ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 557+558 ประจบสอพลอ / ออกไป
บทที่ 557 ประจบสอพลอ
หลี่ฟู่หลานมองมู่เชียนเชียนอย่างเหยียดหยาม ‘นางช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร! ทำไมนางถึงมีความสุขจนไม่แม้แต่จะมองตัวเอง?’
“คุณหนูมู่ ข้าขอไปพักผ่อนนะเจ้าคะ” หลี่ฟู่หลานไม่อยากเห็นมู่เชียนเชียนทำตัวเป็นนางไม้ นางกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ได้จนเผลออาเจียนออกมา
“เอาเลย” มู่เชียนเชียนกล่าว
หลี่ฟู่หลานตรงไปที่สวนหลังร้าน ทันใดนั้นนางก็เห็นหลู่ชีฉางแอบเข้ามาทางประตูหลัง
หลังจากจัดการกับซาลาเปาสองลูกที่อวิ๋นซิ่วชิงให้เขาแล้ว หลู่ชีฉางก็คิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงยังรักเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงอยากแอบเข้ามาทางประตูหลังร้านของนาง และพูดบางอย่างเพื่อประจบนาง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอหลี่ฟู่หลานที่นี่อีก
“โอ้ หลู่ชีฉาง เจ้าชอบแม่นางอวิ๋นอีกแล้วรึ?” หลี่ฟู่หลานหัวเราะเยาะ
“ฟู่หลาน ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ” หลู่ชีฉางไม่สามารถปล่อยหลี่ฟู่หลานไปได้ เมื่อเผชิญกับคำถามของนาง เขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“ไม่ใช่? หลู่ชีฉาง เจ้าย่อมรู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน ตอนนี้เจ้าเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงร่ำรวยขึ้น เจ้าก็มาที่นี่เพื่อประจบประแจงนาง ขอให้นางยกโทษให้เจ้า แล้วเจ้าค่อยแต่งงานกับนาง เจ้ากำลังหาเงินได้ง่าย ๆ จากอวิ๋นซิ่วชิงโดยที่ไม่ต้องเสียแรงอะไรเลย” หลี่ฟู่หลานเคยใกล้ชิดกับหลู่ชีฉางมาหลายปีแล้ว นางจึงรู้ว่าหลู่ชีฉางกำลังคิดอะไรอยู่
ดูเหมือนว่าหลี่ฟู่หลานจะเปิดเผยความคิดของหลู่ชีฉางออกเสียหมดเปลือก ทำให้หลู่ชีฉางอับอายและโกรธขึ้นมา “หลี่ฟู่หลาน หุบปาก!”
เมื่อครู่หลี่ฟู่หลานรู้สึกหงุดหงิดกับนิสัยของมู่เชียนเชียน แต่ตอนนี้นางกำลังมีความสุขมาก “อะไรนะ? เจ้าโกรธเพราะข้าเดาออกว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรือ?”
“หลี่ฟู่หลาน ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นเช่นนี้ เจ้าไม่ใช่คนเช่นนี้” หลู่ชีฉางไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นหลี่ฟู่หลานจริง ๆ
“หลู่ชีฉาง เจ้ากล้าไม่น้อยนะที่ถามข้าเช่นนี้ ก็เจ้าเองไม่ใช่รึที่บังคับให้ข้าเป็นแบบนี้” หลี่ฟู่หลานมองไปที่หลู่ชีฉางด้วยสายตาดูถูกและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางเคยรักหลู่ชีฉางอย่างนอบน้อม แต่นางได้อะไรมา?
