ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 271+272 หัวใจเต้นแรง/เต็มใจช่วยรักษา
บทที่ 271 หัวใจเต้นแรง
หลังจากบอกลากันแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางก็ขับรถม้าออกไปทางใต้ของเมือง
พวกเขามาที่เมืองทางใต้และได้กลิ่นขี้เลื่อยลอยมา จึงเดินตามกลิ่นนั้นไปพบบ้านของช่างไม้หวัง
ประตูบ้านของช่างไม้หวังเปิดกว้าง เมื่อเห็นประตูเปิดออก อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน นางกระโดดลงจากรถม้าพร้อมกับผูเว่ยชาง
ทั้งสองเพิ่งเดินเข้าไปได้ไม่นาน สุนัขตัวน้อยที่ออกมาจากไหนก็ไม่อาจทราบได้ก็พุ่งตรงมา และจ้องจะกัดพวกเขาอย่างโกรธเกรี้ยว
อวิ๋นซิ่วชิงตกใจกับการโจมตีอย่างกะทันหันของสุนัข นางซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผูเว่ยชางโดยจับยึดเสื้อของเขาไว้
ผูเว่ยชางพยายามปกป้องอวิ๋นซิ่วชิง พลางจ้องมองสุนัขตัวน้อยอย่างเย็นชา สุนัขตัวนี้ฉลาดเล็กน้อย เมื่อมันเห็นสายตาของผูเว่ยชาง ก็ถอยหลังออกไปด้วยความกลัว
สายตาที่ดุดันของผูเว่ยชางอาจทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนร้องไห้ในสนามรบ ทว่าตอนนี้กลับถูกใช้เพื่อขู่สุนัขตัวเล็ก ๆ
”ไม่ต้องกลัว ข้ากำลังปกป้องเจ้าอยู่” ผูเว่ยชางปลอบหญิงสาว
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า นางรู้สึกอับอายเล็กน้อย นางไม่กลัวสุนัข แต่นางแค่ตกใจ
”นั่นใครน่ะ?” จากนั้น หญิงวัยกลางคนก็เดินออกมา
”เรามาที่นี่เพื่อมาหาช่างไม้หวัง?” ผูเว่ยชางตอบเสียงดัง
”ช่างไม้หวังไม่ได้อยู่ที่นี่ หากเจ้าต้องการรอ เจ้าสามารถเข้ามารอได้ รอสักประมาณครึ่งชั่วยาม แต่หากเจ้าไม่ต้องการรอ เจ้าสามารถกลับมาที่นี่อีกทีวันพรุ่งนี้”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินว่ามีคนมาหาช่างไม้หวัง นางก็รู้ว่าคงจะมีรายได้เข้ามา แต่ตอนนี้ช่างไม้หวังไม่ได้อยู่ที่นี่ นางทำได้เพียงแค่ปฏิเสธไปก่อน
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้วางแผนที่จะกลับมาที่นี่อีก นางต้องการรออยู่ที่นี่ “ผูเว่ยชาง มารอที่นี่กันเถอะ ถ้าช่างไม้หวังกลับมา เราจะได้เจอเขาทันที”
ผูเว่ยชางพยักหน้า เขารู้สึกว่ามันไม่สำคัญว่าเขาจะรอที่ไหน ตราบใดที่ อวิ๋นซิ่วชิงอยู่กับเขา
”กลับไปที่รถม้าแล้วรอกันเถอะ ข้างนอกมันหนาวมาก” ผูเว่ยชางเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าบาง ๆ เขาจึงให้นางขึ้นไปรอในรถม้า
แม้อวิ๋นซิ่วชิงจะสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ แต่นางก็ไม่หนาว เพราะนางมีน้ำพุแห่งจิตวิญญาณที่ดื่มแล้วช่วยคลายความหนาวเย็นได้ นางจะรู้สึกหนาวได้อย่างไร?
