ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 346 กอดแรก
บทที่ 346 กอดแรก
บทที่ 346 กอดแรก
กู้สี่ยวหวานรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “ข้าขอโทษ ข้าทำให้เสื้อผ้าของเจ้าเปียกเสียแล้ว”
ฉินเย่จือส่ายศีรษะ เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานหายดีแล้วจึงรู้สึกมีความสุขมากมายในใจ
แม้ว่าเสื้อผ้าบนร่างกายจะเปียกก็ไม่เป็นอะไร
เขาโบกมือแล้วกล่าวว่า “ไม่นานก็แห้งแล้ว ตราบใดที่เจ้าไม่รู้สึกเศร้าแล้วก็ดี”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลทำให้กู้เสี่ยวหวานอบอุ่นหัวใจ นางจึงพยักหน้าตอบรับ “ขอบคุณเจ้ามาก ข้าไม่เศร้าแล้ว”
ฉินเย่จือจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานที่อยู่ตรงหน้า หลังจากผ่านไปหลายวัน กู้เสี่ยวหวานก็สูงขึ้นมาก ผิวของนางแดงก่ำและขาวสะอาด นางสวมเสื้อกันหนาวสีแดง นั่นยิ่งขับให้ใบหน้าของนางดูสว่าง
รูปลักษณ์เช่นนั้นช่างดูดีมากจริง ๆ
“พรุ่งนี้หนิงอันก็ปิดเรียนแล้ว พรุ่งนี้เราจะไปรับเขากันแต่เช้า” กู้เสี่ยวหวานหยุดร้องไห้และไปล้างหน้า ตาของนางบวมแดงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คนอื่นคงจะไม่สังเกตเห็นว่านางร้องไห้มา
ฉินเย่จือพยักหน้าและตอบว่าตกลง
ใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว และเมื่อคิดว่าปีนี้เป็นปีที่ดี กู้เสี่ยวหวานก็หัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว และฉินเย่จือก็หัวเราะไปกับนาง
ทั้งสองยืนอยู่ในห้อง ข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า ต่างคนต่างมีความสุขในหัวใจ
เช้าตรู่วันต่อมา กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือขับเกวียนเข้าไปในเมือง
หลังจากที่กู้หนิงอันเรียนตอนเช้าเสร็จ สวีเฉิงเจ๋อก็กล่าวให้ทุกคนตั้งใจทบทวนบทเรียนในช่วงปีใหม่ และหลังจากกล่าวคำว่าเลิกเรียน เด็ก ๆ ก็แยกย้ายกันไปอย่างเร่งรีบเพื่อจะได้กลับบ้านในช่วงปีใหม่
เด็กเหล่านี้ พวกเขาใช้เวลาทั้งวันในการเรียนหนังสือ เรียนหนังสือ และเรียนหนังสือในสำนักศึกษา พวกเขาอยากกลับบ้านแล้ว คราวนี้ มีหลายวันให้พักผ่อนในช่วงปีใหม่ ทุกคนจึงต่างมีความสุขมาก
กู้หนิงอันก็รีบเก็บของอย่างรวดเร็ว
เมื่อสวีเฉิงเจ๋อเห็นท่าทางตื่นเต้นของกู้หนิงอันก็รู้ได้ว่าเด็กคนนี้คงคิดถึงบ้านมาก
“หนิงอัน พี่สาวของเจ้ามาแล้ว นางรออยู่ที่ประตู” นักเรียนคนหนึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกู้หนิงอัน เดิมทีเขาเก็บของเสร็จและออกไปแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าพี่สาวของกู้หนิงอันมารออยู่ เขาจึงรีบเดินกลับมาบอก
กู้หนิงอันดีใจมาก กล่าวขอบคุณนักเรียนคนนั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากหยิบของแล้วก็รีบวิ่งออกไปอย่างฉับไว
พี่สาวต้องมารับเขาแน่ ๆ!
สวีเฉิงเจ๋อดีใจมากเมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานมาที่นี่
ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากสวีเฉิงเจ๋อมีงานที่ต้องทำจึงไม่ได้ไปทานข้าวที่บ้านของกู้เสี่ยวหวานอีก และเมื่อได้นึกถึงเรื่องที่มีคนมุ่งร้ายต่อกู้เสี่ยวหวาน เขาก็รู้สึกแย่
“ข้าไม่ได้เจอพี่สาวเจ้ามานานแล้ว ออกไปด้วยกันเถอะ!” เมื่อเห็นว่าหนิงอันกำลังจะออกไป สวีเฉิงเจ๋อก็กล่าวอย่างรวดเร็ว และตามกู้หนิงอันออกไปจนสุดทาง
สวีเฉิงเจ๋อเดินออกไปข้างนอกอย่างมีความสุข ในใจคิดเพียงว่าอยากเจอกู้เสี่ยวหวานสักหน่อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดนี้เข้ามาในหัวของเขา เขาก็ตกใจ
เสียงฝีเท้าหยุดลงทันที เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิม จ้องมองไปที่พื้นเบื้องหน้าอย่างว่างเปล่า
สวีเฉิงเจ๋อไม่อยากจะเชื่อ เมื่อคิดว่าจะได้เจอกู้เสี่ยวหวาน บนใบหน้าก็เผยความรู้สึกบางอย่างออกมา?
นี่เขารู้สึกอะไรบางอย่างกับเด็กผู้หญิงอายุเก้าขวบจริง ๆ หรือ?