เมื่อหลู่ชีฉางกำลังคิดจะเผชิญหน้ากับหลี่ฟู่หลาน เขาก็พลันเห็นอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ข้างหลังอีกฝ่าย จึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “ฟู่หลาน ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรปฏิบัติต่อเจ้าแบบนั้น แต่ข้าไม่เคยชอบเจ้าเลย ข้ามีเพียงชิงเหนียงเท่านั้น ข้าไม่คิดว่าการที่ข้าไม่ชอบเจ้าจะทำร้ายเจ้าขนาดนี้”
อวิ๋นซิ่วชิงตั้งใจที่จะมาที่สวนหลังร้าน แต่จู่ ๆ นางก็ได้ยินคำพูดของหลู่ชีฉาง ซึ่งมันเกือบจะทำให้นางแทบอาเจียนออกมา
ดวงตาของหลี่ฟู่หลานเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ หลู่ชีฉาง ไอ้ขยะนี่เคยบอกนางว่าชอบเพียงนางเท่านั้น “หลู่ชีฉาง เจ้าเป็นบัณฑิตโดยเปล่าประโยชน์จริง ๆ ในสมองล้วนเต็มไปด้วยเรื่องไร้สาระ สมควรแล้วที่จะมีชีวิตแบบนี้”
หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว หลี่ฟู่หลานก็หันหลังกลับและเตรียมที่จะจากไป แต่ทันทีที่นางหันกลับมา นางก็เห็นอวิ๋นซิ่วชิง นางจึงส่งเสียงในลำคออย่างเย็นชาและจงใจเดินชนอวิ๋นซิ่วชิงออกไป
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คาดคิดว่าหลี่ฟู่หลานจะชนนางเช่นนี้ ซึ่งมันทำให้นางเกือบจะล้มลง
“ชิงเหนียง เจ้าเป็นอะไรไหม?” หลู่ชีฉางรีบจับอวิ๋นซิ่วชิงแล้วถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
หลังจากที่อวิ๋นซิ่วชิงทรงตัวได้ นางก็สะบัดมือของหลู่ชีฉางออกทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยข้า”
“ชิงเหนียง อย่าโกรธเลย หลี่ฟู่หลานแค่อิจฉาเจ้าน่ะ” หลู่ชีฉางคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงโกรธหลี่ฟู่หลาน เขาจึงรีบปลอบโยนนางทันที
“หลู่ชีฉาง อย่าแสร้งทำเป็นรักต่อหน้าข้า ข้าจำคำพูดของเจ้าตอนที่เจ้าใส่ร้ายข้าได้” อวิ๋นซิ่วชิงหันหลังให้หลู่ชีฉาง นางกลัวว่าจะอาเจียนออกมาถ้าเห็นหน้าอีกฝ่าย
“ชิงเหนียง ตอนนั้นข้าถูกหลอก ท่านแม่ล่อลวงข้าให้พูดเช่นนั้น ตอนนี้ข้าเสียใจจริง ๆ ข้าไม่ควรพูดอะไรที่ทำให้เจ้าเจ็บปวดเลย ข้าขอโทษ ชิงเหนียง ข้าขอโทษจริง ๆ” หลู่ชีฉางพูดด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเสียใจเป็นอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะอวิ๋นซิ่วชิงเคยได้รับความเดือดร้อนจากหลู่ชีฉางมามาก นางคงหลงเชื่อท่าทางที่ดูรักใคร่เป็นห่วงเช่นนี้ไปแล้ว
บทที่ 558 บิน
“หลู่ชีฉาง ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ข้ายกโทษให้เจ้า?” อวิ๋นซิ่วชิงพยายามอดทนต่อความขยะแขยง เพื่อหันกลับมาถามหลู่ชีฉาง
หลู่ชีฉางไม่คาดคิดว่านางจะถามตรง ๆ เช่นนี้ แท้จริงแล้วเขาแค่อยากจะขอให้นางอภัย และหลังจากที่ได้รับการให้อภัยจากนางแล้ว แน่นอนว่าเขาจะอยู่เคียงข้างนางอย่างไร้ยางอาย เขาต้องการใช้ประโยชน์จากนาง นอกจากนี้เขายังมั่นใจในใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเองอยู่
“ชิงเหนียง ข้าแค่ต้องการให้เจ้าอภัยให้ข้า ไม่มีอะไรอื่นใดแฝงอยู่เลย” หลู่ชีฉางกล่าวอย่างจริงใจ
อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจกับสีหน้าของอีกฝ่าย น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่ใช่พวกนักแสดงจริง ๆ เพราะสีหน้านั้นช่างแสดงได้สมจริงนัก
“แล้วถ้าข้าไม่ยกโทษให้ เจ้าจะยังอยู่กับข้าอยู่ไหม?”