”ข้าไม่หนาว” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างภาคภูมิใจ
ผูเว่ยชางขมวดคิ้วและพูดว่า “เช่นนั้นเสื้อคลุมขนกระต่ายของเจ้าอยู่ที่ไหน? ทำไมเจ้าไม่ใส่มันล่ะ”
”เจ้าอยากฆ่าข้าหรือ?! ข้าจะไม่ใส่มัน!” เมื่อพูดถึงเสื้อคลุมนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็นึกถึงวันที่นางถูกห่อด้วยเสื้อคลุมร้อนจัดราวกับถูกสุมด้วยกองเพลิง
แม้ว่าเสื้อคลุมขนกระต่ายจะดีมาก แต่อวิ๋นซิ่วชิงก็ไม่ได้สวมใส่มัน
”แต่เจ้าดูดีมากนะเมื่อใส่มัน” ผูเว่ยชางยิ้มมุมปาก นึกถึงภาพของอวิ๋นซิ่วชิงราวกับว่านางเป็นนางฟ้าที่อยู่ในใจเขา
อวิ๋นซิ่วชิงหน้าแดงเมื่อได้ยินผูเว่ยชางชมด้วยเสียงทุ้มที่ชวนให้รู้สึกวาบหวาม
สุนัขตัวน้อยที่อยู่หน้าประตูของช่างไม้หวังยังคงเห่าใส่คนทั้งคู่ เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้เข้าไปด้านใน มันก็คิดว่าผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงคงจะกลัวมัน มันจึงยืนอยู่ที่ประตูอย่างภาคภูมิใจเพื่อรอขู่อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางต่อไป
อวิ๋นซิ่วชิงยังคงหน้าแดงและหัวใจเต้นแรงเพราะผูเว่ยชาง ท่ามกลางสุนัขตัวน้อยที่ยังตั้งท่าจะกัดนางอยู่
อวิ๋นซิ่วชิงทำเป็นโกรธใส่สุนัขตัวน้อย “ถ้าเจ้ากัด ข้าจะตุ๋นเนื้อสุนัขมากิน!”
ผูเว่ยชางมองการเผชิญหน้าระหว่างอวิ๋นซิ่วชิงและสุนัขก็หัวเราะ “ชิงเหนียง เจ้าจะทะเลาะกับสุนัขเพื่ออะไร?”
”สุนัขตัวนี้คิดจะกัดข้า มันน่ารำคาญเกินไป” อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้ว
…
บทที่ 272 เต็มใจช่วยรักษา
”อย่าโกรธเลย” ผูเว่ยชางยิ้มและดึงมือของอวิ๋นซิ่วชิงมากุมไว้
อวิ๋นซิ่วชิงหน้าแดงกับวิธีการที่ผูเว่ยชางใช้เกลี้ยกล่อม นางได้แต่นั่งยอง ๆ และใช้หินวาดวงกลมที่พื้น
จากนั้นก็มีรถม้าหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา ชายชราคนหนึ่งและชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถม้า ทั้งสองคนดูมีสภาพแย่อย่างเห็นได้ชัด
ชายชราผู้นี้คือช่างไม้หวัง ส่วนชายหนุ่มอีกคนคือลูกชายของเขา…หวังเสี่ยว
ทันทีที่ช่างไม้หวังลงจากรถม้า ก็เห็นอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางนั่งยอง ๆ อยู่ที่ประตูบ้านของเขา
หวังเสี่ยวพยุงช่างไม้หวังไปหาอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง ถามอย่างสุภาพว่า “เจ้าเป็นใครงั้นหรือ?”
