ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 8 บทที่ 217 ท่านออมมือให้สามีของท่านใช่หรือไม่
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 8 บทที่ 217 ท่านออมมือให้สามีของท่านใช่หรือไม่
การละเล่นนั้นง่ายมาก อีกทั้งเซี่ยยวี่หลัวก็อธิบายโดยละเอียด เด็กสี่คนจึงเข้าใจอย่างรวดเร็ว
เซียวฉงเหวินเป็นนกอินทรี เด็กที่เหลืออีกสามคนหลบอยู่ด้านหลังเซี่ยยวี่หลัว เริ่มเล่นกัน
นกอินทรีเข้าจู่โจมเป็นครั้งคราว ทำให้เหล่าลูกไก่ตัวน้อยตกใจจนร้องเสียงดัง ส่วนเซี่ยยวี่หลัวก็ส่งเสียงเตือนให้พวกเขาตามนางติดๆ เด็กๆ ล้วนไม่เคยเล่นการละเล่นนี้ พอได้เล่น จึงมีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงร้อง เด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานยิ่งกว่าตอนเล่นซ่อนหาเมื่อครู่เป็นร้อยเท่า
เซี่ยยวี่หลัวเองก็มีความสุข นางปกป้องลูกไก่สามตัว คอยหลบหลีกการจู่โจมของนกอินทรีเป็นระยะ วนไปวนมาอยู่ภายในลานบ้าน
เสียงหัวเราะสนุกสนานภายในลานบ้าน เสมือนเครื่องหมายแทนเสียงดนตรีที่ไพเราะน่าฟัง ส่งเสียงออกมาเป็นระลอก ดังเข้าสู่โสตประสาทของเซียวยวี่ที่กำลังพูดคุยและดื่มน้ำชากับเซียวจิ้งยี่อยู่ในบ้าน
เซียวจิ้งยี่สนทนากับเซียวยวี่อยู่ด้านใน คุยเรื่องการเรียนหนังสือของเซียวยวี่ เสียงเด็กๆ เล่นซนกันข้างนอกดังเกินไป ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการพูดคุยของพวกเขา
เซียวจิ้งยี่ลูบเคราพร้อมกล่าวด้วยความดีใจ “เฮ้อ เด็กสองคนนี้ ปกติอยู่ที่บ้านไม่มีคนเล่นด้วย พอจื่อเซวียนและจื่อเมิ่งมา จึงมีคนเล่นด้วย ฟังดูสิว่าพวกเขามีความสุขมากเพียงใด! ”
เซียวยวี่พยักหน้า เขาก็ได้ยินเสียงร้องเล่นหัวเราะของอาเซวียนและอาเมิ่งเช่นกัน
เสียงหัวเราะและร้องเล่นของเด็กสี่คนผสานรวมกัน ในนั้นเหมือนจะมีน้ำเสียงอ่อนโยนอีกเสียงหนึ่งด้วย
เซียวยวี่ขมวดคิ้ว เซียวจิ้งยี่ก็ได้ยินเหมือนกัน หัวเราะพร้อมกล่าว “เหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเจ้าก็กำลังเล่นด้วย? ”
อายุน้อย เป็นภรรยาตัวน้อยจริงๆ
ใบหน้าเซียวยวี่ขึ้นสีแดงด้วยความเก้อเขิน “หัวหน้าหมู่บ้าน ขออภัยจริงๆ ขอรับ ทำให้ท่านเห็นเรื่องน่าอายแล้ว”
“เฮ้อ อายอะไรกัน นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าภรรยาของเจ้าชอบเด็ก พวกเจ้าแต่งงานกันมาหลายเดือนแล้ว ต้องรีบมีบุตรเสีย บุรุษและสตรีนั้น เมื่อได้เป็นบิดามารดา ถึงจะเรียกว่าเติบใหญ่แล้ว” เซียวจิ้งยี่เกลี้ยกล่อม
ใบหน้าของเซียวยวี่ขึ้นสีแดงทันที แดงไปถึงใบหู
เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ ประการแรกเพราะเขาไม่อยากมีบุตร ประการที่สอง เขาไม่อยากได้บุตรของเขาที่เกิดจากเซี่ยยวี่หลัว
ทว่า เมื่อเซียวจิ้งยี่กล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เขากลับ… ไม่มีความรู้สึกต่อต้าน
