ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 18 ท้องเสีย!
บทที่ 18 ท้องเสีย!
“ดูเหมือนไม่เห็นโลงศพจะไม่หลั่งน้ำตาสินะ ได้!! ข้าจะไปลากตัวเจ้ามาเอง!”
อวิ๋นซิ่วชิงม้วนแขนเสื้อ ก่อนจะสาวเท้าเดินไปหาเฉียวฮุ่ยพร้อมไม้
ก่อนที่อวิ๋นซิ่วชิงจะเดินเข้าไปถึง เฉียวฮุ่ยก็หวาดกลัวจนตัวสั่นและแข้งขาอ่อนแรง แม้จะอยากวิ่งหนีก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว
“ก็ได้! ข้าจะกิน! กิน!” นางตอบทั้งที่ขายังสั่น
“ถ้าเช่นนั้นก็มากินเร็ว ๆ! อย่าบังคับให้ข้าต้องทำอะไรเจ้า บอกไว้ก่อนเลยนะว่าข้ากำลังอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก!” อวิ๋นซิ่วชิงเอ่ยเย็นชา
เฉียวฮุ่ยพยักหน้าและร้องไห้กระซิก ยอมเดินไปที่โต๊ะอาหารแต่โดยดี นางต้องพยายามอดทนกับอาการคลื่นไส้และจำใจกินข้าวต้มจากในชามที่เหลืออีกใบและกลั้นใจกลืนลงท้องของตัวเองทีละนิด ๆ
อวิ๋นซิ่วซิงจ้องทั้งสามคนกินข้าวต้มขี้หมูของนางด้วยสายตาเย็นชา
หลังจากที่อวิ๋นหมิงเซียวและทั้งสามกินข้าวต้มขี้หมูลงไป พวกเขาก็เริ่มเกิดอาการคลื่นไส้ ก่อนที่จะอาเจียนออกมา แถมยังมีอาการปวดท้องและเหงื่อแตกพลั่ก
อวิ๋นซิ่วชิงรู้ได้ทันทีว่า ยาถ่ายของนางเริ่มออกฤทธิ์แล้ว!
อวิ๋นซิ่วชิงสูดอากาศเย็นพลางครวญเพลงเบา ๆ ในลำคออย่างอารมณ์ดี ก่อนจะทิ้งชามในมือและเดินจากไป
อวิ๋นหมิงเซียว ฮูหยินอวิ๋น และเฉียวฮุ่ยรีบวิ่งเข้าไปในห้องสุขา โดยที่ชายร่างผอมไปถึงเป็นคนแรก
ทว่ามันก็สายเกินไปแล้วที่จะถอดกางเกงออก อุจจาระของเขาไหลออกมาแล้ว!!!
อวิ๋นหมิงเซียวยังคงดี แต่ฮูหยินอวิ๋นและเฉียวฮุ่ยนั้นแย่ยิ่งกว่า พวกนางทั้งสองอุจจาระราดตรงนั้น!
อวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่ห้องครัวพร้อมกับโยนชามข้าวต้มขี้หมูทิ้งไป จากนั้นก็ทอดไข่และต้มข้าวต้มอย่างตั้งใจ ก่อนจะยกไปให้พ่อเฒ่าอวิ๋น
อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของพ่อเฒ่าอวิ๋นพร้อมอาหารที่ทำไว้ เมื่อเห็นว่าห้องเงียบไป นางจึงเคาะประตู
“ท่านพ่อ ท่านอยู่หรือเปล่า?” อวิ๋นซิ่วชิงเคาะประตูสองสามครั้งแล้วไม่มีใครตอบ นางจึงเคาะอีกครั้งหนึ่ง “ท่านพ่อ นี่ข้าชิงเหนียงเอง ท่านอยู่ที่นี่หรือไม่?”