“ถ้าเจ้าไม่ยกโทษให้ข้า ข้าก็จะอยู่กับเจ้าและปกป้องเจ้าเสมอ” หลู่ชีฉางมองเข้าไปในแววตาของนางอย่างแน่วแน่ ราวกับกลัวว่านางจะไม่ให้อภัยเขา
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลู่ชีฉางพูด อวิ๋นซิ่วชิงก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจสักนิด นางเพียงรู้สึกว่าช่างน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว “อืม หลู่ชีฉาง ข้ายกโทษให้เจ้า”
แววตาของหลู่ชีฉางเป็นประกายอย่างเริงร่า เขามองไปที่อวิ๋นซิ่วชิงราวกับว่าเขาเห็นกองสมบัติทองคำ และเมื่อเขากำลังจะตีเหล็กในขณะที่เหล็กยังร้อนเพื่อเริ่มเกาะนาง จู่ ๆ ความฝันอันสวยงามของเขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยคำพูดต่อไปของนาง
“หลู่ชีฉาง ไหน ๆ ข้าก็ยกโทษให้เจ้าแล้ว เช่นนั้นก็ช่วยกลับไปเถอะ และอย่าปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีก” อวิ๋นซิ่วชิงจะไม่มีวันตกหลุมรักหลู่ชีฉาง แม้ว่านางจะตาบอดก็ตาม ไม่ใช่เพราะว่าหลู่ชีฉางหน้าตาไม่ดี แต่เป็นเพราะเขามีจิตใจชั่วร้าย ส่วนจะให้อภัยหรือไม่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
หลู่ชีฉางถึงกับสับสน อวิ๋นซิ่วชิงบอกว่านางให้อภัยเขาเพราะแค่ต้องการขับไล่เขาออกไปสินะ
“รออะไรอยู่? รีบออกไปสิ!” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างเย็นชา
“ข้า… ข้า…” หลู่ชีฉางมีแผนการที่ยอดเยี่ยมอยู่ในใจ เขาจะจากไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
“ไม่ได้ยินหรือ ไปสิ! เหล่าฮั่วมานี่หน่อย!” เมื่อเห็นสีหน้าไร้ยางอายของหลู่ชีฉาง อวิ๋นซิ่วชิงก็หมดความอดทนและตะโกนขอความช่วยเหลือ
ฮั่วเหล่าอู๋กำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารในครัว เมื่อเขาได้ยินอวิ๋นซิ่วชิงเรียก เขาก็วางงานลงและออกไปพร้อมกับช้อนขนาดใหญ่ในมือ ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาทำงานที่นี่ นายท่านของเขาบอกว่าจะให้อวิ๋นซิ่วชิงเป็นภรรยา เขาจึงต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้
“แม่นางอวิ๋น มีเรื่องอะไรหรือ?” ฮั่วเหล่าอู๋พูดพลางจ้องไปที่หลู่ชีฉางผู้ผอมโซ
แม้ว่าฮั่วเหล่าอู๋จะแก่กว่าเล็กน้อย แต่เขาก็ทั้งสูงและแข็งแรง เขามีหนวดเคราบนใบหน้า แววตาของเขาเต็มไปด้วยแรงกดดัน
หลู่ชีฉางเป็นเพียงบัณฑิต ในด้านคารมคมคายนั้นเขาไม่แพ้ใคร แต่ในแง่ของความแข็งแกร่ง เขาก็คงเป็นเพียงไก่ที่อ่อนแอ เมื่อหลู่ชีฉางถูกฮั่วเหล่าอู๋จ้องมอง เขาก็กลายเป็นคนขี้ขลาดและแข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนขึ้นไม่ได้
“ชิงเหนียง เรามาคุยกันดี ๆ เถอะ” หลู่ชีฉางกลืนน้ำลายและพูดด้วยความกลัว
อวิ๋นซิ่วชิงไม่มีเวลาโต้เถียงกับหลู่ชีฉางมากนัก “หลู่ชีฉาง เจ้าจะไปคนเดียวหรือจะให้ใครสักคนเชิญเจ้าออกไป?”
หลู่ชีฉางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปทางประตูหลังอย่างหดหู่ใจ
“แม่นางอวิ๋น ผู้ชายคนนั้นคือใครหรือ?” ฮั่วเหล่าอู๋ถามอย่างระแวดระวัง เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับชีวิตนายท่านของเขา และเขาต้องถามให้ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น หลายปีแล้วที่นายท่านไม่ได้พบเจอสตรีใดและทำให้หัวใจเต้นแรง เขาจะปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นมาหลอกลวงว่าที่ภรรยาของนายท่านไม่ได้
“ก็แค่แมลงวันน่ะ” เมื่อมองตามทิศทางที่หลู่ชีฉางกำลังเดินไป อวิ๋นซิ่วชิงก็ตอบอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยต่ออีกว่า “เหล่าฮั่ว ไปที่ครัวและทำงานต่อเถอะ ข้าจะปิดประตูหลังและดูว่าเขาจะเข้ามาอีกหรือไม่”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยามของอวิ๋นซิ่วชิง ฮั่วเหล่าอู๋ก็รู้สึกโล่งใจที่รู้ว่านางก็คงไม่ชอบชายคนนั้น จากนั้นเขาก็ตอบรับและกลับไปที่ห้องครัวเพื่อทำงานต่อ
อวิ๋นซิ่วชิงเดินไปที่ประตูหลังอย่างรวดเร็วและจงใจเปิดออก เมื่อเห็นว่าหลู่ชีฉางออกไปแล้ว นางจึงปิดประตูหลังอย่างแน่นหนา ดูเหมือนว่านางจะต้องจ้างคนเพิ่มอีกสองคนเสียแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ผูเว่ยชางเองก็อารมณ์เสีย มู่เชียนเชียนเอาแต่จ้องมาที่เขา ถ้าเวลานี้ไม่มีใครอยู่ในร้าน เขาคงไล่ผู้หญิงคนนี้ออกจากร้านไปแล้ว