เซียวจิ้งยี่มายืนริมหน้าต่าง พอเห็นภาพด้านนอก ก็รู้สึกตกใจมาก “เซียวยวี่ เจ้ารีบมาดู”
ความคิดของเซียวยวี่ถูกขัดกลางคัน ลุกขึ้นเดินมาริมหน้าต่าง
เซียวจิ้งยี่กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เจ้ารีบดู ภรรยาของเจ้ากำลังพาเด็กๆ เล่นอะไรอย่างนั้นหรือ? ”
ด้านหลังเซี่ยยวี่หลัวคือเซียวจื่อเซวียน เซียวจื่อเซวียนจับเสื้อของเซี่ยยวี่หลัวเอาไว้ เซียวฉงหวู่ที่อยู่ด้านหลังจับเสื้อเซียวจื่อเซวียนเอาไว้ ด้านหลังสุดคือเซียวจื่อเมิ่งที่อายุน้อยที่สุด นางก็จับเสื้อของเซียวฉงหวู่ไว้แน่น
เซี่ยยวี่หลัวกางแขนทั้งคู่ ปกป้องเด็กๆ ที่อยู่ด้านหลัง
ส่วนเซียวฉงเหวินก็กางมือออก เหมือนต้องการจับตัวเด็กๆ ที่อยู่ด้านหลังเซี่ยยวี่หลัว เพียงแต่น่าเสียดายนัก เขาจับไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว ขอเพียงเขาจู่โจม เซี่ยยวี่หลัวก็รีบพาเด็กๆ วิ่งทันที
เซียวฉงเหวินเล่นเป็นนกอินทรีอยู่นานสองนาน ก็ยังจับลูกไก่ไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว จึงรู้สึกท้อแท้ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเล่นเก่งเกินไป ข้าจับลูกไก่ไม่ได้สักตัวเลย”
เซี่ยยวี่หลัวกำลังจะบอกว่าถ้าอย่างไรให้ข้าเป็นนกอินทรีแล้วกัน เซียวจื่อเซวียนก็ชี้ไปทางเซียวยวี่ที่กำลังดูพวกเขาเล่นอยู่ตรงริมหน้าต่าง กล่าวด้วยความยินดี “พี่ใหญ่ ท่านมาเป็นนกอินทรีแล้วกัน! ”
เซียวยวี่เป็นนกอินทรี
เซี่ยยวี่หลัวที่ยืนอยู่ตรงข้าม กางแขนทั้งคู่ เงยหน้ามองเขาเป็นครั้งคราว ก่อนจะละสายตาอย่างรวดเร็ว
เซี่ยยวี่หลัวบอกเล่ากติกาการเล่นง่ายๆ เซียวยวี่ก็ฟังเข้าใจแล้ว เขาจึงเริ่มเข้าจู่โจม
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเซี่ยยวี่หลัวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หรือเพราะนางอยากหลีกหนีเซียวยวี่มากเกินไป เซียวยวี่จู่โจมเพียงสองครั้ง ก็จับตัวเซียวจื่อเมิ่งที่อยู่หลังสุดได้แล้ว
เซียวจื่อเมิ่งถูกจับ แยกจากแม่ไก่ เขาจู่โจมอีกสองครั้ง เซียวฉงหวู่ก็ถูกจับ
ในภายหลัง เหลือเพียงเซียวฉงเหวินและเซียวจื่อเซวียน
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านต้องปกป้องพวกเราดีๆ นะขอรับ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงโดนนกอินทรีจับไปกินทั้งหมดแน่” เซียวจื่อเซวียนตะโกนเสียงดัง
เซี่ยยวี่หลัวจึงตั้งสติรวบรวมสมาธิเต็มร้อยเริ่มรับมือ
ด้านหลังแม่ไก่เหลือลูกไก่แค่สองตัวแล้ว หากบอกว่าตอนแรกเซี่ยยวี่หลัวยังสามารถรักษาระยะห่างกับเซียวยวี่ได้ ตอนนี้ก็ยากมากแล้ว
ตอนนี้จะจับลูกไก่สองตัวนี้ แทบจะต้องเผชิญกับเซี่ยยวี่หลัวอย่างซึ่งหน้า เอื้อมมือผ่านข้างกายเซี่ยยวี่หลัวเพื่อจับ ทั้งสองคนย่อมต้องสัมผัสกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เซียวจื่อเมิ่งและเซียวฉงหวู่สองคนยืนปรบมือให้กำลังใจอยู่ข้างๆ “พี่สะใภ้ใหญ่พยายามเข้า พี่สะใภ้ใหญ่พยายามเข้า! ”