สิ่งของที่อยู่ในมือของสวีเฉิงเจ๋อยังคงถืออยู่ มันเป็นกล่องผ้าอันประณีตที่เขาซื้อหลังจากเดินไปรอบ ๆ เมืองหลิวเจีย มันคือของขวัญวันเกิดที่เขาจะมอบให้กู้เสี่ยวหวาน ถ้าไม่ใช่เพราะวันนั้นที่กู้หนิงอันพูดออกมา เกรงว่าสวีเฉิงเจ๋อก็คงจะพลาดวันเกิดของกู้เสี่ยวหวานไปแล้ว
หลังจากพูดคุยกับกู้หนิงอัน เขาก็เอาแต่คิดว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญวันเกิดให้กู้เสี่ยวหวานดี
ในที่สุดเขาก็ซื้อบางอย่าง แต่ไม่เคยมีโอกาสมอบให้กู้เสี่ยวหวานเลย และเมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานมาที่นี่ เขาจึงกระตือรือร้นที่จะไปมอบของขวัญให้นาง
สวีเฉิงเจ๋อส่ายศีรษะอย่างตำหนิตนเอง ถึงเขาจะชอบกู้เสี่ยวหวานแล้วอย่างไรล่ะ เขาอายุสิบเก้าปี ส่วนกู้เสี่ยวหวานอายุเก้าขวบ เขาโตกว่าตั้งสิบปี แต่แค่รอสักสี่ห้าปีก็ได้นี่!
เมื่อสวีเฉิงเจ๋อคิดเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต้นแรงเล็กน้อยและรีบสาวเท้าตามกู้หนิงอันไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงด้านนอกก็เจอกับกู้เสี่ยวหวานที่สวมเสื้อผ้าลินินสีชมพู และใส่เสื้อกันหนาวสีเดียวกัน นางยืนรออยู่ข้างนอกอย่างตั้งตารอ
ด้วยดวงตาสีดำกลมโตคู่นั้น เมื่อเห็นกู้หนิงอันเดินออกมานางก็ดีใจ ท่าทางนั้นทำให้สวีเฉิงเจ๋อหัวใจเต้นผิดไปครึ่งจังหวะ
กู้เสี่ยวหวานนำสิ่งของของกู้หนิงอันส่งให้ฉินเย่จือ และฉินเย่จือก็นำไปวางไว้บนเกวียน
เมื่อเห็นสวีเฉิงเจ๋อเดินมา กู้เสี่ยวหวานก็รีบเดินไปหาด้านหน้าเขา เงยศีรษะขึ้นและเรียกอย่างอ่อนหวานว่า “พี่เฉิงเจ๋อ!”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโดนลมหนาวพัดมาหรือเพราะเสียงเรียกอันอ่อนหวานของกู้เสี่ยวหวาน จึงทำให้ใบหน้าของเขาหน้าแดงขึ้นมา
“เสี่ยวหวาน เจ้ามาแล้ว” สวีเฉิงเจ๋อมองกู้เสี่ยวหวานอย่างระมัดระวัง
เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกัน กู้เสี่ยวหวานสูงขึ้นมาก เมื่อก่อนนางเป็นเหมือนถั่วงอกต้นหนึ่ง ในตอนนี้คงเป็นเพราะนางได้กินของดี ร่างกายของนางมีสัดส่วนมากขึ้น นางดูมีแก้มและมีเลือดฝาด ซึ่งน่ารักเป็นอย่างมาก
และดวงตากลมโตคู่นั้นสีดำสนิท เผยให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดและความแน่วแน่
“พี่เฉิงเจ๋อ ข้าขออวยพรให้ปีใหม่ล่วงหน้าให้ท่าน ขอให้สมความปรารถนาและสุขภาพแข็งแรง!” กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าในช่วงปีใหม่ พวกเขาอาจไม่ได้มาที่เมืองเพื่ออวยพรปีใหม่กับครอบครัวสวี และแม้ว่าพวกเขาจะมา ครอบครัวสวีก็คงไม่ได้อยู่ในเมือง เพราะพวกเขาคงจะไปเยี่ยมญาติ เป็นการดีกว่าที่จะอวยพรล่วงหน้าในขณะที่พวกเขาว่าง
กู้เสี่ยวหวานรับของขวัญปีใหม่ที่นางซื้อมาก่อนหน้านี้จากมือของฉินเย่จือลงจากรถทีละชิ้น
เพราะการเก็บเกี่ยวเป็นที่น่าพอใจ นางจึงมีเงินเพื่อซื้อของขวัญปีใหม่ เมื่อนึกถึงอาจารย์สวีที่ดูแลพวกนางเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา ของขวัญก็ไม่ควรน้อย
นางซื้อขนมที่ดีที่สุดในร้านขนมอวี๋จี้ ซื้อผ้าอย่างดีสามผืนในร้านขายผ้าจี๋เสียง ซื้อเนื้อหายากจากร้านขายของชำ และยังนำปลาตากแห้งจำนวนหนึ่งมาให้อีกด้วย ทั้งหมดบรรจุจนเต็มหลายตระกร้า
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานได้เตรียมอะไรไว้มากมาย สวีเฉิงเจ๋อก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง
“เสี่ยวหวาน นี่คือ…” สวีเฉิงเจ๋อจ้องมองตะกร้าที่วางอยู่หน้าประตูอย่างตื่นตกใจ
“พี่เฉิงเจ๋อ ใกล้ปีใหม่แล้วไม่ใช่หรือ? ข้าจึงนำของขวัญปีใหม่มาให้เสียหน่อย” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างอ่อนหวานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง