นซิ่วชิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางวางแผนที่จะส่งงูให้เหยียนเกอหลังมื้ออาหารเย็น
ในไม่ช้าอวิ๋นซิ่วชิงก็ทำอาหารสี่จานและน้ำแกงหนึ่งอย่างให้พ่อของนาง
กลิ่นอาหารที่นางทำนั้นหอมชวนกินอย่างมาก และพ่อเฒ่าอวิ๋นก็ยังคงชื่นชมลูกสาวตัวเอง
ส่วนฮูหยินอวิ๋นก็เริ่มหิวอีกแล้ว แม้นางจะอยู่ในห้องก็ยังได้กลิ่นอาหารของอวิ๋นซิ่วชิง
ตอนนี้คฤหาสน์อวิ๋นไม่มีแขกข้างนอกแล้ว หากนางไปขออาหารกับพวกเขาทั้งคู่…อวิ๋นซิ่วชิงคงไม่ยอมให้อาหารนางแน่ ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น อวิ๋นหมิงเซียว ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางก็หายตัวไปไหนทั้งวันก็ไม่อาจรู้ได้
นางแทบรอไม่ไหวแล้ว และตอนนี้ก็กำลังหิวมากด้วย!
ทันใดนั้น ใบหน้าของผูเว่ยชางก็ลอยเข้ามาในหัว!
ฮูหยินอวิ๋นคิดได้ว่าหากไปขออาหารจากผูเว่ยชาง ชายรูปงามคนนั้นจะต้องมอบให้อย่างแน่นอน เพราะนางดูออกตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อนว่าเขาต้องแอบชอบลูกสาวอัปลักษณ์ของนาง
แม้จะดูแปลกประหลาดและวิปลาสไปเสียหน่อยที่อยู่ ๆ ชายรูปงามไร้ที่ติเช่นนั้นถึงได้ชอบลูกสาวอัปลักษณ์ของนาง แต่หากมันช่วยให้นางและหมิงเซียวลูกรักอิ่มท้องได้ แล้วจะไปสนอะไรกันเล่า?!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฮูหยินอวิ๋นก็รีบหยิบชามในครัวออกไปที่บ้านผูเว่ยชางทันที
[1] 4 ชั่วโมง