”สวัสดี ข้าชื่อผูเว่ยชาง เรามาหาช่างไม้หวัง” ผูเว่ยชางกล่าว และเดาว่าชายชราคนนี้คงจะเป็นช่างไม้หวัง
”ข้าชื่ออวิ๋นซิ่วชิง เรารู้มาว่าช่างไม้หวังเป็นช่างฝีมือที่ดี เราจึงอยากขอให้ช่างไม้หวังแกะสลักป้ายร้านให้เรา”
อวิ๋นซิ่วชิงเดาว่าหนึ่งในสองคนนี้ต้องเป็นช่างไม้หวัง จึงกล่าวประจบประแจงช่างไม้หวังอย่างแนบเนียน
เมื่อช่างไม้หวังได้ยินว่าอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางมาหาเขาเพื่อแกะสลักทำป้ายร้านค้า เขาก็ขมวดคิ้วและมองมืออันสั่นเทาของตัวเอง
เขาส่ายหัวและถอนหายใจ “เจ้ากลับไปเถอะ ช่างไม้หวัง… เขาไม่ได้แกะสลักอะไรอีกแล้ว”
จากนั้นช่างไม้หวังก็เดินเข้าไปในบ้านด้วยความเสียใจ และลูกชายของเขาก็รีบตามไปช่วย
”เรามาพร้อมเงิน แต่พวกเขากลับไม่ต้องการมัน” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างเหลือเชื่อพลางจ้องมองไปยังพวกเขา
”อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ทำมันแล้ว เราก็ไปหาช่างคนอื่นเถอะ” ผูเว่ยชางรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวของช่างไม้หวัง มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ทิ้งเงินค่าจ้างไปเช่นนี้
”ไม่ ข้าต้องถามเขา เรารออยู่ที่บ้านของเขามานานแล้ว ถ้าเขาไม่ทำก็ควรให้เหตุผลที่สมควรแก่พวกเราสิ” อารมณ์ดื้อรั้นของอวิ๋นซิ่วชิงผุดขึ้นมาในเวลานี้
”ชิงเหนียง” ผูเว่ยชางไม่สามารถหยุดยั้งนางได้ และเขาก็เห็นนางเดินเข้าไปในบ้านของช่างไม้หวัง
อวิ๋นซิ่วชิงนึกเสียใจที่ตัวเองเดินเข้ามาในนี้
สุนัขตัวน้อยยังคงไล่ตามมาเพื่อจะกัดนาง นางหันไปมองผูเว่ยชางและเอ่ยเร่ง “ผูเว่ยชาง มาเร็ว ๆ”
ผูเว่ยชางชอบให้อวิ๋นซิ่วชิงพึ่งพาเขา เขารีบเดินไปข้างหน้าเพื่อปรามหญิงสาวและกระซิบว่า “ชิงเหนียง เราไปกันเถอะ บางทีช่างไม้หวังอาจจะยุ่งอยู่ อย่าไปรบกวนเขาเลย”
อวิ๋นซิ่วชิงขบริมฝีปาก และรู้สึกว่าตัวเองคงจะเอาแต่ใจเกินไป “ตกลง เราไปกันเถอะ”
ผูเว่ยชางพยักหน้า
ทว่าในขณะที่เขากำลังจะดึงอวิ๋นซิ่วชิงออกไป หญิงที่เพิ่งออกมาต้อนรับพวกเขาก็เดินเข้าไปในลานบ้าน
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางยังอยู่ที่บ้านของนาง นางก็รีบเช็ดรอบ ๆ ดวงตา “เจ้าสองคนยังรออยู่อีกหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็เข้ามาเถอะ”
หญิงคนนั้นพาอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเข้าไปในบ้านของพวกเขา
อวิ๋นซิ่วชิงเดินเข้ามาก็สำรวจการตกแต่งภายในบ้าน มันดูสมกับเป็นบ้านของช่างไม้ แม้แต่หน้าต่างก็ถูกแกะสลักด้วยลวดลายต่าง ๆ ห้องพักทั้งห้องดูเป็นแบบโบราณและออกแบบอย่างงดงาม
”เจ้าสองคนรออะไรอยู่ที่ประตูบ้านข้าหรือ?” ฮูหยินหวังถามขณะเทชาให้อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง
”เราอยู่ที่นี่เพื่อรอพบช่างไม้หวัง เรารู้ว่าฝีมือของช่างไม้หวังนั้นดีมาก เราจึงมาที่นี่เพื่อขอให้ช่างไม้หวังแกะสลักป้ายชื่อร้านให้กับเรา เราสามารถพูดคุยเรื่องราคากันได้” อวิ๋นซิ่วชิงยิ้ม
เมื่อได้ยินความตั้งใจของอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชาง ฮูหยินหวังก็ตาแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ากลัวว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้สามีของข้าไม่สามารถถือตะเกียบได้ นับประสาอะไรกับการแกะสลักแผ่นป้าย”
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้ว “มันเป็นเพราะมือที่หักใช่หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าสามารถช่วยรักษาได้”
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่ามือของช่างไม้หวังอาจจะหัก และนางสามารถช่วยรักษากระดูกได้ นางยินดีที่จะรักษาช่างไม้หวัง
ดูเหมือนว่าอาชีพช่างไม้จะเป็นอาชีพหลักของครอบครัวนี้ หากมือของช่างไม้หวังหักจนไม่สามารถทำงานได้ อาจทำให้ทั้งครอบครัวต้องทุกข์ยากลำบากแน่นอน!