ท่านพ่อนั่งอยู่ในห้องพลางถอนหายใจ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็ไม่ตอบ ทว่าอวิ๋นซิ่วชิงยังคงเคาะต่อไป พ่อเฒ่าอวิ๋นจึงลุกขึ้นและเปิดประตูให้นาง
เมื่อพ่อเฒ่าอวิ๋นเปิดประตูแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็กล่าวว่า “ท่านพ่อ มากินข้าวกันเร็ว ข้าทำมาให้ท่านแล้ว”
หญิงสาวกลัวว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นจะปฏิเสธ ดังนั้นจึงรีบยกถาดอาหารไปไว้ในห้องของเขา
พ่อเฒ่าอวิ๋นมองดูแผ่นหลังของลูกสาวผู้อาภัพของตนแล้วน้ำตาไหล
หลังจากที่หญิงสาววางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็หันมาเห็นพ่อเฒ่าอวิ๋นยืนมองตัวเองอยู่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำเพราะร้องไห้
หัวใจของอวิ๋นซิ่วชิงก็ยิ่งสะท้านขึ้นมาทันที
อวิ่นซิ่วชิงรีบก้าวไปประคองท่านพ่อของนางให้นั่งลง “ท่านพ่อ อย่าร้องไห้ไปเลย ไปกินข้าวกันเร็ว”
พ่อเฒ่าอวิ๋นมองอาหารที่อวิ๋นซิ่วชิงยกมาให้ เขาอดกลั้นไว้ครู่หนึ่ง น้ำตาของเขาก็เอ่อล้นจนหยดลงชามข้าวต้ม
“ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป?” อวิ๋นซิ่วชิงสำลัก เมื่อเห็นท่านพ่อร้องไห้
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมที่นางมาอาศัยร่างอยู่นั้น นางเห็นชัดเจนว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวของครอบครัวนี้ เขากุมทั้งเรื่องทรัพย์สมบัติและการดูแลจัดแจงเรื่องต่าง ๆ ภายในตระกูลอวิ๋น
ทว่าเสาหลักนี้ไม่ได้ล้มลงได้เอง มันกลับพังทลายเพราะลูกชายจอมล้างผลาญต่างหาก! มันช่างน่าเศร้านัก…
“ท่านพ่ออย่าเพิ่งยอมแพ้นะเจ้าคะ แม้ว่าตอนนี้ครอบครัวของเราอาจจะตกอับ แต่ต้องมีสักวันที่พวกเราจะลุกขึ้นยืนได้อีก ท่านพ่อไม่ต้องกลัว ครอบครัวเราจะต้องกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง!”
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งอยู่ข้าง ๆ และปลอบพ่อเฒ่าอวิ๋น
พ่อเฒ่าอวิ๋นเช็ดน้ำตา ก่อนจะส่ายหัวและถอนหายใจ “ชิงเหนียง เจ้าไม่จำเป็นต้องปลอบข้า ข้ารู้ดี สกุลอวิ๋นของเราจบสิ้นแล้ว”
“ท่านพ่อ ท่านพูดเรื่องอะไร? สกุลอวิ๋นของเรายังไม่จบสิ้น ตราบใดที่เรายังยืนหยัดอยู่ที่นี่ ไม่นานพวกเราต้องลุกขึ้นมาใหม่ได้แน่!” หญิงสาวกล่าวด้วยความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
พ่อเฒ่าอวิ๋นส่ายหัวพลางมองข้าวต้มและคนไข่ในชามเบา ๆ “ชิงเหนียง ข้าขอโทษนะ เจ้าเคยกินอยู่อย่างสบายและเจ้าก็ไม่เคยทำอาหารเลย แต่ตอนนี้เจ้าต้องมาทำอาหาร ข้าขอโทษที่ไม่ได้เก็บสินสอดทองหมั้นของเจ้าเอาไว้”
อวิ๋นซิ่วชิงคว้ามือพ่อของนางแล้วปราม “ท่านพ่อ ข้าไม่สนใจสินสอดทองหมั้นนั้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น สินสอดนั่นไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับข้า เพราะในอนาคตข้าจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น ข้าจะปกป้องท่านเอง”
…………………………………………………………………………………………………………………………