เซียวยวี่ผ่อนคิ้ว เผยความรู้สึกเบิกบานใจอย่างหาได้ยากนัก เข้าจู่โจมอีกครั้ง การจู่โจมอย่างกะทันหันทำให้เซี่ยยวี่หลัวรีบถอยไปด้านหลัง ไม่ได้คิดจะพาลูกไก่น้อยสองตัววิ่งเลยสักนิด จู่ๆ เซียวยวี่ก็เข้ามาใกล้ ไหวคิ้วแย้มรอยยิ้ม ทำให้เซี่ยยวี่หลัวไม่มีสมาธิ ในชั่วพริบตานั้นเอง เซียวยวี่จับตัวเซียวฉงเหวินที่อยู่ด้านหลังได้พอดี
เซียวฉงเหวินถูกจับ ทำให้เซียวจื่อเซวียนที่อยู่ด้านหลังถูกจับไปด้วย จนถึงตอนนี้ เพียงสามครั้ง ลูกไก่สี่ตัวก็ถูกจับตัวไปทั้งหมดแล้ว
เซียวฉงเหวินโวยวายเสียงดัง “พี่สะใภ้ใหญ่ พวกเราล้วนเล่นเป็นครั้งแรก ข้าจับไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว พี่เซียวยวี่กลับจับได้ทั้งหมด พี่เซียวยวี่เป็นสามีของท่าน พวกท่านเป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านคงไม่ได้ออมมือให้สามีของท่านใช่หรือไม่ขอรับ? ”
คำพูดหยอกเย้าของเด็ก ทำให้คนข้างในและข้างนอกพากันหัวเราะครืน
เซี่ยยวี่หลัวใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าควรตอบเช่นไร กวั่นซื่อออกมาจากห้องครัว ชี้เซียวฉงเหวินพร้อมยิ้มทีหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวอย่างเบิกบานใจ “อาหารเสร็จแล้ว รีบมากินข้าวเร็ว! ”
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ลอบผ่อนลมหายใจทีหนึ่ง จากนั้นจึงพาเด็กสองคนไปล้างมืออย่างมีความสุข
เซียวยวี่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางของนางที่เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเมื่อครู่นี้ ภายในใจรู้สึกอัดอั้นใจเล็กน้อย
เขากลับจะรู้สึกยินดีหากนางจงใจออมมือจริง
เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนไปล้างมือข้างๆ นางเป็นคนรักษาสุขอนามัยมาก ก่อนกินข้าวต้องล้างมือ ต่อให้ก่อนจะมานางเคยล้างอย่างตั้งใจมาหนึ่งรอบแล้วก็ตาม
ที่บ้านกวั่นซื่อไม่มีสบู่ ได้แต่ใช้น้ำเปล่าล้าง
เซียวฉงเหวินและเซียวฉงหวู่ตักน้ำมาถูมือสองทีก็ถือว่าล้างสะอาดแล้ว ส่วนเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งที่อยู่ข้างๆ กลับยังถูฝ่ามือและหลังมืออย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วจึงถูข้อมือ
เซียวฉงเหวินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “จื่อเซวียน ทำไมพวกเจ้าถึงดูลำบากนัก? ล้างมือครู่เดียวก็สะอาดแล้วไม่ใช่หรือ? ”
แม้จะไม่มีสบู่ แต่เซียวจื่อเซวียนก็ยังถูอย่างละเอียด เขากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่สะใภ้ใหญ่บอกไว้ บนมือมีสิ่งสกปรกมากมายที่มองไม่เห็น ตอนพวกเรากินอาหาร ก็อาจกินสิ่งสกปรกเข้าไปด้วย เมื่อกินสิ่งสกปรกเข้าไปก็จะป่วยง่าย ดังนั้นพี่สะใภ้ใหญ่จึงบอกพวกเราให้ล้างมือจนสะอาดอย่างตั้งใจ”
สิ่งสกปรก?
เซียวฉงเหวินมองดูมือที่ขาวสะอาดของตัวเอง บนมือสะอาดสะอ้าน ไม่มีสิ่งสกปรกแม้แต่น้อย!
มือทั้งคู่สะอาดเสียยิ่งกว่าอะไร!